เท่าที่จำความได้ ก็ชอบญี่ปุ่นไปแล้วน่ะสิ

sanzokung
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมน KinKi Kids ที่เป็นแฟนเพลง ARASHI
กิ๊ก V6 TOKIO SMAP
สรุปคือ นิยมเซมไปในจอห์นนี่คัมพานี

ชอบแต่ญี่ปุ่น รักแต่ญี่ปุ่น ONLY
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sanzokung's blog to your web]
Links
 

 

[เมื่อภาษาไม่ได้ แต่หัวใจพร้อมเดินทาง] ญี่ปุ่นที่คิดถึงภาค 2

ทริปไปญี่ปุ่นงวดนี้ เน้นการเดินทาง ไม่เน้นกิน

(อยู่คนเดียว เป็นคนไม่ค่อยนิยมกิน เป็นคนนิยมบรรยากาศการกินกับเพื่อนมากกว่า)

ไปญี่ปุ่นงวดนี้ เราจึงนิยมหิ้วเบนโตะ(ข้าวกล่อง) ขึ้นรถไฟ เพื่อกินไปดูวิวไป


ญี่ปุ่นเป็นประเทศชาติไม่เดินกิน จะซื้ออะไรกิน ต้องหาที่นั่งกิน หรือยืนกินให้เรียบร้อย


ขึ้นรถไฟไป เปิดเบนโตะกิน ไม่มีใครเค้าสนใจหรอก Smiley


จริงๆ เบนโตะตามสถานีรถไฟ หรือคอมบิ น่ากินออกนะ ทำไมถึงมีแต่คนบอกว่าเสียดายก็ไม่รู้ มาญี่ปุ่นกลับไ่ม่ค่อยยอมกินอาหารตามร้าน ก็ไม่กินอะ


รู้สึกอย่างเดียวที่เราตั้งใจในการซื้อกินมากคือชูครีม (ไอติมโคน) Smiley


ซื้อมันทุกที่ๆ ไป (แต่มือถือไอติมแล้ว ถือกล้องไม่ได้ เวรกรรม)


นอกจากไอติมแล้วไม่ค่อยกินอะไรนะ


----------------------------------


เราขึ้นเครื่องบินแล้วนะ


การบินไทยเที่ยวบินที่ TG 672 กรุงเทพฯ ไปโอซาก้า


พนักการบินไทยบนเครื่องบินไฟลท์นี้ Smiley


ไฟลท์นี้เราได้ขึ้นเครื่องโดยเดินไปขึ้นรถบัส ไปจอดข้างเครื่องบินให้เดินขึ้นอีกที


ตอนจะขึ้น พี่ที่ดูแลยังน่ารัก ถ่ายรูปให้ด้วย


แต่พอขึ้นมาบนเครื่อง 95% เป็นคนญี่ปุ่นกลับบ้าน


เดินมาส่งของว่างด้วยวิธีหยิบของในห่อส่งให้ด้วยมือ เป็นพายเผือก แต่แบบใช้อะไรคีบส่งจะดูดีกว่ามั้ย แล้วหน้าตาก็แบบไปนอนเลยไป หงิกขนาดนี้ Smiley


ตอนแรกนึกว่ามีแค่ตัวเองเป็นคนไทย


ปรากฎว่าคนที่นั่งข้างๆ กันเป็นคนไทย Smiley แต่เช็คอินแปลกดี ครอบครัวเค้ามากัน 5 คน


4 คนมีแม่ น้องชาย 3 คน นั่งแถวกลางอีกแถวถัดจากเรา ตัวเค้าน่าจะได้นั่งใกล้ๆ ครอบครัว แต่กลายเป็นว่า นั่งแยกกัน (สงสัยแต่ช่างมันเถอะ) ตัวพี่ผู้หญิงเค้านั่งข้างเรา


ไปญี่ปุ่นครั้งแรกเหมือนกันทั้งคู่


คุยไปกันไปพักนึง เค้าดับไฟ ได้เวลานอนแล้ว Smiley


ตื่นเช้ามา น่าจะประมาณ 6 โมงได้ ตื่นเพราะรถเสิร์ฟอาหาร ดังกึง!


พนักงานเดินหน้าเรียบมาแต่เช้า (สงบนิ่ง ไม่บึ้ง แต่ไม่ยิ้ม) Smiley


เดินมาถามว่าจะรับอะไร


เมนูมีบะหมี่ กับ ออมเล็ต (Noodle & EGG) ให้เลือกสองอย่าง


โชคดีที่เลือกออมเล็ต  Smiley


แล้วก็กินกาแฟไป กับ น้ำเปล่า ต่อจากนั้นเมื่อเก็บของไปหมดแล้ว ก็ถือเวลาทำการบ้าน


ใบเข้าเมืองนั่นแหละ


หน้าตามันเปลี่ยนไปจากหนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวเยอะนะ


ฝั่งซ้ายเป็นใบขาออก ฝั่งขวายาวกว่าเป็นใบขาเข้า นั่งกรอกไปก็คิด กรอกผิดจะส่งกลับประเทศไทยเปล่าฟระ Smiley


ทำการบ้านเสร็จ ก็ได้ยินเสียงประกาศ จะถึงแล้ว


ตอนที่เครื่องลงจอดแค่เห็นวิว จำไ้ด้ว่าใจเต้นตึกตัก


พอเครื่องจอดเสร็จ ก็ได้ยินเสียงประกาศขอบคุณที่ใช้บริการภาษาไทย ก่อนจะต่อด้วยภาษาญี่ปุ่น


ออกจากเครื่องต้องไปขึ้นกระเช้า เพื่อไปที่สนามบิน


ไปถึงตามหนังสือบอกว่า ต้องกรอกใบประวัติสุขภาพ แล้วก็ต้องเก็บนิ้วชี้ไว้สแกนก่อน 


มือเจ้ากรรมก็เป็นแผล ตอนแรกแผลเล็กเท่าปลายเข็ม ไปๆ มาๆ เนื้อที่แผลเพิ่มขึ้นทีละนิด จนเลือดเริ่มซิบๆ


แถมตัวร้อนเนื่องจากแพ้อากาศเย็น


จริงๆ ที่สนามบินคันไซเนี่ย เค้าดูสุขภาพคนจากเครื่องตรวจความร้อน จะไม่กรอกใบประวัติสุขภาพก็ได้ (แต่เราก็กรอกไปยื่นส่ง พนักงานก็เก็บไปไม่มอง เพราะอะไรหว่า)


ต่อจากนั้นก็เดินไป ตม.


ตอนแรกไปต่อแถวพาสปอรต์อินเตอร์นะ แต่ืไปๆ มาๆ เค้าเอาแถวนั้นให้คนญี่ปุ่นไป เพราะคนญี่ปุ่นมาเยอะ แต่คนต่างชาติมีไม่ถึงสิบ เลยต้องเปลี่ยนไปแถวใหม่


ไปถึงพนักงานก็ไม่ถามอะไร เอาใบเข้าเมืองไปดู ให้สแกนนิ้ว แล้วก็ถามว่านี่คือโรงแรมแน่หรอ


กรอกไปว่า Raizan Kitaku และที่อยู่


เลยหยิบใบจองโรงแรมในเวปส่งให้ดู เวปที่จองคือ Rakuten เป็นเวปของญี่ปุ่น


สรุปว่าผ่าน ประทับตราแล้ว เชิญเข้าประเทศ 


ญี่ปุ่นจ๋า ป๋วยมาแล้ว Smiley


ไปถึงไปหยิบกระเป๋าเดินทาง ปรากฏว่าไฟลท์เรากระเป๋า ข้าพเจ้ามาเป็นใบแรก Smiley


เดินลากกระเป๋าออกไป พนักงานก็ยิ้มขอดูแค่บอร์ดดิ้งพาส จบ ไม่ต้องเปิดกระเป๋า


สะดวกทุกอย่างจนออกมานอกเกท เย้ Smiley



ภารกิจต่อมาก็คือ ไปเอาซิมการ์ด ซื้อบัตรรถไฟ Kansai Thru Pass



บัตรใบนี้ สะดวกมากนะคะ


มีสองประเภท สามวันกับสองวัน นี่เป็นแบบสองวัน ใช้เดินทางได้ 5 จังหวัด


OSAKA NARA KYOTO KOBE WAKAYAMA


ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์แทบทุกสายใน 5 จังหวัดนี่ได้ตลอดสองวัน


ในเล่มจะมีคูปองให้ด้วย ถ้าไปตามสถานที่ๆ มีคูปองโปรโมชั่น จะมีส่วนลด ไม่ก็ของที่ระลึก (แต่ไม่ได้ใช้)


แน่นอนว่าได้ขึ้นรถไฟจากสนามบิน เข้าโอซาก้าได้ด้วย


สองวันราคา 3800 เยน สามวัน 5000 เยน


แบบ 1 วันรู้สึกจะมี ราคา 2000 เยน ไปซื้อได้ที่ชินโอซาก้า


ค่ารถไฟธรรมดา ออกจากสนามบินไปตัวเมืองโอซาก้าก็ 1,280 เยน รถเมล์ รถไฟทั่วๆ ไปก็ตก 100-500 กว่าเยน นั่งรถเมล์เที่ยวเกียวโตรอบเมือง ขึ้นลง 5 วัดก็โคตรคุ้มแล้ว นั่งยาวถึงนาราก็ปาไป เกือบพันเยน


จ่าย 3800 สำหรับการเดินทางตลอด 2 วันแรกดูคุ้มขึ้นมั้ย (ขายความคิด)


แล้วก็ไปแลก JR PASS (อันนี้พลาด) เลือกวันที่เริ่มผิดไป เสียเงินโดยใช้เหตุเลย Smiley (แต่ไม่พูดถึงตอนนี้นะ)


และท้ายสุดกับสนามบินคันไซ



กรูคนนี้ มาทำอะไรที่ญี่ปุ่นเนี่ย Smiley


ไปโรงแรมแล้วละ


นั่งรถไป ชื่นชมกับญี่ปุ่นไป ขนาดว่าขึ้น Local Train ยังเฉยๆ ตอนนี้เรามาเพื่อเที่ยว


ถึง Imaimiya วิธีจำชื่อสถานีนี้ก็ Imai(Tsubasa)+(Nino)miya เป็นคันจิชื่อสองคนนี้


แผนที่จะทำสับสนนิดหนึ่ง เพราะเป็นแผนที่จากสถานี JR ต้องเลี้ยวขวาจะถึงโรงแรม


แต่เรามาจากสถานีรถใต้ดิน ต้องเลี้ยวซ้าย


งานนี้พี่หยิน (yinchan) ช่วยชีวิตไว้ พี่หยินมีพูดว่า จากของจริงต้องเลี้ยวซ้ายนะ


เดินเลี้ยวซ้ายไป มีของล่อกิเลศ หลุยส์วิตตองมือสอง แบกะดิน (เอาอีกละ)


เข้าไปเช็คอิน พนักงานเป็นผู้หญิง แนะนำโรงแรมเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น แนะนำอะไรเราก็พยักหน้า (ขอบคุณอาราชิ ที่ทำให้เราชินกับภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นแปลกใหม่) จนเข้าห้องได้ อย่างแรกเปิดทีวี เปิดแอร์ แล้วก็นอนแผ่


ก่อนจะหยิบหนังสือนำเที่ยว แผนที่เดินทาง ปากกาดินสอ เปิดดูไปทบทวนสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแรก (หายากกว่านารา)


เปลี่ยนชุดออกจากห้อง เอาละหน้าเดิน


สถานีใต้ดินของโรงแรมคือ Dobutsuen-Mae นั่งย้อนไปสถานี Shinsaibashi


ออกจากประตู 8 สถานีิชินไซบาชิ แผนที่เค้าว่าเลี้ยวซ้าย เดินไปสองซอย 5 นาทีถึง


แต่ขณะนี้ข้าพเจ้าเดินไป 20 นาที ยังหามันไม่เจอ Smiley Smiley


จนท้ายสุด เอาแผนที่เทียบกับแผนที่จริง มันก็เหมือนกันเป๊ะ


ตัดความคิดใหม่


นั่นก็คือ


คนไทยเวลาเป็นซอยเล็กๆ น้อยๆ ย่อยๆ จะไม่ใส่ในแผนที่ แต่


คนญี่ปุ่นเนี่ย ซอยเล็กแค่ไหน แผนที่ก็ใส่ Smiley


เราก็เดินไป ดูทางม้าลายไป ซอยเล็กม้าลายไม่ถึงสิบเมตร เป็น 1 ซอย ม้าลายอีกแล้วนี่คือซอย 2 เลี้ยวเข้าไป


เดินไปไม่กี่สิบเมตร เราก็พบแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวแรกในชีวิตการมาญี่ปุ่น



หายากไปไหน Smiley


(บุ๊คไปก็หลง หาเกือบไม่เจอ โอ้ว จอห์นนี่ช็อป สาขาโอซาก้า)


มาญี่ปุ่นนี้ เรามาเพื่อดูคอน และปฏิบัติตัวเป็นแฟนจอห์นนี่


ช็อปกว้างมาก คนก็น้อยผิดกับที่ฮารา แถวแทบขี่คอ



ไม่กว้าง จะมีเรอะ จะให้พื้นที่ถ่ายรูปได้ขนาดนี้


จบสถานที่ท่องเที่ยวแรก


เจอกันเอนทรี่หน้า อันแสนยาวนาน








Free TextEditor




 

Create Date : 29 มีนาคม 2552
3 comments
Last Update : 29 มีนาคม 2552 21:42:03 น.
Counter : 1058 Pageviews.

 

จำได้ว่าที่ฮาราอย่างแคบอ้ะ แต่ชอปจอนนี่ก็ลึกลับทุกที่หรอก ออนคิดว่ามันจะเด่นๆใหญ่โตหาง่ายซะอีก ดันไปอยู่ในซอย

ถ้าไปญี่ปุ่นนะ คราวนี้จะกิน ชอป ให้แหลกเลยยย

แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปหล่ะ?

 

โดย: stupid_turtle IP: 58.8.17.243 30 มีนาคม 2552 2:44:07 น.  

 

ช่างเป็นชอปที่หายากเย็นเหลือเกินจริงๆ
พี่ป๋วยสุดยอด หาจนเจอได้

ถ่ายรูปมาได้ด้วยยิ่งสุดยอดกว่า

555+

 

โดย: โป้ย IP: 222.123.233.69 4 เมษายน 2552 23:21:09 น.  

 

ของในช็อปจอนนี่ที่โอซาก้ากับที่ฮาราจูกุ ของจะเหมือนกันรึเปล่าคะ หรือว่าที่ฮาราจะมีเยอะกว่า เพราะเท่าๆที่อ่านมาที่ฮาราฯคนเยอะมาก

 

โดย: bo IP: 14.207.150.176 21 มิถุนายน 2556 20:54:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.