|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวเกาะเกร็ด ชิมขนมหวาน ชมวัฒนธรรมมอญ
พูดถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางกรุงเทพฯ นัก ซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นจะต้องมีเกาะเกร็ดร่วมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน จากประวัติความเป็นมา เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดลำน้ำเจ้าพระยาตรงที่มีแหลมยื่นไปตามความโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา ในปีพ.ศ. 2265 เรียกคลองนี้ว่า คลองลัดเกร็ดน้อย (คลองลัดเกร็ดใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ขนาดกว้าง 6 วา ยาว 39 เส้นเศษ ลึก 6 ศอก ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางทำให้คลองขยายกว้างขึ้น เพราะถูกความแรงของกระแสน้ำเซาะตลิ่งพังจึงกลายเป็นแม่น้ำลัดเกร็ด และกัดเซาะจนมีสภาพเป็นเกาะเช่นทุกวันนี้ เมื่อลำคลองกว้างขึ้น สภาพความเป็นเกาะเด่นชัดขึ้น จึงเกิดเกาะ แต่ชื่อที่เรียกกันนั้น ชั้นแรกเรียกว่า เกาะศาลากุน ตามชื่อวัดศาลากุน ดังปรากฏอยู่ในโฉนดที่ดินที่ออกในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นชื่อที่ได้มาจากผู้สร้างถวายคือ เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน) ที่สมุหนายกรับราชการตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราชจนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นแล้วเกาะศาลากุนจึงได้มีฐานะเป็นตำบล และเรียกว่าตำบลเกาะเกร็ด เกาะนี้จึงชื่อว่าเกาะเกร็ดจนถึงปัจจุบัน ศิลปกรรมวัดปรมัยยิกาวาส วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร เป็นอารามหลวงชั้นโท เดิมชื่อวัดปากอ่าว เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ถูกทิ้งเป็นวัดร้างหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 จนถึงพ.ศ. 2317 พระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ชาวมอญมาตั้งบ้านเรือนที่เกาะเกร็ด พระสุเมธาจารย์ (เจ้าอาวาสองค์แรกของวัด) พระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายรามัญได้รวบรวมผู้มีจิตศรัทธาบูรณะขึ้น พร้อมทั้งสร้างเจดีย์ทรงรามัญ ชื่อเจดีย์ร่างกุ้ง และพระพุทธไสยาสน์ พ.ศ.2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาก่อฤกษ์พระอุโบสถใหม่ โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้ากฤษฎาภินิหาร (ต้นราชสกุลกฤดากร) เป็นนายกอง พระราชสงคราม เป็นช่างทำอารามที่สร้างใหม่ทั้งหมด คงรูปแบบมอญไว้เนื่องจากเป็นวัดมอญ ทรงโปรดให้สร้างพระไตรปิฎกเป็นภาษามอญ ให้พระยาศรีสุนทรโวหารเจ้ากรมพระยาลักษณ์จารึกเรื่องทรงพระอารามนี้ลงในเสาศิลาเป็นอักษรไทยเสาหนึ่ง และพระสุเมธาจารย์แปลเป็นภาษามอญ และทรงโปรดให้จารึกเป็นภาษามอญอีกเสาหนึ่ง จารึกทั้งอักษรไทยและอักษรมอญอยู่ที่หน้าพระอุโบสถ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระอารามนี้ใหม่ว่า วัดปรมัยยิกาวาส พระอุโบสถ อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีขนาดยาว 9 วา 3 ศอก กว้าง 5 ศอก 7 ห้อง ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีพระหัตถ์หม่อมเจ้าพระวิชในพระเจ้าราชวงศ์เธอกรมขุนราชศีหวิกรม เป็นภาพแสดงเรื่องธุดงค์วัตร 13 และพระพุทธประวัติโดยเฉพาะ พระพุทธกิจหลังการตรัสรู้ (พระพุทธจรรยา) เป็นพระวินัยของพระสงฆ์เกี่ยวกับผ้าจีวร 2 บท เกี่ยวกับภัตตาหาร 5 บท และเสนาสนะ 5 บท เป็นต้น ตกแต่งภายในด้วยลายปูนปั้นแบบตะวันตก จึงมีลักษณะของศิลปะตะวันออกผสมกลมกลืนกับตะวันตกอย่างงดงาม ด้านหน้าพระอุโบสถมีคำจารึกหินอ่อนทั้งด้านขวาและด้านซ้ายของประตูพระอุโบสถเป็นคำโคลงสี่สุภาพกล่าวถึงประวัติการบูรณะพระอารามวัดปากอ่าวเดิมจนแล้วเสร็จ แล้วพระราชทานนามวัดว่า วัดปรมัยยิกาวาส หน้าบันพระอุโบสถประดับตราพระเกี้ยว พระมหารามัญเจดีย์ เป็นเจดีย์รามัญ ฐานกว้าง 5 วา 3 ศอก สูง 6 วา 2 ศอก เท่ากันทั้ง 4 ด้าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างเมื่อ พ.ศ.2421 ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับจากอุปราชอินเดีย พระธาตุเจดีย์นี้เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ จำลองแบบพระธาตุเจดีย์มุเตา มีงานประจำปีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุของวัดเป็นประจำทุกปีในวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 4 พระพุทธไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปปั้น ขนาดยาว 9.50 เมตร หันพระพักตร์ไปทางตะวันออก พระเศียรอยู่ทางทิศใต้ พระกรรณเป็นขมวดแบบพระพุทธรูปลาว พระพุทธไสยาสน์นี้สร้างโดยพระสุเมธาจารย์ หน้าพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ด้านเหนือประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวแบบรามัญ ปางมารวิชัย ด้านหลังประดิษฐานพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี ซึ่งสมเด็จพระศาสนโสภณ เจ้าคณะมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัดสร้างขึ้นให้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรีให้ชื่อว่า นนทมุนินท์ พระเจดีย์มุเตา (องค์เดิม) เป็นเจดีย์ทรงรามัญ ตั้งอยู่ด้านเหนือของวัดติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าสร้างโดยชาวมอญที่อพยพเข้ามารุ่นแรกในสมัยกรุงธนบุรี เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่มีลักษณะเอียงแทบจะตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นลักษณะที่เห็นได้เด่นชัด
นั่งเรือชมเกาะ นอกจากนี้ ผู้มาเที่ยวชมยังสามารถลงเรือเที่ยวชมรอบ ๆ เกาะเกร็ดได้ โดยเริ่มลงเรือที่วัดสนามเหนือวิ่งไปทางเหนือขึ้นท่าวัดปรมัยยิกาวาสทำบุญไหว้พระอาราม วัดที่นี่ล้วนเป็นโบราณสถาน สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีเจดีย์เอียง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของวัดนี้ มีสวนพักผ่อนชมวิวสองฝั่งฟากแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในสวนนี้มีต้นสามกษัตริย์ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นหว้าขึ้นอยู่รวมกัน ร้อยรัดพันเกลียวตนเป็นต้นหนึ่งต้นเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ ต่อจากนั้นเดินเท้าไปยังหมู่ที่ 7 แวะชมศูนย์เครื่องปั้นดินเผากวานอาม่าน ก่อนลงเรือล่องไปทางวัดเกาะ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ซึ่งบริเวณหน้าวัดจะเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ดังนั้นจะมีปลาหลากหลายชนิดมารวมกันอยู่มากมายรอให้ท่านป้อนอาหาร เสร็จแล้วเชิญแวะซื้อมะพร้าวน้ำหอมที่ขึ้นชื่อของ ต.อ้อมเกร็ดรับประทาน แล้วล่องเรือไปทางใต้ เลี้ยวขวาเข้าคลองบางบัวทอง หรือคลองขนมหวานที่ชาวบ้านเรียกกัน ไปดูชาวบ้านทำขนมที่สองฝั่งคลอง ที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ส่งขายในหลายจังหวัด มีทั้งทองหยอด เม็ดขนุน ขนมหม้อแกง ลูกชุบและลูกตาลเชื่อม ฯลฯ ที่มีชื่อเสียงมาก ย้อนกลับออกมาตรงปากคลองมีปล่องเตาอิฐที่ผลิตอิฐ บ.บ.ท. อิฐทนไฟแห่งแรกของเมืองไทย เลี้ยวขวาข้ามฟากผ่านวัดศาลากุน ผ่านสวนทุเรียนของกำนันสมชาย ทัดชัง ไปเรื่อย ๆ จนถึงทางแยกที่มีแม่น้ำสองสายบรรจบกัน เลี้ยวซ้ายผ่านบ้านเกร็ดตระการซึ่งเป็นสถานที่ฝึกอบรมของกรมประชาสงเคราะห์ ตรงขึ้นท่าหมู่ที่ 1 ชมการสาธิตการแกะสลักเครื่องปั้นดินเผา ที่ศูนย์สาธิต ร้านจ๋อมแจ๋ม ในบริเวณศูนย์แสดงนี้จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาด้วย เหมาะที่จะจับจ่ายซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นที่ระลึก เสาร์-อาทิตย์นี้ หากคุณพ่อคุณแม่มีเวลาว่างและยังนึกไม่ออกว่าจะพาน้อง ๆ หนู ๆ ไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนดี อย่าลืมแวะไปชิมขนมหวาน พร้อมเที่ยวชมความงดงามทางอารยธรรมมอญ
Create Date : 27 กันยายน 2550 |
|
6 comments |
Last Update : 27 กันยายน 2550 16:57:42 น. |
Counter : 2311 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: janeko 27 กันยายน 2550 16:10:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: นายตัวที 27 กันยายน 2550 16:38:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 22 ตุลาคม 2550 20:08:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: zeeD.mj 23 ตุลาคม 2550 2:02:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: veerar 25 ตุลาคม 2550 0:36:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เคยไปสมัยสาวๆ...เอิ๊กๆ
จำทอดมันหน่อกะลา ขนมหวานอร่อยๆได้อยู่เลย
อยากกลับไปอีก แต่ตอนนี้อยู่ไกลซะเหลือเกิน