เฟล...
ทั้ง ๆ ที่เปิดเทอมแค่ไม่กี่วัน
นับดูดี ๆ วันนี้ก็วันที่ 2 เอง
ทำไมถึงเฟลได้ขนาดนี้
ไม่ดีเลย..
เวลารู้สึกเฟลทีไร จะรู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย
ถ้าต้องทำอะไร ก็รู้สึกว่าจะทำได้ไม่เต็มที่
แย่..แย่..
ช่วงนี้ปวดหัวด้วย...ไม่รู้เพราะอะไร
จะว่านอนไม่พอก็ไม่น่าใช่...
ช่วงก่อนปวดตา หายแล้วนะ
แต่นั่นเพราะใช้สายตามากเกิน ก็พอจะเข้าใจ
บางทีก็รู้สึกอยากหายไปเสียเฉย ๆ
แบบว่า หายไปเลย ไม่มีตัวตน ไม่มีใครรู้จัก
ถ้าเป็นแบบนั้น อะไร ๆ ก็คงจะดี
เทอมนี้มีแต่วิชาที่ยาก ๆ ด้วย มีแต่งาน ๆ ๆ การบ้าน ๆ ๆ รายงาน ๆ
อ.แต่ละคนก็พูดกดดันพอสมควรเหมือนกัน
ตัด F ที่ 50% ทั้งนั้น
จริง ๆ ก็ควรจะชินได้แล้วเพราะทุกวิชาที่ผ่าน ๆ มา(แบบเฉียดฉิว) ก็ตัดที่ 50%
แต่ก็นะ ดูจากจำนวนรุ่นพี่ที่มาลงเรียนด้วยแล้ว ก็เริ่มจะรู้สึกท้อเข้าไปใหญ่
แม้จะรู้ว่า ถ้าพยายามจริง ๆ ก็อาจจะทำได้ก็เถอะ
แต่ % ทำไม่ได้ รู้สึกจะเยอะกว่า
วันนี้ปฐมนิเทศเมเจอร์
อ.เสริมฯ ก็พูดถึงโครงการต่าง ๆ ของภาควิชา
แล้วก็โครงการที่นิคมฯสนับสนุน
มันก็น่าสนใจอยู่หรอก
แต่บางอย่าง เค้าก็จำกัดจำนวนคน แล้วยังจำเป็นต้องเป็นคนที่ค่อนข้างเก่งด้วย
พอจะเข้าใจอยู่หรอก ก็นะ... เครื่องไม้เครื่องมือบางอย่าง ราคาตั้งเป็น สิบ ๆ ล้าน
ขืนให้พวกโง่ ๆ แบบเราไปแตะ อาจจะพังได้
อีกอย่าง ไปเข้าร่วมโครงการแบบนี้ก็เท่ากับเป็นตัวแทนคณะ
ถ้าไปโชว์ความโง่ให้โลกภายนอกรับรู้ ก็คงจะเสื่อมเสียชื่อเสียงคณะ
ทั้ง ๆ ที่คนเก่ง ๆ มีตั้งมากมาย
แต่ต้องมาเสื่อมเสียเพียงเพราะคนเพียงคนเดียว คงจะไม่คุ้มแน่ ๆ
แต่โครงการที่อ.จะอบรมพวกหลักสูตรบางอย่างให้ก็น่าสนใจ
ถ้าว่างก็อยากจะลองเข้าร่วมดูเหมือนกัน
จริง ๆ ก็ว่างแท้ ๆ แต่โรคขี้เกียจมักจะกำเริบ ทำให้รู้สึกไม่ว่างอยู่เรื่อยเลย
อ.ที่ปรึกษาบอกว่า อย่าเรียนเพื่อแค่สอบผ่าน หรือเรียนให้จบ
แต่อยากให้คิดถึงงานที่จะทำในอนาคตด้วย
คิดว่า เมื่อจบไปแล้วจะทำอะไร
วิชาเลือกที่ลง ก็ไม่ควรเลือกเพราะแค่ว่า ได้เกรดง่าย
แต่เลือกเพราะสามารถนำไปใช้ได้จริง(กับสิ่งที่เราจะทำในอนาคต)ด้วย
อ.เสริมฯ ก็บอกว่า ปี 3 ส่วนใหญ่ยังไม่ได้คิดว่าจะทำ Project อะไร ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่ควรค้นคว้ามาตั้งนานแล้ว
แล้ววิชา Pre-Project ก็ผ่านได้ยากด้วย
พอวันนี้ได้ฟังอ.เสริมฯพูดแบบนี้ เลยยิ่งคิดถึงคำพูดอ.ที่ปรึกษาเข้าไปใหญ่
อืม... แล้วเราจะทำอะไรดีล่ะเนี่ย
อยากเรียนด้านสื่อสารนะ เพราะรู้สึกน่าสนใจกว่าด้านกำลัง
แต่รุ่นพี่และเพื่อน บอกว่า สื่อสารยากมาก ๆ โอกาสจบยิ่งยาก
เรียนด้านกำลังน่าจะรอดกว่า
นั่นสินะ แค่ดีไวซ์เป็นเบสิกของสื่อสาร เรายังไม่เข้าใจ เอาตัวแทบไม่รอด
ถ้าไปเจอวิชาที่โค-ตะ-ระ พ่อ+แม่ ของดีไวซ์ เราก็ไม่รู้จะเรียนไหวรึป่าว
อีกอย่าง เพื่อน ๆ เราก็อยากเรียนกำลังกันทั้งนั้น
(มีเราสนใจสื่อสารคนเดียว) เลยชักคิดว่า กำลังก็คงจะดีเหมือนกัน
เป็นเรื่องของอนาคตอีกน่ะล่ะ
แต่รู้สึกจะเป็น"อนาคตอันใกล้" ซะแล้วสิ
อยากได้สมุดสักเล่มจัง
ตอนนี้ไปเรียนโดยไม่มีสมุดทุกวิชาเลย ไว้ค่อยไปซื้อล่ะกัน
พรุ่งนี้เจออ.โหดร้ายด้วย ไม่รู้จะโดนไรไหม T^T~~
อย่าเพิ่งท้อตั้งแต่ยังมะได้เริ่มดิ