จากสามปีที่แล้วเคยโดนกระชากกระเป๋าซึ่งๆหน้า ขณะกำลังเดินไปทานข้าวกลางวันที่ร้านไก่ทอดเจ๊กีซอยโปโล ข้่าง สน.ลุมพินี ซึ่งคนร้ายในมาดแมสเซนเจอร์จอดรถดักรอเหยื่ออยู่บนฟุตบาท
เราไม่ทันระวังตัวเพราะมันขี่มอเตอร์ไซด์พุ่งมาเร็วมากกระชากกระเป๋าถือเล็กที่ใส่มือถือและกระเป๋าเงินไว้ในนั้น ขี่ย้อนศรไปทางถนนสารสิน หายเข้ากลีบเมฆ ทั้งๆที่ๆเกิดเหตุอยู่เกือบถึง สน.ลุมพินีไม่ถึงสิบเมตร จากวันนั้นจนถึงวันนี้มีป้ายติดเตือนให้ระวังโจรกระชากกระเป๋าติดอยู่โดยรอบบริเวณนั้น
จวบจนมาถึง 24 มีนาคม 2557 เวลาตี 5 ได้ยินเสียงปึงปังดังมาจากข้างล่าง ก็คิดว่าข้างบ้านเอาอีกแล้ว เพราะปกติคนข้างบ้านเวลาเปิดประตูบ้างก็จะเสียงดังปึงปังแบบนี้เป็นประจำแถมชอบด่ากันขว้างของปึงๆ ปังๆ ก็นอนฟังอยู่หารู้ไม่ว่านั่นมันคือเสียงมาจากชั้นล่างของบ้านเราเอง ตี 5.15 น.นาฬิกาปลุกก็เปิดประตูห้องนอน เพื่อจะมาอาบน้ำ แต่พอมองลงไปข้างล่างเห็นตู้เก็บของกระจัดกระจาย ก็รีบวิ่งขึ้นห้องนอนปิดประตู โทรศัพท์เรียกศูนย์วิทยุลุมพินีทันที เพราะกลัวว่าโจรมันยังอยู่ในบ้าน ไม่ถึง 5 นาทีตำรวจ สน.พระโขนงโทรมาและบอกว่าจะมาภายใน 10 นาที
ก็ยืนรอตำรวจอยู่ตรงระเบียงบ้าน เห็นลุงข้างบ้านเดินผ่านมาจึงตะโกนถามลุงว่าหน้าบ้านเราเปิดอยู่หรือเปล่า ลุงบอกว่าประตูรั้วเปิดอยู่ 1 บาน ติดว่าโจรคงไปหมดแล้ว ลงมาสำรวจทรัพย์สิน พบว่าทีวีสี 40 นิ้ว และชุด PC ตั้งโต๊ะถูกยกไปทั้งชุด กระเป๋าเงินก็ถูกเทบัตรออก เอาเงินไป แต่ที่น่ายินดีก็คือ กล่องดวงใจมูลค่าแสนกว่าของฉันที่ใช้เก็บกล้อง เลนส์ 3 ตัวที่เจ้าโจรมันเปิดตู้แรกยังอยู่ครบ มันเอาแต่กล่องเลนส์เปล่าๆ ออกมาเปิดกระจุยกระจาย ลิ้นชักทุกอัน ประตูตู้ทุกบาน มันรื้อค้น ทุกอย่าง แม้แต่ตู้เย็นก็เปิดอ้าอยู่
ไม่เสียดายอะไรนอกจากไฟล์ภาพจากการท่องเที่ยวทริปต่างๆ ถ้าเทียบเป็นมูลค่าก็มหาศาลอยู่ ถูกมันยกไป ถ้ามันเอาไปขายก็ได้ไม่กี่ตังค์ แต่รูปที่อยู่ในนั้นถ้าคนรับไปเอาไปลบข้อมูลหรือเอาไปขายต่อ ก็น่าจะตามมันได้อยู่นะ
บ้านนี้เราอยู่มา 20 กว่าปีแล้ว และที่เราคิดว่าภายในบ้านของเราปลอดภัยที่สุดกับประตูสามชั้นนั้นเรามโนไปเอง กุญแจรถ กระเป๋าเงิน กุญแจบ้านทุกอย่างวางไว้ที่ตู้ข้างประตูนั่นเอง รถไม่เคยล็อค รั้วเหล็กดัดมุ้งลวดไม่เคยคล้องกุญแจ ล็อคแต่ประตูใหญ่หน้าบ้านและประตูไม้ด้านในแค่นั้น เพราะหมู่บ้านที่เราอยู่อย่างสงบ ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ หลังจากตำรวจ สามชุดรวมถึงกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจแล้วก็พบว่า โจรชุดนี้มาไม่ต่ำกว่า 4 คนโดยปีนเข้าประตูรั้วของข้างบ้านที่สูงแค่อก งัดบ้านโน้นก่อน (ที่เราได้ยินเสียงนเวลาตี 5 นั่นเอง ) ยกแม็คบุคและกินยาคูลท์ทิ้งไว้ 2 ขวด ก่อนจะปีนมาบ้านเรา เพราะรั็วระหว่างบ้านเราทำเป็นเหล็กแหลมที่ไม่ได้ปิดกั้นทั้งหมด พวกมันเอาชะแลงงัดประตูไม้และดันมุ้งลวดเปิดประตูเหล็กดัดเข้ามา พร้อมทั้งตัดสายยูประตูเหล็กด้านหน้าเพื่อเปิดประตู1 บานขนทีวี และ PC ทั้งชุดขึ้นรถฮอนด้าแจสสีขาว ที่มีพยานข้างบ้านนั่งดูอยู่ แต่ไม่คิดจะเรียกตำรวจ เขาไปบอกใครต่อใครว่าเห็นตลอด แต่คิดว่าเจ้าของบ้านขนของย้ายบ้าน แต่เขาไม่เคยพูดกับเราซักคำ คงกลัวจะได้ไปเป็นพยาน นี่แหละเพื่อนบ้านในกทม.
จะบอกอีกอย่างว่าเราไม่ได้หวังจะได้คืนหรอกเพราะตำรวจก็มาทำตามหน้าที่ คงไม่คิดจะไปตามล่าโจรให้เราหรอก เพราะถ้าจะเอาจริงๆก็ไปดูวงจรปิดที่หน้าปากซอยในเวลา ตีห้าสิบห้าได้เลย แต่เป็นเราเองที่จะต้องป้องกันตัวเองจะเป็นการดีที่สุด
คิดแล้วเราคิดว่าเรายังโชคดีหลายอย่าง เพราะถ้ามันมาก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์มันคงเป็นการยกเค้าแน่ๆเพราะเราไปต่างประเทศ และคิดว่าเจ้าโจรมันคงมาดูลาดเลาไว้แล้วจากคำให้การของพยานว่ามีรถของคนแปลกหน้ามาจอดอยู่ตั้งแต่เย็นและขับออกไปตอนเช้า และตอนนี้กุญแจรถก็อยู่ที่เจ้าโจร มันเปิดประตูหน้าบ้านรีบขนของออกไป และถ้าเราไม่อยู่มันก็คงจะเอารถของเราไปด้วยแน่ๆ และถ้ามันคิดว่าไม่มีคนอยู่บ้าน ขึ้นมาบนบ้านก็อาจจะถูกมันทำร้ายก็ได้ คิดว่าแค่นี้เบื้องบนคงจะให้บทเรียนแบบว่าแค่สั่งสอนให้อย่าประมาท
วันนั้นเลยต้องไปถอยทีวีใหม่ PC ใหม่ เคลมกุญแจรถ ติดวงจรปิด ติดสัญญาณกันขโมย สั้งทำเหล็กดัปิดรั้วหน้าแบบเต็ม และเหล็กกั้นระหว่างบ้านแบบปิดไม่ให้มีช่องปีน ไหนๆแล้วก็เลย Renovate บ้านใหม่เสียเลย เฟอร์นิเจอร์เก่าๆยกให้เพื่อนบ้าง บริจาคบ้าง ทาสีเอง จัดบ้านเองให้มันโล่งๆ เหมือนเริ่มชีวิตใหม่ เพราะหลังจากเหตุการณ์ใหม่ๆ จะลงมาชั้นล่างทีไรก็รู้สึกหลอนไม่กล้าลงมาเป็นเดือน แต่พอทำใจได้แล้วก็ไม่กลัว ถ้าเราไม่ตั้งตนอยู่ในความประมาท โจรมันก็ไม่สามารถจะมาเอาของเราไปได้ ระวังกันไว้ด้วยนะคะ
สภาพบ้าน BEFORE
สภาพบ้านหลัง RENOVATE ขอให้อยู่ดีมีความสุขตลอดไป