หลายคนเมื่ออายุมากขึ้นมักจะมีความกังวลในเรื่องของปัญหาริ้วรอย ปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลากหลายรูปแบบเช่น การฉีดเติมไขมัน การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มคอลลาเจนที่หายไป และการฉีด
โบท็อก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอีกแพร่หลาย เพราะช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยบริเวณนั้นเพิ่มขึ้นไปจากเดิม นิยมฉีดในหมู่วัยรุ่น นักศึกษา วัยทำงาน เนื่องจากโบท็อกราคาไม่แพงมากนัก
สารบัญบทความ
โบท็อกคืออะไร?
โบท็อก หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) คือ สารพิษที่ได้จากการสกัดมาจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินัม มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด botox สามารถขยับได้น้อยลง หรือที่หลายคนเรียกว่า ตึงโบ โดยทั่วไปแล้วที่นิยมนำมาฉีดเพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าจะเป็นชนิดเอ เพราะปลอดภัยต่อคนไข้มากที่สุด ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. ไทยแล้วเท่านั้น
โบท็อก มีหลักการออกฤทธิ์อย่างไร?
เนื่องจากโบท็อกเป็นสารพิษ จึงออกฤทธิ์โดยการไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท หลังจากฉีดโบท็อกซ์ สารจะถูกดูดซึมไปเก็บไว้ที่เซลล์ประสาท ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวหรือขยับเขยื้อนได้ตามใจชอบเช่นเคย หลักการทำงานดังกล่าวจึงทำให้การฉีดโบท็อกจึงถูกนำไปฉีดบริเวณต่างๆ ทั่วร่างกาย เช่น โบท็อกรักแร้ฉีดโบลดกราม โบท็อกใต้ตา โบท็อกหน้าผาก โบท็อกปีกจมูก โบลิฟกรอบหน้า ที่นิยมฉีดเพื่อให้หน้าดูเรียวขึ้น
ฉีดโบท็อกปลอมอันตรายมากแค่ไหน?
ข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกอันตรายมากแค่ไหนนั้น หากเลือกฉีดโบท็อกของแท้ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติถือว่าไม่เป็นอันตรายเลย แต่หากเห็นจากข่าวที่ลงว่าฉีดของแท้แล้วปากเบี้ยว ตาปิด หน้าแข็งนั้น อาจเกิดจากตำแหน่งการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หรือคุณหมอที่ทำหัตถการให้อาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ หรือฉีด botox ในปริมาณที่มากเกินไป จนทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
ส่วนการฉีดโบท็อกซ์ปลอมจากหมอกระเป๋าหรือโบท็อกหิ้วที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากอย. หรือไม่มีฉลากภาษาไทย บางเคสที่เห็นแก่ของถูก ไม่คำนึงถึงอันตรายที่อาจตามมาในภายหลัง อาจจะทำให้บริเวณที่คุณฉีดโบท็อก มีอาการแพ้สาร หรือเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือหนักสุดอาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อบริเวณอื่นเกิดความผิดปกติ เช่น ตาตก ปากเบี้ยว เป็นต้น และส่งผลให้การฉีด botox ครั้งต่อไปไม่เห็นผลลัพธ์หรือที่เรียกว่า อาการดื้อโบ นั่นเอง
ดังนั้นการเลือกโบท็อกของแท้และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ แพทย์มีประสบการณ์การฉีดและเทคนิคที่เห็นผล โดยสามารถดูจากรีวิวของคลินิกหรือเช็คเลขที่ใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ผู้เป็นเจ้าของไข้ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหาที่อาจตามมาทีหลัง
วิธีสังเกตโบท็อกของแท้ที่ได้มาตรฐาน
นอกจากการเลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐานแล้ว การทำหัตถการนี้ให้ปลอดภัยและเห็นผลมากที่สุด คนไข้ควรมีความรู้ในการเลือกยี่ห้อโบท็อกของแท้ และวิธีการตรวจสอบเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของคลินิกที่มาหลอกขายโบท็อกหิ้วได้ โดยวิธีการสังเกตมีดังนี้
เลือกโบท็อกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย. เท่านั้น
การเลือกโบท็อกของแท้ควรดูที่มีฉลากภาษาไทย มีมาตรฐานการรับรองจากอย. อย่างถูกต้อง ราคาสมเหตุสมผล โดยโบท็อกที่ผ่านอย. ในไทย มีดังนี้
โบท็อกประเทศอังกฤษ
โบท็อกประเทศเยอรมัน
โบท็อกประเทศเกาหลี
-
ยี่ห้อ Nabota เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงมากๆ หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับการฉีดเพื่อลดกรามและริ้วรอย
-
ยี่ห้อ Aestox จุดเด่นคือ ผลลัพธ์ที่ออกมาหลังฉีดโบท็อกนั้นดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการใช้ปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวมากขึ้น และลดริ้วรอย
โบท็อกประเทศอเมริกา
โบท็อกที่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถซื้อเองหรือหิ้วด้วยตัวเองได้
โบท็อกของแท้จะถูกนำเข้ามาถูกกฎหมายจากตัวแทนจำหน่ายที่มีใบรับรองอย่างถูกต้อง ไม่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป หรือหิ้วฉลากต่างประเทศเข้าขายในไทยได้ง่ายๆ หากพบว่าเป็นฉลากจากต่างประเทศให้สันนิษฐานว่าเป็นโบท็อกปลอมไว้ได้เลย
โบท็อกจะต้องอยู่ในสภาพใหม่ก่อนนำมาใช้
กล่องโบท็อกจะต้องอยู่ในสภาพที่ใหม่ ยังไม่ได้แกะกล่อง มีวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุระบุไว้อย่างชัดเจน โดยคุณหมอที่ทำการฉีดโบท็อกซ์ให้จะต้องแกะกล่องให้เห็นต่อหน้าก่อนฉีด และบริเวณข้างกล่องจะต้องมีคิวอาร์โค้ดสำหรับให้สแกนเช็คของแท้ของปลอมได้ และหลังแกะกล่องใช้โบท็อก จะต้องใช้ให้หมดขวดภายในครั้งเดียวเท่านั้น
สรุปการฉีดโบท็อกต้องรู้อะไร
การฉีดโบท็อกคือ การฉีดสารพิษที่สกัดจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ชนิดเอที่ไม่มีอันตราย ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถออกฤทธิ์ไประงับระบบประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวชองกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดริ้วรอยตรงบริเวณที่ฉีดได้ แถมยังนิยมใช้ในการปรับรูปหน้าให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้นอย่างด้วย การเลือกฉีดโบท็อกมีข้อควรระวังหลายอย่าง เช่น การเลือกคลินิกหรือคุณหมอที่เชี่ยวชาญ การเลือกยี่ห้อโบท็อกให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน เป็นต้น