”เมสซี่”คัมแบ็ก

ออกสตาร์ตได้ร้อนแรงสมกับที่ตั้งรอคอยสำหรับบาร์เซโลน่ายุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ 3 คะแนนที่ได้จากเอลเช่ถึงจะไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย แต่ยังไงซะชัยชนะก็ยังหอมหวานอยู่ดี

        3 ประตูที่ทำได้นับเป็นเรื่องน่ายินดีและคงพอให้สาวก “กูเล่” กลับมามั่นใจในทีมรักของตัวเองอีกครั้ง ก่อนลงสนามอาจมีความกังวลอยู่บ้าง เมื่อแนวรุกสำคัญของทีมขาดหายไป

หลุยส์ ซัวเรซ ยังไม่พ้นโทษกักกัน เนย์มาร์ เจ็บข้อเท้าขวา ส่วน เปโดร โรดริเกซ สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ทว่าท้ายที่สุดบาร์ซ่าก็พิสูจน์ให้เห็นว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ใหญ่เกินกว่า จะก้าวผ่าน ความขาดแคลนเป็นบ่อเกิดให้ทีมก็ได้ค้นพบเพชรเม็ดงาม

เอ็นรีเก้ จัดการส่ง มูนีร์ เอล อัดดาดี้ ลง สนาม ก่อนที่กองหน้าดาวรุ่งจะรังสรรค์ให้เป็นค่ำคืนเเห่งความทรงจำของตัวเขาเอง และแฟนบอล หนึ่งประตูกับซัดชนเสาอีกหนึ่งครั้ง สามารถการันตีได้ระดับนึงว่าเด็กคนนี้มีแววโรจน์อยู่ในตัวไม่น้อย

นอกจากนี้มูนีร์ยังสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่สามารถยิงประตูในนัดแรกของลา ลีกาได้ด้วยวัย 18 ปีกับอีก 357 วัน มันเป็นค่ำคืนอันน่ามหัศจรรย์ของหนุ่มน้อยผู้นี้จริงๆ

อย่างไรก็ตามเหนือสิ่งอื่นใดนอกจากประตูประวัติศาสตร์ของไอ้หนูมูนี ร์แล้ว ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้ก็คือการกลับมาของราชาคนเดิมแห่งคัมป์ นู

        ลิโอเนล เมสซี่ จัดการยิงคนเดียวสองประตูในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ ทำให้ยอดรวมการถล่มประตูอยู่ที่ 245 ลูกจากการลงสนาม 278 นัด ทิ้งห่างอดีตกองหน้าพระกาฬของลา ลีกาไปหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อูโก้ ซานเชซ (234 ประตู/347 นัด), ราอูล กอนซาเลซ (228 ประตู/550 นัด) และ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ (227 ประตู/329 นัด)

เวลานี้เหลือเพียงแค่สถิติของกองหน้าในตำนานอย่าง เตลโม ซาร์ร่า เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ขวางหน้าเขาอยู่

ซาร์ร่าอดีตกองหน้าแอธ.บิลเบายิงในลา ลีกาไปทั้งสิ้น  251 ประตู เท่ากับว่าอีกแค่ 6 ตุงเท่านั้นเมสซี่ก็จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการกลับมายิงประตูและสร้างสถิติอันน่าทึ่งแล้ว สิ่งสำคัญที่มาพร้อมๆ กันนั้นก็คือฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่ง

หิวกระหาย รวดเร็ว ดุดัน จุดประการเล่นเกมรุกของทีม ต่างๆ เหล่านี้คือสิ่งที่หายไปจากเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

เกมกับเอลเช่นั้นเอ็นรีเก้จับเมสซี่ลงเล่นในตำแหน่ง ฟัลโซ่น้วยเบ (falso 9) มีพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่แดนกลางจนถึงกรอบเขตโทษ ซึ่งดาวเตะอาร์เจนไตน์ก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีที่ติ

แม้ ฟราน เอสกริบา จะเตรียมแผนการรับมือด้วยการส่งเซนเตอร์ฮาล์ฟลงสนามถึง 3 คน แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ หลังเกม หลุยส์ เอ็นรีเก้ ออกปากชมลูกทีมคนเก่งว่า เมสซี่คือนักเตะที่ดีที่สุดในโลก

“คุณอยากให้ผมพูดอะไรดีล่ะ ก็อย่างที่ผมพูดถึงเขา (เมสซี่) อยู่เสมอนั่นแหละว่า เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในทุกๆ อย่างที่เขาต้องการจะเป็น”

“ถ้าเขาต้องการจะเล่นเกมรับ เขาก็จะเป็นนักเตะที่เล่นเกมรับที่ดีที่สุดในโลก พวกเราเห็นเขาทำในสิ่งที่ยากๆ ระหว่างการฝึกซ้อม เขาจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดเสมอตราบใดที่เขายังต้องการ”

เช่นเดียวกับกุนซืออัสตูเรียส…ในเช้าวันรุ่งขึ้นสื่อสเปนเกือบทุก สำนักต่างพากันยกย่องฟอร์มการเล่นของเมสซี่ ว่าเขาได้กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง

ยุยส์ มาสกาโร่ คอลัมนิสต์สปอร์ตยกย่อง “ลา ปูลกา” ว่าพร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นศูนย์กลางของโลกและนำพาบาร์ซ่าคว้าแชมป์ หลังผ่านพ้นฟุตบอลโลกพร้อมกับพักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงซัมเมอร์ ดูเหมือนว่าเมสซี่ได้เรียกทุกสิ่งทุกอย่างที่ขาดหายไปกลับมาได้อีกครั้ง

จากจุดนี้ทำให้สามารถนึกย้อนหาคำตอบได้บางอย่างซึ่งอาจจะจริงหรือ ไม่จริงก็ได้ ทว่ามันก็มีเค้าลางความน่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อย กับปีที่แล้วที่เมสซี่ฟอร์มตก ไม่เป็นเหมือนอย่างที่เคยนั้น สาเหตุที่อาจเป็นเพราะ?

มาถึง ณ วันนี้เราอาจได้คำตอบแล้ว

นั่นคือเขาเอาแต่ครุ่นคิดถึงฟุตบอลโลก

ปัญหาส่วนตัวนอกสนามคดีความการเลี่ยงภาษีและมีส่วนพัวพันกับแก๊งฟอกเงิน

อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อเรื้อรัง

อาจนับได้ว่าเป็นความโชคร้าย อยู่ผิดที่ผิดเวลาของ เคร์ราโด้ มาร์ติโน่ ที่เข้ามารับงานคุมทีมบาร์เซโลน่าในห้วงที่เมสซี่อุดมด้วยปัญหา ผลงานของกุนซืออาร์เจนไตร์จึงล้มเหลวไม่เป็นท่าอย่างที่เห็น

มาครั้งนี้กับฤดูกาลใหม่ ทุกอย่างที่เคยเป็นปัญหาได้ผ่านพ้น ไม่มีอะไรรบกวนจิตใจอีก จึงทำให้เขาสามารถกลับมามีสมาธิได้อย่างเต็มเปี่ยม

โชคมหาศาลจึงตกเป็นของเอ็นรีเก้ไปโดยปริยาย แค่เกมแรกก็เอาชนะคู่แข่งอย่างง่ายดายทั้งๆ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนจากการโดนไล่ออกของ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่

เมสซี่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมเช่นนี้ถือเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการ ลุ้นแชมป์ลา ลีกาฤดูกาลนี้ให้ยิ่งทวีคูณรวมถึงตำแหน่งนักเตะที่ดีที่สุดในโลกด้วย

ปีที่แล้วเขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทั้งถ้วยแชมป์และเกียรติยศส่วนตัว

CR7 ครองปีชีชี่หนที่สองของตัวเองโดยเอาชนะเมสซี่ไปได้ด้วยจำนวน 31 ต่อ 28 ประตู พร้อมๆ กับคว้าบัลลงดอร์ แต่หนนี้ไม่น่าง่ายอย่างครั้งก่อน ฟอร์มเปรี้ยงปร้างตั้งแต่เริ่มต้นอย่างนี้ เราคงได้ลุ้นกันสนุกตื่นเต้น

ถ้วยแชมป์และตำแหน่งนักเตะที่ดีที่สุดในโลกนั้น..เลโอ เมสซี่ พร้อมแล้วที่จะชิงมันคืนกลับมา

เจมส์ ลา ลีกา

ที่มา :



Create Date : 27 สิงหาคม 2557
Last Update : 27 สิงหาคม 2557 17:29:02 น.
Counter : 215 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kramoo
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
28
29
30
31