...ความรู้สามารถเรียนทันกันได้...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
จิตวิทยาที่ทำให้คนส่วนใหญ่ลงทุนได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี





  จิตวิทยาที่ทำให้คนส่วนใหญ่ลงทุนได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี

-ผมอ่านหนังสือ random walk down มีส่วนที่น่าสนใจดี เลยนำมาแชร์ ในหนังสือบอกว่าคนเราจะได้รับอิทธิพลของการตัดสินใจเป็นกลุ่ม ก่อนอ่านต่อให้ดูภาพด่านล่าง

การทดลองให้คนบอกว่า เส้น 3 เส้นทางขวามือ เส้นไหนยาวเท่ากับเส้นทางซ้ายมือ จริงๆถ้าคุณดูรูปจะเห็นว่ามันง่ายจนเด็ก ป 2 ก็ตอบได้ คนที่ทำการทดลอง ได้จ้างหน้าม้า(ไม่ใช่ม้า อรนภานะครับ หน้าม้าหมายถึงคนที่ถูกจ้างมาเตี๊ยม)มา 6 คน โดยคนที่ร่วมตอบคำถามไม่รู้และให้อีก 6 คนที่เตี๊ยมกันไว้จงใจตอบคำถามผิด ผลปรากฏว่า คนที่ 7 ซึ่งทำการทดลองมักจะตอบคำถามผิดไปด้วย


นี้แสดงว่าการที่คนส่วนใหญ่คิดอีกแบบนึง มันมาส่งผลต่อความคิดของเรา แม้ว่าความคิดของเราจะถูกก็ถาม เราอาจจะคิดว่า เราสายตาสั้น หรือยาว หรือเอียง เลยทำให้มองเส้นที่มีความยาวผิด ส่วนอีก 6 คนคงเป็นคนสายตาดีหมดเลย เขาถึงตอบเหมือนกันหมด อย่างกระนั้นเลย สิ่งที่เราคิดคงไม่ถูกหรอก


อันนี้ผมมีประสบการณ์ตรงคือ เมื่อซัก 5 ปีก่อน มีคนมาเชียร์หุ้นรับเหมาก่อสร้างผมตัวนึง เขาก็เชียร์ๆว่าจะไปเป็นเด้ง ผมก็เลยซื้อตามไปนิดหน่อย พอดีหุ้นรับเหมาตัวนั้นไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ผมซื้อก่อนงบออก ผมซื้อหุ้นขึ้นไป +7% แล้วก็มีคนลากต่อเป็น +10% ผมก็เข้าไปดูห้องนึงในกลุ่มหุ้นทางเฟสบุค มีพี่คนนึงออกมาเขียนว่า โอ้ว xxx สงสัยงบจะดี มีมือดีมาลากก่อนงบออก ผมอ่านแล้วก็แอบขำว่า มือดีที่ไหนล่ะ ผมเองแหละ แต่ผมยังไม่ได้ทำการบ้านเรื่องพื้นฐานเลย ปรากฏว่างบออกมาขาดทุน ราคาเปิดโดดลงไปทันที ผมก็ cutloss ทันที ไปกลับขาดทุน 15-17% ใน 2 วัน 

ทุกวันนี้หุ้นตัวที่ว่านี้ไม่ส่งงบการเงิน หยุดการซื้อขายไปแล้ว (หลังจากนั้นผมเลิกเก็งกำไรโดยไม่ได้ศึกษาพื้นฐานด้วยตัวเองอีกเลย)
นี้หมายความว่า แค่มีคนโง่ๆคนนึง(ผม) กระตุกหุ้นขึ้นไปแรงๆ คนในตลาดก็คิดไปแล้วว่างบคงจะออกมาดี สุดท้ายพองบออกมาไม่ดี คนโง่ๆก็ขาดทุนหนัก แต่ผมก็ได้เห็นว่าบางทีคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรซื้อหุ้นจนมันขึ้นแรงๆ ก็ทำให้คนพากันคิดไปว่าเป็นหุ้นดีได้แล้ว


อีกการทดลองนึง เขาให้คนๆนึงยืนบนถนน และแหงนหน้าขึ้นไปมองบนฟ้า ปรากฏว่าแทบไม่มีใครสนใจ แต่พอเปลี่ยนเป็น 5 คน จำนวนคนที่หยุดดูและแหงนหน้ามองตามได้เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าตัว แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น 15 คนแหงนหน้ามองฟ้า จำนวนคนที่เดิมผ่านครึ่งนึงจะหยุดดูทันที นี้แสดงว่าคนคิดว่าถ้าคนๆเดียวแหงนหน้ามองฟ้า ไอ้นี้อาจจะบ้า หรือ กระดูกคอมันคงไม่ค่อยดีต้องแหงนคอเพื่อบาลานกระดู แต่ถ้าคนซัก 15 คนแหงนหน้ามองฟ้า โอกาสที่คน 15 คนจะบ้า หรือกระดูกคอผิดปกติจะน้อยลงมามากทำให้คนหันมาให้ความสนใจ


ก็อาจจะเหมือนหุ้นที่มีห้องไลน์ต่างๆพูดถึงเยอะๆ เว็บบอร์ดพูดถึง คนก็จะให้ความสนใจ และอาจจะถึงขั้นคิดว่า น่าจะปลอดภัย น่าลงทุนเพราะคนช่วยกันดูแล้วก็บอกว่าดี แถม สายพื้นฐาน สายเทคนิคก็เล่นหมด คงดีแหละ อย่าคิดอะไรมากเลย มีคนคิดแทนพวกเราแล้ว พวกห้องไลน์ไง อะไรแบบนี้


ในทางกลับกันถ้าใน social network มีการออกมาด่าหุ้นตัวนึงมากๆ คนก็พากันคิดไปว่าไม่น่าลงทุน เพราะถ้าน่าลงทุนคนจะด่าทำไมเยอะขนาดนี้ พอหุ้นตัวนั้นกลับตัวได้ เราก็พลาดโอกาสทางการลงทุนไปแล้ว เรื่องนี้ผมก็มีประสบการณ์ตรง มีเพื่อนสนิทมาชวนผมซื้อหุ้นตัวนึงที่ ปีนี้ผบห โดนคนรุมด่าเยอะมาก(ไม่ใช่บริษัทที่แก้งบกลับไปกลับมา นะครับ อันนั้นยังไงก็ไม่ยุ่งอยู่แล้ว) ผมก็บอกเพื่อนว่า ผมไม่อยากยุ่งกับ ผบห บริษัทนี้ ผมว่าเขาไว้ใจไม่ได้ ดูเจ้าเล่ห์ ตอนเพื่อนผมมาชวนซื้อราคาอยู่ 3.6 (ไม่ใช่ anan นะครับ) ผมก็ด่าๆๆ ผบห ว่าคนแบบนี้อย่าไปถือหุ้นเลย สาธุที่ที่เพื่อนผมยังมีความอดทนในการคุยกับคนอย่างผม เขาก็บอกให้ลองแกะงบดีๆ ผมเลยลองไปแกะก็พบว่ากำไรกับค่าเสื่อมเยอะมากถ้าเทียบกับ mkt cap คืนทุนจากกระแสเงินสดได้ภายใน 4 ปีครึ่งเลยและรายได้ดูมีแนวโน้มเติบโตได้อีกหลายปี เลยตัดสินใจซื้อตอน 4.2 ขึ้นมาจากราคาที่เพื่อนเริ่มเชียร์แล้วเกือบ 20% ทุกวันนี้ยังเสียดายว่า ถ้าไม่ bias คงได้ทุนถูกกว่านี้เยอะ นึกขอบคุณเพื่อนคนนี้ที่สะกิดหลายรอบมากให้ไปดูงบ 


อีกมุมนึงก็เห็นว่า เออ เราก็อินกับ social ที่ด่า ผบห บริษัทนี้เยอะมากไปหน่อย ทำให้เสียโอกาสการลงทุน จริงๆคนที่ด่า เขาก็ใช้อารมกัน ไม่ได้พูดถึง งบการเงิน กระแสเงินสด โอกาสเติบโตอะไรเลย


ปล นอกเรื่องเล็กน้อย ผมว่าเดี่ยวนี้ social media ทำให้คนเราสมาธิสั้นมากเลยนะครับ ผมสังเกตุตัวเองว่าถ้าอ่านหนังสือตอน 10.00 จะอ่านได้สั้นๆแล้วก็เปิดดูไลน์ ดู fb ว่ามีใครพูดอะไรบ้างเปิดเกมส์ clash of clan clash royale เก็บสมบัติพัสถาน แต่ถ้าวันไหนผมตื่นมาอ่านหนังสือช่วงตีห้า ผมจะมีสมาธิมาก อ่านได้เยอะจริงๆ เพราะผมรู้ว่ายังไม่มีใครตื่นมาเล่นไลน์ ก็เลยไม่ได้สนใจโทรศัพท์เลย ไม่รู้มีใครเป็นบ้างไหม
-เดี่ยวเดือนหน้ามาเขียนต่อตอน 2 ครับ




Create Date : 22 กรกฎาคม 2559
Last Update : 22 กรกฎาคม 2559 11:10:53 น. 0 comments
Counter : 755 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Querist
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Querist's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.