ละครแห่งชีวิต : ม.จ.อากาศดำเกิง
ละครแห่งชีวิต : ม.จ.อากาศดำเกิง สำนักพิมพ์ดอกหญ้า พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2546 556 หน้า 290 บาท
ละครแห่งชีวิตเป็นเรื่องราวของนายแพทย์วิสูตร ศุภลักษณ์ ณ อยุธยา ที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่ยังเยาว์เท่าที่ยังจำความได้ว่า เมื่อครั้งที่ยังเด็กเป็นเด็กที่อาภัพ ถูกปล่อยปละละเลยให้การเลี้ยงดูที่ด้อยกว่าหมู่พี่น้อง มีเพียงยายพร้อม-พี่เลี้ยง-เท่านั้นที่ยังคงเวทนาสงสารหยิบยื่นความรัก ความเอาใจใส่ให้ เท่าที่บ่าวคนหนึ่งจะมีให้ได้ ซึ่งก็ได้กลายเป็นปมด้อยให้เด็กชายวิสูตรมีนิสัยเกกมะเหรกเกเร จนกระทั่งวิสูตรได้รู้จักกับประดิษฐ์ บุญญารัตน์ ชีวิตของวิสูตรก็เปลี่ยนไป วิสูตรย้ายมาอยู่ข้างบ้านของประดิษฐ์เพราะแม่ทนที่พ่อมีภรรยาน้อยไม่ได้ เป็นเหตุให้ได้ทำความรู้จักกับลำจวนน้องสาวของประดิษฐ์มากยิ่งขึ้น แต่แล้วในที่สุดลำจวนได้แต่งงานกับนายบรรลือ-ร้อยโทหนุ่มจากอังกฤษ วิสูตรจึงตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศด้วยมรดกที่เขาพึงได้รับจำนวนเพียงน้อยนิด
เมื่อไปถึงลอนดอนก็เป็นเรื่องราวใหม่ที่วิสูตรต้องเรียนรู้ในฐานะนักเรียนนอก ทั้งภาษา มารยาท การใช้ชีวิต แต่การเรียนรู้นี้ก็ทำให้วิสูตรมีความสุขมากกว่าครั้งตอนอยู่เมืองไทย ที่นี่วิสูตรได้พบกับครอบครัวอุปถัมภ์ที่แสนจะน่ารัก(ให้ความรู้สึกเหมือนวิสูตรเป็นลูกแท้ๆของครอบครัวนี้เลยทีเดียว) ได้พบกับรักแท้กับสาวตาน้ำข้าวอย่างมาเรีย เกรย์(ซึ่งเป็นความรักที่น่าสงสารเพราะจุดจบเป้นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้ ณ ตอนนั้นเรื่องการคบหาปรองดองกันข้ามสายพันธุ์ระหว่างเอเชีย-ตะวันตก) ยังไม่นับรวมถึงเรื่องที่แสนจะน่าประทับใจที่เขาได้เข้าไปเรียนรู้อยู่ในแวดวงหนังสือพิมพ์ เรียกได้ว่าชีวิตในตอนนี้ของวิสูตรเป็นอะไรที่น่าอิจฉามากๆ แต่สุดท้ายชีวิตของวิสูตรก็ได้พบกับความอุปสรรคอีกครั้ง
วิสูตรถูกเรียกตัวให้ไปรับทุนเป็นนักเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ในพระเจ้าอยู่หัว ณ ขณะนั้น เขาตัดสินใจหันหลังให้วงการหนังสือพิมพ์แล้วเดินหน้าเรียนอย่างเต็มที่ และเพราะการเรียนนี้เองที่ทำให้วิสูตรได้พบกับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตอีกครั้ง จึงทำให้ต้องหยุดชีวิตการเป็นนักเรียนนอกแล้วเดินทางกลับเมืองไทยในที่สุด
เป็นหนังสือหนึ่งในร้อยเรื่องที่คนไทยควรอ่านแต่ไม่เคยรู้หรือสังเกตุเลย ซื้อมานานพอควรแต่ไม่เคยหยิบมาอ่านเลย สาเหตุที่ซื้อเพราะพี่คนหนึ่งบอกว่าเป็นหนังสือดีให้ซื้อเก็บ ดูปกแล้วรูปเล่มก็ไม่ใช่แนวที่จะหยิบมาอ่านด้วย แต่พอมาสังเกตุว่าอ่านตอบโจทย์ได้ก็ลองเปิดๆดู ตัวหนังสือใหญ่ดีแฮ่ะ ไม่น่าหล่ะหนาเชียว แต่พออ่าน ก่อนถึงเนื้อเรื่องก็มีบทที่เป็นคำนำ บอกเล่าถึงความดีงามของหนังสือเล่มนี้ว่ามีดีอะไร เป็นไปเป็นมาอย่างไร อ่านแล้วก็ยังรู้สึกว่าดีหรือ?? ความรู้สึกประมาณว่าไม่ถูกจริตแต่พออ่านแล้ววางไม่ลงเลยทีเดียว ต้องกลับมานั่งบ่นกับตัวเองเพียงลำพัง เป็นไงล่ะไม่ถูกจริต == ซื้อเก็บอย่างเดียว เกือบพลาดหนังสือดีไปแล้วจริงๆ ความรู้สึกเหมือนได้นั่งอ่านประวัติการใช้ชีวิตของบุคคลหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นชีวิตที่น่าสนใจมากๆ ชีวิตก็มีความความสุขความเศร้าปะปนกันไป ให้ความรู้สึกว่าเป็นชีวิตจริงๆ ไม่ได้ปรุงแต่งมากยกเว้นอยู่นิดนึงคือผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของวิสูตร เกือบทุกคนล้วนเป็นคนดีแทบทั้งสิ้น ทุกคนคอยช่วยเหลือวิสูตรตลอดซึ่งอ่านไปก็ได้แต่แอบอิจฉา แล้วก็บอกว่าจริงๆแล้ววิสูตรเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพื้นเพชีวิตจะเป็นเหมือนเด็กอาภัพมีปมปัญหาชีวิต แต่ก็ไม่ได้ถูกซ้ำเติมด้วยคนเลวๆ แต่ต้องเรียกว่าถูกเติมเต็มด้วยคนดีๆเสียมากกว่า แล้วก็ไม่แปลกใจเลยที่มีผู้สงสัยว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริงของ ม.จ.อากาศดำเกิงหรือเปล่า เพราะไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ากำลังอ่านนิยายอยู่ แต่รู้สึกว่ากำลังอ่านไดอารี่ชีวิตของวิสูตรอยู่นั่นเอง
สรุปแล้วเล่มนี้เป็นหนึ่งในหลายเล่มที่คนไทยควรอ่านจริงๆครับ
Create Date : 09 พฤษภาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 5:24:11 น. |
Counter : 11846 Pageviews. |
|
|
|