คาถาแก้กรรม
อาวุโส อัจจะยัง อัจจะยะโต ทิสสะวา ยะถาธัมมัง ปะฏิกะโรสิ ตันเต มะยัง ปะฏิคคัณหามะ วุฑฒิ เหสา อาวุโส อะริยัสสะ วินะเย โย อัจจะยัง อัจจะยะโต ทิสสะวา ยะถาธังมัง ปะฏิกะโรติ อายะติง สังวะรัง อาปัชชะตีติ.
เพราะการที่เรามองเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ สำนึกผิด ขอขมา แล้วทำคืนตามธรรม หมั่นสร้างบุญกุศลอย่างยิ่งยวด เจ้ากรรมนายเวรจึงยอมรับโทษนั้นของเรา การที่ผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วแก้กรรมตามธรรม ถึงความสังวรสำรวมต่อไป ข้อนั้น เป็นความเจริญในอริยวินัย
นะ หิ เว เรนะ เวรานิ สัมมันตีธะ กุทาจะนัง อะเวเรนะ จะ สัมมันติ เอสะ ธัมโม สะนันตะโนฯ
เวร...!! ย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร แต่..เวร!! ย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ยุติ สิ่งที่ผิด ไม่ทำแล้ว ไม่จองเวร ไม่อาฆาตพยาบาท ไม่ถือสา อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน จึงบังเกิดยุติธรรมแล
สีลัง กัมมะปะฏิกะระเณ ปะระมัง มัญญัง โหติ.
ศีลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการแก้กรรม ผู้มีศีลย่อมพ้นจากเคราะห์ภัย
ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง ธัมโม สุจิณโณ สุขะมาวะหาติ เอสานิสังโส ธัมเม สุจิณเณ นะ ทุคคะติง คัจฉะติ ธัมมะจารี
ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ นี่เป็นอานิสงส์ในธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ผู้ประพฤติธรรม ย่อมไม่ไปทุคติ ดังนี้.
พุทธะปาระมี พรหมธาดา อาคัจฉันตุ สักขิโน โหนตุ วะทันตุ วิปากะกัมมัง วิสัชชะตุ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ อัญญะมัญญัง สัพเพ เวรานุเวริโน กัมมะเวริโน อะโหสิกัมมัง เทนตุ สันติสุขัง เนนตุ โหติ
ขออัญเชิญบารมีพระพุทธองค์ พ่อพรหมธาดา และพระแม่ธรณี โปรดบริหารจัดการ แก้ไขวิบากกรรม ขอให้ทุกฝ่ายรับการขมา และเจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน นำไปสู่สันติสุข สาธุ สาธุ โอม๛