|
|||||
ศีล มีรสชาติ มีอาการอย่างไร? ศีล มีรสชาติ มีอาการอย่างไร? "วิสัชนาปัญหาข้อที่ ๓ ลำดับนี้ จะวิสัชนาปัญหาข้อที่ว่า อะไรเป็นลักษณะ, เป็นรส, เป็นอาการปรากฎและเป็นปทัฎฐานของศีล ต่อไปดังนี้ - แม้ศีลนั้นแม้จะต่างกันโดยประเภทเป็นอันมาก ก็มีความปกติ เป็นลักษณะ เหมือนรูปซึ่งต่างกันโดยประเภทเป็นอันมาก ก็มีภาวะจะพึงเห็นใด้เป็นลักษณะฉะนั้น เหมือนอย่างว่า แม้รูปายตนะถึงจะต่างกันโดยประเภทเป็นอันมากโดยที่ต่างกันด้วยสีเขียวสีเหลืองเป็นต้น ก็มีภาวะที่จะพึงเห็นได้เป็นลักษณะ เพราะถึงแม้รูปายตนะจะต่างกันโดยประเภทแห่งสีเขียวเป็นต้น ก็ไม่พ้นไปจากภาวะที่พึงจะเห็นได้ ฉันใด แม้ศีลถึงจะต่างกันโดยประเภท เป็นอันมากโดยต่างกันด้วยเจตนาเป็นต้น ก็มีความปกติซึ่งได้กล่าวมาแล้วด้วยสามารถแห่งความทรงอยู่อย่างเรียบร้อยของกิริยาทางกายเป็นต้น และด้วยสามารถแห่งความเป็นฐานรองรับกุศลธรรมทั้งหลายนั้นนั่นแลเป็นลักษณะ เพราะถึงแม้ศีลจะต่างกันโดยประเภทแห่งเจตนาเป็นต้น ก็ไม่พ้นไปจาก ความทรงอยู่เรียบร้อย และ ความรองรับ ฉันนั้น อนึ่ง การขจัดเสียซึ่งความเป็นผู้ทุศีล หรือคุณคือความหาโทษมิได้ ท่านกล่าวว่า เป็นรส ของศีลอันมีอันมีลักษณะดังกล่าวมาแล้ว โดยอรรถว่า เป็นกิจ และ เป็นสมบัติ เพราะฉะนั้น ชื่อว่าศีลนี้นักศึกษาพึงทราบว่า ที่ว่ามีการขจัดเสียซึ่งความเป็นผู้ทุศีลเป็นรสนั้นด้วยรสเพราะอรรถว่า กิจ ที่ว่ามีความหาโทษมิได้เป็นรสนั้น ด้วยรสเพราะอรรถว่า สมบัติ เป็นความจริง ในปัญหากรรมมีลักษณะเป็นต้น กิจ หรือ สมบัติ นั่นเองท่านเรียกว่า รส ศีลนี้นั้นมีความสะอาด เป็นอาการปรากฎ วิญญูชนทั้งหลายรับรองกันว่า โอตตัปปะและหิริ เป็นปทัฏฐาน ของศีลนั้น จริงอยู่ ศีลนี้นั้นมีความสะอาดที่ตรัสไว้อย่างนี้คือ “ความสะอาดกายความสะอาดวาจาความสะอาดใจ” เป็นอาการปรากฏ ย่อมปรากฏโดยสภาวะอันสะอาด ย่อมถึงภาวะอันจะพึงถือเอาไว้ได้ ส่วนหิริโอตตัปปะวิญญูชนทั้งหลายรับรองกันว่าเป็นปทัฏฐานของศีลนั้น อธิบายว่า หิริและโอตตัปปะเป็นเหตุใกล้ของศีล เป็นความจริง เมื่อหิริโอตตัปปะมีอยู่ ศีลจึงเกิดขึ้นและดำรงอยู่ เมื่อหิริและโอตตัปปะไม่มี ศีลย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ ตั้งอยู่ไม่ได้เลย นักศึกษาพึงทราบ ลักษณะ, รส, อาการปรากฏและปทัฏฐานของศีลตามที่พรรณนามา ด้วยประการฉะนี้" (พระพุทธโฆษาจารย์. ๒๕๕๑. คัมภีร์วิสุทธิมรรค. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) แปลและเรียบเรียง. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรุงเทพ : บริษัท ธนาเพรส จำกัด, ๑๒) ตอบว่า ศีลมีรสชาติ คือ ศีลถ้าหากว่าปฏิบัติในสิ่งที่ควรทำ เราก็มีความสุข ถ้าหากว่าปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ควรทำ เราก็มีทุกข์ รสของศีลก็คือ ความสุข ถ้าเราไม่ทำชั่วเราก็จะไม่ทุกข์ ศีล มีอาการปรากฏ คือ เป็นกิริยาหรือว่าเป็นผลบุญ หรือผลที่ตามมา ศีลเป็นทัั้งเหตุ ^_^ ..._/_... ^_^ ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์ เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต |
พรหมสิทธิ์
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์ เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต ศึกษาเรียนรู้ธรรมะโดยธรรม นำมาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะนั้น ให้คนรู้จักบริหารกรรม แก้กรรม พัฒนากรรม ให้เกิดสันติสุข
Group Blog
All Blog
Link |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |