ด้านมืดของแฟน...ครั้งแรก
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่คบกันได้ไม่ถึงเดือน ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อน
เราไม่รู้ว่าแฟนเราเป็นคนที่มีความเครียดสะสมจนมันออกอาการเกร็ง
เวลาที่เขาตื่นนอน

สิ่งที่เราเห็นก็คือ แฟนเรากำมือแน่นแล้วหายใจไม่ออก ไม่รู้เป็นอะไร
แล้วเค้าก็เหมือนจะร้องไห้ อาการน่าจะคล้ายๆ คนที่เป็นไฮเปอร์(Hyperventilation Syndrome)
ส่วนตัวก็ไม่เคยเป็น เคยแต่ฟังแฟนเล่าเรื่องห้องเชียร์ เพราะแฟนเป็น
พยาบาลอาสาห้องเชียร์ ส่วนเราก็กวนตีนรุ่นพี่ในห้องเชียร์ไปวันๆ เฉยๆ

เห็นตอนนั้นครั้งแรกก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง ก็เลยเอายาหอม ที่อมแล้วเย็นๆ
ให้แฟนกินดู แฟนบอก จะฆ่าเขาหรอ แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง
ตอนนั้นมือคงพังไปแล้ว เพราะกำมือจิกเนื้อตัวเองแน่นมาก แงะไม่ออก
จะตบหน้าเรียกสติซักฉาดนึง ก็ดูจะโหดร้ายเกินไปหน่อย ก็ไม่ได้ทำ
แต่สุดท้ายก็หลุดมาได้เพราะยาหอม (แต่ไม่แนะนำให้ทำตาม อาจตายได้)

คุยไปคุยมาแฟนติดอยู่ในสภาวะที่ทำสมาธิถึงจุดนึงที่จะต้องผ่านเลยไป
สำหรับคนที่ฝึกหัดทำสมาธิ ถ้ายังไม่ถึงขั้นนี้ ก็ไม่น่าจะไปต่อขั้นภาวนาได้
มันเป็นสภาวะที่ตัวเราเองจะด่าตัวเอง ไม่รู้จะสรรหาคำหยาบช้าขนาดไหน
เอามาด่าตัวเอง ทั้งที่เราก็อยู่ของเราเฉยๆ มันจะด่าเราอยู่ตลอดเวลาเลย
เราไม่รู้ว่ามันนิยามว่าอะไรนะ แต่ถ้าผ่านได้ก็คือผ่านเลย ส่วนถ้าไม่ผ่าน
คุณจะเห็นคนที่มานั่งสมาธิ ทำสมาธิแล้วหูแว่วได้ยินเสียงคนด่าตัวเอง
นั่นแหละ มันคือสิ่งที่เกิดกับคนที่ติดอยู่ในสภาวะนั้น คนๆ นั้นจะเป็นบ้า
แบบกู่ไม่กลับ เราเคยดูรายการทีวีรายการนึงที่เอาคนที่มีอาการนี้มาออก
เขาบอกว่ามีผีตามหลังไปปฏิบัติธรรม แต่จริงๆ พอฟังแล้วก็ถึงบางอ้อ
เค้าติดสภาวะที่เราผ่านได้นี่เอง ถ้าผ่านแล้วเสียงทั้งหมดในหัวมันจะหายไป
เสียงความคิด เสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหัวเรา มันจะหายไปเอง

พอพ้นเหตุการณ์ในวันนั้น มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แต่ว่า...ความเครียดของแฟน กับเรื่องที่เรางงๆ มันก็มาเฉลยเอาอีกครั้ง
ในบ้านแฟนเราประตูห้องต่างๆ มันจะเป็นประตูไม้ แต่ว่าด้านหลังจะหุ้ม
สแตนเลสทั้งบานเลย เราก็แบบ ทำไมประตูไม้ต้องหุ้มอะไรด้วยเนี่ย
แถมติดอยู่เกือบทุกบาน แล้วก็มีร่องรอยที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรอยู่ตรงนั้น

สงสัยมานานจนกระทั่ง...วันที่แฟนทะเลาะกับแม่ทางโทรศัพท์
แม่ขโมยของจากบ้านแฟน เอากลับบ้านต่างจังหวัด คิดเองเออเอง
ว่าเป็นของตัวเอง เลยเอากลับไปด้วย ไม่พอยังตัดกล่องอุปกรณ์คอม
ทำให้ประกันขาดสำหรับของชิ้นนั้น ของหลายหมื่นหมดประกันทันที
ของบางชิ้นติดประกันที่ตัวอุปกรณ์ บางชิ้นประกันพร้อมกล่องสมบูรณ์
แล้วแฟนเราเป็นคนที่ใช้แล้วขายต่อ พอกล่องขาดก็ทำให้ขายไม่ได้
โมโห ทะเลาะกับแม่ยกใหญ่ เราก็ได้แต่ฟัง ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย

พอผ่านไปซักพัก แฟนก็หายไปไหนก็ไม่รู้ แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียง
อะไรบางอย่างกระแทกเหล็กดังมาจากห้องน้ำ ปรากฎว่า แฟนเรา
ต่อยประตูห้องน้ำ ผลงานก่อนหน้านี้คือ ทำประตูห้องน้ำพังเรียบ
เปลี่ยนประตูห้องน้ำใหม่เกือบทุกเดือน จนพ่อแฟนเอือมระอา
ก็เลยสั่งทำประตูใหม่เอง แล้วเอามาติด ต่อยให้ตายยังไงก็ไม่พัง
รอยบุบที่ประตูห้องน้ำคือเยอะมากๆ

ก่อนหน้าที่จะคบกับเรา แฟนเราเป็นคนที่ชีวิตมีแต่ขาวกับดำ
เขาไม่มีสีเทาๆ มีแค่ถูก/ผิด เป็นคอมพิวเตอร์ที่เดินได้และหายใจได้
เวลาที่ทะเลาะกับพ่อแม่ คือ เวลาที่พ่อแม่เอาความต้องการของตัวเอง
มายัดเยียดให้แฟน โดยที่หาเหตุผลมาซัพพอร์ตไม่ได้
ก็กลายเป็นทะเลาะกันทุกครั้งที่มาหาแฟนที่บ้านหลังนี้ ประจำ

มีหลายเรื่องตั้งแต่ไปขอดูตัวลูกสาวบ้านอื่นแล้วนัดให้แฟนไป
เรียกง่ายๆ คลุมถุงชน แต่แฟนก็บอกว่า อยากแต่งไปแต่งเอง
ถ้าไม่พอใจผมขายบ้านทิ้งนะ จะได้ไม่มีที่ซุกหัวนอน เอาไหม
(โฉนดที่ดินและบ้านหลายที่ แฟนมีชื่อเป็นเจ้าของทั้งหมด ขู่ได้เต็มที่)
เรื่องที่พ่อแฟนเอากุญแจบ้านแฟนไปแจกให้ญาติๆ จนบ้าน
กลายเป็นพื้นที่สาธารณะ ใครต่อใครมาที่บ้านกันประจำ
บางคนขนเพื่อนมาเป็นสิบ ของหายบ่อยๆ ข้าวของพังบ่อยมาก
แล้วมันก็จะจบด้วยการที่แฟนถูกพ่อด่า หาว่าไม่ดูแลบ้าน
จนเป็นประเด็นให้แฟนเปลี่ยนกุญแจบ้านทั้งหลังแบบไม่บอก
แถมตะเพิดไล่ญาติผู้ใหญ่เหมือนหมูเหมือนหมา เพราะรำคาญ
อยู่บ้านไม่สงบสุข

จริงๆ ก็มีอีกหลายเรื่อง แต่ฟังดูแล้ว แฟนเราก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย
อยู่บ้านดีๆ วันๆ อยู่แค่ในห้อง พ่อแม่มาหาที มาถึงก็ด่าเอาด่าเอา
ไม่แปลกใจว่าทำไมแฟนเราถึงเครียดจัดได้ทุกวัน เครียดสะสมมาก
จนไปทำลายข้าวของในบ้านได้ขนาดนั้น

แต่ว่า ตั้งแต่คบกับเรามาหลายปี แฟนเราก็ดีขึ้นมาก ไม่ต่อยประตูแล้ว
ภาวะเครียดก่อนตื่นนอนที่เคยเห็นก็ไม่มีให้เห็นอีกเลย อยู่กับเรา
หัวเราะทุกวัน ยิ้มทุกวัน ดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างกับคนละคน
เป็นแบบนี้ได้ตลอดก็คงดี แต่ก็มีบางช่วงที่เราไม่ได้อยู่ด้วย อยู่ที่พักอื่น
ถ้าพ่อแม่แฟนมาอารมณ์คนตรรกะพังพินาศอีก แฟนก็จะหนีออกบ้าน
มาอยู่กับเรา แวะมาบ่นๆ แล้วไปหาอะไรอร่อยๆ ทานด้วยกัน อารมณ์ดี
ก็ถึงกลับบ้าน กลายเป็นว่า ทุกวันนี้ เราเป็นบ้าน เป็นพื้นที่พักใจของแฟน
เครียดเมื่อไหร่ก็แวะมาบ่นระบาย หายแล้วก็กลับ

แฟนถึงเคยบอกเราว่า เขาจะเป็นเสือร้ายกับคนอื่น แต่จะเป็นแมวเชื่องๆ
ให้เราแค่คนเดียว ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่พูดตั้งแต่วันแรกที่คบกันเลยนะ
พูดกับเราลงท้ายมี คะ มี จ๋า ตามทุกประโยค เชื่องกันขนาดนี้เลย 5555



Create Date : 21 มีนาคม 2564
Last Update : 21 มีนาคม 2564 8:50:38 น.
Counter : 960 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณnewyorknurse

  
ความเครียดสะสมอยู่ในความคิดโดยไม่รู้ตัว
น่ากลัวเลยนะครับ



ใช่ครับ
การเลี้ยงดูในวัยเด็กส่งผลต่อชีวิตคนๆนึงมากจริงๆ
แล้ววิธีเลี้ยงดูลูกของแต่ละบ้านก็ไม่เหมือนกันด้วย
แต่ที่แน่ๆมันส่งผลต่อชีวิตอย่างยาวนาน

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:12:52:36 น.
  
ที่จริงทำสมาธิต้องรู้จักปล่อยอารมณ์นะคะ
ไม่น่าจะเก็บอารมณ์ไว้จนระเบิดออมาเป็นการกระทำค่ะ
ดีนะว่าทำกับสิ่งของ แต่ควรแค่ให้มันเกิดแค่
ในระดับความคิดดีกว่า ให้หลุดมาเป็นการกระทำนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:18:19:42 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องเหม่ง

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:6:00:28 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มะมะมะเหม่ง เองงับ!!! ทุกวันนี้ไม่เดิน เพราะกลิ้งได้
^_^
มีนาคม 2564

 
5
8
10
12
13
15
18
19
24
25
26
27
28
29
31
 
 
All Blog