สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ( โดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)เราทั้งหลายต่างเกิดมาด้วยวาสนา มีบุญพอเป็นมนุษย์ได้อย่างเต็มภูมิ ดังที่ทราบอยู่แก่ใจ อย่าลืมตัวลืมวาสนาของตน โดยลืมสร้างคุณงามความดี ชาติของเราที่ได้เป็นมนุษย์อาจจะถูกเปลี่ยนแปลงและกลับกลายหายไปเป็นชาติที่ต่ำทรามในชาติต่อไปได้โดยเราไม่ปรารถนา ความสูงศักดิ์ ความต่ำทราม ความสุขทุกขั้น จนถึงบรมสุข และความทุกข์จนเข้าขั้นมหันต์ ทุกข์เหล่านี้มีได้กับทุกคน ตลอดจนถึงสัตว์ ถ้าตนทำให้มี อย่าได้เข้าใจว่ามีได้เฉพาะผู้ที่กำลังเสวยทุกข์อยู่เท่านั้นโดยผู้อื่นไม่มี เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติกลาง แต่กลับกลายมาเป็นสมบัติจำเพาะของผู้ทำเองได้ ท่านจึงสอนไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามกัน เมื่อเห็นเขาตกทุกข์หรือกำลังจน เราอาจมีเวลาเป็นเช่นนั้น หรือยิ่งกว่านั้นก็ได้ เมื่อถึงวาระเข้าจริงๆ ไม่มีใครมีอำนาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมดี-กรรมชั่ว เรามีทางสร้างได้เช่นเดียวกับผู้อื่น จึงมีทางเป็นได้เช่นเดียวกับผู้อื่น และผู้อื่นก็มีทางเป็นได้อย่างที่เราเคยเป็น ศาสนาเป็นหลักวิชาตรวจดูตัวเองและผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ ไม่มีวิชาใดในโลกเสมอเหมือน สิ่งดีชั่วที่มี และเกิดอยู่กับตนทุกระยะ มีใจเป็นตัวการพาให้สร้างกรรมประเภทต่างๆ จนเห็นได้ชัดว่า กรรมมีอยู่กับผู้ทำ มีใจเป็นเหตุของกรรมทั้งหมด กรรมเป็นของลึกลับและมีอำนาจมาก ไม่มีผู้ใดหนีกฎแห่งกรรมได้เลย ถ้าเราสามารถรู้เห็นกรรมดี-กรรมชั่ว ที่ตนและผู้อื่นทำขึ้น เราจะไม่กล้าทำบาปแต่จะกระตือรือร้นทำแต่ความดี ซึ่งเป็นของเย็นเหมือนน้ำ ความเดือดร้อนในโลกก็จะลดน้อยลง เพราะต่างก็รักษาตัวกลัวบาปอันตราย ท่านว่าดี-ชั่วมิได้เกิดขึ้นมาเอง แต่อาศัยทำบ่อยก็ชินไปเอง เมื่อชินแล้วก็กลายเป็นนิสัย ถ้าเป็นฝ่ายชั่วก็แก้ไขยาก คอยแต่จะไหลลงไปตามนิสัยที่เคยทำอยู่เสมอ ถ้าเป็นฝ่ายดีก็นับว่าคล่องแคล่วขึ้นเป็นลำดับ เราเกิดเป็นมนุษย์มีความสูงศักดิ์มาก อย่านำเรื่องสัตว์มาประพฤติจะทำให้เราต่ำกว่าสัตว์และเลวกว่าสัตว์อีกมากมาย อย่าพากันทำเยี่ยงอย่างสัตว์ ให้พากันละบาปบำเพ็ญบุญทำแต่คุณงามความดี อย่าให้เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์มีอยู่ชีวิตเปล่าๆ เพราะอย่างไรก็ได้มีวาสนาเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วการทำความเข้าใจเรื่องของกรรม เป็นการศึกษาธรรมะ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับภาวะของตัวเราเอง ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกรรมที่ได้ทำไว้ ตามพุทธภาษิตที่ว่า กรรมนั้นจำแนกสัตว์ให้ทรามและประณีตต่างกัน กรรม คือการกระทำ ดี-ชั่ว ทางกาย-วาจา-ใจ ผลคือความสุข-ทุกข์ที่ได้รับกันอยู่ทั่วไป กระทั่งสัตว์ผู้ไม่รู้จักกรรม รู้แต่กระทำคือหากินอยู่ ในทางศาสนาเรียกว่ากรรมของสัตว์ของบุคคลและผลกรรมของสัตว์ของบุคคล เราจึงควรมีเมตตาสงสารในสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งมีความเกิด-แก่-เจ็บ-ตายเช่นเดียวกับเรา ซึ่งไม่มีอะไรยิ่งหย่อนกว่ากัน ความยิ่งหย่อนแห่งวาสนาบารมีนั้นมีได้ทั้งคนและสัตว์ สัตว์บางตัวมีวาสนาบารมีและอัธยาศัยดีกว่ามนุษย์บางคนเสียอีก แต่เขาตกอยู่ในภาวะของความเป็นสัตว์ก็จำต้องทนรับผลกรรมเสวยผลของกรรมกันไป สัตว์เดรัจฉานก็ยังมีกรรมและเสวยผลกรรมไปตามวิบากของมัน มิให้ประมาทเขาว่าเป็นสัตว์ที่เกิดในกำเนิดต่ำ ความจริงเขาเพียงเสวยผลกรรมตามวาระที่เวียนมาถึงเท่านั้น เช่นเดียวกับมนุษย์ขณะที่ตกอยู่ในทุกข์จนข้นแค้น ก็จำต้องทนเอาจนกว่าจะสิ้นกรรม เมื่อมนุษย์เรามาเกิดเสวยชาติเป็นคน มีสุขบ้างทุกข์บ้าง ตามวาระของกรรมที่อำนวยผลมนุษย์ก็มีกรรมชนิดหนึ่งที่พามาให้เป็นอย่างนี้ ซึ่งล้วนผ่านกำเนิดต่างๆ มาจนนับไม่ถ้วน ให้ตระหนักในกรรมของสัตว์ว่ามีต่างๆ กัน เพราะฉะนั้นไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามในชาติกำเนิดความเป็นอยู่ของกันและกัน และสอนให้รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมดี กรรมชั่ว เป็นของๆ ตน