Group Blog
 
<<
มกราคม 2561
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 มกราคม 2561
 
All Blogs
 

Point of View : หญิงแกร่งแห่งบางนรา






            หากเปรียบเทียบผู้หญิง เหมือนดอกไม้ คุณจะเทียบตัวเองเหมือนดอกไม้อะไร เพราะอะไร อะไรที่บ่งบอกว่า ดอกไม้นั้นคือ คุณ ?
ฉันได้ถามคำถามเดียวกันนี้กับเธอ และเธอได้ตอบว่า “หากเปรียบตัวเหมือนดอกไม้ ขอเปรียบเหมือนดอกชบา ด้วยเหตุผลที่ว่า ดอกชบามีหลากสีหลายรูปแบบ ออกดอกทุกฤดูกาล ปลูกง่ายโตง่ายและสามารถปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์”
เรื่องราวที่จะเชิญชวนให้ทุกท่านได้ติดตามเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่รูปร่างเล็ก มีวาจาในการสานมิตรสัมพันธ์ มีความอ่อนโยนสยบความเหนื่อยล้า และมีความมุ่งมั่นในการที่จะทำให้เส้นทางฝันให้เป็นจริง
                                      “นางรอมือละห์ แซเยะ”
          เรานัดเจอกันที่ร้าน Bunga Teh Tarik & Coffee ในช่วงตอนเย็น ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ติดต่อเพียงทางโทรศัพท์และได้อธิบายวัตถุประสงค์คร่าวๆของงานที่จะเขียนหลังจากนี้ เธอก็ตอบตกลง และนัดวันเวลาเพื่อที่จะพูดคุยมากขึ้น
          เธอเป็นสาวจากเมืองนราธิวาส เธอได้เล่าว่า ชีวิตในวัยมัธยมปลายของเธอก็เหมือนเด็กทั่วไปในพื้นที่ มีความฝันที่ต้องการจะใส่เสื้อนักศึกษา ต้องการที่จะใช้ชีวิตบนเส้นทางของการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย แต่เธอรู้ดีว่า เส้นทางความฝันของเธออาจจะไม่ได้โรยกลีบกุหลาบอย่างในนิยายแต่อย่างแน่นอน เพราะนี่คือ ชีวิตจริงที่เธอกำลังประสบ ชีวิตที่เธอต้องดิ้นรนทุกวิธีทาง เพื่อที่เธอนำตัวเองเข้าไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างที่หวังให้เป็นจริง เธอเริ่มคิดหนัก เมื่อคนที่บ้านได้กล่าวว่า” ต้องการที่จะเห็นเธอเรียนสูงๆนะ แต่ที่บ้านไม่มีเงินส่งเสียเธอให้เรียนสูงๆตามที่เธอต้องการได้ “ “เอาอย่างไรดีล่ะ”
           ชีวิตมัธยมปลายใกล้จะจบลง เธอคิดเพียงว่าต้องทำสักอย่างเพื่อให้ได้ไปข้างหน้าได้ เธอจึงตัดสินใจที่จะขออนุญาตกับผู้ปกครอง เพื่อจะขอเข้าไปทำงานนอกเวลาเรียนเพื่อหวังที่จะสะสมเงินจากการทำงานให้เป็นค่าเทอมแรกในมหาวิทยาลัยตามที่ใจปราถนา 
        “เราไม่รับเด็กมัธยมน่ะ เพราะวัยเท่าเธอไม่สามารถที่จะให้เวลาในการทำงานได้อย่างเต็มที่ อีกอย่างเธอยังเด็ก เราขอปฎิเสธการเข้ารับทำงานน่ะ”
          ทุกวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเธอเองก็จะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เพราะเส้นทางความฝันได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อผลประกาศในเว็ปได้เขียนว่า เธอสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีได้
         เธอจึงตัดสินใจที่จะวางแผนกับผู้ปกครองว่า ขอให้ที่บ้านออกค่าเทอมในเทอมแรกก่อน ส่วนค่าเทอมในปีถัดไป ตลอดจนเรียนจบ เธอจะหาจากการทำงานนอกเวลาเรียนเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในส่วนนี้แทน และส่วนค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเธอตัดสินใจที่จะกู้เงินอัดฉีดเพื่อการศึกษาเข้ามาสมทบ แม้ในใจจะประท้วงว่า “ไม่อยากติดหนี้เลยก็ตาม”
หนึ่งเทอมที่กำลังจะหมดไปในการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นเทอมที่เธอเอง ยอมรับว่าได้เรียนรู้เรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวในเรื่องของความเป็นอยู่ เรื่องการเรียน หรือแม้กระทั่งเรื่องของการทำกิจกรรมสำหรับน้องนักศึกษาปีที่ 1 ล้วนแล้วมีทั้งสุข ทุกข์ ชอบ ไม่ชอบ แต่มันก็คงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยตามที่เธอใฝ่ฝัน บนเส้นทางของคำว่า “นักศึกษา”
          ช่วงปิดเทอมของการเป็นนักศึกษาเป็นช่วงนาทีทองเลยก็ว่าได้ เพราะ แต่ละคนสามารถใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมทำในสิ่งที่ตัวเองปราถนา หรือ สามารถจัดโปรแกรมเที่ยว ตามความต้องการของแต่ละคน แต่สำหรับเธอ เธอได้ขออนุญาตจากผู้ปกครองเพื่อที่จะเข้าไปทำงานหารายได้เสริมในร้านอาหารของพี่ชายเพื่อน เธอยอมรับว่า การหารายได้เสริมในช่วงปิดเทอมครั้งนั้น เป็นงานที่เธอได้ประสบการณ์เยอะมาก เพราะเกือบทุกงานในร้านเธอแทบ ทำเป็นเกือบทุกอย่าง นับว่าเป็นงานที่ใช้ทั้งแรงกาย และ แรงใจในการทำงาน แต่เธอมองว่า มันเป็นภูมิคุ้มกันให้เธอได้มีโอกาสสัมผัสงานอีกรูปแบบหนึ่งของงาน Part-time ในช่วงปิดเทอม การที่ได้เจอสังคมในมหาวิทยาลัย สังคมของการทำงานทำให้เธอเริ่มรู้จักผู้คนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องที่เข้ามาทักทาย และ ทาบทามให้เธอเข้ามาช่วยในการทำกิจกรรมของคณะที่เธอศึกษา และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการเป็น นักกิจกรรมเพื่อสังคมจนถึงทุกวันนี้
        ชีวิตของเธอเรียนไปด้วย ทำกิจกรรมของคณะไปด้วย รวมถึง เป็นเด็กทุนที่ทำงานหารายได้เสริมในห้องสมุด และ เมื่อถึงเวลาตอนเย็น เธอก็จะทำงานที่บ้านอาจารย์ เพื่อสอนเด็กๆในการเรียนอัลกุรอ่าน จนทำให้เธอสามารถเก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมทุกเทอมได้ด้วยตนเอง ตลอดจนสามารถนำเงินที่สะสมไว้ไปใช้ในกรุงเทพช่วงที่เธอฝึกงานในชั้นปีที่ 3 แต่แล้วเหมือนโชคเข้าข้างเธอ เพราะสำนักงานที่เธอฝึกมีเบี้ยเลี้ยงให้กับเด็กฝึกงานทุกคน
ในช่วงที่เธอฝึกงานอยู่นั้น เป็นช่วง พ.ศ. 2547 เป็นช่วงที่เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดกำลังเกิดขึ้น และในขณะเดียวกัน เธอก็ได้ถูกคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมที่ทนายสมชาย นีละไพจิตร เป็นผู้จัด แต่ขณะนั้น ทนายสมชายกลับหายตัวไป ถือว่าเป็นข่าวร้ายอีกหนึ่งข่าว เพราะช่วงนั้น ทั้งสื่อกระแสหลัก และ สื่อทางเลือกต่างให้ความสำคัญของข่าวทนายสมชายเป็นอย่างมาก แม้ว่าผู้จัดกิจกรรมอบรมอย่าง ทนายสมชายจะจากหายตัวไป แต่กิจกรรมที่เธอถูกคัดเลือกให้เข้าอบรม ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
          เธอจำได้ว่า การอบรมครั้งนั้นเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะในปี พ.ศ.2547 เธอเองก็เป็นหนึ่งคนที่ติดตามเหตุการณ์วันนั้นผ่านจอทีวีในกรุงเทพ ผ่านการรายงานข่าวจากนักข่าวในพื้นที่ เธอได้แต่ตั้งคำถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ปัตตานี มันเกิดอะไรขึ้นหนอ ทำไมการถ่ายทอดสดวันนั้นเหมือนเราไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มันร้ายแรงขนาดไหน จะมีคนเสียชีวิตกี่คน” เมื่อการฝึกงานในช่วงปีที่สามจบลง เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนๆเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่มัสยิดกรือเซะ แล้วคิดว่าน่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบพอสมควร จึงลงมติกันว่า “ลงขันในกลุ่มดีกว่าเพื่อนำเงินส่วนนี้ไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับผลกระทบ” หลังจากวันนั้น กลุ่มของเธอ ถูกเรียกในนามว่า “กลุ่มนักศึกษาลงพื้นที่” ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเธอเพียงหวังว่า ต้องการที่จะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้เขามีกำลังใจ และบรรเทาความเจ็บปวดผ่านการลงพื้นที่เยี่ยมของกลุ่มเธอ
กิจกรรมการลงพื้นที่ของพวกเธอทำให้ผู้ใหญ่จากกรุงเทพขอความช่วยเหลือให้กลุ่มเธอเป็นล่ามในการลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
          เธอเล่าต่ออีกว่า สถานการณ์ตอนนั้นเป็นช่วงที่ต่างคนต่างระแวง คนในพื้นที่ไม่กล้าที่จะเปิดใจในการเล่าความลำบากให้คนนอกพื้นที่รับฟัง จึงต้องอาศัย “กลุ่มนักศึกษาลงพื้นที่” ในการประสานคนในพื้นที่ กับ คนนอกพื้นที่สามารถพูดคุยกันได้ เหตุผลที่ชาวบ้านไว้ใจนักศึกษาเพราะ ชาวบ้านจะรู้สึกว่า นักศึกษาเปรียบเสมือนลูกหลานของคนในพื้นที่ และ นับถือศาสนาเดียวกัน จีงสามารถพูดคุยกันได้ แต่แล้วการทำกิจกรรมลงพื้นที่ของเธอนั้นกลับสร้างความกังวลให้คนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะในขณะที่กลุ่มเธอขับเคลื่อนกิจกรรม เป็นช่วงที่เหตุการณ์ยิ่งทวีคูณความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอต้องอาศัยการอธิบายด้วยความเข้าใจให้กับผู้ปกครองของเธอเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้ปกครองที่บ้านได้เปิดใจ ยอมรับ และเห็นด้วยในสิ่งที่เธอกำลังทำ กิจกรรมดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวเธอเองก็รับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกับหน่วยกลางในการลงในพื้นที่ นอกจากการทำกิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แล้ว เธอและเพื่อนในกลุ่มก็ได้ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดค่ายจริยธรรม กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม และกิจกรรมอื่นๆอย่างต่อเนื่อง ในนามกลุ่ม “เยาวชนใจอาสา” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ขับเคลื่อนในพื้นที่ปัตตานีและพื้นที่นราธิวาสโดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยกลางและกลุ่มเพื่อน กลุ่มน้องๆนักศึกษาที่เข้ามาช่วยงานกิจกรรมในส่วนนี้
          ช่วงที่กิจกรรมกำลังขับเคลื่อนในนราธิวาสนั้นทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับครอบครัวมากยิ่งขึ้น ทำให้ครอบครัวรับรู้เกี่ยวกับกิจกรรมที่เธอทำ และเธอสัมผัสได้ว่า ครอบครัวเริ่มเข้าใจ และ ประทับใจในกิจกรรมที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเพราะพ่อ แม่ ของเด็กๆที่เข้าร่วมค่ายจริยธรรมในหมู่บ้าน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เด็กๆเกิดการพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีมากกว่าเดิม ดีใจและประทับใจเกี่ยวกับค่ายจริยธรรมนี้มาก “
         เวลาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมนุษย์แต่ละวัน เป็นช่วงเวลาที่หยิบเรื่องราวทั้งทุกข์ สุข เศร้า ดี สดใส ปะปนกันไป หากมนุษย์ต้องการที่จะพบเจอแต่เรื่องดีๆตลอดชีวิต มันก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่มีมนุษย์คนไหนที่ตลอดชีวิตพบเจอแต่เรื่องทุกข์ร้อนตลอดเวลา ดังนั้นแล้ว ทุกข์ สุข มันเป็นของคู่กันที่มนุษย์ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้
           ชีวิตเธอก็เหมือนกัน หลังจากความประทับใจที่เธอได้สัมผัสจากครอบครัว จากคนในชุมชนที่มอบให้เธอ แต่แล้วคงไม่มีใครคิดว่า ชีวิตเธอจะเจอมรสุมใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาในวันที่ 1 พฤษภาคม 2556 นับเป็นชีวิตที่มีการหักเหครั้งใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ เมื่อสามีของเธอถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับ คดีความมั่นคงในพื้นที่ตามเนื้อหาข่าวที่ได้ถูกเสนอออกไปทั้งจากสื่อกลางและสื่อท้องถิ่นทำให้หลายคนที่เป็นนักกิจกรรมในพื้นที่และนอกพื้นที่ต่างตกใจ และได้ส่งกำลังใจให้เธออย่างไม่ขาดสาย เธอได้เล่าว่า “ความโศกเศร้า ความผิดหวัง ความเจ็บปวดเผชิญอยู่นั้น ผ่านพ้นได้ด้วยความรักจากพระผู้เป็นเจ้า ความรักจากคนรอบข้าง ความรักจากชาวบ้านที่เคยเข้าไปทำกิจกรรมร่วมกันเมื่อครั้นยังเป็นนักศึกษา และ ความรักจากตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองได้ผ่านจุดนั้นได้อย่างเข้มแข็ง และเธอเองก็เชื่อเสมอว่า “บททดสอบทุก
อย่างล้วนเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว”” .
            เคาน์เตอร์สีน้ำตาลอ่อนที่ถูกประดับด้วยกระปุกสีขาวที่บรรจุผงรสชาติในการทำน้ำดื่มเรียงเป็นแถวบนชั้นวาง แลเห็นถึงความหลากหลายของผงเครื่องดื่มที่สามารถทำให้บาริสต้ารังสรรค์เมนูเครื่องดื่มให้ถูกใจลูกค้า ถัดจากเคาน์เตอร์เครื่องดื่มเป็นตู้กระจกสี่เหลี่ยมที่มีไว้สำหรับบรรจุวัตถุดิบในการตำส้มตำ สองความแตกต่างของเมนูที่จำหน่ายในร้านมีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น ความกลมกล่อมจากเมนูน้ำดื่ม และความเผ็ด เปรี้ยว แซ่บ จากเมนูส้มตำ รวมถึงความไพเราะของชื่อร้านที่นำเอาคำว่า ดอกไม้ ที่เป็นภาษามลายู นำมาตั้งเป็นชื่อร้านยิ่งเพิ่มความอ่อนโยน และ ความสงสัยให้กับผู้ที่ได้ยินไม่ใช่น้อย “Bunga Teh Tarik & Coffee” ที่เรียกว่าธุรกิจ SE(กิจการเพื่อสังคม) มันเริ่มต้นได้อย่างไรเอ่ย “ เริ่มต้นจากแบวา(สามี) ต้องการที่จะประกอบธุรกิจน้ำดื่มแต่ต้องการที่จะแบ่งปันสังคมไปด้วย เลยทำ “กิจกรรม 1 แก้ว 1 บาทเพื่อมอบให้กับเด็กกำพร้า” เพราะคิดว่าการทำธุรกิจ SE สามารถดูแลตัวเอง และ สามารถดูแลสังคมได้อีกด้วย”
           เราสองคนพูดคุยจนลืมดูเวลา ซึ่งทุกประโยคที่เธอได้เล่า ตัวฉันเองสัมผัสได้ว่า ชีวิตของเธอผ่านประสบการณ์ชีวิตมากเหลือเกิน จนแอบเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์บางสถานการณ์ในชีวิตเธอ ขณะที่เธอกำลังเล่า แอบอุทานในใจว่า “ผ่านมาได้ไงเนี้ย สุดยอดอะ” ซึ่งก่อนที่จะจบการสนทนา ได้ถามเธอว่ามีปรัชญาหรือ คติเตือนใจในการใช้ชีวิตบ้างไหม เธอก็ตอบมาว่า
“ ความดีชนะทุกสิ่ง ความจริงไม่เคยหลอกใคร ทุกข์ สุขอยู่ที่ใจ ดีชั่วอยู่ที่ตัวเราย่อมรู้ดี และอัลลอฮ์(พระเจ้า)ย่อมรู้ดีกว่า”
          หากคำตอบด้านบนที่ฉันจะสามารถตอบแทนเธอได้ ฉันคงจะตอบว่า เธอคือดอกไม้หลากหลายชนิด หลากหลายสีที่ผูกเข้าด้วยกันให้เป็นช่อดอกไม้หนึ่งช่อที่พร้อมจะมอบสิ่งดีๆให้กับคนพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าในช่อดอกไม้นั้นมีกลิ่นหอมที่แตกต่างกันออกไปตามชนิดของดอกไม้ที่จัดรวม มันสามารถให้ความสบายตา สบายใจแก่ผู้ที่ได้รับ
           เช่นเดียวกันกับเธอ เธอก็เปรียบเสมือนดอกไม้หนึ่งช่อที่มีความหลากหลายในแง่ของการใช้ชีวิต การสู้ชีวิต ดิ้นรนทุกวิธีทางเพื่อให้ไปถึงความฝัน โดยสามารถที่ทำจะให้ความชอบ กับ ความฝันได้เดินบนเส้นทางเดียวกันได้อย่างสวยงาม รวมถึง กลิ่นหอมที่โชยออกมาจากช่อดอกไม้นั้น ก็ความสำเร็จนั้นเอง




 

Create Date : 01 มกราคม 2561
1 comments
Last Update : 1 มกราคม 2561 6:50:43 น.
Counter : 2252 Pageviews.

 

แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 29 เมษายน 2561 17:20:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


กัลปังหา ที่รอคอย
Location :
ปัตตานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add กัลปังหา ที่รอคอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.