The Kingdom : แค้นต้องชำระ (ไปถึงไหน)

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจริง
ในซาอุดิอาระเบีย เมื่อมีการก่อการด้วย ระเบิดฆ่าตัวตาย
(หรือที่เมื่อก่อนเขาเรียกว่าระเบิดพลีชีพ แต่นัยยะ มันฟังดูดีเกินไป ท่านทั้งหลายจึงให้เปลี่ยนชื่อให้ดูสิ้นคิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้เปลี่ยนเพื่ออะไรเหมือนกัน)

ตามประสาคนที่ช่วงนี้ไม่ได้ติดตามข่าวสารมากนัก
ก็ถือเป็นประโยชน์สองต่อ นอกจากได้ดูหนังแล้วยังได้รู้ความเป็นไปของโลกไปด้วย

ชอบเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มเลย
การเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง อเมริกากับชาติอาหรับ
ตั้งแต่เรื่องราวในหนหลัง ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ซาอุ กับอเมริกา
น้ำมันหรือพลังงานก็คือผลประโยชน์ที่ใครๆ ก็ต้องการ
การใช้กราฟฟิก เท่ห์และช่วยให้เข้าใจง่ายดี
จริงๆ แล้ว คำว่าอุดมการณ์อาจจะไม่ใช่อะไรมากไปกว่า คำว่า ผลประโยชน์นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายอเมริกา ฝ่ายซาอุ หรือ ฝ่าย บิน ลาดิน

เหตุการณ์ก่อการร้ายใน ซาอุ เกิดขึ้นในนิคมของชาวอเมริกา
ทำให้ FBI ต้องพยายามเข้าไปเกี่ยวข้องให้ได้
และจากการต่อรองผลประโยชน์บางอย่าง
ก็ทำให้ทีมของ เฟอรี่ (Jamie Foxx) สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ได้
ทั้งๆ ที่เปรียบไปแล้วก็เหมือนการเดินเข้าถ้ำเสือ

หนังยาวพอดู แต่การดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อ
ทั้งๆ ที่ฉากแอ๊คชั่นนั้นมีเพียงน้อยนิดในช่วงท้าย
แต่ผู้กำกับก็สามารถควบคุม เรื่องราวให้ชวนติดตามได้ดีตลอดทั้งเรื่อง

น่าเสียดายไปหน่อย
ที่หนังเรื่องนี้ออกจะชื่นชม ความเป็นอเมริกันมากเกินไปหน่อย
ก็เข้าทำนอง กลุ่มของ FBI เก่ง และดีไปซะหมด
และดูราวกับ ตำรวจในซาอุนั้นทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง
ส่วนผู้ก่อการร้ายนั้น หนังเองก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรจนกระทั่ง
กลายเป็นตัวร้ายไปโดยไม่มีมิติด้านอื่นให้เห็นเลย
เพราะคนดูอย่างเรา ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า
ความศรัทธาประเภทไหนกัน ที่ทำให้มนุษย์ยินยอมพลีชีพเพื่อฆ่ามนุษย์ด้วยกัน

ตอนท้ายของหนัง ทำได้ลุ้นสนุก
และมุมกล้อง/ภาพ แบบเดียวกันกับ bourne ก็ชวนให้ดูสนุกเข้ากับบรรยากาศดี
สุดท้ายแล้วหนังก็จบลงอย่างหนัง
ส่วนในโลกของความเป็นจริง มันก็ยังคงดำเนินต่อไป
อย่างประโยคที่ เฟอรี่พูดกับ เจเน็ต (Jennife Garner)
เมื่อรู้ข่าวว่าเพื่อนคนหนึ่ง เสียชีวิตในเหตุการณ์ ระเบิด

เป็นประโยคเดียวกันกับ อาบู ฮัมซ่า ตัวการวางระเบิด
พูดกับหลานตัวเองก่อนจะสิ้นใจ

อาจจะเป็นประโยคเดียว ที่ช่วยบอกเราได้ว่า
เหตุใด โลกนี้ถึงไม่เคยปราศจากความรุนแรง
" ไม่ต้องห่วง เราจะฆ่าพวกมันให้หมด "

ความจริงแล้ว ก็เหมือนที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กในหนังจีนกำลังภายในนั่นเอง
"บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ"

นับตั้งแต่เหตุการณ์ 11 กันยายน หนังหลายเรื่องได้นำเหตุการณ์
ครั้งประวัติศาสตร์นั้นมาสอดแทรกในเรื่องราว
โดยไม่ว่าจะเป็นหนังรักอย่าง Love actually ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
ตั้งแต่ต้นเรื่อง หนังที่เล่าความขัดแย้งของชาวตะวันตกและมุสลิมอย่าง Munich
ไปจนถึงหนังที่เอาเหตุการณ์ 9/11 มาสร้างเช่น United 93
และคงจะมีออกมาให้ดูอีกเรื่อยๆ

การดูหนังแบบนี้ ในส่วนตัวแล้วมันชวนให้เราตั้งคำถาม
โดยเฉพาะถามตัวเอง ว่าเราคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว
เรื่องที่เกิดขึ้นจริง เกิดบนโลกใบนี้
ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งเราควรจะคิดเห็นอย่างไร ?

ผมอยากให้หนังสร้างหนังแบบนี้บ้าง
หนังที่เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง มาเล่าให้แบบของหนัง
เพราะในบ้านเราก็มีเรื่องอะไรแปลกๆ ให้พบให้เห็นออกจะบ่อย
ใครจะคิดว่า จู่ๆ วันหนึ่งจากนักศึกษาประท้วงรัฐบาล
กับ นักการเมืองที่เคยอยู่ฝ่ายตรงข้าม ที่ทำให้นักศึกษา
ต้องระเห็จเข้าป่าไปเมื่อ 20 ปีก่อน
วันนี้จะมาอยู่เป็นพวกเดียวกันซะแล้ว แถมยอมให้อีกฝ่ายเป็นหัวหน้าอีกซะด้วย

ถ้าเอามาสร้างเป็นหนังคงจะเป็น
หนังหักมุมตอนจบที่ต้องบอกว่า ต้มคนดูได้สนิทเลย

นอกเรื่องแล้วจบดีกว่า
.............................................................................................
คะแนน 7/10
โรงหนัง สกาล่า
วันที่ 21 ตุลาคม 2550

ข้อมูลภาพยนตร์
The Kingdom (2007)
Director : Peter Berg
Actor : Jamie Foxx
Jannifer Garner
Chris cooper

Create Date : 23 ตุลาคม 2550		1 comments
Last Update : 23 ตุลาคม 2550 21:20:40 น.
Counter : 3231 Pageviews.
Share Tweet