"กินมาก ปากหมา บ้ากล้อง"
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

"เดจาวู" เคยเป็นกันป่าว

เคยมั๊ย...ทำอะไรอยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ เราเคยทำแบบนี้ไปแล้วนี่หว่า

เคยมั๊ย...คุยกันอยู่ดีๆ ก็เหมือนกับว่าคนนี้คุยกับเราด้วยประโยคที่เขาเคยพูดกับเราแล้ว

เคยมั๊ย...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าเรานี่มันเคยเกิดมาแล้ว...หรือจะเคยฝันถึงแล้วนี่นา

เค้าเรียกปรากฎการณ์เดจาวู

วิกิพีเดียบอกว่า

เดจาวู (Déjà vu - แปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว) คำว่าเดจาวูได้บันทึกขึ้นมาจากนักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศส Emile Boirac (1851–1917) ในหนังสือ L'Avenir des sciences psychiques

อาการเดจาวูคือรู้สึกว่าเหตุการณ์นั้นเคยพบมาแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งพบครั้งแรก โดยเราอาจจะคิดว่าเราเพ้อฝันไป

มนุษย์ในบางครั้งมีความรู้สึกว่า ตนเองเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าในฝันหรือในอดีต เช่น ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไม่เคยไปมาก่อน เดินไปยืนที่ระเบียงแล้วรู้สึก ตนเองคุ้นกับระเบียงนี้ มุมนี้ และการยืนแบบนี้..

บางคนรู้สึกว่าตนนั่งรถทัวร์กลับต่างจังหวัดตอนดึก ระหว่างทางเห็นอุบัติเหตุข้างทาง แล้วก็ผ่านไป สักพักก็เห็นอีก เห็นอยู่เรื่อย ที่สำคัญเป็นรถคันเดิม คนเดิม บางทีกำลังหันมามองเขาด้วย โดนที่ไม่ใช่ฝันแน่นอน พอรู้สึกตัวอีกที รถจอด ปรากฏว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนที่เคยเห็น

เดจาวูไม่เหมือนฝัน มันเกิดได้แม้กระทั่งในเวลาตื่น

เดจาวู เป็นประสบการณ์ทางจิต ที่เกิดได้กับทุกคน และทุกเวลา อาจเป็นอดีตชาติ อาจเป็นโลกคู่ขนาน อาจเป็นพลังจิต หรืออาจเป็นแค่ภาพลวงตาทางสมอง



ทฤษฎีที่ใช้อธิบายมีหลายอย่าง

ทฤษฎีแรก อดีต
สิ่งใดก็ตามที่เคยเกิดไปแล้วในอดีต จะย้อนกลับมาเกิดซํ้าอีก เราจะผ่านประสบการณ์มากมาย และบางสิ่งอาจหลงเหลือในความทรงจำ แล้วย้อนกลับมาเกิดอีก ทำให้รู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน

ทฤษฎีที่สอง พลังจิต
บ้างก็ว่า เดจาวู เป็นพลังจิตรูปหนึ่ง บ้างก็ว่าเป็นทิพจักขุญาณ (ความรู้คล้ายตาทิพย์) ซึ่งได้มาจากการเจริญสมถะภาวนาในหมวดของกสิณ 3 กองคือ เตโชกสิณ (กสิณไฟ), โอทากสิณ (กสิณสีขาว) และ อาโลกสิณ (กสิณแสงสว่าง) จากทั้งหมด 10 กอง

เราทุกคนมีพลังจิต เพียงแต่จะอ่อนจะเข้ม บางทีเพราะเราไม่ได้ฝึก จะเก็บกดไว้ภายใน วันดีคืนดีก็ล้นออกมา ตามตำรา ถ้าได้ฝึก เราสามารถควบคุมได้

มีนักพยากรณ์หลายคน พยากรณ์ได้จากการเพ่ง ว่ากันว่า มีผู้หนึ่งมีเดจาวูแรงกล้ามาก หาใครเปรียบไม่ได้ เขาชื่อ นอสตราดามุส


ทฤษฎีที่สาม จักรวาลคู่ขนาน
โลกคู่ขนาน หรือ จักรวาลคู่ขนาน หมายถึง จักรวาลที่ดำเนินไปพร้อมกับจักรวาลที่เราอยู่นี้ ทฤษฎีนี้นักฟิสิกส์ริเริ่มคิดขึ้นมา มีเหตุการณ์ที่เราลังเลอยู่ 2 ทาง แต่เราก็ตัดสินใจไปทางหนึ่ง แล้วคิดไหมว่า ถ้า ณ วันนั้นเราติดสินใจเป็นอย่างอื่น อะไรจะเกิดขึ้น

ในโลกนี้ที่เรามีตัวตนอยู่ในขณะนี้ ขณะเดียวกันก็มีเราอีกคนหนึ่งในอีกโลกหนึ่ง และมีโลกคู่ขนานมากมายนับไม่ถ้วน..

เช่น ขณะนี้เราได้ตัดสินใจบางสิ่ง ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ ขณะที่อีกคนของเราได้ตัดสินใจไปอีกทางทำให้ชีวิตตนเอง และผู้อื่นเสียหาย ก็เป็นได้ อีกตัวอย่าง บางครั้งคุณอยากฆ่าตัวตายแต่คุณล้มเลิก บางทีคุณในโลกคู่ขนานอาจฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้อะไรประมาณนี้

ตัวอย่าง ปัญหาทางทฤษฎีมิติเวลา สมมติคุณเดินทางย้อนเวลาได้ เมื่อวานคุณเก็งหุ้นตัวหนึ่ง วันนี้หุ้นนั้นล้ม คุณล้มละลาย คุณเดินทางย้อนเวลาไปเตือนคุณในอดีตคุณในอดีตรู้คำเตือน และยกเลิกหุ้นตัวนั้น เมื่อวานคุณไม่ได้ถือหุ้นตัวนั้น ถ้าเช่นนั้น วันนี้คุณไม่ได้ล้มละลาย ในเมื่อคุณไม่ได้ล้มละลาย คุณก็ไม่ได้เดินทางย้อนเวลาไปบอกตัวเองในอดีต คุณในอดีตก็ไม่รู้ว่า หุ้นตัวนั้นจะล้ม และเก็งหุ้นตัวนั้นตกลงวันนี้คุณล้มละลายหรือเปล่า

ทฤษฎีเกี่ยวกับโลกคู่ขนาน จึงถูกคิดขึ้นเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ความผันผวนของมิติเวลาเหล่านี้ ทุกๆเหตุการณ์ที่เรามี 2 ตัวเลือก จะเกิดโลกคู่ขนาน 2 โลก และจาก 2 โลก ถ้าเราเจอเหตุการณ์อื่นที่ต้องตัดสินใจ 2 ทาง แต่ละโลก จะเกิดโลกคู่ขนานอีก 2 โลก โลกคู่ขนานจึงมีจำนวน นับไม่ถ้วน

(ถ้าใครเคยดูการ์ตูนดราก้อนบอลแซดคงเข้าใจมากขึ้น ทรังค์ย้อนเวลาจากโลกที่ถูกหมายเลข 17,18 ทำลาย มาในปัจจุบัน ในที่สุดโลกที่เขามา ไม่ถูกทำลาย แต่เขากลับไป โลกของเขาก็ยังเป็นโลกที่ถูกทำลายอยู่ดี ไม่เช่นนั้นเขาจะมาได้อย่างไร)

มีคนผูกทฤษฎีเดจาวู กับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนาน กล่าวว่า การที่เรารู้สึกหรือเห็นภาพที่คล้ายว่าเคยทำมาก่อน นั่นแหละ คุณเคยทำจริง แต่เป็นคุณในอีกโลกหนึ่งต่างหากที่ได้ทำ คุณในทุก ๆ โลก ถูกผูกกันด้วยสายใยบางอย่าง อาจเป็นเพราะ สมองมีคลื่นตรงกัน ก็เป็นคุณคนเดียวกันนี่นา ในบางจังหวะที่เหมาะสม กระแสประสาทจูนกัน คุณก็ได้รับรู้ถึงกระแสความคิดจากคุณในอีกโลก

ทฤษฎีสุดท้าย คิดไปเอง
ตามแนวคิดของหลักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า เกิดจากสมองแปลข้อมูลผิดพลาด พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้เห็นมาแล้วหรอก แต่คิดไปว่าเห็นมาแล้ว

ทางการแพทย์เรียกว่า การไหลของคลื่นกระแสไฟฟ้าในสมองเกิดการผิดปกติ สมองคนเราก็เหมือนเครื่องจักรย่อมเกิดข้อผิดพลาดได้บ้าง ทำให้การกระทำที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้น คลับคล้ายว่าเคยเกิดมาก่อนหน้านี้มาแล้ว แต่ไม่สามารถจำเวลาได้ ได้มีทฤษฎีที่พยายามอธิบายหลายวิธี เช่น


1. ทฤษฎีในศตวรรษที่ 20 ดั้งเดิมและยังมีคนส่วนใหญ่ เชื่อกันอยู่ เชื่อว่า เดจาวู เกิดจากเมื่อสมองรับภาพมาจากประสาทตา ก็นำมาแปลความหมาย สมองมี 2 ซีก ตามี 2 ข้าง ประสาทตาซ้ายเข้าสมองซีกขวา ประสาทตาขวาเข้าสมองซีกซ้ายฉะนั้นสมองทั้งสอง ต้องทำงานประสานกันและกันอย่างมาก เมื่อเกิดสมองข้างหนึ่ง เกิดส่งข้อมูลมาช้าไปเพียงนิดเดียว ทำให้สมองแปลความหมายของภาพนั้นว่า เป็นภาพจากความจำไม่ใช้ปัจจุบันทำให้รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เจอนั้นเคยเห็นมันมาก่อน..

2. ทฤษฎีใหม่นั้น พบว่า เป็นความผิดปกติของสมองส่วนการเรียกความจำ และส่วนที่ทำหน้าทีเกี่ยวกับความคุ้นเคยผิดปกติ ซึ่งเมื่อมีสิ่งเร้าผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียง มีการลัดวงจรทำให้สมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคุ้นเคยทำงานมากผิดปกตินั่นเอง




ถ้างั้น

โดนผู้ชายทิ้งแล้วทิ้งอีก.....นั่นไง เดจาวู

ยืมเงินเพื่อนแล้วรู้สึกว่าใช้คืนไปแล้ว.....นั่นไง เดจาวู

รับน้อง ตายแล้วตายอีก......นี่ก็ เดจาวู

ส่วนเงินแผ่นดิน โกงแล้วโกงอีก....เค้าเรียก.......




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2552
4 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 19:45:34 น.
Counter : 718 Pageviews.

 

เป็นบ่อยครับ
แต่พูดไปก็ยากที่ใครเค้าจะเชื่อ

 

โดย: มิสเตอร์ฮอง 17 มิถุนายน 2552 20:27:56 น.  

 

เคยเป็นอ่ะค่ะ แต่ถ้าเลือกได้ไม่ขอเป็นดีกว่าอ่ะค่ะ

 

โดย: kun.kung IP: 119.31.109.209 17 มิถุนายน 2552 21:25:20 น.  

 

อยากเจอคนที่เปนตัวเราในอีกโลกจังถ้าได้เจอ............ก็......คงดีสินะอยากเล่นกับเขาจังยิ่งไม่มีเพื่อนด้วย

 

โดย: เนย IP: 183.89.181.16 9 กรกฎาคม 2554 20:12:50 น.  

 

อยากเจอคนอีกโลกจังถ้าเปนไปได้ขอให้ได้เจอเถอะ
อมิตาพูน...........ฮึๆ.......เดจาวู

 

โดย: เซโร่ IP: 183.89.181.16 9 กรกฎาคม 2554 20:16:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


photch
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรื่องประการหนึ่ง มักมีอยู่หลายด้าน
ท่านหากครุ่นคิดไปในทางดีงาม จะมีชีวิตอย่างสุขสำราญ
อย่าว่าแต่ท่านหากรู้จักใช้รอยยิ้มประจันกับชีวิตมนุษย์
จะค่อยๆพบว่า ในใต้หล้ามิมีปัญหาที่คลี่คลายไม่ได้
**วีรบุรุษสำราญ**โกวเล้ง
Friends' blogs
[Add photch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.