มกราคม 2561

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
31
 
 
30 มกราคม 2561
กาแกมหงส์ 6



กว่าขั้นตอนในการสอบสวนของตำรวจจะเสร็จสิ้นลงทุกขั้นตอนทำเอาสาวน้อยหน้าใส ร่างสูงโปร่ง ตาคมเข้มวาว ขนตายาวเป็นแพรระยับถึงกับหน้าซีดเซียว ซวนเซจะเป็นลมในทันทีที่สารวัตรใหญ่แห่งอำเภอท่าวังหินสรุปสำนวนการสอบสวนต่อหน้าครูประดิษฐ์ พ่อผู้ตาย ครูเมตตาซึ่งเป็นผู้ปกครองจำเป็นของเด็กสาว และอีกหลายคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ไม่รวม เว้นแม้แต่หลวงตาแห่งวัดบ้านโนนสมบูรณ์ที่เกิดเรื่อง..

“ คดีฆ่าและทำร้ายร่างกายคดีนี้เป็นคดีอุจฉกรรณ์สะเทือนขวัญร้ายแรง ซึ่งตอนนี้เรายังสรุปรูปคดีไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร ด้วยหลักฐานและพยานทั้งหมดที่เราได้มาในวันนี้ยังไม่เพียงพอที่จะชี้ชัดได้ว่าใครคือฆาตกรแท้จริง โดยเฉพาะคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตายเมื่อคืนนี้ ฉะนั้นเมื่อผลออกมาเช่นนี้ กระผมจึงขอคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไว้ที่โรงพักก่อนและคาดว่าผลการสอบสวนพรุ่งนี้คงแล้วเสร็จ เรียนเชิญผู้ไม่เกี่ยวข้องกลับบ้านไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมากันใหม่นะครับ ..”

สารวัตรใหญ่แห่งท่าวังหินอธิบายรูปคดีจบ เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจดังกระหึ่มขึ้นมา ไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร เพราะทุกคนที่มาในวันนี้ต่างเป็นจำเลยที่ถูกกล่าวอ้างว่าเกี่ยวข้องกับคดีแก้วตาถูกฆาตกรรมกันแทบทุกคน …

ครูเมตตาค่อยดึงตัวมะยมให้เดินตรงมุมระเบียงด้านนอกที่ขณะนี้ลมเย็นพัดโชยเอื่อย ๆ ไล้ผิวบางของเด็กสาวให้ต้องเอามือสองข้างกระชับกอดอกคลายความหนาว ครูเมตตาเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะถอนหายใจและเอ่ยขึ้นว่า …

“ อย่ากลัวนะมะยม ประเดี๋ยวสักพักครูพลคงมาช่วยประกันตัวแล้ว แต่ตอนนี้เราต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน พรุ่งนี้ครูจะมาหามะยมใหม่นะ” น้ำเสียงที่สั่นเครือของครูเมตตาคล้ายจะร้องไห้ทำเอาเด็กสาวใจแป๊วไปในทันที ก่อนที่ร่างผอมบางจะเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจอะไรนักในคืนนี้ …

“ นี่ตกลงหนูต้องนอนในตะรางนั่นจริง ๆ เหรอคะอาจารย์..”

“ คงไม่หรอกน่ามะยม ครูว่าตำรวจน่าจะจัดที่นอนที่ดีกว่านั้นให้เธอนะ .. เดี๋ยวครูไปดูลาดเลาก่อนนะเราอย่าเพิ่งไปไหนล่ะ” ครูเมตตาเดินมากุมมือมะยมแล้วดึงร่างบอบบางเข้าไปในอ้อมกอดแล้วผละจากไป

มะยมเอื้อมมือไปเกาะราวระเบียงที่ทำด้วยไม้ระแนงทาด้วยสีเทาสลับขาวแล้วมองไปยังขอบฟ้ากลุ่มเมฆทะมึนดำริมขอบฟ้าไกลที่ตอนนี้มองเห็นขอบสีเหลืองสว่างอยู่เพียงรำไรแรระบายไว้เท่านั้น ..


เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ก่อนคิดนึกจะยอมรับชะตากรรมในสิ่งที่ที่กำลังเกิดขึ้นกับตนเองในขณะนี้อย่างศิโรราบ ยอมจำนนกับมัน … ตอนนี้มะยมคิดถึงพ่ออันเป็นที่รักยิ่งที่สุด

“ พ่อจ๋า ! ตอนนี้พ่ออยู่ไหนนะ .. พ่อรู้หรือเปล่าว่าลูกของพ่อกำลังจะเดินเข้าไปนอนในคุกในตะรางโดยไม่มีความผิดอะไรเลย ลูกกลัวเหลือเกินจ๊ะพ่อจ๋า ”

มะยมปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดหย่อน เวลาที่ผ่านไปในความคิดเนิ่นนานเกินความจริง …

ขอบฟ้าเริ่มแลเห็นเป็นแสงสว่างขึ้นมารำไร ก่อนที่จะมองเห็นดวงจันทราเหลืองนวลอร่ามโผล่พ้นขึ้นเต็มดวงบนท้องฟ้า เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจทางด้านหน้าสถานีเงียบเสียงลงไปหมดแล้ว ลมหนาวพัดโชยมาเป็นระยะเช่นเดิม แต่ครูเมตตาหายไปร่วมชั่วโมงแล้ว เด็กสาวรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาอีกแล้ว ก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นรถสปอร์ตคันหรูคุ้นตาแล่นเข้าจอดเทียบบริเวณด้านหน้าสถานี…

จวบจนเวลาผ่านไปในหลายนาที มะยมได้ยินเสียงๆหนึ่งแว่วยินมาใกล้ๆในห้องถัดไปพร้อมกับคำสนทนาที่จับใจความไม่ชัดเจน ... แต่ตอนนี้เด็กสาวไม่มีกระจิตกระใจที่ฟังใครพูดอะไรอีกแล้ว เพราะนึกถึงภาพตัวเองในนอนหมดสภาพเป็นนักโทษในห้องกรงขังอยู่เท่านั้น ..

มะยมหันควับไปตามเสียงฝีเท้าที่เดินมา เป็นครูเมตตานั่นเอง เด็กสาวสงสัยว่าคุณครูกลับมาที่สถานีตำรวจทำไม แถมมีสีหน้ายิ้มแย้มกว่าเมื่อสักครู่อย่างลิบลับ …

“ มะยมเธอไปยืนอะไรมืดๆตรงนั้นเดินมาหาครูทางนี้สิ…” มะยมยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาที่ยังไม่แห้งสนิทแล้วเอ่ยถามครูเมตตา.. “ มีอะไรเหรอคะอาจารย์ ทำไมกลับมาที่นี่อีก..”

“ ทางตำรวจบอกว่าให้มะยมกลับบ้านได้เลย มีคนมาช่วยประกันตัวแล้ว ” มะยมยังรู้สึกงงๆจับต้นชนปลายไม่ถูกคิดว่าครูพลมาถึงสถานีตำรวจแล้ว “ พ่อหนูมาถึงแล้วเหรอคะครู..” มะยมเอ่ยถามครูเมตตาไปด้วยความยินดีที่ครูพลมาช่วยตัวเองได้ทันเวลาพอดี ก่อนจะเข้าไปนอนในตะรางสีเหลี่ยมในคืนนี้ …

“ ตอนนี้ยังไม่ต้องถามอะไรครู เดี๋ยวไปเซ็นเอกสารในห้องสารวัตรก็จะรู้เองว่าใครเป็นคนช่วยเรา ..”

“ ค่ะอาจารย์ ”

มะยมเดินออกจากริมระเบียงพร้อมครูเมตตาแล้วตรงมายังหน้าโต๊ะร้อยเวรด้านหน้า เหลียวซ้ายแลขวาหาครูพลไปทั่วบริเวณแต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง ไม่มีวี่แววของผู้เป็นพ่อเลย ...

กระทั่งกลุ่มคนประมาณสามสี่คนเดินออกมาจากห้องสารวัตรใหญ่ มะยมถึงบางอ้อในทันทีว่าใครเป็นผู้มีพระคุณกับตนเอง ...

แต่แล้วก็ต้องอึ้งไปอีกครั้งเมื่อมีร่างเล็กบางกว่าตัวเองแล่นถลาเข้ามาหาแล้วสวมกอดไว้แน่น ….

“ พี่มะยมขาเป็นอะไรหรือเปล่า! หิวข้าวมั้ย เดี๋ยวน้ำหวานจะไปหาให้นะ ..”

“ มะ ... ไม่ต้องหรอกจ๊ะน้ำหวาน พี่เพิ่งทานเมื่อกี้เอง” มะยมต้องรีบแกะมือของเด็กสาวที่กอดรัดเอวตัวเองไว้แน่น เพราะสายตาอีกสี่คู่กำลังจ้องมองมาอย่างประหลาดใจเช่นเดียวกัน …

คนทั้งสี่ที่ว่านี้ มีสามคนที่มะยมรู้จักนั่นก็คือ วันวิสา สาวสวยมาดสูงศักดิ์เพื่อนร่วมห้อง พลอยใส ที่น่าจะมาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้วและอิสรา พ่อหนุ่มจอมจุ้นคนเดิม...

ส่วนชายสูงวัยรูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกงามสง่ามาดมั่น แววตาคมกริบ ดุภูมิฐานกว่าใครในที่นี่ จ้องมองมายังเด็กสาวอย่างแปลกใจระคนสงสัย จนกระทั่งเด็กหนุ่มหน้าตาคลับคล้ายชายสูงวัยคนดังกล่าวเอ่ยแนะนำขึ้นมาว่า

“ ท่านพ่อครับนี่มะยมที่ผมเล่าให้ฟังไงครับ..”

ท่านชายปกรณ์เทวามองดูเด็กสาวที่มีเค้าความสวยประพิมพ์ประพายบนใบหน้าอย่างลงตัวชวนมอง แต่ตอนนี้กลับมีแววหมองคล้ำซูบเซียวเต็มไปด้วยความกังวลในใจ อย่างพินิจพิเคราะห์ถ้วนถี่ ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น …

ในขณะที่ตนเองกำลังจะออกไปเดินดูคนงานในไร่องุ่นกับนายแม้นคนขับรถ อย่างที่ทำเป็นปกติประจำวัน เอ่ยทักทายคนโน้นทีคนนี้ที จนกระทั่งได้ยินเสียงคนตะโกนมาจากที่ไกล จนเข้ามาใกล้ก้เห็นว่าบุตรชายคนเดียวกำลังวิ่งกระหืดกระหอบตรงมาแล้วละล่ำละลักอธิบายเหตุผลต่างๆ เพื่อให้ตนเองไปช่วยเหลือคนๆหนึ่งที่กำลังจะแย่แล้วในตอนนี้ โดยไม่ได้ตัวเองก็ไม่เคยรู้จักมักคุ้นคนๆนี้มาก่อน ...

จึงรีบกลับไปยังฟ้าเมฆาเพื่อทำกิจส่วนตัวบางอย่าง ก่อนจะเรียกนายแม้นออกรถทันที ตามอารมณ์ที่ร้อนรุ่มของผู้โดยสารคนหนึ่งในรถที่เร่งพลขับประจำบ้านให้เร็วรุดไปสถานีตำรวจโดยเร็ว …

พอรถสปอร์ตเทียบฟุตบาทหน้าสถานีตำรวจ อิสรารีบลงจากรถแล้ววิ่งขึ้นไปบนโรงพักในทันที ก่อนจะลงมาในอีกอึดใจพร้อมครูเมตตา ท่านชายปกรณ์เทวายกมือไหว้ครูเมตตาตามลำดับอาวุโส ก่อนจะเอ่ยถามถึงเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดจนเวลาผ่านไปหลายนาที แล้วคนทั้งสองจึงเดินตรงไปยังห้องสารวัตรใหญ่ ก่อนจะเรียกอิสราเข้าไปอีกคน …

“ สวัสดีค่ะคุณลุง ”มะยมเอื้อนเอ่ยทักทายผู้อาวุโสที่ดูกิริยาท่าทางจะไว้ตัว เงียบขรึมเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่งเป็นบุคลิกตรงข้ามกับครูพล พ่อของตัวเองทุกอย่าง ...

“ นี่เธอรู้หรือเปล่าว่าคุณลุงท่านอุตส่าห์สละเวลามาประกันตัวหล่อนไว้ทันนะ ไม่งั้นคงได้นอนกินข้าวแดงแกงร้อนกันไปแล้ว ..” มะยมเหลือบตามองไปข้างหลังเห็นคนพูดคือวันวิสา คู่กัดเจ้าเดิมนั่นเองที่พูดประโยคกระแนะกระแหนแดกดันออกมาเคียงข้างพลอยใสพี่สาวตนเอง เด็กสาวถอนหายใจข่มความรู้สึกอย่างสุดๆ ก่อนจะตอบวันวิสาไปด้วยความรำคาญใจ …

“ ขอบพระคุณคุณลุงและอาจารย์ที่มาช่วยหนูนะคะ ” มะยมก้มกราบคนทั้งสองอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามพลอยใสไปว่า“ พ่อไม่อยู่เหรอพลอย ” “ ไม่รู้ฉันไม่รู้ ...” คนตอบเมินหน้าไปทางอื่นคล้ายไม่อยากสนใจคำถาม กระทั่งมีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านข้างถามว่า...

“ ตอนอยู่ที่โรงเรียนผมไม่ได้อยู่ที่นั่นเลยเป็นพยานให้ไม่ทัน ก็เลยไปตามครูพลที่โรงเรียนโคกพะงาดกับน้ำหวาน ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่โรงเรียนซักคน สอบถามภารโรงก็ได้ความว่า คุณครูทั้งหมดไปสัมมนาเร่งด่วนเรื่องน้ำท่วมที่เชียงใหม่กันทั้งโรงเรียน ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงไปหาพลอยใสที่บ้าน ก่อนจะไปขอร้องท่านพ่อให้มาช่วยคุณนี่แหละครับมะยม ”

เด็กหนุ่มพยายามอธิบายด้วยความเห็นใจที่มาช่วยเหลือช้ากว่าที่ควรเป็น“ แล้วคุณชายอิสราก็เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ในคืนนั้นให้เธอด้วยนะมะยม” ครูเมตตาพูดเสริมขึ้นมา...

“ เมื่อคืนหลังจากที่มะยมแยกไปเอาของที่ลืมไว้บ้านเพื่อนที่ชื่อจำปา ผมถือวิสาสะเดินตามคุณไปจนถึงดงมะพร้าว ทันมองเห็นคุณกำลังตบตีกับแก้วตา ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าเข้าไปห้ามคงไม่ดีแน่ จึงยืนรออยู่ที่นั่นจนคุณเดินกลับไป แล้วถึงเดินออกมา ... จนทันสังเกตว่าสักพักได้มีเด็กผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรา รูปร่างสันทัด สวมเสื้อหนังสีดำ เร่งรุดเดินสวนทางกับคุณเพื่อไปหาแก้วตา คลาดกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น นี่คือคำให้การที่ผมให้กับทางตำรวจ และก็เชื่อว่าคนๆ นี้ต้องมีส่วนในการตายของแก้วตา..”

อิสราอธิบายเรื่องราวเป็นมาทั้งหมดเป็นเวลานาน จนน้ำหวานที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้องมาเสริมคำพูดให้น่าเชื่อถือด้วยการพยักหน้าขอให้มะยมเชื่อ แล้วพูดเพิมเติมว่า ..

“ พอตอนที่พี่มะยมถูกจับตัวมา น้ำหวานตกใจมือไม้สั่นจนไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี คิดได้เลยไปหาพี่อิสราขอให้มาช่วยพี่มะยมหน่อย จนป่านนี้น้ำหวานยังไม่ได้บอกป้าเลยนะ ”

“ ขอบใจมากนะน้ำหวาน ขอบใจมากนะนายมากนะอิสราที่มาช่วยเรา อาจารย์คะตอนนี้หนูต้องทำอะไรต่อไป” สาวร่างบางพยายามจะคลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุด …

“ ทางตำรวจให้ประกันตัวแล้วกลับบ้านได้ แต่วันพรุ่งนี้มะยมต้องมาเพิ่มเติมคำให้การอีกนิดหน่อย”
“ งั้นพวกเราไปลาท่านสารวัตรกันดีกว่า จะได้กลับบ้านไปอย่างสบายใจ”

ท่านชายปกรณ์เทวา เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้มะยมเป็นครั้งแรก เด็กสาวจึงยิ้มตอบกลับไปอย่างอ่อนโยนเช่นเดียวกัน …

กว่าที่รถสปอร์ตคันหรูจะทยอยรับส่งทุกคนจนเกือบครบ คงเหลือเพียงมะยมกับพลอยใสเท่านั้น อิสราแย้มยิ้มออกมาเมื่อรถจอดสนิทหน้าโรงเรียนห่างจากบ้านพักของมะยมประมาณไม่ถึงห้าสิบเมตรเด็กหนุ่มกุลีกุจอลงรถเพื่ออ้อมไปเปิดประตูให้มะยมที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน ใบหน้ามันเพราะความเครียดและความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน จนลืมสังเกตว่ามีคนสองคนในรถกำลังมีหน้าตาบูดบึ้งมากน้อยเพียงใด …

อิสราเดินเคียงคู่กับมะยมไปตามถนนโรยกรวดเส้นทางเล็กๆ ก่อนที่เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นมาว่า ..

“ หมดเคราะห์กันไปซะทีนะครับมะยม ผมดีใจที่คุณไม่เป็นอะไรแล้ว เรื่องเมื่อคืนผมกังวลใจจนนอนไม่ค่อยหลับด้วยความเป็นห่วงคุณ ก็เรื่องตบตีนั่นแหละครับ..”

“ คราวนี้คงเป็นคราวเคราะห์ของฉันเองแหละ ไม่รู้สินะพักนี้จะทำอะไรก็มีแต่ศัตรูคอยจ้องทำร้ายตลอดเวลา ยังดีที่มีคนดีๆ อย่างนายคอยช่วยไว้เสมอ ไม่งั้นล่ะแย่แน่ๆ..”

“ ไม่เป็นไรหน้าที่ของผมอยู่แล้ว..”

“ หน้าที่อะไรเหรอ ..”

อิสราไม่ตอบอะไรออกไป ยังคงนิ่งเงียบจนสายลมหนาวพัดกรูผ่านเข้ามา มะยมเอามือกอดอกกระชับเสื้อให้รัดแน่นเข้า จนเด็กหนุ่มเมืองกรุงทำท่าาจะถอดเสื้อกันหนาวชั้นนอกสวมให้สาวร่างบาง แต่เจ้าตัวกลับเบี่ยงตัวพร้อมทำท่าโบกมือเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องดีกว่าเพราะถึงบ้านแล้ว ที่สำคัญไม่อยากให้นางมารแถวนี้อกแตกตายซะก่อน...

อิสราหัวเราะออกมาอย่างสุขใจ ก่อนหยุดที่หน้าบ้านพักครูแล้วรออยู่ด้านล่างสักครู่ใหญ่ให้สาวน้อยตาคมขึ้นบนบ้านจนเปิดไฟสว่างทั้งบ้านแล้ว ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินหันหลังกลับอย่างอารมณ์ดี..

พอพลอยใสก้าวลงจากรถสปอร์ตหรูก็ยกมือขึ้นไหว้ท่านชายปกรณ์เทวาอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะระบายยิ้มเรี่ยๆให้วันวิสาพอเป็นพิธี ทั้งที่สายตาทั้งหมดจับจ้องไปยังคู่หนุ่มสาวที่เดินล่วงหน้าอย่างไม่วางตา ก่อนจะเดินตามไปอย่างรวดเร็ว จนสวนทางกับอิสราที่เดินกลับมาเกือบถึงรถแล้ว ..

“ ฝากดูมะยมด้วยนะครับคุณพลอย ท่าทางยังดูเหนื่อยๆ”

“ คุณอิสไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ฉันเป็นพี่เค้าต้องดูแลเป็นอย่างดี ”

“ งั้น ผมขอตัวกลับล่ะครับ ” อิสราทำท่าจะเก้าขาขึ้นรถ แต่ก็ยั้งไว้แค่นั่นเมื่อพลอยใสร้องเรียกอีกครั้ง

“ เดี๋ยวค่ะคุณอิส .. เอ่อ … พรุ่งนี้คุณจะมาทานข้าวที่บ้านเรามั้ยคะ พวกเราอยากจะเลี้ยงขอบคุณคุณที่กรุณาเป็นธุระทุกอย่างในวันนี้ ”

พลอยใสเอ่ยปากชวนทั้งๆที่ยังไม่ใครเอ่ยปากพูดเรื่องนี้เลย อิสรารู้สึกแปลกใจในพฤติกรรมประหลาดของพลอยใสที่พยายามจะเข้ามาใกล้ชิดตนเองในหลายครั้ง จึงไม่พูดอะไรออกไปเพราะกลัวจะเป็นการเสียน้ำใจคนรู้จักกัน ทั้งๆที่ในใจบอกกับตัวเองว่าถ้าเป็นอีกคนที่อยู่บนบ้านนั่น หัวใจคงจะแช่มชื่นและเออออห่อหมกกลับไปโดยไม่คิดสักนิดเดียวเป็นแน่ จึงตอบกลับไปว่า...

“ เอาไว้คุยกันที่โรงเรียนแล้วกันครับคุณพลอย วันนี้ทุกคนมากเหนื่อยกันแล้ว คุณก็น่าจะไปพักผ่อนได้แล้ว ผมลาเลยนะครับ..” พอเอ่ยจบประโยคเด็กหนุ่มก้าวขึ้นรถสปอร์ตคันหรูที่สตาร์ทเครื่องไว้รอแล้ว ก่อนปิดประตูแล่นลับหายไปมุมถนนลาดยางสายใหญ่ในทันที คงปล่อยให้เด็กสาวหน้าหวานคมค้อนควับตามไปอย่างน้อยใจ

---------------------------------

อากาศยามเช้าของอำเภอท่าวังหินถึงแม้จะเย็นโรยปูพรมไปด้วยละอองหมอกเช้า แต่เด็กสาวก็ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ เหมือนหลังมรสุมร้ายย่อมมีแต่ความสดใส วันนี้พระออกมาบิณฑบาตตามเวลาปกติ คือ หกโมงเช้า … 

มะยมบรรจงตักข้าวใส่บาตรด้วยจิตที่เป็นหนึ่งกับความรู้สึก มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำทุกลมหายใจเข้าออก เสียงพระภิกษุที่ให้ศีลให้พรเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้มีความหวังในวันใหม่ เจ้าแสนดี หมาน้อยจอมซนยกขาขึ้นสะกิดเมื่อเห็นพระเดินจากไปแล้ว เด็กสาวยังคงนิ่งเฉยรู้สึกอยากจะแกล้งสมุนตัวโปรดจึงก้มหน้ายกมืออธิษฐานอยู่อย่างนั้น … จนครั้งที่สามสี่แล้วที่แสนดียกขาสองข้างขึ้นสะกิด มะยมจึงแกล้งวิ่งขึ้นบ้านไปในทันที แสนดีเห่าขานรับเจ้านายก่อนจะวิ่งวนไปที่อื่นแทน …

พอขึ้นมาบนบ้านได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องน้ำ ไฟในนั้นเปิดสว่าง แต่ประตูปิดแน่นสนิทอยู่ มะยมเดาว่าพลอยใสคงอาบน้ำอยู่ จึงเลี่ยงเข้าในห้องครัว เพื่อดูว่าพี่สาวได้จัดเตรียมจะทำอะไรไว้รีบประทานหรือยัง แต่ก็พบกับความว่างเปล่าคงเหลือแต่ชามที่ใช้แล้วในอ่างล้างเด็กสาวอดแปลกใจอีกครั้งที่พลอยใสมีพฤติกรรมเหมือนต่อต้านตนเองและไม่พอใจในการกระทำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน…

อย่างเช่นตอนเช้าวันนี้ พลอยใสได้จัดกับข้าวไว้สำหรับรับประทานเพียงคนเดียวแทนที่จะทำไว้สำหรับสามคนเหมือนปกติ…

มะยมถอนหายใจ ก่อนจะเดินตรงไปหยิบซองโจ๊กในตู้แล้วเทลงไปในหม้อกระเบื้องเคลือบ เติมน้ำ เปิดแก๊ส ขึ้นอุ่นไฟใส่เครื่องปรุงตามชอบใจแล้วเทใส่ชามใบหย่อมสองใบ ก่อนจะยกไปใส่ในตู้กับข้าว

มะยมกำลังเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวจนเกือบจะเรียบร้อย กระทั่งโทรศัพท์ดังขึ้นมาจึงเดินตรงไปยกหูโทรศัพท์เอ่ยสวัสดียังปลายสาย …

“ เป็นยังไงมั่งลูกหายตกใจบ้างหรือยัง..” เสียงผู้เป็นพ่อกรอกมาตามสายโทรศัพท์น้ำเสียงเป็นห่วง...

“ ดีขึ้นแล้วจ๊ะพ่อ ทีแรกตกใจเสียแทบแย่ นึกว่าจะต้องนอนมุ้งสายบัวซะแล้ว ยังดีที่เพื่อนในห้องมาช่วยไว้ทันเวลาพอดี พ่อจ๋าไม่อยู่มะยมไม่รู้จะไปพึ่งใครเลย “

“ มันผ่านไปแล้ว ช่างมันเถอะลูก “

“ เออ... แล้วพ่อรู้เรื่องนี้ได้ไง..”

“ เมื่อวานครูเมย์กลับมาเอาของที่บ้านในตลาด บังเอิญได้ยินคนแถวนั้นพูดเรื่องมีเด็กถูกทำร้ายกันทั้งตลาด ครูแกเลยมาเล่าให้พ่อฟังจนกระทั่งครูเมตตาโทรไปหาครูอนันต์แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ในตอนนั้นพ่อจะกลับมาในทันทีก็ทำไม่ได้สังขารไม่อำนวยไปมาไม่สะดวก เลยออกมาโทรศัพท์หาเราเช้าๆ อย่างงี้แหละแล้วนี่มะยมของพ่อไม่เป็นอะไรแน่นะลูก..”

“ มะยมรู้สึกดีขึ้นแล้วจ๊ะ ตอนนี้กำลังจะไปโรงเรียน..”มะยมตอบอย่างเนือยๆ เบื่อๆ

“ ดีแล้วพ่อจะได้หมดห่วง แล้วใครเป็นคนช่วยลูกออกมาล่ะ” ผู้อาวุโสถามด้วยความเป็นห่วง ..

“ ท่านชายปกรณ์เทวา พ่อของอิสรามาช่วยประกันตัวหนูจ๊ะ”

“ งั้นเหรอลูก ... ความจริงคนที่นั่นเขาก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่นา..”

ครูพลทำท่าหัวเราะหึๆ ในลำคอเหมือนยังมีอะไรคลางแคลงในใจ ก่อนจะสั่งให้มะยมรีบกลับมาบ้านเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนทันที เพราะตนเองจะวานให้มะยมเอาจดหมายไปส่งให้ท่านชายปกรณ์เทวาที่ไร่ฟ้าเมฆา เด็กสาวรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะก่อนจะขอตัวไปโรงเรียนเพราะสายมากแล้ว ครูพลจึงวางสายโทรศัพท์ไว้เพียงเท่านั้น …
--------------------------

ภายในห้องเรียนของชั้นมอห้าทับหนึ่งในวันนี้บรรยากาศดูจะไม่ค่อยจะเคร่งเครียดในการเรียนการสอนสมกับเป็นห้องเรียนดีเด่นระดับยอดเยี่ยมของโรงเรียนมัธยมท่าวังหินเท่าใดนัก เพราะนักเรียนชายหญิงทุกคนดูไม่มีสมาธิในสิ่งที่อาจารย์พร่ำสอนอยู่ตรงหน้าเท่าใดนัก ต่างจับกลุ่มซุบซิบเป็นกลุ่มๆในเรื่องแก้วตาถูกฆาตกรรมเมื่อวานซืนกันแซ่งแซ่ จนกระทั่งเวลาหมดชั่วโมงการเรียนการสอน วิชาต่อไปเป็นวิชาบรรณารักษ์ที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าไปหาความรู้ที่ห้องสมุด...

มะยมถูกดึงลากเข้ามุมห้องที่มีชั้นหนังสือสูงท่วมหัวและปิดบังคนกลุ่มๆหนึ่งไว้ได้หมด สมาชิกแก๊งสาวซ่าส์ทั้งหมดอยากรู้เรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเป็นมายังไง ต่างระดมถามคำถามแทบจะไม่ต้องหายคอหายใจกันเลย ... เด็กสาวผู้เป็นจำเลยเล่าอธิบายไปทุกอย่างพรั่งพรูออกมาทุกอย่างที่ทุกคนสงสัย ก่อนจะแหวกตัวออกมาจากฝูงลิงค่างเจ้าปัญหาเพื่อไปห้องพยาบาลที่ตั้งอยู่ในอีกอาคารหนึ่ง เมื่อรู้สึกครันเนื้อครันตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ...

มะยมเดินลงจากอาคารเรียนด้วยอาการเซวิงเวียนหัวเล็กน้อย ก้มสายตามองลงต่ำหลบแสงแดดจ้าที่แผดส่องและดูไม่เป็นใจนัก ก่อนจะประคองตัวเองไปทรุดนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลจนได้

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ เสียงกุกกักดังมาจากเตียงด้านข้าง ทำเอามะยมลืมตาขึ้นแล้วมองไปตามเสียงนั้นทันที จนเมื่อเห็นว่าเป็นนายจอมยียวนคนเดิม จึงแห้วกลับไปอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า ..

“ เอ๊ะ ! นี่นายเข้ามาในห้องนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ” มะยมตาขวางไม่พอใจที่ตัวเองนอนหลับอยู่ แล้วมีใครคนหนึ่งมานั่งจ้องอยู่นานสองนาน …

“ ก็เข้ามาตอนที่คุณหลับสนิท กรนหน่อยๆ นั่นล่ะครับ แต่เอ๊ ะ... ผมไม่เห็นคุณนอนน้ำลายไหลยืดออกมาหรอกครับ ไม่เห็นจริงๆ” คนพูดล้อเลียนโดยเอามือมาปิดตาแบบถ่างมือ ท่าทางอารมณ์ดีที่ได้เย้าแหย่สาวร่างบางหน้าคมตาคมกำลังนอนเหมือนป่วย ...

“ นี่นายอิส... อย่าคิดว่ามีบุญคุณกับฉันแล้วจะได้อภิสิทธิ์ล้อเลียนฉันนะ ..”

“ ปะ ... เปล่าล้อเลียน ... ผมเห็นมะยมน้ำลายไหลออกมาจริงๆ ไม่เชื่อเช็ดที่ปากสิครับ”

อิสราทำท่าเช็ดเป็นตัวอย่าง จนมะยมต้องทำตาม ก่อนจะรู้สึกหน้าแดง เมื่อเห็นว่ามุมปากตัวเองมีน้ำลายไหลเป็นทางอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ เด็กสาวรู้สึกขัดเขินแสร้งเปลี่ยนเรื่องสนทนาไปเรื่องอื่นๆในทันที

“ เรื่องยายแก้วตานายคิดว่ายังไงอิสรา..”

“ ผมว่าเรื่องนี้มันซับซ้อนแปลกพิกล ทุกอย่างมันบังเอิญไปหมดเลย เริ่มตั้งแต่คุณไปเห็นแก้วตากำลังทำพฤติกรรมล่อแหลมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง กระทั่งคุณสองคุณทะเลาะและตบตีกันที่ใต้ต้นมะพร้าวนั่น จนผมเดินตามคุณไปก่อนจะหลบเพราะมีเด็กผู้ชายอีกคนสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำเดินตรงไปที่นั่น แล้วยืนดูอย่างลับๆ พอมะยมกับแก้วตาแยกจากการทะเลาะกันแล้วเดินตรงมายังรถของผม ผมก็เดินตามมาติดๆ แต่เอ ! มันต้องมีอะไรที่เกิดขึ้นหลังจากที่เด็กชายแจ็คเก็ตดำนั้นเข้าไปหาแก้วตาแน่ๆผมคิดว่าคนนี้แหละน่าจะเป็นคนลงมือทำร้ายแก้วตาในคืนนั้น ”

“ ฉันปวดหัว” มะยมทำท่าปิดหูสองข้าง ไม่อยากคิดอยากทำอะไรตอนนี้แล้ว ยังจำภาพที่ตัวเองเกือบเข้าไปในมุ้งสายบัวได้ไม่ลืม...

“ ผมจินตนาการไกลไปหน่อย ขอโทษด้วยครับมะยม งั้นเรารอให้ตำรวจสรุปสำนวนดีกว่าครับ..”

“ นี่ไม่เข้าเรียนเหรอ ชั่วโมงนี้วิชาภาษาไทยของครูพักตร์นี่นา”

“ ดูนาฬิกาสิตอนนี้สิมะยมมันเที่ยงกว่าแล้ว ผมเห็นคุณหายไปนานหายชั่วโมงเลยเป็นห่วง กลัวจะเป็นอะไรหรือเปล่าเลยลองเดินตามหาที่นี่แล้วก็เจอจริงๆ แต่ว่าไม่ต้องห่วงว่าผมจะทำอะไรคุณนะครับ ผมได้ขออนุญาตอาจารย์ชลธิชาเข้ามาเฝ้าไข้คุณแล้ว อาจารย์บอกฝากดูอาการปวดหัวของคุณด้วย ... นี่ยาพาราคุณทานซะ เดี๋ยวผมกลับมา..”

อิสราผลุนผลันออกไปในทันทีโดยไม่ทันที่มะยมจะอ้าปากบอกว่าไม่ต้องทำอะไรขนาดนี้ก็ได้ เพราะอีกสักประเดี๋ยวน้ำหวานคงจะมาจัดการเรื่องนี้เอง เด็กสาวส่ายหน้าอย่างอ่อนใจในพฤติกรรมแปลก ๆ ของคนร่างสูงที่เพิ่งคล้อยหลังออกไป …

กระทั่งเวลาผ่านไปไม่กี่นาทีต่อจากนั้น น้ำหวานกับเพื่อนๆก็พากันเฮโลเข้ามาจนแน่นห้องพยาบาล มะยมคิดว่าความสงบพังทลายลงไปแล้ว จึงค่อยๆพยุงกายอันปวกเปียกออกไปจากห้องพยาบาลพร้อมน้ำหวานไปก่อนที่จะแตกตื่นไปมากกว่านี้ ข้างอิสราหลังจากออกห้องพยาบาลก็ตรงดิ่งไปยังโรงอาหารในทันทีแล้วเดินกลับมาพร้อมข้าวราดแกงราดด้วยพะแนงหมูไข่เจียวสองจาน แต่พอมาถึงห้องพยาบาลก็พบกับว่างเปล่า แถมได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นของเพื่อนๆ ขณะกำลังเล่นเปตองข้างห้องพยาบาลคิกคักสนุกสนาน

“ เฮ้ยอิสรา ! กันว่านายอย่าไปยุ่งกับคู่ทอมดี้คู่นี้เลยดีกว่า เค้าเดินหวานไปทางโน้นแล้ว นายมาเล่นเปตองกับพวกเราเถอะ นั่นจานข้าวใครเราขอได้มั้ย ..”

“ เอาสิเดี่ยวเอาไปทั้งสองจานเลย ” อิสรายื่นจานข้าวให้เดี่ยวกับเพชรที่รอรับอยู่แล้ว หลังจากนั้นเดี่ยวจึงชวนให้ไปเล่นบาสต่อ อิสราบอกว่าได้ไปกันเลย เดี่ยวได้ใจจึงเสนอต่อไปว่า…

“ เดี๋ยวพวกเราจะไปห้องซ้อมดนตรีกัน มีอะไรเด็ด ๆ ให้อิสดู ..”

“ มีอะไรกันเหรอ” เด็กหนุ่มทำท่าตื่นเต้นขึ้นมา เพราะสังเกตจากอาการคนชวนแล้วอยากให้ไปที่นั่นเหลือเกิน “ ของดีต้องอุบเอาไว้ก่อนสิเพื่อน เดี๋ยวค่อยรู้พร้อมๆกัน..”

แล้วทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่อิสราคิด หลังจากเล่นบาสเกตบอลจนเหนื่อยหอบเหงื่อไหลท่วมตัวแล้ว สมาชิกหนุ่มแสบตรงดิ่งยังห้องแอร์เย็นฉ่ำที่มีเครื่องดนตรีสมัยใหม่ครบครัน พร้อมด้วยทีวีโปรเจคเตอร์จอแบนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง เด็กหนุ่มแทบไม่น่าเชื่อว่าโรงเรียนขนาดเล็กอย่างท่าวังหินจะมีห้องดนตรีที่หรูหราทันสมัยขนาดนี้ได้ ....

อิสรานั่งลงบนพื้นพรมสีแดงที่มีฟุกเล็กๆวางเรียงราย เพื่อรอดูกิจกรรมของพวกเดี่ยวว่าจะทำอะไรต่อไป จนกระทั่งภาพหน้าจอทีวีปรากฏภาพชายหญิงกำลังเริงลีลารักกันบนเตียงอย่างถึงพริกถึงขิง อิสรารีบลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่เปิดโปรแกรมดนตรีด้านข้างในทันที ก่อนจะยิ้มให้กับเดี่ยว เพชร แหลม เข้ม และดอน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบราบที่สุดว่า

“ ต้องขอโทษเพื่อนๆด้วยเราไม่คุ้นกับเรื่องอย่างนี้…”

“ ไม่เป็นไรหรอกอิส เราเข้าใจนาย ที่นี่ยังมีอะไรให้นายเรียนรู้อีกหลายอย่าง พวกเราจะสอนนายเอง..”

“ ได้ ได้ ได้ ”

เด็กหนุ่มรับปากไปทั้งที่รู้ว่าถ้าผู้เป็นบิดารับรู้เรื่องนี้ ไร่ฟ้าเมฆาต้องลุกเป็นไฟแน่ อาจจะมีการย้ายโรงเรียนอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะวาจาที่ท่านชายได้รับสั่งไม่ให้คบหากับกลุ่มเด็กเลวในโรงเรียนทั้งสองกลุ่มเป็นอันขาด อิสราทอดถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ...

---------------------------

“ นังรักยมทางนี้โว้ย ..”

เสียงดังแปร๋นของมะหมี่ดังลั่นมาแต่ไกล ขณะที่มะยมกำลังจูงเจ้าแก่คันเก่าเข้าไปจอดในโรงรถใต้ถุนอาคาร มะยมบุ้ยปากให้น้ำหวานไปโต๊ะใต้ต้นแคฝรั่งก่อนเดี๋ยวตามไป จนเดินเข้าเข้าไปสมทบก็เห็นว่าเพื่อนๆยังสนทนาถึงเรื่องแก้วตาต่อเนื่องจากเมื่อวาน

แต่วันนี้พิเศษหน่อยตรงที่ทุกคนหน้ายิ้มแย้ม หนำซ้ำหยาดทิพย์ สาวสวยคนเดียวในกลุ่ม ยื่นกุหลาบสีขาวช่อใหญ่มาให้ พร้อมกับเอ่ยว่า...

“ ให้มะยมเพื่อนรักนะคราวนี้หมดเคราะห์หมดโศกกันเสียทีนะเพื่อน …”

“ เฮ้ยนี่พวกแกเอาดอกไม้มาให้ทำไม ยังไม่ถึงวันเกิดฉันเลยนะ…”

“ เหอะน่ารับ ๆ ไปเหอะ พวกฉันดีใจกับแกที่รอดตัวจากการเป็นนังขี้คุกอย่างเฉียดฉิวนะสินังโง่”

แมวพูดเสริมขึ้นมาจากด้านหลังพร้อมเดินมาโอบด้านหลัง มะยมก็ยังรู้สึกงงๆอยู่ดี ...

กระทั่งมะหมี่อดใจไม่ไหวจนหลุดกิริยาหญิงงาม(หน้า)ออกมาในทันที …

“ นี่แกคงจะยังไม่รู้อะไรสิยะหล่อน… นังรักยม ”

“ ก็ใช่นะสิคะคุณนายสมสลึง ต้องขอโทษนะค้าที่ดิฉันตกข่าวเรื่องอะไรไม่ทราบ ”

“ ฮ่ะ ๆๆ พวกเรามันไม่รู้จริงๆด้วย มามะ...ฉันจะเล่าให้ฟังคือเมื่อเย็นวานคุณตำรวจรูปหล่อที่มาโรงเรียนเราเมื่อวันก่อนได้มาแจ้งข่าวคืบหน้าคดียายแก้วตาถูกฆาตกรรมว่าตอนนี้ทางตำรวจได้จับผู้ต้องสงสัยได้แล้วสองคน โดยมีหลักฐานมัดตัวว่าได้กระทำผิดจริง จนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดไปด้วยความโมโห ก่อนจะลงมือฆ่ายายแก้วตาอย่างเหี้ยมโหด อ๊ะ ! ฉันให้หล่อนทายว่าสิใครคือคนๆนี้ ”

มะหมี่ทำท่าเหมือนสาวน้อยนักสืบคลี่คลายปมปริศนา ทำหน้าทำตากลิ้งกลอกตาไปมาน่าหมั่นใส้มากๆ จนเด็กสาวแทบจะลุกขึ้นยืนเตะก้นไปสักป๊าบสองป๊าบ ...

“ ใครวะนังหมี่ เด็กโรงเรียนเราหรือเปล่า…”

“ แกทายถูกเป๋งชนะเลิศ แต่ก็ไม่ถูกหมดเพราะเด็กคนนี้ได้ถูกรีไทน์ออกจากโรงเรียนไปเมื่อปีที่แล้ว เคยเป็นแฟนเก่ายายแก้วตามาตั้งแต่มอต้น จนมาแยกกันห่างกันเมื่อตอนมอปลายนี่แหละ และคงจะแค้นที่เห็นภาพตำตาตำใจกับผู้ชายคนอื่นถึงขนาดนั้น ระงับอารมณ์เพ็ชรหึงไม่ได้จึงเผลอลงมือไปด้วยความโกรธจัด แล้วหลบหนีไปในทันทีที่รู้ว่าลงมืดรุนแรงเกินไป ... แกเกือบซวยแล้วมั้ยล่ะนังยม ”

“ แกจะบอกได้ยังว่าใครเป็นคนฆ่าแก้วตา” มะยมชักจะยัวะที่เห็นสาวสวยประจำแก็งออกลีลากวนโอ๊ยซะเหลือเกิน “ เออๆ บอกก็ได้ ใจร้อนจริงเชียวหล่อน ”

“ ดีมากเพื่อนรัก ใครกันล่ะที่ฆ่ายายแก้วตา แล้วโยนความผิดมาให้ฉัน…”

“ เด็กที่ชื่อประดิษฐ์ ลูกอาจารย์ปรีชาไง แกสนิทสนมดีไม่ใช่เหรอ...”

“ ห๋า ! เด็กนั่นเป็นเด็กเรียนดี มารยาทเรียบร้อยนี่นา ไม่น่าเชื่อว่าจะลงมือทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ได้”

มะยมถึงกับครางออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ภาพเด็กผู้ชายเรียบร้อยสวมแว่นหนาเตอะ ท่าทางขี้อายแทบทุกครั้งที่เคยหรือสนทนากับเพศตรงข้ามและชอบเล่นหมากรุกกับมะยมอยู่เป็นประจำในตอนค่ำๆ จะทำเรื่องใหญ่โตขนาดฆ่าคนตายได้ นั่นแสดงว่าต้องมีปมที่ฝังแน่นในใจ จนคั่งแค้นระเบิดออกมาในที่สุด …

“ เฮ้อเวรกรรม ... ดิษฐ์หนอดิษฐ์ ..”

“ เป็นไงล่ะที่นี่แกจะหายซ่าส์ได้มั่งหรือยัง..”

“ ฉันก็เป็นตัวของฉันอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อใครเลยนี่นา..”

“ ทำพูดดีไปเถอะ เมื่อวานเห็นหน้าจ๋องๆ น่าสงสารชะมัด..”

“ นังมะหมี่มาต่อยกันมั้ย..” มะยมวางช่อดอกไม้ลงข้างตัวแล้วทำท่ากำหมัดจะโผเข้าไปหามะหมี่แบบแกล้งทำจนอีกฝ่ายดีดตัวออกไปหัวเราะอยู่นอกวงสนทนา ทำหน้าตาล้อเลียนประหลาดๆ

“ ฮ่ะๆๆ พูดจี้ใจดำใช่มั้ยล่ะรักยม ฮ่ะๆๆ..”

“ นังหมี่ค้างคืนมานี่ให้ฉันเตะเดี๋ยวนี้นะ..”

“ เฮ้ยนังสองคนนี่ทะเลาะกันอีกละ พวกแกไม่เบื่อหรือไงทะเลาะกันทุกวัน หยุดได้แล้ว หยาดเมื่อกี้แกจะพูดอะไรเหรอ..” จิ๊บยกมือขึ้นห้ามทั้งมะหมี่และมะยมที่กำลังวาดลวดลายลีลามวยไทยจีนกันอยู่อย่างสนุกสนาน เพื่อให้หยาดทิพย์ที่จะพูดแทรกเข้ามา แต่ทำไม่ได้ซะที ..

“ เราคิดว่าตอนเย็นวันนี้ไปเยี่ยมประดิษฐ์กันมั้ยพวกเรา”

“ ดีๆ ไป ไป ฉันก็อยากจะเห็นหน้าฆาตกรโรคจิตชัดๆ เหมือนกัน ”

จนทุกคนสรุปความเห็นว่าจะไปดูหน้าฆาตกรในตอนค่ำ มะยมรู้สึกโล่งใจที่เหตุการณ์คลี่คลายด้วยตัวมันเองแล้ว นึกถึงคำพูดของใครบางคนที่บอกว่า …

“ ผมอาจจินตนาการไกลไปหน่อย แต่รอให้ตำรวจทำหน้าที่ดีกว่า ทุกอย่างจะคลี่คลายด้วยตัวมันเอง ไม่ต้องกังวลนะ” เด็กสาวยิ้มให้กับตัวเองอย่างมั่นใจในหนทางข้างหน้า อย่างคนที่ผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดมาแล้วหมาดๆ ไม่นานมานี้เอง ...

(จบตอน 6)




Create Date : 30 มกราคม 2561
Last Update : 30 มกราคม 2561 17:17:44 น.
Counter : 659 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 4063778
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]