|
น้ำตาดวงดาว 4 พอร่างของสมชายเซถลาล้มไปกองกับพื้น ดาวจึงรีบเบี่ยงตัวมาหาคนตัวสูงที่ใบหน้าแดงกร่ำยืนตรงไม่ตรงดีตรงหน้าในทันที ก่อนจะได้ยินคำผรุสวาทจากชายที่มีมาดบุคลิกดูดี แต่กลับสามารถทำร้ายผู้หญิงได้ในชั่วพริบตาด้วยอารมณ์โกรธ.. มึงทำกับกูแบบนี้ได้ไงไอ้วิน ... เออ ... แค่นี้ยังน้อยไปวะชาย... กูเป็นเพื่อนมึงนะโว้ย ... อ้อ.. เดี๋ยวนี้มึงเห็นอีโสเภณีข้างถนนนี้ดีกว่าแล้วใช่ไหม... มาวินทำท่าจะถลาเข้าไปซัดร่างสูงที่กำลังลุกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หญิงสาวดึงเหนี่ยวรั้งเอาไว้อย่างเต็มที่ด้วยแรงเท่าที่มีอยู่ หุบปากชั่ว ๆ ของมึงเอาไว้แล้วไสหัวไปซะดีกว่า ... คราวหลังอย่าให้กูเห็นหน้ามึงอีก ... มึงกำลังหลงนังนี่ ทั้งๆที่รู้ว่ามันขายตัวแลกเงิน ... สักวันมึงจะต้องเสียใจที่ชกกูแบบนี้ไอ้วิน มึงจำคำกูเอาไว้ให้ดี... สมชายลุกยืนขึ้นชี้หน้า แล้วลูบคางปร้อย ๆ เดินผละจากไปพร้อมสายตาที่คนทั้งสองต้องมองหน้ากัน ... ดาวหันมาสำรวจดูสภาพของคนตัวใหญ่ว่าเป็นอย่างไร ... แต่ก็ต้องตกใจเพราะมาวินกำลังจะเอนล้มไปข้างหลัง ... คุณวิน ...เดินไหวไหมคะ... กว่าที่หญิงสาวจะพยุงร่างของอีกฝ่ายขึ้นรถแท็กซี่แล้วพากลับคอนโดหรูได้ก็ทำเอาเหนื่อยหอบนั่งอยู่ข้างเตียงใหญ่ของคนเมาไปนานหลายนาทีอยู่เหมือนกัน แต่พอหายเหนื่อยก็พบว่าคนเมากำลังกรนออกมาเบาๆ ... จึงมีความคิดว่าควรจะถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายแล้วเช็ดตัวให้จะได้สบายตัว หลับสนิทจนถึงรุ่งเช้า ... เมื่อคิดได้จึงเดินไปห้องแต่งตัวที่อยู่ถัดไปอีกห้องข้างๆ ก็พบว่ามาวินมีเสื้อผ้าที่มากมายกว่าร้อยชุด แต่ละชุดถูกตัดเย็บมาอย่างดี มีราคาแพงลิบลิ่ว ไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น แถมยังคละสีได้ครบแม่สีอีกต่างหาก .... ดาวยืนตะลึงไปชั่วครู่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบชุดลำลองสีเหลืองอ่อนขึ้นมาพร้อมเสื้อและกางเกง.. พอมาถึงเตียงนอนหนานุ่มสีฟ้าสดใสหญิงสาวก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่ได้จัดเตรียมไว้ ค่อยเปลื้องผ้าบนร่างหนาใหญ่ของชายหนุ่มอย่างช้า ๆ พร้อมไปกับเสียงเต้นของหัวใจที่ดังโครมครามเมื่อเห็นร่างกายที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามตึงเปรียะทุกส่วนสัด ผสมกับผิวขาวเนียนละเอียดที่ดาวจะไม่แปลกใจเลยถ้าเป็นผิวของผู้หญิง ... ดาวใบหน้าแดงซ่านด้วยความขวยเขินที่ตนเองเห็นความลึกล้ำภายในของมาวิน ... มาวินทำท่างัวเงียขึ้นมาเล็กน้อยทำเอาดาวต้องเบือนหน้าหนีด้วยความอายหลังเปลี่ยนเสื้อผ้าและกางเกงเสร็จ ...ก่อนจะลุกขึ้นตรงไปยังห้องเล็กๆมุมสุดของคอนโดสูทหรูแห่งนี้เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายคลายความเหม็นอับมาทั้งคืน ... พอจะทรุดตัวลงนอนก็ต้องแปลกใจได้ยินเหมือนเสียงการเคลื่อนไหวของใครบางคนอยู่ข้างนอกห้อง จึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปดู เมื่อเห็นเงาตะคุ่มคุ้นเคยก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ ... อ้อ ...คุณวินน่ะเอง ... ลุกขึ้นมาทำไมคะ ไหนตะกี้บอกดาวว่าปวดหัว... ผมหิวน้ำ ...เลยเดินออกมา ... ดาวเข้านอนแล้วใช่ไหม... กำลังจะนอนค่ะ ...พอดีเห็นคุณเดินอยู่เลยออกามาดู ... ผมตาสว่างแล้ว ..นั่งเป็นเพื่อนผมสักหน่อยได้ไหมครับ... ดาวพยักหน้าด้วยความเต็มใจ แต่ก็มิวายที่จะอดระแวงชุดนอนที่บางหวิวของตนเองไปไม่ได้ มาวินอมยิ้มด้วยความสุขแล้วทำท่าทางชี้ไปข้างบนดาดฟ้า ... หญิงสาวทำตาโตแต่ก็กระชับมือแน่นจากการเกาะกุมแล้วเดินตามไปโดยดี.. ไม่นึกว่าข้างบนนี่ลมจะเย็นกว่าข้างล่างนะคะ... ดาวยิ้มร่าเริง ยื่นมือไปในอากาศโบกไปมาร่าเริงกว่าปกติ ส่ายตามองแสงไฟระยิบระยับของเมืองหลวงภาคอีสานที่ระยิบกระพริบพราวจนดูคล้ายว่าเมืองทั้งเมืองสว่างด้วยแสงไฟคล้ายกลางวัน ... มาวินทรุดตัวลงนั่งม้าหินอ่อนที่ตั้งไว้โดดเดี่ยวพร้อมตั้งขวดไวน์ราคาแพงแล้วเปิดจุกขวดเทลงแก้วบางใสจนน้ำสีแดงใสสะท้อนประกายท้าทายให้ชิม ... เอ้าดาว ... ดื่มให้กับมิตรภาพของเราสองคน... หญิงสาวทำท่าลังเล แต่เมื่อมองเห็นสายตาอ้อนวอนของอีกฝ่ายส่งมาเว้าวอนซะเหลือเกิน จึงยกขึ้นชนช้าๆ ดีมากครับ ... ผมดีใจมากที่ดาวมาอยู่เป็นเพื่อนผมคืนนี้ หวังว่าคงไม่หายหนีไปไหนอีกแบบคราวก่อนนะ.. ดาวเบ้หน้าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่แรงพอดู แต่ก็รู้สึกขัดเขินกับคำพูดเชิงหยอกเย้าจึงตอบเลี่ยงๆว่า... ดาวยังไม่ได้ทำอะไรตอบแทนคุณวินเลยซักอย่าง ... ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่อยู่เป็นเพื่อนผมคืนนี้ ... ให้มันผ่านไปก็พอแล้ว ... พอพูดจบมาวินก็โอบแขนแล้วทิ้งแขนไว้กับไหล่ของดาว ก่อนจะเอนศรีษะพิงกับลำคอละหงของหญิงสาวจนดูเหมือนว่าคนทั้งสองกำลังถ่ายทอดความรู้สึกให้กันและกัน ... กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสว่าง ฟ้าสีทองเห็นรำไรที่ปลายขอบฟ้า ... ดาวประคองร่างของมาวินที่เกือบไม่ได้สติกลับมายังห้องพัก ทิ้งตัวให้ลงไปในนอนในที่นอนนุ่ม ก่อนจะตวัดผ้าห่มห่มให้ชายหนุ่ม ... แต่แล้วทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่ต้องการเมื่อคนตัวใหญ่ที่อยู่ใต้ผ้าห่มดึงตัวเธอลงไปเคียงคู่ในผ้าห่มอุ่น พร้อมกับซุกไซร์ไปตามลำคอ ก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากนุ่ม ... อย่าคุณวิน อย่าทำแบบนี้เลย ... ดาว ... เป็นของผมนะ ผมรักคุณ ...จะรักคุณคนเดียว... คุณวินอย่า ... มันไม่ดี ดาวต่ำต้อยเกินกว่าคุณจะมาทำแบบนี้... ผมรักคุณนะดาว ... ไม่ต้องสนอะไรอีกแล้ว... ดาวพูดอะไรไม่ออกอีกแล้วเมื่อรับรู้ว่าริมฝีปากที่พร่ำพุดได้ถูกประกบพร้อมกับความหอมหวานแห่งสุนทรีย์รสค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ จนคนทั้งสองแทบจะสำลักความสุขที่มีให้กัน เวลาผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่ากระทั้งเช้าตรู่ของวันใหม่เข้ามาเยือนอย่างแท้จริง ... ---------------------------------- ในยามเช้าเช่นนี้เป็นปกติทุกวันที่แทนคุณจะออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งริมสวนสาธารณะแห่งนี้ บึงสระน้ำที่กินบริเวณกว้างเนื้อที่เกือบพันไร่ ทางราชการได้ทำทางสำหรับวิ่งและทางจักรยานจนรอบบริเวณบึงสระน้ำแห่งนี้ ... อากาศเช้าที่มีหมอกระเรี่ยพื้นปกคลุมคุ้งน้ำทำเอาชายหนุ่มถึงกับสูดเอาลมหายใจบริสุทธิ์เข้าไปอย่างเต็มปอด .... ถึงแม้เมื่อคืนจะไม่ได้พบดาวที่ร้านวิกตอเรียอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่เช้าวันนี้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องไปหาที่นั่นอีกครั้ง ... แทนคุณวิ่งเหยาะๆไปตามถนนลาดยางที่ตอนนี้ไม่มีผู้คนวิ่งมากนัก อาจจะเป็นเพราะอากาศเย็นยามเช้าเช่นนี้ยังไม่มีใครตื่นนอนมาออกกำลังกายท้าลมหนาวก็เป็นได้ ... พอวิ่งได้ถึงหกกิโลเมตรแทนคุณหยุดเดิน แล้วมานั่งริมม้าหินอ่อนทอดสายตามองไปยังผิวน้ำไกลสุดสายตา เสียงนกร้องบินออกสู่โลกใบใหม่ฟังดูเจื้อยแจ้วไม่ได้ศัพท์ แต่ก็เป็นชีวิตที่มีความสุขตามประสา ... ไม่เหมือนชีวิตคนช่างวกวนและคดเคี้ยวไม่มีที่สิ้นสุด .... พอปล่อยความคิดไปตามห้วงอารมณ์ก็พบว่าเวลาได้ผ่านไปไกลสุดคะเนเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จนกระทั่งมีเสียงใสแจ๋วดังขึ้นข้างๆตัว ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะหันไปมองยังที่มาของต้นเสียง ... ก็พบว่าเป็นสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ตากลมใสไร้แววทุกข์โศก ส่งสายตาวิบวับแปลกประหลาดมาให้พร้อมใบหน้านวลแสนคุ้นเคยยื่นตรงมาตรงหน้าจนอดแปผลกใจไม่ได้ว่าทำไมเจ้าหล่อนถึงทำเช่นนี้ได้ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ... อาจารย์ขาจำหนูพุกได้มั้ยคะนี่... หนูพุก ... หนูพุกไหนครับ ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย... นี่แหละหนาคนไม่สำคัญ ..อาจารย์ถึงจำหนูไม่ได้ ฮึ ...งอนแล้วนะเนี่ย... คนตัวเล็กทำหน้าเชิด ใบหน้าง้ำงอนคล้ายจะเอาจริงอย่างที่พูดเสียให้ได้ ... แทนคุณพยายามใช้ความคิดอย่างมากเพื่อจะให้รู้ว่าสาวน้อยหน้าจิ้มลิ้มหน้าเป็นคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงมีท่าทางคล้ายสนิทสนมตนเองเกินกว่าคนธรรมดาที่รู้จัก ... เอางี้แล้วกันหนูพุกจะใบ้เหตุการณ์บางอย่างให้อาจารย์ฟื้นความจำขึ้นมาสักหน่อย ... อาจารย์จำตอนที่สอนที่ มทส.มหาวิทยาลัยสุรนารีได้ไหมคะ ... ตอนนั้นอาจารย์เพิ่งเรียนจบโทมาหมาดๆ หนูเรียนอยู่ปีหนึ่งเรียนวิชาบริหารการเงินกับอาจารย์เผ่าทองแล้วมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย ... ก็ได้อาจารย์ช่วยเอาไว้ ไม่งั้นหนูคงลาออกจากมหาวิทยาลัย ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไงในตอนนั้น ... แทนคุณนั่งนึกถึงเรื่องราวที่สาวน้อยหน้าใสกล่าวอ้าง แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าตอนนั้นตนเองได้ช่วยไว้อย่างไร ... หนูพุกหรือพัชราวดี ทำหน้ายุ่งแล้วระบายยิ้มออกมา พร้อมหัวเราะคิกคักหนาแดงขึ้นมาเฉย ๆ ก่อนจะเล่าต่อไปว่า ... เออ .... ใช่สิตอนนั้นหนูพุกไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา ... ตอนนั้นคุณคือเด็กอ้วนผิวคล้ำคนนั้นใช่ไหม... แทนคุณจ้องไปในดวงตาของเด็กสาวก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเด็กคนนั้นนั่นเองที่เคยได้ช่วยเหลือให้รอดพ้นจากการกระทำชำเราของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือจ้างได้อย่างหวุดหวิด ... ชายหนุ่มจำแววตาที่ตื่นตระหนกของเด็กสาวในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี มันดูเหมือนใครคนหนึ่งที่ห่างหายไปนานจากชีวิตเมื่อครั้งยังเด็ก ... ใช่ค่ะอาจารย์ ... ขนาดตอนนั้นหนูน้ำหนักตั้ง 70 กิโลไอ้แก่ตัณหากลับนั่นยังมีอารมณ์จะปล้ำหนูได้อีก ... คนเรานี่หนอช่างทำได้ ถึงแม้จะเป็นครูบาอาจารย์ สอนคนได้ตั้งเป็นหมื่นเป็นพัน .... แทนคุณยิ้มมุมปาก ไม่ได้ออกความเห็นอะไรออกไป ... แต่หนูพุกก็เล่าเรื่องราวต่อไปอย่างสนุกสนานและเมามัน พออาจารย์ช่วยหนูวันนั้น ... หนูก็ตามหาจะขอบพระคุณที่ช่วยลูกหมูตัวดำๆเอาไว้ แต่ไปถามที่คณะหลายๆครั้งก้ได้รับคำตอบว่า อาจารย์แทนคุณได้ลาไปศึกษาต่อปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษสามปี ... หนูเลยหมดหนทางจะขอบคุณได้อีกแล้วเพราะในตอนนั้นอีกสองปี หนูก็จะเรียนจบ ... จนโชคดีได้ทำงานในตัวเมืองโคราช ก็สอบถามอาจารย์บุปผาว่าอาจารย์จะกลับมาสอนเหมือนเดิมหรือเปล่า ... กระทั่งเมื่อวานหนูไปรับน้องที่คณะเลยทราบว่าอาจารย์ได้กลับมาสอนพิเศษเหมือนเดิมแล้ว ... ก็เลยมาดักรอที่บุ่งนี่แหละค่ะ... ใช่หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ... ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ..สบายดีไหมครับ... หนูพุกได้งานทำที่ธนาคารในห้างสรรพสินค้าใหญ่นั่นแหละค่ะ ... การงานก็ไปได้ดี เราเด็กใหม่ของที่นั่นพี่ๆ ก็ให้โอกาสและให้อภัยอยู่แล้ว .. . ถ้าไม่คิดมากเรื่องการแย่งชิงลูกค้ากันนะคะอาจารย์... ทุกวงการก็มีปัญหาเหมือน ๆ กันทั้งนั้นแหละครับ ... ค่ะ...หนูก็ได้วิชาความรู้ที่อาจารย์ถ่ายทอดมาให้ เอาไปปรับใช้กับการงานและชีวิตประจำวันได้พอสมควร ... แต่อาจารย์ขาหนูพุกจะบาปไหมคะถ้าจะบอกว่าว่าอีกไม่นานจะลาออกไปอยู่วัดแล้ว ... อะ ...อะไรนะครับ... คุณจะไปอยู่วัด...ไปบวชน่ะเหรอ... แทนคุณหันมามองอีกฝ่ายอย่างสงสัย เพราะเพิ่งเคยได้ยินที่เด็กสาวอายุยี่สิบปี หน้าตาสดใสเริงร่าสมวัยจะหนีทางโลกเข้าสู่ทางธรรมตามที่พูดได้เต็มปากเต็มคำ ... หนูพุกพูดจริงนะ ... ถ้าพ่อกับแม่อนุญาตจะไปบวชชีเลย ... คุณหนูพุกมีเรื่องทุกข์ใจอะไรหรือเปล่า ... ถึงได้เอ่อ... ตัดสินใจแบบนั้นครับ... อาจารย์ขา ... ที่หนูกล้าโผล่มาจ๊ะเอ๋อาจารย์เหมือนผีหลอกที่นี่วันนี้ ...มันมีเหตุผลที่ว่าเพราะหนูได้แอบมารอดูอาจารย์ตั้งหลายครั้งแล้ว ... กว่าจะกล้าแสดงตัวให้ได้รู้ ... หนูเห็นอาจารย์มาที่นี่นั่งนิ่งๆ มองไปบนผิวน้ำนานเป็นชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง แล้วก็ถอนหายใจออกมาเป็นพักๆ เหมือนกำลังมีความทุกข์ที่แก้ไม่ตก ... ใช่ผมยอมรับว่าถ้าไม่สบายใจก็จะมานั่งดูน้ำที่นี่ ... วันนี้หนูกล้าเข้ามาคุยกับอาจารย์ เพราะคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่หนูจะมาขอบคุณอาจารย์ แล้วลาออกจากงานที่ธนาคาร ... ไปบวชชีตามที่หนูต้องการเสียที ... การบวชตลอดชีวิต... อาจจะไม่ใช่หนทางหนีปัญหาก็ได้นะครับคุณหนูพุก... นี่หนูพุกก็กำลังจะบอกอาจารย์ว่า ... ที่หนูไปบวชไม่ใช่เพราะเกิดปัญหาแล้วเข้าวัดไปเป็นภาระให้สังคม แต่หนูมาค้นพบหลักคำสอนของพระพุทธองค์อยู่หลายข้อที่น้อมนำไปใช้จนเกิดศรัทธา เลยอยากจะไปศึกษาอย่างแท้จริง .. หนูไม่ได้อกหักหรือว่าผิดหวังจากความรัก การพลัดพราก หรือมัวเมากับอะไรเลยนะคะอาจารย์ ... หนูตั้งใจจะบวชรับใช้พระพุทธศาสนาจริงๆ แต่ก็ติดที่แม่ห้ามไว้ขู่ไว้ว่า จะตัดแม่ตัดลูกกันเลยถ้าทำอย่างที่หนูตั้งใจ ... เรื้องมันก็เลยเศร้าฉะนี้แลอาจารย์ขา... ฮึม ...เป็นความคิดที่แปลกดี ในสมัยนี้ผมไม่เคยเห็นใครคิดได้แบบคุณเลย น่าทึ่งมาก... เพื่อนหนูมันก็เอาแต่ด่าแต่แช่ง ว่าเป็นเพราะเข้าวัดกับคุณย่าบ่อยงี้แหละ ... เลยถูกของไปโน้นเลย น่าเกียจจริงเลยพวกมารศาสนาพวกนี้ ... หนูพุกหัวเราะร่วนออกมาพร้อมกับสังเกตว่าแทนคุณอารมณ์ดีขึ้นตามเรื่องราวที่เล่าแล้ว ... พวกมันก็ว่าหนูบ้า ไม่ตามกระแสเกาหลีญี่ปุ่นที่พวกมันกำลังคลั่ง อาจารย์ลองคิดดูสิคะวันเสาร์อาทิตย์ไม่เป็นทำอะไร พอตื่นขึ้นมามันก็ใช้แปรงสีฟันที่มีชาเขียวหรือดาราเกาหลีประจำ พอสายหน่อยออกไปกินอาหารญี่ปุ่นข้าวปั้นปลาดิบ จนถึงเวลาเที่ยงเข้าโรงหนังดูหนังเกาหลี กรี๊ดอยู่ได้ยังกะผีเข้า ... พอออกมาก็ตรงไปนี่เลยห้องคาราโอเกะสไตล์ญี่ปุ่นแหกปากร้องยังกะควายถูกเชือด ... พอหนูทนพฤติกรรมเหลวไหล ไร้สติของพวกมันไม่ได้ เลยด่าไปหลายชุด ผลที่ได้ก็คือพวกมันรวมหัวกันไปฟ้องพ่อกับแม่ว่าหนูมีความคิดว่าจะลาไปบวชตลอดชีวิต ... หนูถึงอึ้งกิมกี่ ก่อนที่ของจะขึ้น ... อยากค่ะอยากจะตัดพวกไร้สมองพวกนี้ออกจากสารบบเพื่อน .... แต่นึกไปนึกมาก็สงสารพวกเขา ยังติดอยู่ในห้วงอบายโดยแท้ ชีวิตยังมีกิเลสให้เสพ ไม่รู้สิ้นสุด ... วันเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า น่าสงสารที่สุดเลย ... หนูพุกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ชายหนุ่มฟังเหมือนเป็นเพื่อนหรือเคยพบกันมาก่อน ถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาทำเอาแทนคุณถึงกับหูผึ่งในเรื่องราวที่ได้ฟัง ... คิดในใจว่าชีวิตมนุษย์เราแทบจะไม่มีอะไรให้หวังจากคนอื่นได้เลย ...นอกจากตัวเราเองที่เป็นที่พึ่งยามสุดท้ายเท่านั้น .... ผมว่าคุณหนูพุกใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า ค่อยคิดทำอย่างรอบคอบ ... เพราะเราอยู่ในสังคมเรามีพ่อมีแม่ มีใครหลายคนที่รักเรา ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนกลุ่มที่เล่าของเรา พวกเขากำลังอยู่ในวัยตักตวงความสุขจากโลกภายนอก จะให้มาเข้าวัด ปฏิบัติธรรมเดินจงกรมเป็นพุทธมามกะแบบคนแก่ ๆ หรือผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธองค์อย่างหนูพุก ... พวกเขาคงทำไม่ได้ ... เอาไว้ถ้าถึงเวลาค่อยพาพวกเขาเข้าตามไปก็ได้นี่ครับ ... ขอบพระคุณคะอาจารย์ที่แนะนำสิ่ง ๆ ดีให้หนูมาตลอด ... ว่าแต่ว่าวันนี้อาจารย์ว่างเหรอคะถึงได้มานั่งสบายอารมณ์ที่ริมน้ำนี่ได้ ส่วนหนูพาคุณย่ามาเดินรับลมตอนเย็นๆ ... . ก็มาเรื่อยๆแหละครับ พอดีวันนี้ว่างนิดหน่อย ... แวะมาได้กำลังจะกลับอยู่เหมือนกัน... อ้าวจะกลับแล้วเหรอคะอาจารย์ ... หนูยังไม่ได้เบอร์โทรอาจารย์เอาไว้ปรึกษาเวลาอับจนความคิด... นี่นามบัตรของผม ... คุณหนูพุกโทรได้ตลอดถ้ามีปัญหาอะไรที่ผมช่วยได้ ... ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ .... วันพุธหน้าหนูจะไปวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรีเอาบุญมาฝากอาจารย์ด้วยนะคะ... ขอบใจมากหนูพุก ... เราคงได้เจอกันอีกนะครับ... แทนคุณลุกยืนขึ้นพร้อมกับยื่นนามบัตรให้เด็กสาว ก่อนที่จะเดินจากไปอย่างเงียบๆ เด็กสาวเดินระบายยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้เกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งในเรื่องได้พูดขอบคุณเกี่ยวกับบุญคุณที่เคยช่วยเหลือจากการถูกกระทำชำเราจากอาจารย์ผู้หิวกาม และเรื่องจะเอ่ยปากถกสนทนาเข้าวัดฟังธรรมะ ... เสียงผู้เป็นย่าเรียกให้ได้ยินมาแต่ไกล ทำเอาเด็กสาวหน้าใสต้องวิ่งถลาไปหาในทันใด พร้อมเรื่องราวที่อยากจะเล่าให้ผู้อาวุโสอย่างไม่มีที่สิ้นสุด .... ------------------------------------------------ ภายหลังจากที่ได้ออกมาจากคอนโดของมาวินเพราะความจำใจในความเชื่อที่ว่าตัวเองต่ำต้อยด้อยค่าไม่คู่ควรกับชนชั้นสูงอย่างมาวิน ดาวกลับมาที่บ้านเช่าก็พบว่าสีนวลได้ออกไปทำงานที่คลับเปิดใหม่ใกล้ทางบายพาสเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้เพียงโน๊ตสั้นๆว่าอาจจะไปค้างที่นั่นเลย ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่ทำงานมีที่พักพร้อมอาหารและสวัสดิการพิเศษถ้าหากทำงานได้ตามเวลาที่กำหนด หญิงสาวรับรู้ดีว่าที่สตาร์ผับแห่งนั้น เป็นเสมือนโรงฆ่าสัตว์ดีๆ นี่เอง เพราะจากคำพูดที่บอกต่อกันมาว่าที่นี่จะบังคับพนักงานรับแขกทั้งคืนทั้งวัน ไม่มีเวลาหยุดพัก ... แถมยังไม่ให้นอนหรือว่างเหมือนที่อื่นทั่วไป จะต้องทำงานให้ได้ทั้งวันปกติและวันเสาร์-อาทิตย์ เคยมีคนตายเพราะทำงานหนักที่นี่อยู่หลายคน แต่ด้วยอำนาจเงินหรืออำนาจมืดสามารถปิดบังหรือปิดป้องความผิดได้รอดเสียแทบทุกครั้ง ... คนที่เดือดร้อน ทุกข์ทรมานก็คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเงินทองเหล่านั้น เช่น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่คนที่สนิทผูกพันด้วยทุกอย่าง .... ดาวรู้สึกสงสารสีนวลขึ้นมาจับจิต นี่คงอยากจะได้เงินทองมากขึ้นกว่าไปเร่ขายของเก่าริมถนนใกล้สวนสาธารณะแห่งนั้น ... หญิงสาวถอนหายใจออกมาแรงๆ คิดถึงเรื่องสีนวลไปทำงานที่สตาร์ผับกับเรื่องราวของตนเองกับมาวิน เกี่ยวโยงถึงค่าใช้จ่ายนางลำเจียกที่ต้องไปจ้างพยาบาลเวรพิเศษดูแลให้เป็นอย่างดี ... เงินที่เก็บไว้ในกระปุกออมสินก็เริ่มหรอยหรอเหลือไม่ถึงสองร้อย ... ถ้าหมดเงินจำนวนนี้ไปแล้วจะทำยังไงต่อไปดี ... นี่ยังดีที่มาวินมาจ่ายค่าเช่าบ้านล่วงหน้าให้แล้วหกเดือน แต่ถ้ามาคิดให้ดีอีกครั้งก็จะต้องมีปัญหาตามมาถ้ามาวินรู้ว่าตนเองยังพักที่นี่ .... และจะตามมาช่วยเหลือผูกพันกันไม่มีที่สิ้นสุด ... เฮ้อ ...จะทำยังไงดีนะ .... จะอยู่ที่นี่หรือไปหารบ้านเช่าหลังใหม่อยู่ ... หญิงสาวกำลังสับสนในหนทางข้างหน้าของตนเอง ... กระทั่งเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ก็ตัดสินใจได้ ... เราต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจากป้าเจียก ให้ช่วยหางานทำให้ แต่จะต้องเลือกที่จะทำงานแบบไซต์ไลน์ เลือกไปกับลูกค้าที่พอใจเท่านั้น ... พอคิดได้ดาวจึงผละลุกขึ้นแล้วตรงไปยังร้านคาราโอเกะวิกตอเรีย เดินดุ่มเข้ามาในร้านก็มองเห็นแสนเสน่ห์ สาวน้อยหน้าคมเข้มสวยเก๋รุ่นน้องเดินนวยนาดตูดบิดตูดเบี้ยวเดินตรงเข้ามาหา พร้อมกับเอ่ยทักขึ้นมาว่า ... ตายยากจริงนะพี่ดาว ... มีแขกถามหาพี่เกลียวทุกวัน ... งั้นเหรอแสน ... ป้าคองไม่อยู่เหรอวันนี้... แม่ไม่อยู่ออกไปข้างนอกกับท่านนายกฯ ประเดี๋ยวสักพักคงกลับ ... พี่มีอะไรเหรอ.. พี่ว่าจะมารบกวนของานป้าอีกครั้ง ... คราวนี้จะไม่ขอไปทำงานข้างนอกอีกแล้ว... อะไรกันพี่ดาว ... หนูได้ข่าวจากลูกค้าว่าพี่อยู่ที่สวนคิวไม่ว่างเลยไม่ใช่เหรอ... สาวน้อยหน้าคมจากแดนปักษ์ใต้ ยกบุหรี่ขึ้นมาสูบ จนมองเห็นปลายแดงวาบๆพร้อมกลุ่มควันที่คละคุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ... ดาวคิดในใจว่าทำไมเด้กรับงานรุ่นใหม่ต้องติดบุหรี่กันแทบทุกคน อย่างแสนเสน่ห์ก็เข้าข่ายนั้น จึงโบกควันไปมาช้าๆแล้วตอบไปว่า ... ถ้าเราทำงานตามน้ำ รายได้มันก็โอเคอยู่หรอกจ๊ะแสน แต่พี่ไปมีเรื่องกับขาประจำแถวนั้นเข้า งานก็เลยเข้าน่ะสิจ๊ะ ดาวอธิบายไปด้วยความขื่นใจ ตรงข้ามกับอารมณ์ของอีกฝ่ายที่จ้องมองมาอย่างสนใจในเรื่องราว ... จิ๊กโก๋ข้างสวนนั่นหรือเปล่าพี่ ... นั่นก็ด้วย พอดีพี่มีเรื่องกับพวกไอ้มืดที่มาซ้อมรบกับบ้านเรา เลยเกิดเรื่องใหญ่โต กลับไปทำงานที่นั่นไม่ได้อีกแล้ว เห็นมั้ย ...แม่คองพูดเอาไว้ไม่ผิดว่า พี่ทั้งสองจะต้องซมซานกลับมา... ก็เพราะพี่คิดมากหลายเรื่องในตอนนั้น ... ป้าคองต้องยุ่งยาก.. แต่ก็มีส่วนดีอยู่นะพี่ดาว .... แสนเสน่ห์ทำหูตาพราวจนดาวสงสัยจึงถามไปว่า ... ส่วนดีอะไรเหรอแสน ... อ้าวพี่ดาวคงไม่รู้อะไร ... พอพี่ไม่อยู่ทำงานที่ร้านอาจารย์หนุ่มรูปหล่อทรมานใจสาวๆที่นี่ก็มาตามหาพี่แทบจะทุกคืนน่ะสิจ๊ะ...พี่รู้มั่งหรือเปล่าจ๊ะ ...นี่หนูยังไม่นับพ่อหล่อล่ำมีเครานิด ๆ พอเซ็กซี่คนนั้นอีกล่ะ มาที่นี่บ่อย ๆ พอ ๆ กัน ... นี่ถ้าเป็นแสนนะคงเลือกยาก คนนี้ก็หล่อ คนนี้ก็เท่ห์และแสนดี ... เฮ้อ ... แสนเสน่ห์ทำตาลอยเคลิ้มจนหญิงสาวถึงกับหยิกหมับเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้ในกิริยาบ้าคลั่งผู้ชาย ออกนอกหน้าขนาดนี้ ... แต่ถึงยังก็น่าขอบใจเด็กสาวที่นำข่าวทั้งแทนคุณและมาวินมาบอกกล่าวให้ได้รับรู้ถึงความพยายามตามหา ... น้อยๆหน่อยสาวน้อย ... ว่าแต่เสี่ยสมบูรณ์แฟนเธอยังมาแวะเวียนอยู่หรือเปล่าจ๊ะ... เขาก็มาอยู่เรื่อยๆนะพี่ดาว ...ว่าแต่พี่เหอะวันนี้เอายังไงป้าคองคงยังไม่กลับตอนนี้หรอก ... พี่ว่าจะอยู่รอสักพัก ถ้าป้ายังไม่มาก็จะกลับไปบ้านเช่าเลยจ๊ะแสน... งั้นตอนนี้หนูขอเข้าไปดูแขกในร้านก่อนนะพี่ ... จ๊ะ จ๊ะ ... พอสาวน้อยหน้าคมเดินผละจากไป ... ดาวจึงเดินอ้อมไปนั่งรอที่ม้าหินอ่อนที่หน้าร้านคาระโอเกะวิกตอเรีย ... กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววการมาถึงร้านของนางประคองเลย ... แดดยามบ่ายก็คล้อยต่ำอ่อนแสงลงไปมากดาวมองเห็นว่าถ้าขืนรออยู่ต่อไปคงไม่ได้การ สู้มาหาใหม่ในวันพรุ่งนี้น่าจะดีกว่า จึงลุกขึ้นเตรียมจะกลับบ้านพัก ... แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อมองเห็นร่างสูงใหญ่ยืนเป็นเงาทาบกับแสงแดด กำลังเดินตรงมาด้วยสีหน้าท่าทีที่มุ่งมั่น ... พี่แทน ... โอ ... ดาวมาอยู่ที่นี่เอง ผมตามหาคุณมานานแรมเดือนแล้ว... ก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไรออกไปแขนสองข้างก็ถูกรวบแล้วดึงขึ้นรถคันหรูหราราคาแพงออกจากร้านวิกตอเรียเหลือเพียงฝุ่นคละคุ้งทิ้งเป็นเงาจางๆ พร้อมคำกระซิบกระซาบพนักงานในร้านที่เริ่มจับกลุ่มสนทนากันอย่างออกรส .... พอรถจอดหน้าบ้านสองชั้นราคาหลายล้านตกแต่งด้านในอย่างมีระดับ ... ชายหนุ่มเจ้าของรถเดินวนอ้อมไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายที่นั่งนิ่ง ๆ รับฟังเรื่องราวมาตั้งแต่ออกจากร้านคาราโอเกะกระทั่งถึงบ้านหลังนี้ให้ออกมาเพื่อเดินเข้าไปในตัวบ้าน ... ดาวหันมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทีที่ยังคงตื่นตระหนกอยู่เล็กน้อย ... ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเบาะหนานุ่นของเก้าอี้ริมระเบียงใกล้กับชิงช้าเล็กๆ แกว่งไกวไปมาอยู่ตรงหน้า ... จนเวลาผ่านไปได้ครู่ใหญ่เจ้าของบ้านก็ได้เดินออกมาพร้อมกับจานขนมไทยสามสี่อย่างวางยื่นตรงหน้าพร้อมแก้วน้ำหวานสีสันสดใส ... ทานขนมหวานรองท้องไปก่อนนะดาว ประเดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอกอีกครั้งค่อยไปหาอาหารอร่อยทานกัน... เมื่อดาวผินหน้าไปมองที่อื่น ... แทนคุณค่อยยอบตัวนั่งลงฝั่งตรงกันข้ามแล้วเอื้อมมือไปกุมมือเล็กบอบบางของอีกฝ่าย ก่อนจะพยายามสบตาอยู่เนิ่นนาน จนคนถูกมองต้องหันมาสบตาคมปลาบอย่างเสียไม่ได้ ... ไม่มองตากันแบบนี้แสดงว่ายังโกรธพี่อยู่ใช่ไหม... พี่แทน ... ดึงตัวดาวมาที่นี่ทำไม ... เมื่อตะกี้ตอนขึ้นรถพี่ได้เล่าให้ฟังหมดแล้ว ... งั้นแสดงว่าเรากำลังตกใจ พี่จะเล่าให้ฟังใหม่อีกครั้งก็ได้ ... ตลอดเวลาที่พี่กับเจ้าอนึกออกตามหาเราไปซะทั่วเมืองโคราช ...ไปมันทุกที่ที่ได้ข่าวว่ามีคนเห็นดาวโผล่ตรงโน้นตรงนี้พี่ก็ไป แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวทุกครั้งไป .. แต่ถึงผลจะออกมาแบบนี้พี่ก็ไม่หมดความพยายามเพราะถือว่านี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่พี่ต้องหาตัวดาวให้เจอ เพื่อทดแทนในสิ่งที่ดาวเสียไปในวัยเด็ก ... ในทุกวิถีทางที่จะทำได้ ... ร้านวิกตอเรียก็ไปทุกวัน จนพนักงานในร้าน เด็กเสริฟหรือแม้แต่ป้าประคองก็มีน้ำใจจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ... พี่ไม่เคยท้อที่จะตามหาดาวเลยสักครั้งเดียว ...ดาวคงเข้าใจพี่นะ ที่พี่ตต้องทำแบบนี้ ... เมื่อวานก็ทะเลาะกับแม่เรื่องนี้ ... พี่หนีออกมาหาดาวและรอคอยที่จะรับมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ... แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยไม่มีใครมายุ่งเกี่ยว ... เฉพาะเราสองคน ... โธ่พี่แทน ... ดาวสบายดี ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ... ไม่ได้หรอกนะดาว ... คราวนี้ขอขัดใจ พี่จะไม่ให้เราไปไหนเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว .. พี่แทนปล่อยดาวไปตามทางเถอะนะคะ ดาวอยู่แบบนี้ไม่ได้ ... ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างดาวจะอยู่ได้ ... แทนคุณตรงเข้าไปโอบหญิงสาวเข้ามาแนบอกแล้วระล่ำระลักบอกว่า ... ทำไมล่ะดาว ... ที่นี่คือบ้าน ... คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตดาว ... มันจะเกิดขึ้นที่นี่ พร้อมกับพี่... พี่แทนฟังดาวนะคะ ... ดาวไม่ใช่น้องสาวคนนั้นของพี่แทนอีกแล้ว ... ดาวมัวหมองเกินกว่าคนดีๆอย่างพี่จะมาเกลือกกลั้ว คลุกคลี เอาใจใส่หรือทำดีด้วยมากมายขนาดนี้ ... ดาวสกปรกเกินกว่าที่พี่แทนคิดไว้เยอะ ... ผู้หญิงหากินแบบนี้ใครที่ไหนจะมายกย่องหรือเมตตาทั้งที่ความจริงน่าจะตายไปจากโลกแห่งความเป็นจริงไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว... ดาวฟังพี่นะ ... ดาวจะยังคงเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่รัก และอยู่ด้วยตลอดชีวิต ... เราสองคนจะไม่แยกจากกันไปไหน อีกแล้ว พี่จะมีครอบครัวกับดาว ... แล้วดาวจะได้เป็นแม่บ้าน มีเจ้าตัวเล็กออกมาวิ่งให้เราจับรอบๆบ้าน ... ต่อไปชีวิตของดาวจะไม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว ... เชื่อใจพี่เถอะนะ อยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไป ... พี่แทนขา ... ดาวขอเวลาสักหน่อยได้ไหม... คงไม่ได้หรอกจ๊ะดาว ... ถ้าขืนพี่ให้เราตัดสินใจ อีกไม่ช้าไม่นานเราคงหนีพี่ไปอีกครั้ง... ดาวสัญญาว่าจะไม่หนีพี่แทนไปไหนอีก ... ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ... ดีมากดาว .... ทานขนมรองท้องไปก่อน ประเดี๋ยวเราออกไปข้างนอก พี่จะได้ให้ดาวหาเสื้อผ้าไว้ใส่ งบประมาณไม่อั้น .. งานนี้พี่เต็มใจจะทำให้ดาวของพี่สวยกว่าใครๆทั้งหมด... ดาวไม่รบกวนพี่แทนถึงขนาดนั้นหรอก ... ขอให้พี่ดีกับดาวแบบนี้ไปอีกนานๆ ถ้าหากวันข้างหน้าไม่เป็นอย่างที่เราฝันเอาไว้ ... ดาวก็ยังเชื่ออยูเสมอว่ามีคนสี่คนที่รักและเข้าใจดาวเสมอ ... งั้นตกลงดาวอยู่กับพี่ที่นี่ไปซักพักก่อน ... แล้วค่อยว่ากันต่อนะ... จ๊ะพี่แทน ... เมื่อแทนคุณมองสีหน้าที่แบ่งรับแบ่งสู้ของสาวน้อยตรงหน้าแล้วแทบจะถอดใจในการรั้งดึงตัวหล่อนเอาไว้ที่นี่ ... คิดนึกเอาไว้ว่าดาวคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเพราะห่วงในใจหลายห่วงยังคงมีอยู่และวนเวียนให้คิดอยู่ตลอดเวลา ไหนจะเรื่องนางลำเจียกที่อยู่โรงพยาบาล หรือเรื่องการทำงานอาชีพเมื่อยามว่าง หรือแม้แต่เรื่องการปรับตัวเป็นแม่บ้านด้วยการนั่งอยู่เฉยๆทั้งวัน ก็นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะเป็นไปได้แล้ว ... การที่ชายหนุ่มเห็นดาวยังนั่งเฉยยอมรับปากจะอยู่ที่นี่ ก็อาจจะเป็นเพราะยังเกรงใจในความพยายามตามค้นหาของตนเองก็ได้ คิดแล้วทำให้กลุ้มในใจจึงค่อยเปลี่ยนเรื่องคุยไปคุยเรื่องอื่นๆน่าจะดีกว่า ... ประเดี๋ยวดาวเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน ... พี่จะเดินดูกล้วยไม้ที่หน้าบ้านซะหน่อย ... ค่ะพี่แทน .. ไปเถอะไม่ต้องห่วง ดาวจัดการตัวเองได้ ... งั้นดีแล้ว.. แทนคุณยิ้มให้หญิงสาว ... ก่อนจะเดินเลี่ยงลัดเลาะไปตามพุ่มไม้ดัดเตี้ยตรงไปยังเรือนกล้วยไม้ขนาดกลาง ไม่ใหญ่ไม่เล็กที่ประดามีด้วยสีสันหลากพันธุ์ของกล้วยไม้ป่าและพันธุ์ต่างประเทศลับตาไปในพุ่มเฟิรน์กอใหญ่ ... หญิงสาวถอนหายออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจ เพราะเข้าใจเหตุผลของแทนคุณดีทุกอย่างที่ต้องการจะชดใช้ในเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมานับตั้งแต่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน กระทั่งหมดสิ้นหนทางจะเป็นคนดีๆ ต้องออกขายของเก่าแลกเงินมายาไส้พร้อมกับดูเลี้ยงนางลำเจียก ผู้มีพระคุณที่ป่วยไข้รอการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช ... ด้วยการพามาดูแลให้ที่อยู่อาศัย ไม่ต้องเร่ร่อนหลบเจ้าของบ้านเช่าไปวันๆ หรือกระเบียดกระเสียดเงินทองที่จะใช้จ่ายจนแทบจะหมดสิ้นความสุขในชีวิตไป ... แต่หัวใจข้างในของดาวมันร่ำร้องบอกแต่ว่า ... ชาตินี้ทั้งชาติ ไม่เคยคิดถึงแทนคุณเกินเลยไปกว่าความเป็นพี่เป็นน้องแต่อย่างใด แถมหนำซ้ำกลับรักและเทิดทูนบูชาน้ำจิตน้ำใจชายหนุ่มจนยากที่ชีวิตนี้ทั้งชีวิตจะหาพบเจอคนเช่นนี้ได้อีกแล้ว ... พอทั้งสองได้ออกมาข้างนอก รับประทานอาหารที่แสนอร่อย บรรยากาศดีๆ อิ่มหนำสำราญกันตามประสาคนหนุ่มคนสาวที่ทำอะไรก็ดีและสนุกสนานไปเสียหมด ... แทนคุณพาหญิงสาวไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดแห่งใหม่พร้อมกับพาแล่นเรือไปตามสายน้ำที่ไหลวนรอบสระใหญ่ ทั้งสองสนทนาถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานจนตะวันบ่ายคล้อย ... จึงได้พากันไปยังห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในภาคอีสานเพื่อหาซื้อเสื้อผ้า และของใช้สำหรับดาวในบางส่วน ก่อนจะไปจบที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ดัง อิ่มอร่อยไปกันสักพักใหญ่จึงกลับบ้านนอกเมืองพร้อมความสุขที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นกับแทนคุณ แต่เพียงผู้เดียว โดยที่หญิงสาวยังคงแย้มยิ้มอยู่เงียบๆเช่นเดิม .... บนรถหรูแทนคุณพูดแทรกความเงียบขึ้นมาหลังจากมองเห็นว่าดาวกำลังจะเคลิ้มหลับไปด้วยความเหนื่อย ... วันนี้สนุกไหมดาว ... ไปซะหลายที่เลยเนอะ... ก็สนุกดีนะจ๊ะพี่แทน ... ดาวไม่เคยเที่ยวแบบนี้มาก่อนเลย... วันหลังเราไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้อีกดีกว่านะ ... พี่จะแถมท้ายไปไหว้พระที่สีคิ้วกับสูงเนินอีกโปรแกรมหนึ่ง.. พอแค่นี้ก็ได้จ๊ะพี่ ... ดาวอยากจะหางานทำ ไม่อยากจะอยู่เฉยๆมันเบื่อยังไงก็ไม่รู้... ตกลงพี่จะลองไปถามฝ่ายบุคคลที่มหาวิทยาลัยดูว่ามีตำแหน่งอะไรให้ดาวทำบ้าง... ที่นั่นคงไม่ใช่ที่ดาวต้องไปทำงานแน่ๆพี่แทน ... ไว้ดาวหาเองดีกว่า .. ตกลงยังไงก็ได้ ... ขอบคุณค่ะพี่แทน ... พอทั้งสองมาถึงบ้านพักชานเมือง หญิงสาวเดินอ้อมไปเลื่อนประตูใหญ่ให้รถหรูเคลื่อนตัวเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ แต่ทั้งสองก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าประตูบ้านได้เปิดทิ้งเอาไว้ พร้อมคนอย่างน้อยสามคนกำลังสนทนาอย่างถึงพริกถึงขิง ... แม่ แม่พี่แทนมาแล้ว ... เสียงแหลมใสของสาวร่างสูงที่ยืนสะกิดผู้เป็นแม่ให้หันไปตามเสียงเท้าที่เดินเข้าไปในตัวบ้าน .. แต่ไม่ทันที่ดาวจะทันโผล่เข้าไปในบ้านอย่างเต็มตัวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อเสียงแหลมใสกรีดร้องออกมาอีกครั้งพร้อมร่างกระโจนตรงเข้ามาอย่างประสงค์ร้าย ... กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด อีดาวมันมากับพี่แทนน่ะแม่ ... นางสุนีย์หันไปมองตาขวางเมื่อเห็นเป็นจริงตามที่สาลินีว่าแทนคุณกำลังโอบร่างนังดาว อีเด็กโสโครกคนนั้นเดินตรงเข้ามาในบ้านอย่างไม่สะทกสะท้านใครหน้าไหนอะไร ทั้งสิ้น (จบตอน) |
สมาชิกหมายเลข 4063778
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |