ถัดจากแผงขายมะพร้าว ก็เป็นร้านอาหาร มีครอบครัวเจ้าของร้าน และพนักงาน
สายหน่อยวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นรถประจำทางจากสิกิริยาไปแคนดี (Kandy) ค่ะ จากสิกิริยาเมืองทางตอนกลาง เรากำลังลงมาเมืองตอนกลางทางใต้ของประเทศ
ระยะทางประมาณ 90 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.กว่า ก็มาถึง Good Shed bus station ซึ่งเป็นสถานีรถประจำทางหลักหนึ่งเดียวในแคนดี ตั้งอยู่ใกล้ ๆ หอนาฬิกา สับสนวุ่นวายพอควร เพราะเป็นที่จอดรถบัสทางไกล เช่น โคลอมโบ โบโลนนารุวะ หรือนูวาระ เอริยา (Nuwara Eliya) ส่วนรถที่ไปใกล้ ๆ ออกคนละที่ แต่ก็เป็นแถว ๆ หอนาฬิกาเหมือนกัน
บริเวณหอนาฬิกา เมืองแคนดี
มาถึงก็เรียกรถตุ๊ก ๆ ให้ไปที่พักที่จดมาจาก Lonely ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ แต่ต้องขึ้นเนินไป คนขับก็พาไปเหมือนกัน ไปถึงก็จอด บริเวณนั้นเป็นแหล่งรวมที่พักราคาประหยัด ตั้งตามถนนที่ขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ แล้วมันก็ไม่รู้โรงแรมไหนเป็นโรงแรมไหน ก็เลยได้ที่พักที่ใกล้ที่สุดที่รถจอด เพราะก็ดูดี สะอาด มีระเบียงกว้างให้ชมวิว ค่าห้อง 800 รูปี มีเรเน เป็นพนักงานอยู่คนเดียวทำทุกอย่าง แล้วก็มีคนมาพักอยู่ห้องเดียวด้วย พอดีเรามาต้นเดือนกรกฏาคม ถ้ามาช่วงกลางเดือน 10 วัน ซึ่งจะมีเทศกาลแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว (Parahera) เรเนบอกค่าห้องขึ้นไปถึง 2,000 - 2,500 รูปี เลยทีเดียว
แคนดี (Kandy)
แคนดีเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของศรีลังกา แม้จะอยู่ห่างจากกรุงโคลัมโบเพียง 115 กม. แต่สภาพแวดล้อมก็แตกต่างกันอย่างมาก เพราะแคนดีตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาในที่ราบสูงแคนดี ที่ระดับความสูง 500 เมตร เป็นเมืองหลวงสุดท้ายของกษัตริย์โบราณของศรีลังกา
ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า พระเจ้าวิกรมพาหุ ที่ 3 (ปี 1357-1374) ผู้เป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมโปลา (Gampola) เป็นผู้ก่อตั้งเมืองแคนดี และในขณะนั้นให้ชื่อว่า Senkadagalapura
ปี 1592 แคนดียังคงเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรที่ไม่ติดทะเลที่ยังเป็นอิสระจากโปรตุเกส แคนดีอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงค์นายะ 'Nayaks' และยังคงความเป็นเอกราชไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่เมืองแถบชายฝั่งได้ตกอยู่ในการครอบครองของโปรตุเกสแล้ว และทั้งโปรตุเกส ดัตช์ และอังกฤษ ในช่วง ศต. ที่ 16, 17 และ 18 ต่างก็มุ่งหมายที่จะยึดแคนดีด้วยกันทั้งสิ้น ท้ายสุด ในปี 1815 แคนดีก็ต้องตกเป็นของอังกฤษ พระเจ้าศรีวิกรม ราชสิงหะ (Sri Vikrama Rajasinha) กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งแคนดี ถูกจับและนำไปขังที่ป้อมเวลลอร์ (Vellore Fort) ทางใต้ของอินเดีย รวมทั้งผู้อ้างสิทธิ์ทั้งหลายในราชบัลลังก์ด้วย จึงนับเป็นการสิ้นสุดสถาบันกษัตริย์แบบดั้งเดิมในศรีลังกา จากนั้นอังกฤษได้ตั้งผู้ปกครองตามแบบของตนเอง
แคนดี มาจากคำว่า kanda หรือ "ขันธะ" เป็นภาษาสิงหล แปลว่า กองหินหรือเนินเขา ต่อมาเมื่ออังกฤษเข้าครอบครอง การเรียกเมืองว่าขันธะ จึงออกสำเนียงตามฝรั่งเป็น แคนดิ หรือ แคนดี .. แคนดีตกเป็นของอังกฤษจนประเทศศรีลังกาได้รับเอกราชในปี 1948
ด้วยอิทธิพลของพุทธศาสนาในศรีลังกา เมืองแคนดียังเป็นที่ตั้งของวัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งประดิษฐานพระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นดั่งนัยของประเพณีที่มีมาตั้งแต่ ศต. ที่ 4 ที่เชื่อมโยงศาสนาเข้ากับพระบรมศานุวงค์ เพราะผู้พิทักษ์แห่งพระเขี้ยวแก้ว จะได้รับการยอมรับว่าเหมาะสมที่จะปกครองแผ่นดิน ดังนั้น พระราชวัง และวัดพระธาตุเขึ้ยวแก้ว มีส่วนสัมพันธ์ระหว่างบทบาทการบริหาร และศาสนาของเมืองหลวง และแม้เมื่อตกอยู่ในการปกครองของอังกฤษ แคนดีก็ยังคงรักษาและดำเนินบทบาทการเป็นเมืองหลวงทางศาสนาของชาวสิงหล เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพุทธศาสนิกชนในศรีลังกาและทั่วโลกอีกด้วย
บ้านเรือนสมัยอาณานิคม ตั้งอยู่บนเนิน
ทะเลสาบแคนดี หรืออีกชื่อว่า Kiri Muhuda หรือ Sea of Milk - ทะเลน้ำนม เป็นทะเลสาบขุดตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างในปี 1807 โดยพระเจ้าศรีวิกรม ราชสิงหะ กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรแคนดี อยู่ถัดจากวัดพระเขึ้ยวแก้ว เป็นทะเลสาบที่ได้รับการคุ้มครอง และห้ามตกปลา
รอบทะเลสาบแคนดีมีความยาว 3.4 กม. มีระดับน้ำลึกที่สุด 18 เมตร มีกำแพงที่เรียกว่า Walakulu wall (Cloud wall - ลักษณะคล้ายก้อนเมฆ) ล้อมรอบอยู่ 630 เมตร ตรงกลางเป็นบ้านฤดูร้อนของราชวงค์
หนังสือ Lonely แนะนำให้ไปเดินตอนเย็น แต่เราไปเดินตอนเช้า แต่อย่างไรก็ต้องผ่านทุกเช้าเย็นอยู่แล้ว เพราะถนนที่ขึ้นไปที่พักบนเนิน ก็แยกจากถนนรอบทะเลสาบ ทางด้านเหนือจะเงียบมาก เพราะมีการปิดถนนจนไปถึงวัดพระเขี้ยวแก้ว
ทะเลสาบแคนดี ต้นสาละและดอกสาละ
จุดรวมของแคนดีคือ ทะเลสาบ มีวัดพระเขึ้ยวแก้วอยู่ทางด้านเหนือ ใจกลางเมืองอยู่ระหว่างทางเหนือและตะวันตกของทะเลสาบ โดยมีหอนาฬิกาเป็นจุดสังเกตุ สถานีรถไฟ ตลาด คิวรถทั้งหลาย ก็อยู่ไม่ไกล ส่วนตัวเมืองแผ่ขยายไปตามเนินเขารอบ ๆ มีบ้านเรือนที่พักทีี่สามารถมองลงมาเห็นเมือง
ตัวเมืองแคนดีคึกคักที่สุดบริเวณหอนาฬิกา มีร้านค้าริมถนน และมีอาคาร 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนจะขายสินค้าประเภทของที่ระลึก ที่แนะนำคือ เครื่องหนัง เช่นกระเป๋าสพาย กระเป๋าสตางค์ รองเท้า ลวดลายท้องถิ่น มีหลายร้าน ราคาไม่แพง แต่ก็มีนายหน้าเยอะด้วย
ลุงเขาสนใจอุปกรณ์และวิธีการลับมีดที่นี่มาก
บรรยากาศทั่ว ๆ ไป ในวันฝนตกที่แคนดี
แถว ๆ ตลาดที่แคนดี
ปัจจุบัน แคนดีเป็นทั้งศูนย์กลางการบริหารและศาสนา เป็นเมืองหลวงของจังหวัดในภาคกลาง และเป็นที่ตั้งของวัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth Relic - Sri Dalad Maligawa) หนึ่งในสถานที่บูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกของพุทธศาสนา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี คศ. 1988
บล๊อคหน้าเราจะไปพิพิธภัณฑ์ แต่เพราะพิพิธภัณฑ์ปิด เราจึงโชคดีค่ะ
ขอบคุณข้อมูจากวิกิพีเดีย