อริสมันต์"นอนคุก อัยการฟ้องข้อหาก่อการร้ายเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ศาลไม่ให้ประกันตัว
อริสมันต์"นอนคุก อัยการฟ้องข้อหาก่อการร้ายเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ศาลไม่ให้ประกันตัว พร้อมนัดตรวจหลักฐาน 6 ก.พ.ปีหน้า เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 7 ธ.ค.54 เวลา 12.00 น. พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ หรือกี้ พงศ์เรืองรอง อายุ 47 ปี แกนนำกลุ่ม นปช. เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1-2 และกระทำผิด พระราชกำหนด ( พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ก.พ.- พ.ค.53 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้ร่วมกับนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายขวัญชัย สาระคำ หรือไพรพนา นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก ชูกล่อม นายนิสิต สินธุไพร นายการุณ หรือเก่ง โหสกุล นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท กับพวกรวม 19 คน ซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ของศาลนี้ และจำเลยอีก 5 คนในความผิดฐานเดียวกันของศาลนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ จำเลยซึ่งเป็นแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ร่วมกันกับพวก ยุยง ปลุกปั่นประชาชนทั่วราชอาณาจักรไทยให้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรม โดยมีความมุ่งหมายที่จะต่อต้านรัฐบาลและบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นให้ประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยจำเลยกับพวกจัดให้มีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงหลายหมื่นคนที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตามแนวถนนราชดำเนินไปจนถึงสี่แยกคอกวัว และแยกราชประสงค์ มีการเดินขบวนและเคลื่อนย้ายประชาชนไปปิดล้อมสถานที่ต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย รัฐสภา กรมทหารราบที่ 22 และบ้านพักของนายกรัฐมนตรี และมีการใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่บ้านพักประชาชน เพื่อสร้างความปั่นป่วนก่อให้เกิดความเสียหายแก่การคมนาคมและทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนเกรงกลัวอันตรายที่จะก่อให้เกิดขึ้นต่อชีวิตและร่างและทรัพย์สิน ขัดขวางการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนทั่วไป และจำเลยกับพวก ได้ ร่วมกันสะสมกำลังพลและอาวุธสงครามร้ายแรง มีการฝึกกำลังคนและฝึกการใช้อาวุธโดยเรียกชื่อกลุ่มกองกำลังว่า กลุ่มนักรบพระเจ้าตาก , กลุ่มนักรบโรนิน หรือกลุ่มนักรบพระองค์ดำเพื่อก่อการร้าย และยังใช้เลือดของจำเลยกับกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากไปเท ราดที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่พรรคประชาธิปัตย์ และหน้าบ้านพักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี ใส่กระทรวงกลาโหม ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรี ยิงใส่กองบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รมน.) มีทหารได้รับบาดเจ็บ บุกตรวจค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยอ้างว่ามีทหารแอบซ่อนอยู่ ทำให้แพทย์ พยาบาล ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยได้ สถานที่อื่น ๆ หลายแห่ง การกระทำของจำเลยกับพวกในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลขณะนั้น ทำตามคำเรียกร้อง ไม่เป็นการกระทำโดยใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลแพ่งมีคำสั่งวันที่ 5 เม.ย.53 ว่าการกระทำของจำเลยและผู้ชุมนุมเป็นการกีดขวางเส้นทางคมนาคม ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และหลังจากวันที่ 7 เม.ย.53 ที่นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ จำเลยกับพวก ยังคงก่อความไม่สงบ นำกลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไปที่รัฐสภา และทำร้ายร่างกายทหารที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งแย่งชิงยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอกของราชการไปด้วย ต่อมาจำเลยกับพวก ยังบุกรุกเข้าไปในสถานีดาวเทียมไทยคม 2 ที่ตำบล - อำเภอ ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานีเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณโทรทัศน์ พีเพิลแชลแนล หรือ PTV ที่เป็นกระบอกเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะวันที่ 10 เม.ย.53 จำเลยกับพวก ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและใช้อาวุธปืนสงคราม ระเบิดขว้าง เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ยิงใส่ทหารและประชาชน เป็นเหตุให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนเสียชีวิต บาดเจ็บ จนวนมาก และยังลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งยังมีการยิงระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม และสาขาอื่นๆ อีกหลายแห่ง ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยโจทก์ไม่ขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากจำเลยเข้ามอบตัวกับเจ้าพนักงานเอง ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.4958/2554 โดยศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้นายอริสมันต์ จำเลยฟังแล้วสอบคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธ ซึ่งศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 6 ก.พ.55 เวลา 13.30 น. ขณะที่ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.2 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว
อริสมันต์คอตกนอนคุกศาลไม่ให้ประกัน
ต่อมาเวลา 16.30 น. ศาลอาญามีคำสั่งขอปล่อยตัวชั่วคราวนายอริสมันต์ โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีข้อหาร้ายแรง และอัตราโทษสูง หลังเกิดเหตุจำเลยหลบหนีตลอดมา แม้จำเลยจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานก็เป็นเวลานาน และยังเป็นบุคคลที่ศาลอาญาออกหมายจับในคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่น หมายเลขดำที่ อ.4177/2552 , อ.1463/2553 ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุพอเพียงให้ศาลเชื่อได้ว่าหากอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะไม่หลบหนีอีก ให้ยกคำร้อง
ต่อมานายวาสุเทพ ศรีโสดา ทนายความของนายอริสมันต์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะปรึกษาทีมทนายความการยื่นคำอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวที่จะยื่นในวันที่ 8 ธ.ค. โดยคาดว่าจะพิจารณาเพิ่มหลักทรัพย์ที่จะใช้ยื่นประกันจากเงินสด 1.2 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมควบคุมตัวนายอริสมันต์ ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเวลา 18.00 น. โดยระหว่างนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากที่รอให้กำลังใจนายอริสมันต์ตั้งแต่ช่วงบ่าย ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และได้โทรศัพท์แจ้งความคืบหน้ากันภายในกลุ่ม ขณะที่บางส่วนก็ถึงกับร่ำไห้เสียใจ
นายอริสมันต์ กล่าวขณะเข้ารายงานตัวอัยการ ถึงการกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทยว่า ที่หลบหนีไปต่างประเทศนานร่วมปีนั้น เพราะไม่มั่นใจกระบวนการยุติธรรมในขณะนั้นที่มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่บุกไปที่ห้องพักโรงแรมเอสซี ปาร์ค โดยมีอาวุธต่าง ๆ ซึ่งเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งมีผู้ใหญ่บอกกับตนการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำที่เกินกว่าการปฏิบัติปกติ อย่างไรก็ดีตนไม่คิดที่จะฟ้องกลับการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ตนยึดหลักการให้อภัย ไม่อาฆาต โดยการกลับมาสู้คดีเวลานี้ก็เห็นว่าสถานการณ์คลี่คลาย และรัฐบาลใหม่มีแนวทางปรองดองสมานฉันท์ ทำให้มั่นใจกระบวนการยิ่งขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ได้หวังว่าจะได้เข้าไปดำรงตำแหน่งหรือทำงานทางการเมือง เพราะคงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเวลานี้ หลังจากนี้คงใช้เวลาในการต่อสู้มากกว่า เรื่องอื่นๆ คงต้องหยุดไว้ก่อน สำหรับการต่อสู้คดีตนมั่นใจในการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ผ่านมาว่าเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้คิดล้มล้างอะไร หรือทำให้เกิดมีความรุนแรง ส่วนที่ปรากฏภาพถือถังน้ำมันจะไปเทแล้วกล่าวหาตน ก็ยืนยันว่าตนมีคลิปที่จะนำมาใช้แสดงเป็นพยานหลักฐานต่อสู้ในศาล เพราะคลิปต่างๆ ที่ปรากฏออกมาเป็นเพียงบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งตนกระทำเพื่อลักษณะป้องปรามมากกว่า ไม่ใช่ก่อเหตุรุนแรง นายอริสมันต์ กล่าวยอมรับด้วยว่า รู้สึกกังวลเหมือนกันว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ เพราะไม่มีใครอยากเข้าไปนอนในเรือนจำ แต่ยืนยันที่หายไปพักต่างประเทศ ก็เพราะไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะนี้กลับมาก็มั่นใจที่จะสู้คดีและคงไม่ไปไหน เพราะประเทศไทยคือบ้านของตน ขณะที่นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวย้ำว่า การทำสำนวนคดีอัยการ พิจารณาด้วยความเป็นธรรมสำหรับผู้ต้องหาทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องที่รอตัวมาพิจารณาสำนวนคดี มีหลายคน อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์กระทำนอกราชอาณาจักร อย่างไรก็ตามหากคดีที่ยื่นฟ้องก่อการร้ายกลุ่ม 19 แกนนำ นปช. และนายนอริสมันต์ จะพิจารณาเสร็จสิ้นและมีคำพิพากษาได้ก่อนที่จะได้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีในภายหลังก็ไม่มีปัญหา เราก็ทำคดีตามกันพยานหลักฐานที่ปรากกฏ อย่างไรก็ดีสำหรับนายอริสมันต์ อัยการไม่ได้คัดค้านการประกันตัว โดยเมื่อฟ้องคดีแล้วเป็นดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ เมีย-ทนาย-แนวร่วมฯส่ง "อริสมันต์"นอนคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพได้นำตัวนายอริสมันต์จากศาลอาญาเข้าคุมขังภายในเรือนจำ โดยมีภรรยาและทีมทนายนั่งรถยนต์ส่วตัว พร้อมแนวร่วมเสื้อแดงประมาณ 20 คน ติดตามไปถึงหน้าเรือนจำ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอริสมันต์เข้าภายในแดนแรกรับ และให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้น เสื้อยืดแขนสั้น จากนั้นจึงทำทะเบีนผู้ต้องขังใหม่
Create Date : 07 ธันวาคม 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 7 ธันวาคม 2554 19:58:55 น. |
Counter : 480 Pageviews. |
|
|
|