Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
รถเมล์ในวันหนึ่ง

ณ มุมหนึ่งในถนนที่ขึ้นชื่อว่ารถติดที่สุดติดอันดับในกรุงเทพมหานคร

วันนี้ตอนเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ณ สี่แยกที่ได้ขึ้นชื่อว่า รถติดที่สุดในกรุงเทพฯเช่นกัน ปกติแล้วผมเดินทางโดยรถไฟฟ้ากลับบ้าน วันนี้เห็น สี่แยกนี้ รถน้อยเบาบางมากกว่าปกติ ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ผมจึงตัดสินใจเดินเลี้ยวเข้าไปที่ ป้ายรถเมล์แทนที่จะเดินขึ้นบันไดเพื่อกลับบ้านโดยรถไฟฟ้า

ณ ป้ายรถเมล์ ห่างจากสี่แยกไม่เกิน 100 เมตร มีผุ้คนนั่งอยู่ในป้ายเพื่อรอรถเมล์เพียงเล็กน้อย ในใจคิดว่า คิดถูกแล้วเพื่อนเอ้ย วันนี้กลับโดยรถเมล์น่าจะสบาย ถนนก็โล่ง คนรอรถเมล์ก็ไม่เยอะ ว่าแล้วก็นั่งลงที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอรถเมล์ในมือมีหนังสืออ่านเล่นเล่มนึงที่ชื่อว่า บารัค โอบามา ผมลิขึตชีวิตเอง (Dreams From My Father, Barack Obama) ตาก็อ่านหนังสือไป เหล่รถเมล์ไป รถเมล์วิ่งผ่านไปหลากหลายสาย ซ้ำบ้างไม่ซ้ำบ้าง รถเมล์ที่ผมรอขึ้นนั้นมีเพียง 2 สาย 1 สายเป็นรถร่วมบริการที่ประกาศตนว่าใช้ NGV เป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ในขณะที่รถเมล์อีกสายเป็นของ ขสมก โดยแท้ แต่ทุกคันในสายนี้เป็นรถเมล์ปรับอากาศสีส้ม ที่หลายปีก่อนประกาศว่าเป็นรถยูโรทู ปลอดมลพิษ

เวลาผ่านไปนานเท่าไรจำไม่ได้ รถเมล์ร่วมบริการคันแรกก็ขับใกล้เข้าป้าย ผมกำลังเงยหน้าว่าเป็นสายอะไร คันนั้นก็ไม่ได้จอดเข้าป้าย ขับเลยผ่านป้ายไป ในใจคิดว่า ไม่เป็นไร รถร่วมบริการสายนี้เยอะมาก อีกแปบคงจะมา สักครู่ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเป็นนักเรียน ม.ปลาย มานั่งป้ายรถเมล์ สักครู่ เด็กคนนี้ก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหวังเพื่อจะได้ขึ้นรถ อนิจจา! รถออกเลนสอง ขับฉิวผ่านไป ตาผมก็เหลือบไปเห็นว่าเป็นรถร่วมบริการที่ผมต้องขึ้น เอาล่ะคันที่สอง ผมเริ่มหงุดหงิด ประเทศไทยมีรถเมล์ที่วิ่งมั่วที่สุดในโลก วิ่งทับเส้นกันมากที่สุดในโลก และเป็นรถเมล์ที่ไม่ยอมเข้าป้ายมากที่สุดในโลก ผมเข้าใจตอนแรกว่า อาจเป็นเพราะคนที่ป้ายไม่ยกมือโบก คนขับก็เลยไม่อยากเข้าป้ายออกเลนขวาไป ผมละจากหนังสือมายืนรอที่ริมบาทวิถีหวังว่าถ้าเห็นจะได้โบกจะได้เข้าป้าย ยืนรอประมาณ10 นาที รถเมล์ขสมก ปรับอากาศคันนึงก็วิ่งเลนสาม ย้ำเลนสามฉิวผ่านป้ายไปในขณะที่ผมโบกเพื่อให้ (มัน) เข้าป้าย ใจแรกที่คิด อยากยกหูบอก จส 100 สวพ91 1184 ที่รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับรถสาธารณะ แวบที่สองในสมองก็บอกว่า แจ้งเสร็จแล้วไง มันก็แค่นั้น ถ้าคนขับโชคร้ายก็โดนตักเตือนแล้วก็ผ่านไป จส100 สวพ91 ประจานผ่านอากาศ แล้วก็เงียบหายไป เพื่อมันคือ รถเมล์ ที่คนในกรุงเทพฯประสบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แวบต่อมาก็คิดว่า ถ้ามีก้อนหินในมือซักก้อน เขวี้ยงผ่านหน้ากระจกรถเพื่อบังคับให้จอด จากนั้นคนขับก็ต้องแจ้งให้ตำรวจมา ผมจะยืดอก(พกถุง <--เกี่ยวม่ะ) ว่าเป็นคนปาเอง เพราะรถเมล์ไม่จอดเข้าป้ายก็เลยไม่รู้ว่าทำอย่างไรให้จอด ออกข่าวหน้าหนึ่งไปเลยว่า หินปากระจกรถเมล์เพื่อให้จอดเข้าป้าย (ไม่ได้ชิงทรัพย์นะคร๊าบ) แล้วไง เรื่องอาจจะดังไปซักระยะ แล้วมันก็เหมือนเดิม ไม่เข้าป้ายเหมือนเดิม แล้วเรื่องเดิมๆ มันก็กลับมาสู่สภาวะเดิม (เหมือนเรื่อง บ้านสีดำ ที่เจ้าของบ้านต้องการร้องสิทธิ แต่เพื่อนบ้านต่างด่าทอเขาว่าเป็นคนผิดปกติ คนเมืองเห็นเรื่องปกติเป็นผิดปกติขณะที่เรื่องผิดปกติเห็นเป็นเรื่องปกติ)

ผ่านไปซัก 40 นาที รถร่วมบริการ + รถขสมก ที่ผมมีส่วนร่วมที่จะต้องขึ้นเพื่ออาศัยกลับบ้าน ผ่านไปไม่ต่ำกว่า 5 คัน ไม่จอดเข้าป้ายซักคัน จนกระทั่ง รถขสมก ปรับอากาศคันนึง จอดเทียบป้าย ผมขึ้นรถไป ว่างเปล่า! ไม่มีคนในรถยกเว้นคนขับกับ กระเป๋ารถเมล์ คิดในใจ ถ้ามีคน (มึง)คงไม่จอดรับ(ตรู)หรอก รถ ขสมกคันนี้ได้พาผมไปสู่จุดหมายเพียง 20 นาทีก็ถึงเขตนิเวศสถานของผม แต่ผมใช้เวลา 40 นาทีอยู่บนป้ายรถเมล์แห่งนั้นเพื่อรอดูรถเมล์ผ่านหน้าผมไปมา

บนรถเมล์ เห็นโฆษณารถเมล์ท่องเที่ยวไปไหว้พระ9 วัด 9 สถานที่สำคัญในต่างจังหวัดที่ใกล้ๆ มหานครกรุงเทพฯ แต่ อนิจจา ที่จับพนักพึงตรงเบื้องหน้าผม มีซากที่เคยบ่งบอกว่า มันเป็นยางได้หลุดร่อนออกไปจนเห็นเหล็กโพลนๆๆ เท่านั้นยังไม่พอ มีหัวแหลมๆ ของปลายนอต ที่โผล่ออกมา ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็นเพราะเป็นสีเดียวกับเหล็ก นึกในใจว่า ถ้าคนที่นั่งตรงที่ผมนั่งนี้ จะลุกขึ้นเพื่อลงป้าย กำลังจับราวเหล็กนั้น แต่ รถกระชากกระทันหัน มือที่จับจะกำแน่นขึ้นแล้ว ไอ้ปลายเหล็กแหลมนั้นก็ทิ่มเนื้อคนที่จับ ใครกันหนอที่ต้องรับผิดชอบระหว่างคนขับรถ หรือ ผู้โดยสาร หรือ ขสมก เฮ้อ!

ในขณะที่ผมเล่าเรื่องใน blog นี้เป็นเวลาประมาณ 21.40น ของวันที่ 6 สิงหาคม 2551 ข้างบ้านผมที่เป็นบริษัทขนส่ง ยังขึ้นของเสียงดังตามเดิม ปวดประสาทแก้วหู ที่สั่นสะเทือน และก็เหมือนเดิม เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ (จริงหรือเปล่าไม่รู้) ที่เคยรับปากผมว่า "มีปัญหาอะไรแจ้งผมได้เลยครับ ผมจะมาดูแลให้ " และผมเองก็เคยบอกว่า มันดึกนะ เขาจะขึ้นของดึกนะครับ ประมาณ 3 ทุ่มไปแล้ว จนกระทั่งเสร็จ บางวันถึงเที่ยงคืน "อ้าวหรือครับ ผมเคลียร์ให้ ไม่หน้ามีปัญหาอะไร แจ้งผมละกัน" ผมก็บอกว่า งั้นรบกวนขอเบอร์มือถือ "ได้ครับ ผมชื่อ สำเริง เบอร์08162966XX ครับ"ว่าแล้วก็จดเบอร์ให้

ผมเคยโทรไปหาคุณสำเริงคนนั้นครั้งนึงในเวลา 4 ทุ่มโดยประมาณ คุณลูกรับ บอกว่า ขอคุยกับคุณสำเริง คุณลูกส่งต่อให้คุณแม่ คุณแม่ปลุกคุณสำเริง แจ้งไปว่า "บริษัทนั้นขึ้นของอีกแล้วครับ" "นี่คุณตอนนี้มันดึกมากแล้วนะครับ ไงโทรไปแจ้งส.น.ดีกว่านะครับ ที่เบอร์ 02XXXXXXX" "อ้าวพี่ มันจะได้เรื่องหรอ" "เอ่อ ผมช่วยคุณได้แค่นี้อ่ะครับ ได้เรื่องไม่ได้เรื่องก็โทรไปเถอะครับ" "!!!!" เป็นคุณ คุณคิดอย่างไร

โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย (หรือเปล่าฟ่ะ ตรูชักไม่แน่ใจ) !!!!!
!++!


Create Date : 06 สิงหาคม 2551
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 21:39:00 น. 0 comments
Counter : 653 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ouan403
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ouan403's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.