Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

พบ "ปี่ พระอภัย" แล้ว !!














ทำเนียบฯ 20 พ.ค.- ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีมือดีขโมยปี่พระอภัยมณีจากอนุสาวรีย์สุนทรภู่ จังหวัดระยอง ว่า “เพิ่งทราบข่าวจากสื่อว่า มีคนขโมยปี่พระอภัยมณีไป คนเอาปี่ไปนั้นมันใจดำ ไม่รู้ว่าจะขโมยอะไรแล้ว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ได้ส่ออะไร คงเป็นเรื่องที่เอาไปได้ง่าย แต่มันแย่ ซึ่งทางจังหวัดคงเร่งดำเนินการ ขโมยอะไรไม่ขโมย ดันไปขโมยปี่”.-สำนักข่าวไทย






เป็นที่ทราบกันอยูว่า พระอภัยมณีนั้น เป็นนนักดนตรีมีฝีมือคนหนึ่ง เป่าปี่ได้ไพเราะอย่างหาตัวจับยากทีเดียว ในวงการดนตรีนั้น นับพระอภัยมณีเป็น “คนปี่” มีปี่เป็นเครื่องดนตรีคู่กาย ดังได้ทราบกันทั่วไปแล้ว

ก่อนอื่น จะขอเล่าเรื่อง “ปี่” ไว้ดังนี้ คือ ปี่ไทยนั้นมีหลายชนิด ได้แก่ ปี่ใน ปี่กลาง ปี่นอกต่ำ ปี่ชวา ปี่มอญ และปี่ไฉน แต่ละชนิดใช้ในโอกาสต่างๆกันดังนี้ ปี่ในใช้บรรเลงทางใน ปี่กลางใช้บรรเลงทางกลาง ปี่นอกต่ำใช้บรรเลงในทางนอก ปี่ชวาใช้บรรเลงในทางชวา ปี่มอญใช้บรรเลงในทางเพียงออ ปี่ไฉนใช้บรรเลง ในทางเพียงออ (เฉพาะในงานพระราชพิธี)

“ปี่” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 มีความดังนี้
ปี่ น. เครื่องดนตรีประเภทเป่าลมอย่างหนึ่งที่ใช้ลิ้น ตัวปี่หรือเลาปี่มักทำด้วยไม้แก่น เช่น ไม้ชิงชัน ไม้พะยุง มีลักษณะค่อนข้างยาว ป่องตรงกลาง หัวท้ายบานออกเล็กน้อย ภายในเลาปี่เจาะรูกลวงตลอดตั้งแต่หัวจดท้าย มีหลายชนิด เช่น ปี่นอก ปี่ใน ปี่ไฉน ปี่ชวา

“ปี่นอก” เป็นปี่ที่เล็กที่สุดในบรรดาปี่ 4 ชนิดที่ใช้ในวง ปี่พาทย์ (ชื่อเรียกวงดนตรีไทยที่มี ปี่, ฆ้อง, กลอง, ตะโพน ผสมกัน ขนาดของวงดนตรีไทยแบบนี้มี 3 ขนาด คือ ปี่พาทย์เครื่อง 5 อันเป็นวงปี่พาทย์ที่ประกอบด้วยปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน กลองทัด และฉิ่ง ขนาดที่สอง ปี่พาทย์เครื่องคู่ อันมีปี่ใน ปี่นอก ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก กลองทัดและฉิ่ง ขนาดที่สามคือ ปี่พาทย์เครื่องใหญ่ มีปี่ใน ปี่นอก ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก กลองทัด และฉิ่ง แต่บางทีฉาบเล็ก ฉาบใหญ่ และฆ้องโหม่งผสม)

“ปี่ใน” รูปร่างคล้ายปี่นอก แต่เป็นปี่ที่มีขนาดใหญ่สุด ยาวประมาณ 41-42 ซม. กว้าง 4.5 ซม. เป็นปี่ที่ใช้กันมากที่สุดด้วย

“ปี่ไฉน” เป็นปี่ที่มีขนาดเล็กมาก ยาวในราว 19 ซม. นิยมทำด้วยไม้หรืองา แบ่งออกเป็น 2 ท่อน ถอดออกจากกันได้ ท่อนบนเรียกว่า เลาปี่ ท่อนล่างเรียกว่า ลำโพง มีลิ้นทำด้วยใบตาลผูกติดกับปลายท่อลมเล็กที่เรียกว่า กำพวด

“ปี่ชวา” เป็นปี่ที่ได้แบบมาจากชวา รูปร่างลักษณะทุกอย่างคล้ายกับปี่ไฉน แต่มีขนาดยาวกว่า

นอกจากนี้ยังมี “ปี่กลาง” คล้ายปี่นอกยาว 37 ซม. และกว้าง 4 ซม. “ปี่นอกต่ำ” ก็มีรูปร่างคล้ายปี่นอกเหมือนกัน มีความยาว 34 ซม. กว้าง 3.5 ซม. และ “ปี่อ้อ” เป็นปี่ที่ลำตัวหรือที่เรียกว่า เลา ทำจากไม้รวกปล้องเดียว ไม่มีข้อ ยาว 24 เซนติเมตร ตามลำตัวนิยมใช้ไฟหรือตะกั่วร้อน ๆ ลนให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ตอนหัวและท้ายของเลาปี่ มักใช้ทองเหลืองหรือเงิน เลี่ยมไว้เพื่อกันแตก และชวนดูเป็นความสวยงาม


ส่วนพระอภัยมณีนั้น มีหลักฐานว่า ปี่คู่มือที่ใช้เป็นปี่ใน ซึ่งเป็นปี่ที่สามารถเป่าให้ผู้ฟังหลับใหลได้ และในวงการเพลงไทย การเดี่ยวปี่ก็ใช้ปี่ในเดี่ยวเท่านั้น ไม่เคยปรากฎว่าใช้ปี่นอกเลยสักครั้งเดียว ส่วนปี่นอกซึ่งมีขนาดเล็กกว่าปี่ในใช้ประกอบการบรรเลงในวงปี่พาทย์เครื่องคู่ และปี่พาทย์เครื่องใหญ่เท่านั้น เข้าใจว่า พระอภัยมณี เป่าปี่ในให้นางผีเสื้อสมุทรฟังจนขาดใจตาย ด้วยบทเพลงที่ชื่อว่า “พัดชา” นั่นเองซึ่งมีเนื้อเพลงปี่ว่าดังนี้





ปี่มอญ ด้านบนสุด ปี่ในตรงกลาง ปี่ชวาล่างสุด



“แล้วทรงเป่าปี่แก้วให้แจ้วเสียง สอดสำเนียงนิ้วเอกวิเวกหวาน

พวกโยธีผีสางทั้งทางมาร ให้เสียวซ่านซับซาบวาบหัวใจ

แต่เพลินฟังนั่งโยกจนโงกหงุบ ลงหมอบซุบซวนซบสลบไสล

พอเสียงปี่ที่แหบหายลงไป ก็ขาดใจยักษ์ร้ายวายชีวา”

อีกตอนหนึ่งที่พระอภัยมณีเป่าปี่ให้พราหมณ์ทั้งสามฟังจนเพลินๆ แล้วในที่สุดก็ถูกนางผีเสื้อสมุทรลักพาตัวไป ซึ่งมีเนื้อเพลงปี่ว่าดังนี้



“ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย ยังไม่เคยเชยชิดพิศมัย

ถึงร้อยรสบุบผาสุมาลัย จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย

พระจันทร์จรสว่างกลางโพยม ไม่เทียมโฉมนางงามเจ้าพราหมณ์เอ๋ย

แม้นได้แก้วแล้วจะค่อยประคองเคย ถนอมเชยชมโฉมประโลมลาน”








แล้วพระอภัยมณีได้บรรเลงเพลงปี่เพื่อเรียกสินสมุทรด้วยเนื้อเพลงที่ว่า




“พระเป่าปี่เปิดเสียงสำเนียงเอก เสนาะดังฟังวิเวกกังวานหวานน

ละห้อยหวนครวญเพลงบรรเลงลาน โอ้สงสารสุริย์ฉายจะบ่ายคล้อย

พี่คลาดแคล้วแก้วตามาว้าเหว่ ท้องทะเลแลเปล่าให้เศร้าสร้อย

ป่านนี้น้องสองคนกับลูกน้อย จะล่องลอยไปอยู่หนตำบลใด

เรื่อยๆเฉื่อยวายุพัดแผ้ว เหมือนเสียงแก้วกลอยจิตพิสมัย

หอมรวยรวยสวยชื่นรื่นฤทัย เหมือนใกล้ใกล้เข้ามาแล้วแก้วพี่เอย

เขาบอกว่ามาในลำเรือกำปั่น หรือสุวรรณมาลีเจ้าพี่เอ๋ย

สินสมุทรไม่มาหาบิดาเลย พ่อจะเชยใครเล่าเจ้าพ่ออา

แม้นอยู่ลำกำปั่นเหมือนมั่นหมาย จงแหวกว่ายสายสมุทรผุดมาหา

แล้วหอมหวนชวนโหยโรยชวา พระแกล้งว่าไปในเพลงวังเวงใจ”





อีกตอนหนึ่งที่เพลงปี่ไพเราะลึกซึ้งกินใจยิ่งนัก นั้น เป็นตอนที่พระอภัยมณีเป่าปี่เรียกนางละเวงวัณฬา ซึ่งมีบทเพลงปี่ว่าดังนี้



“ต้อยตะริดติ๊ดตี่เจ้าพี่เอ๋ย จะละเลยเร่ร่อนไปนอนใหน

แอ่อี๋อ๋อยสร้อยฟ้าสุมาลัย แม้นเด็ดได้แล้วไม่ร้างให้ห่างเชย

ฉุยฉายชื่นรื่นรวยระทวยทอด จะกล่อมกอดกว่าจะหลับกับเขนย

หนาวน้ำค้างพร่างพรมลมรำเพย ใครจะเชยโฉมน้องประคองนวล

เสนาะดังวังเวงเป็นเพลงพรอด เสียงฉอดฉอดชดช้อยละห้อยหวล

วิเวกแว่วแจ้วในใจรัญจวน เป็นความชวนประโลมโฉมวัณฬา”



ส่วนคำถามที่ว่า พระอภัยหัดเป่าปี่มาจากใคร และทำไม่พระอภัยจึงเป่าปี่ ทำไมไม่เป่าขลุ่ย หรือสีซอ หรือตีระนาดเล่า เรื่อ่งนี้ท่านผู้รู้หลายท่านลงความเห็นตรงกันว่า สุนทรภู่น่าจะนำแนวคิดนี้มาจากพงศาวดารจีนเรื่อง “ไซ่ฮั่น” ซึ่งพระเอกในเรื่องที่ชื่อว่า “เตียวเหลียง” นั้น มีความสามารถเป่าปี่อย่างเยี่ยมยอดทีเดียว คือ เตียวเหลียงสามารถเป่าปี่ปลุกระดมไพร่พลทหารทั้งปวงให้ทอดทิ้งพระเจ้า ฌ้อปาอ๋อง จนทำให้ต้องพ่ายแพ้แก่ พระเจ้า ฮั่นอ๋อง ในการทำศึกได้นั่นเอง เพลงปี่ของเตียวเหลียงที่เป่าในเรื่อง”ไซ่ฮั่น” นั้นมีความหมายว่าดังนี้



“เสียงเป่าปี่อยู่บนภูเขาเป็นเพลงว่า เดือนยี่ฤดูหน้าหนาว น้ำค้างตกเย็นทั่วไปทั้งสี่ทิศ จะดูฟ้าก็สูง แม่น้ำก็กว้าง ฤดูนี้คนทั้งปวงได้ความเวทนานัก ที่จากบ้านเมืองมาต้องทำศึกอยู่นั่น บิดามารดาและบุตรภรรยาอยู่ภายหลัง ก็ยืนรอคอยอยู่แล้ว ถึงมีเรือกสวนและไร่นาก็ทิ้งรกร้าง ไม่มีผู้ใดจะทำ เพื่อนบ้านที่เขาไม่ต้องไปทัพอยู่พรักพร้อมกัน ที่บิดามารดาแก่ชราอยู่ก็จะเจ็บป่วยล้มตายเสีย หาได้เห็นใจบิดามารดาไม่ และตัวเล่าก็ต้องมาทำศึกอยู่ฉะนี้ ถ้าเจ็บป่ายล้มตายลง ก็จะกลิ้งอยู่กลางแผ่นดินแต่ผู้เดียว บุตรภริยาและญาติพี่น้อง ก็มิได้ปรนนิบัติรักษา เป็นผีหาญาติมิได้ ถ้าแต่งตัวออกรบครั้งใด ก็มีแต่ฆ่าฟันกัน กระดูกและเนื้อถมแผ่นดินลงทุกครั้ง ดูเห็นทีน่าสังเวชนัก ท่านทั้งปวงก็เป็นมนุษย์มีสติปัญญาอยู่ทุกคน เร่งคิดเอาตัวรอดไปบ้านช่องของตัวเองเถิด….”



ข้อสันนิษฐานี้ จะชัดเจนยิ่งขึ้น ถ้ามาพิจารณาตอนที่ พระอภัยเป่าปี่ห้ามทัพเข้าตีเมืองลังกาครั้งแรกด้วยเนื้อเพลงปี่ที่ว่า



“วิเวกหวีดกรีดเสียงสำเนียงสนั่น คนขยั้นยืนขึงตะลึงหลง

ให้หวิววาบซาบทรวงลงง่วงงง ลืมณรงค์รบสู้เงี่ยหูฟัง

พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง

ว่าจากเรือนเหมือนนกมาจากรัง อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย”

“วิเวกแว่วแจ้วเสียงสำเนียงปี่ พวกโยธีทิ้งทวนชนวนเขนง

ลงนั่งโยกโงกหงับทับกันเอง เสนาะเพลงเพลินหลับระงับไป

จังหรีดหริ่งสิงห์สัตว์สงัดเงียบ เย็นระเยียบหย่อมหญ้าพฤกษาไสว

น้ำค้าพรมลมสงัดไม่กวัดไกว ทั้งเพลิงไฟโซมซาบไม่วาบวู”







พ.ต.ท.สุรพงษ์ เหมือนเผ่าพงษ์ รอง ผกก.หน.สภ.ต.บ้านกร่ำ จ.ระยอง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจอปี่พระอภัยมณี ที่ถูกมือดีขโมยไปแล้ว โดยได้รับแจ้งจากคนเก็บของเก่าที่ไปคุ้ยขยะบริเวณบ่อทิ้งขยะของเทศบาล ซึ่งอยู่ห่างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ประมาณ 2 กิโลเมตร คาดว่า คนร้ายที่ขโมยไปน่าจะเกรงกลัวความผิด หลังเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตจึงนำไปทิ้งดังกล่าว


















 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2551
7 comments
Last Update : 21 พฤษภาคม 2551 0:00:15 น.
Counter : 3995 Pageviews.

 

กำลังอ่านไปเพลินๆ อยู่ๆได้ยินเสียง เบื่อๆๆ ร้อนๆ ต๊กใจหมดเลยค่ะ
นึกว่าใครมาพูดภาษาไทยแถวบ้านอีก
มองหน้าบ๊อบบี้ หาต้นเสียงมาจากไหน
ที่แท้ก็มาจากบล็อกฮันนี่นี่เอง
+++++++++++
แบบนี้ต้องดำเนินคดีนะค่ะ เพราะขโมยสินทรัพย์ของประเทศชาติ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 21 พฤษภาคม 2551 0:12:19 น.  

 

ไม่รู้จะเอาไปทำไมนะคะ เอาไปแล้วก็เอาไปทิ้งขยะ สงสัยผีเสื้อสมุทรแอบเข้าฝันไปบีบคอ

 

โดย: Picike 21 พฤษภาคม 2551 0:53:42 น.  

 

สงสัยคนเอาไปกะจะเอาไปเป่าให้ผีเสื้อสมุทรที่บ้านหูแตกตายมั้ง 55+

 

โดย: น้ำพลอย^^ (น้ำพลอย ) 21 พฤษภาคม 2551 1:10:46 น.  

 

อ่านข่าวแล้วผมก็ฮาคับลูกเพ่
คนเราเด๋วนี้มันพิลึก
ผมว่าน่าจะเป็นที่สื่อด้วยคับ ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ
ตอนแรกนึกว่าจะเอาไปขูดๆ หามวลสารไปสร้างวัตถุมงคลด้วยซ้ำ 555+

ปล.ชอบลูกเพ่จัง เกร็ดที่เอามาเพิ่มจากหัวข้อบล็อกแต่ละอัน ความรู้ๆ ทั้งนั้นเลยค้าบ

 

โดย: Nagano 21 พฤษภาคม 2551 2:07:21 น.  

 

ดีใจด้วยค่ะที่ได้ปี่พระอภัยคืนมาแล้ว

พี่ก็ลุ้นแทยแย่ที่อเมริกาว่าจะได้คืนหรือไม่

เพลงได้ใจมากเลยค่ะ พี่หาฟังไม่ได้เลยที่อเมริกา

 

โดย: jiney (สวยตลอดกาล ) 21 พฤษภาคม 2551 6:05:11 น.  

 

oh my god

 

โดย: yumi_lung 21 พฤษภาคม 2551 14:34:37 น.  

 

That is a good news ka.

 

โดย: CrackyDong 21 พฤษภาคม 2551 16:51:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.