|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
11 พฤษภาคม 2554
|
|
|
|
7 Q&A คนอยากมีลูก
Q: ทำไมแต่งงานมาหลายปี แต่ไม่ท้องสักทีคะ A: หากคู่สามีภรรยามีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอสัปดาห์ละประมาณ 3 ครั้งนานเกิน 1 ปี โดยไม่คุมกำเนิด แล้วไม่ตั้งครรภ์ ถือว่าเข้าข่ายมีบุตรยาก อาจมีความผิดปกติในฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง เช่น ท่อนำไข่อุดตัน ไข่ไม่ตก เป็นซิสท์ที่รังไข่ หรือเชื้ออสุจิน้อย เป็นต้นครับ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมครับ
Q: วิธีการรักษาทำอย่างไรคะ A: วิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากมีหลายวิธีครับ เริ่มจากวิธีง่ายๆ เช่นกำหนดวันไข่ตกให้มีเพศสัมพันธ์เอง หรือทำการคัดเชื้ออสุจิ ไปจนถึงวิธีการทำกิฟท์ ทำอิ๊กซี่ ทำเด็กหลอดแก้ว และวิธีบลาสโตซิสท์คัลเจอร์ ซึ่งเป็นการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายนอกร่างกายนาน 5 วัน จนตัวอ่อนเติบโตถึงระยะฝังตัว แล้วค่อยใส่ตัวอ่อนกลับคืนสู่โพรงมดลูกให้ตั้งครรภ์ การจะเลือกใช้วิธีการใดในการรักษานั้นขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ป่วย เช่นถ้าท่อนำไข่อุดตัน ก็ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีฉีดเชื้อ หรือกิ๊ฟท์ ได้ครับ ต้องทำเด็กหลอดแก้ว หรือ บลาสโตซิสท์คัลเจอร์
Q: แล้วโอกาสสำเร็จสูงแค่ไหนคะ A: โอกาสความสำเร็จของผู้ป่วยแต่ละรายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุของฝ่ายหญิง สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก และวิธีการรักษา เช่นถ้าฝ่ายหญิงอายุมากแล้ว การกระตุ้นไข่ก็จะยากกว่าผู้หญิงอายุน้อย หรือถ้าเชื้ออสุจิน้อยมากแล้วทำการช่วยปฏิสนธิด้วยวิธีอิ๊กซี่โอกาสสำเร็จก็จะสูงขึ้นเป็นต้น
Q: เด็กที่เกิดจากการรักษา มีโอกาสผิดปกติสูงกว่าธรรมชาติใหมคะ A: จากการศึกษายาวนานกว่า 30 ปี อัตราความผิดปกติหรือพิการแต่กำเนินนั้นไม่ แตกต่างกันกับธรรมชาติครับ แต่การที่เราเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายนอกนาน 5 วัน จนตัวอ่อนมีการเติบโตถึงระยะที่มีเซลล์เป็นจำนวน 120-150 เซลล์ (ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสท์) เราสามารถนำเซลล์ของตัวอ่อนจำนวน 5-10 เซลล์ออกมาตรวจวินิจฉัยโครโมโซมได้ หากเราตรวจพบว่าตัวอ่อนตัวใดเป็นดาวน์ซินโดรม เราก็จะไม่ใส่กลับคืนให้ ดังนั้นเราจึงสามารถคัดเลือกตัวอ่อนสำหรับใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูกได้ครับ
Q: ถ้าหากผู้หญิงอายุมากแล้ว ยังไม่แต่งงาน เราสามารถเก็บแช่แข็งเซลล์ไข่ไว้ได้หรือไม่คะ A: ปัจจุบันเราสามารถเก็บแช่แข็งได้ทั้ง เซลล์ไข่ อสุจิ และตัวอ่อนครับ และสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเป็นสิบปี การแช่แข็งไข่สามารถทำได้โดยการกระตุ้นรังไข่ให้มีเซลล์ไข่เกิดขึ้นจำนวนมาก แล้วทำการเจาะเก็บไข่ออกมาเพื่อทำการแช่แข็งไข่เอาไว้ เมื่อต้องการมีบุตรก็สามารถละลายไข่ออกมาปฏิสนธิกับอสุจิเพาะเลี้ยงเป็นตัวอ่อน แล้วใส่ตัวอ่อนกลับคืนสู่โพรงมดลูกให้ ก็จะสามารถตั้งครรภ์ได้ครับ เช่นเดียวกันกับคนไข้ที่รักษาภาวะมีบุตรยากแล้วมีตัวอ่อนหลายตัว บางครั้งใส่กลับคืนเพียง 1-2 ตัวอ่อนเท่านั้น ตัวอ่อนที่เหลือสามารถแช่แข็งเก็บไว้ได้ หากตั้งครรภ์และคลอดบุตรไปแล้ว อีก 2-3 ปีต่อมาสามารถละลายตัวอ่อนออกมาใส่กลับคืนให้ตั้งครรภ์ได้อีกครับ
Q: การอุ้มบุญสามารถทำได้ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่คะ A: การอุ้มบุญสามารถทำได้ครับหากมีข้อบ่งชี้ว่าฝ่ายหญิงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เอง เช่น ถูกตัดมดลูกไปแล้ว หรือมดลูกมีความผิดปกติ แต่การที่จะหาคนมาอุ้มบุญนั้นต้องไม่เป็นการว่าจ้าง หรือให้ค่าตอบแทน ต้องเป็นญาติพี่น้องที่เต็มใจช่วยเหลือกัน และตามกฏหมายปัจจุบันเด็กที่เกิดมาจะเป็นบุตรของหญิงที่อุ้มท้อง แม่ตามพันธุกรรมต้องทำการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมหลังจากทารกคลอดออกมาแล้ว จนกว่ากฏหมายอุ้มบุญจะบังคับใช้ครับ
Q: มีความเสี่ยงอะไรบ้างคะจากการรักษาภาวะมีบุตรยาก A: ความเสี่ยงที่พบได้บ่อยคือการเกิดทารกแฝดครับ เพราะมารดาจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆระหว่างตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น และการตั้งครรภ์แฝดยังเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย หากเป็นแฝดมากกว่าสองยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นอีก ดังนั้นปัจจุบันจึงพยายามจำกัดจำนวนตัวอ่อนที่จะใส่กลับคราวละ 1-2 ก็เพียงพอ เพราะตัวอ่อนที่เหลือเรายังสามารถแช่แข็งเก็บเอาไว้ใช้ได้อีกครับ ปัจจุบันการตั้งครรภ์แฝดคราวละมากๆจึงลงลดครับ
Create Date : 11 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2554 11:18:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 458 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
DR.TONGTIS |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
B.Sc. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1974-1978. M.D. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1979-1980. Diploma Board of Obstetrics and Gynecology. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1981-1983. Postdocteral Fellow Training. Queen's Mother Hospital, Glasgow Scotland. Postdocteral Fellow Training.King's College Hospital, London. UK. Postdocteral Fellow Training. Department of Obstetrics and Gynecology and Department of Radiology. John Hopkins Hospital, John Hopkins University.
|
|
|
สุขภาพ
การดูแลสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ
ออกกำลังกาย
สุขภาพผู้หญิง
สุขภาพผู้ชาย
สุขภาพจิต
โรคและการป้องกัน
สมุนไพรไทย
ผู้หญิง
ศัลยกรรม
ความสวยความงาม
แม่ตั้งครรภ์
ทารกแรกเกิด
เด็ก
ครอบครัว