|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
5 ปัจจัยที่บอกว่าเขาคือคนที่ใช่
| | | |
จะรู้ได้อย่างไรว่า ใช่ เขาหรือเปล่า เอาอะไรมาเป็นเครื่องวัด ปัญหานี้ตอบง่ายมากค่ะ เพราะนักวิจัยรวมถึงนักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาวิเคราะห์กันมานานหลายทศวรรษแล้วว่า มีปัจจัย 5 ประการที่ช่วยบอกเราได้ นั่นคือ ปฏิกิริยาเคมีระหว่างกัน ความเข้ากันได้ เป้าหมายทั่วไป ก้าวเดินของชีวิต และจังหวะชีวิต
1. ปฏิกิริยาเคมีระหว่างกัน แค่สบตาแว่บแรกก็สปาร์คเสียแล้ว เกิดจิตปฏิพัทธ์สเน่หาขึ้นมาเต็มอก รู้สึกวูบวาบหนาวๆร้อนๆราวกับเป็นไข้ นั่นแหละปฏิกิริยาเคมี อาการแบบนี้มักเกิดแบบเฉียบพลันทันใด ไร้เหตุผล และสติสตังไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้ควบคุมจิตใจไม่ค่อยได้ ความคิดคอยวนเวียนอยู่แต่ว่าทำอย่างไรจึงจะพาตัวเราเข้าไปอยู่ใกล้เขาให้ได้มากที่สุด ถ้าปิ๊งกับหนุ่มโสดก็ดีไป แต่ถ้าไปปิ๊งกับสามีเพื่อนก็แย่หน่อย คงต้องมานั่งทำใจเอาเอง
อาการปิ๊งกันแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าความสัมพันธ์จะเจ๋งสุดยอด แต่เป็นพื้นฐานสำหรับความสุขของชีวิตคู่ในระยะยาว ซึ่งถ้าไม่มีปฏิกิริยาเคมีระหว่างกันตั้งแต่เริ่มแรก ยิ่งอยู่กันไปก็มีแต่ความจืดชืดแน่นอน เราจะมีปฏิกิริยาเคมีต่อกันก็เมื่อ
เราพบว่าหนุ่มคู่ใจของเราช่างมีเสน่ห์เร้าใจอะไรเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาของเรา ราวกับเกิดมาเพื่อเราเท่านั้น เวลาอยู่กับเขารู้สึกเหมือนเมานิดๆ ต่อให้มีคนแออัดยัดทะนานเต็มห้อง เราก็ยังรู้สึกเหมือนอยู่กันตามลำพัง เพราะส่งสายตาจับจ้องกันและกันเท่านั้น เรารู้สึกเหมือนมีเสียง คลิก ดังอยู่ในหัว แถมสัญชาตญาณในส่วนลึกยังร่ำร้องกู่ก้องว่า นี่ละ ใช่เลย! เราและเขามีเซ็กส์กันบ่อยมาก ..ก... ยิ่งตอนเจอกันครั้งแรก แทบจะกระโดดฉีกทึ้งเสื้อผ้ากันและกันถ้าไม่เกรงใจว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย
2. ความเข้ากันได้ คู่รักบางคู่มีปฏิกิริยาเคมีรุนแรงปานพายุถล่ม แต่ทั้งคู่แตกต่างกันอย่างมาก ประมาณว่าคนหนึ่งเป็นนักเรียนแพทย์ อีกคนเป็นสาวเสิร์ฟ ซึ่งความสัมพันธ์มักมีปัญหา ความเข้ากันได้หรือความใกล้เคียงกันมักเกี่ยวเนื่องมาจากประสบการณ์ในอดีต ภูมิหลังชีวิต และความคาดหวังในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า เราจะรู้สึกอึดอัดหรือสบายอกสบายใจเมื่ออยู่กับอีกฝ่าย ความแตกต่างกันมากเกินไปรังแต่จะสร้างปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น รสนิยมในการกินข้าวดูหนังฟังเพลง ใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็ดูออกว่าเข้ากันได้หรือเปล่า แต่ถ้าหมายถึงชีวิตคู่ที่ต้องอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าคงต้องใช้เวลาดูนานหลายปี ของแบบนี้ไม่ใช่มองออกกันง่ายๆซะเมื่อไร สาเหตุที่คนมักเลิกรากันมากที่สุดก็คือ คาดหวังอะไรไม่เหมือนกัน เราหลงรักเขาตอนไปปิ๊งกันบนเกาะแสนสวยล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว แต่พอมาเจอกันในชีวิตจริงลมแทบจับ เขาเป็นหนุ่มออฟฟิศทำงานแบงค์ กินข้าวกับแม่ทุกเย็นวันพุธ เตะฟุตบอลกับเพื่อนทุกวันอาทิตย์ เจอแบบนี้ก็คงหมดอารมณ์ไปเลย
3. เป้าหมายทั่วไป เมื่อพูดถึงเป้าหมายทั่วไปในชีวิต คนมักคิดถึงการเลือกซื้อบ้านกับการมีลูก ของแบบนี้มันเรื่องธรรมดา คู่รักมักคล้อยตามกันไปได้ง่าย เรื่องที่ตื่นเต้นกว่าและยากกว่าก็คือ การออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน การวางแผนเดินทางไปเที่ยวไกลๆ ลองมานั่งคิดกันดูว่า มีความต้องการหรือรสนิยมอะไรที่ตรงกันบ้าง ถ้ามีตรงกับสี่ข้อข้างล่างนี้ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เราและเขาเป็นทีมที่เข้าขากันดี สมมติว่าถ้าคนหนึ่งลุกขึ้นเลือกวิดีโอ อีกคนก็จะรับหน้าที่เตรียมไวน์และจัดของหวาน เราและเขามักให้ความสำคัญกับวันพิเศษ เช่น วันครบรอบหรือวันเกิด ต้องมีการเตรียมการจัด คืนพิเศษ เอาไว้ทุกครั้ง เราและเขาโปรดปรานการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ด้วยการมอบของขวัญที่ผู้รับไม่ได้คาดหมายมาก่อน หรือโทรศัพท์พูดคำหวานในยามที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง เราและเขาพยายามคงความสัมพันธ์ให้สดใหม่และตื่นเต้น ด้วยการชวนกันหาอะไรแปลกใหม่ทำกันอยู่เรื่อย
4. ก้าวเดินของชีวิต ปฏิกิริยาเคมีก็พุ่งปรี๊ด เข้ากันได้แทบทุกเรื่อง แถมเป้าหมายทั่วไปก็ยังตรงกันอีกบานพะเรอ แล้วยังจะมีปัญหาอะไรอีก ปัญหาคือก้าวเดินของชีวิตเราและเขาแตกต่างกันหรือไม่ เราเป็นคนคิดเร็ว เคลื่อนไหวเร็ว วันๆมีโครงการร้อยล้านอยู่เต็มหัว ชีวิตชุลมุนชุลเกขนาดคอหนีบโทรศัพท์ในขณะพิมพ์คอมพิวเตอร์ไปด้วย วิ่งวุ่นทำงานทั้งวันแทบจะนั่งติดแต่ละครั้งได้ไม่เกินห้านาที เพื่อกรุยทางสู่ตำแหน่งผู้บริหารไห้ได้ภายใน 5 ปี ตามที่ตั้งเป้าไว้ หากเราไม่ใช่คนประเภทนี้แต่ต้องมาอยู่กับคนแบบนี้ ชีวิตคู่ย่อมไม่สดใสแน่ ก้าวเดินของชีวิตมีนัยอีกอย่างคือ ความทะเยอทะยานนั่นเอง ถ้าเราตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีเงินเดือนเป็นเลขหกหลักให้ได้ นั่นหมายถึงการอุทิศชีวิตและเวลาเพื่องานจริงๆ ดังนั้นคู่ของเราจะต้องเข้าใจและคอยสนับสนุน มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่แน่นอน เราและเขามีความทะเยอทะยานประมาณเดียวกันหรือเปล่า ดูได้จาก พลังงานของเราและเขาอยู่ในระดับเท่าเทียมกันไม่ว่าจะทำอะไร เช่น ชอบนอนขลุกดูทีวีด้วยกันทั้งวัน หรือชอบออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาข้างนอกมากกว่า มีทัศนคติในการทำงานเหมือนกัน คือให้ความสำคัญกับการทำงานเท่ากัน เราและเขาคิดและพูดด้วยระดับความเร็วเดียวกัน เราและเขาต้องการเวลาส่วนตัวและความตื่นเต้นในปริมาณและสัดส่วนพอๆกัน
5. จังหวะชีวิต เราและเขามีปัจจัยสี่ข้อครบถ้วน ทั้งปฏิกิริยาระหว่างกัน ความเข้ากันได้ เป้าหมายทั่วไป และก้าวเดินของชีวิต แต่จังหวะชีวิตไม่ลงล็อคนี่สิ เกิดเรื่องเลยละ จังหวะชีวิตที่ผิดที่ผิดเวลาดูได้จาก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพิ่งเลิกรากับรักเก่าซึ่งครองรักกันมานานแนบแน่น การพุ่งตรงเข้าหารายใหม่ จึงเป็นเรื่องไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง งานกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องให้เวลามุ่งมั่นกับงาน มีเรื่องที่ยังค้างคา คือยังกำจัดรักเก่าออกจากสาระบบชีวิตได้ไม่หมดจด หรือยังเยียวยาแผลใจไม่หายสนิท ยังไม่พร้อมผูกมัด เรายังรู้สึกว่ามีสิ่งที่ต้องทำอีกมากก่อนที่จะลงหลักปักฐานร่วมใช้ชีวิตกับใคร
**ขอบคุณข้อมูลจาก web msn ค่ะ**
| | | | |
Create Date : 02 กรกฎาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2551 14:26:46 น. |
Counter : 500 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|