ตุลาคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
[How to] makeup transformation : the Past Simple Threat 01 แดร็กคูล่า (Dracula) จากเบาไปหาหนัก
 สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆทุกคน น้อยหนึ่งมาแล้วจ้า คิดถึงกันป่าว อิอิ เอาหละ วันนี้จะมาแต่งหน้าแบบที่จัดเต็มและหลากหลายมากๆ ฉะนั้น อย่ารอช้าอยู่เลย ไปกันเลยจ้า



อย่างที่ทราบกันว่า ช่วงที่ใกล้ๆฮาโลวีน หนึ่งก็จะแต่งหน้าเป็นเซตของอะไรซักอย่าง เพื่อเป็นโจทย์ประจำเดือนแห่งความสยองขวัญนี้ ซึ่งโจทย์ของปีนี้ก็คือ ...



the Past Simple Threat นั่นเอง แปลยังไงดี 555 อารมณ์แบบ "ภัยคุกคามที่ไม่ซับซ้อนจากอดีต" (แปลได้กำปั้นทุบดินมาก55) จริงๆแล้วก็คือ คาแรคเตอร์ในหนังสยองขวัญวินเทจนั่นแหละ ซึ่งในสมัยก่อนตัวละครในหนังแนวนี้ก็จะอิงมาจากนิยายซะเยอะ ดูเป็นผีโบราณที่คลาสสิคไปแล้ว คำว่า simple หนึ่งสื่อถึงความง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แบบพูดแล้วอ๋อเลย ทุกคนเคยเห็น มีภาพในใจของตัวละครเซตนี้แน่นอน อยากรู้แล้วใช้มั้ยว่าตัวแรกจะเป็นตัวอะไร



เปิดเซตนี้ด้วย แดร็กคูล่า (Dracula) ซึ่งจริงๆแล้วท่านเคาท์แดรกคิวล่า ก็คือแวมไพร์ตัวนึงที่มีชื่อเสียง มีชีวิตอยู่จริงๆ ภายหลังมีคนนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยาย ก็เลยดังขึ้นมา(ถ้าสมัยนี้ก็ต้องทไวไลท์สินะ55) โดยตัวละครตัวนี้ถูกทำเป็นหนังหลายเรื่อง และถูกตีความคาแรคเตอร์ให้ต่างกันออกไปหลายแนวมากๆ ฉะนั้น แบบการแต่งหน้าที่เป๊ะๆนั้นอาจจะไม่มี หนึ่งเลยแต่งลุคนี้ขึ้นมาจากภาพของแดร็กคูล่าที่หนึ่งคุ้นเคย ซึ่งก็จะมีทั้งแบบยังดูเบาและดุร้ายแบบหนักๆ เอาหละ ไปดูกันเลยครับ



แต่ก่อนที่จะกลายเป็นแดร็กคูล่านั้น อยู่ๆจะเป็นเลยไม่ได้ เราจะต้องโดนดูดเลือดซะก่อน 555 เป็นเรื่องเป็นราว มาลองแต่งรอยดูดเลือดหรือรอยเขี้ยวกันดูนะครับ รับรองไม่ยากเลย





ก่อนอื่นก็ต้องร่างตำแหน่งเขี้ยวก่อน แล้วใส่ความลึกของเขี้ยวด้วยอายไลเนอร์สีดำ จากนั้นค่อยๆเติมสีรอบๆรอยเขี้ยวให้เข้มขึ้นเรื่อยๆ ใช้อายชาโดว์โทนแดงและม่วงทำเหมือนรอยช้ำ และจบด้วยเลือดปลอมแบบที่แห้งแล้วแข็งตัว (อันนี้หนึ่งได้มา เกรงว่าจะไม่มีขายทั่วไป สามารถใช้ครีมสีแดงผสมกับดำแทนได้นะครับ) เท่านี้รอยกัดเราก็เรียบร้อย



โดนกัดซะแล้ว ฮือออ เจ็บอ่ะ ต้องกลายร่างแน่เลย 555 ลองเอาไว้เป็นไอเดียในการแต่งรอยกัดดูนะครับ เผื่อฮาโลวีนปีนี้ แต่งไปแต่งมา อาจจะโดนกัดจริงก็ได้นะ 555



มาเริ่มกลายร่างกันเลย ลงผิวด้วยไพรเมอร์ จากนั้นตามด้วยรองพื้นสีสว่างกว่าผิว(ทาหูด้วยนะ) เกลี่ยด้วยฟองน้ำก็จะเนียนขึ้นหน่อย



ไฮไลท์เบาๆด้วยรองพื้นสีขาว เกลี่ยๆกดๆให้เนียนแล้วเซตด้วยแป้งใสไม่มีสี



คอนทัวร์สันจมูก แก้ม กรอบหน้า ด้วยอายชาโดว์สีอมเทา เพื่อให้ดูผิวซีด ถ้าใช้บรอนเซอร์ปกติอาจจะดูมีชีวิตชีวาไปนิด



เขียนคิ้วให้เป๊ะปัง ด้วยอายชาโดว์สีเกือบดำ จากนั้นปัดมาสคาร่าคิ้วด้วยโทนสีใกล้ๆกัน



แดร็กคูล่าเวอร์ชั่นของหนึ่ง ตาจะสโมคกี้หน่อย ฉะนั้น รองสีเปลือกตาด้วยครีมซะก่อน สีจะได้ชัดเจน เริ่มจากสีอ่อนไปสีเข้ม วาดให้วงอายชาโดว์ขยายออกมาจากรูปตาหน่อย



จากนั้นตามด้วยแบบฝุ่น เซตเปลือกตาด้วยสีชมพูอ่อนๆ เติมความเข้มด้วยสีแดง และคัดมิติด้วยสีน้ำตาลเข้ม เกลี่ยให้ฟุ้งๆไม่เห็นขอบ



กรีดอายไลเนอร์แบบตวัดปลายเล็กน้อยแล้วจิกไปถึงหัวตาด้วย ลวงให้ตาดูยาวขึ้นดุขึ้น แล้วใช้อายชาโดว์สีดำคัดความเข้มตรงเบ้าเพิ่ม และปิดด้วยอายชาโดว์สีขาวที่ใต้ท้องคิ้ว



ไฮไลท์เพิ่มนิดนึงด้วยอายชาโดว์สีขาวและรองพื้นสีขาว หนึ่งเลือกจะไฮไลท์แบบแมท



ทาปากกันดีกว่า ทาให้ทั่วปากด้วยสีนู๊ดๆ จากนั้นใช้สีม่วงเข้ม(เกือบดำ) ทาครึ่งนึงด้านใน แล้วใช้คอนตอนบลัชเกลี่ยๆให้ไล่สีหากัน ก็จะได้ปากสีเข้มระเรื่อจากข้างในออกมาแบบนี้



ลงรองพื้นที่คอ ที่มือ และเซตด้วยแป้ง เปลี่ยนชุดแบบวินเทจๆ แล้วใส่คอนแทคเลนส์สีแดง เท่านี้ลุคแดร็กคูล่า (แบบเบาๆ) ก็เรียบร้อยแล้วจ้า









ก็เป็นลุคแดร็กคูล่า ที่ยังดูสวยๆอยู่ ยังไม่ได้กลายร่างแบบเต็มที่ ลุคนี้ผิวสามารถสว่างกว่าสีจริงได้เพราะเราซีด เราไม่โดนแดด 555 เลือกการคอนทัวร์ที่ใช้สีไม่ติดน้ำตาลมากนัก เพราะจะดูอุ่นเป็นผิวคน ไฮไลท์เลือกใช้เนื้อแมท ตาและปากจะเป็นสีที่ใกล้เคียงกัน คือจากชมพูอ่อนไล่ไปเข้ม ก็เป็นลุคที่รู้สึกว่าง่ายและน่าจะแต่งตามกันได้เนอะ เอาหละเบาไปแล้ว มาถึงหนักขึ้นบ้าง



หนึ่งตีความความหนักขึ้นด้วยอายุที่มากขึ้น คือจะดูแก่ประสบการณ์และดุร้ายมากขึ้น ฉะนั้น งานตีนกา งานผิวเหี่ยวก็ต้องมา ใช้สีเทาเดียวกับที่คอนทัวร์นั่นแหละ



คิ้วก็ลงสีดำทับไปเลยให้ดุขึ้นไปอีก เติมสีดำที่ตาให้เข้ม และเน้นๆตรงรอยลึกๆของใบหน้าด้วย



ใช้คอนซีลเลอร์กลบสีปากเดิมและใช้อายไลเนอร์ปากกาเขียนรอยย่นต่างๆ เอาเท่าที่อยากจะย่นไปเลย 555 คัดมิติต่างๆเพิ่มได้เลยตามใจ



ชุดเมื้อกี๊ว่าเต็มแล้ว ชุดนี้ต้องเต็มกว่า ประโคมเข้าไปเลย 555 ติดเล็บและเขียนรอยย่นที่มือเพิ่มหน่อย จากนั้นก็ติดเขี้ยวให้พี่แกนิดนึง แยยว่ายิ่งแก่ยิ่งดุ เขี้ยวยิ่งยาว 555 เรียบร้อยครับ (เขี้ยวเนี่ย จริงๆแล้วต้องมีขั้นตอนและอุปกรณ์เฉพาะในการติดนะครับ แต่หนึ่งไม่มี หนึ่งเลยใช้กาวดินน้ำมันกดลงไปในเขี้ยว และเอามาแปะบนฟัน 555 แปะๆไปพอโดนน้ำลายในปากก็จะหลุด ฉะนั้น นี่คือเขี้ยวที่แปะแค่ถ่ายรูปเท่านั้นเอง ถ้าใช้ชีวิตจริง หลุดตั้งแต่ยังไม่ออกไปไหนเลยจ้า)









เรียบร้อยครับ กับลึคแดร็กคูล่าแก่พรรษาของเรา 555 คือแก่ขึ้น ดุขึ้น แต่ทำไมดูขี้เมา ชวนดื่มตลอดๆ 555 ลุคนี้ก็เป็นการทำต่อจากลุคแรก โดยเพิ่มให้คิ้ว ตา ดูเข้มขึ้น เพิ่มรอยย่นให้มากขึ้น ลบสีปากออกและมีการเติมเขี้ยวและเล็บให้ดูเยอะขึ้น เป็นแดร็กคูล่าเวอร์ชั่นไม่ห่วงสวย เน้นน่ากลัวไปเลยครับ



ฮาวทูนี้พิเศษหน่อย ที่หนึ่งจะแปลงร่างกลับเป็นคนให้ดูด้วย 555 จริงๆก็คือ ล้างเมคอัพนั่นแหละ เรื่องของเรื่องคือ จากที่เพื่อนๆพี่ๆเห็นกันแล้วว่า ช่วงนี้ผิวหน้าหนึ่งยังไม่หายดีเท่าไร คือยังมีรอยจากการไปเลเซอร์และกดสิวอยู่บ้าง สภาพผิวหน้าตอนนี้ก็เหมือนจะบอบบางขึ้น แพ้ง่ายขึ้น เวลาใช้คลีนซิ่งก็ต้องระวังมากๆ ต้องให้อ่อนโยนแต่ต้องเอาอยู่ ซึ่งตัวนี้หนึ่งใช้ในชีวิตประจำวันมาซักพักแล้ว (เดือนนึงได้ครับ) ไม่เป็นสิวเพิ่ม เลยอยากมาแชร์ให้ดูกันนะครับ



Covermark Treatment Cleansing Oil เป็นน้ำมันทำความสะอาด ที่พอโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม ตัวนี้หนึ่งใช้ลงบนหน้าแห้งๆ นวดๆเบาๆแล้วลูบน้ำ แล้วนวดไปเรื่อยๆแล้วค่อยล้าง



ล้างให้เห็นภาพดีกว่า ดูหน้าพี่แดร็กของเราก่อนล้าง 555 มีความหนักสุดของเมคอัพ เดี๋ยวจะล้างครึ่งนึงก่อนละกัน จะให้เห็นชัดๆ หนึ่งกดมาประมาณ 4 ปั้ม จากนั้นก็นวดๆลงไปเลย



แตะน้ำนิดนึงแล้วนิดต่อ จะเป็นว่าหน้าเป็นสีเทาเลย 555 เพราะพวกอายไลเนอร์กันน้ำ นางละลายออกมาปนกะรองพื้น จากนั้นล้างน้ำเปล่า แล้วเรามาดูกัน



ครึ่งหน้าแบบชัดๆกันไปเลย จะเห็นว่าฝั่งที่ล้างไปแล้ว สีสันต่างๆหลุดออกมาหมด เอาหละอย่าปล่อยไว้เยี่ยงนี้เลย ล้างอีกข้างเถอะคุณ



ใช้ขั้นตอนเดียวกันเลย นวดๆลงบนหน้าแล้วลูบน้ำนิดๆ จากนั้นนวดๆจนเมคอัพละลายออกมาหมด แล้วจึงล้างน้ำเปล่า ความรู้สึกคือหน้าจะไม่แห้งตึงเท่าไร ใช้มาเดือนนึงแล้วสิวก็ไม่มาเยือนเพิ่ม คือชอบตัวนี้นะ เป็นออยล์ที่ไม่อุดตัน แต่เราไม่ได้ล้างตัวนี้แล้วจบนะ ตามประสาของเรา ที่เราติดการใช้โฟมล้างหน้าต่อจากออยล์



Covermark Mineral Wash เป็นโฟมล้างหน้าที่มีแร่ธาตุ (โคลน) ผสมอยู่ด้วย ทำให้ฟองเค้าจะนิ่มและตีออกมาได้เยอะ ถ้าใช้ควบคู่กับที่ตีฟองหรือหมั่นตีฟองก่อนล้าง จะสามารถได้ฟองโฟมแบบวิปครีมได้เลย ทำความสะอาดได้หมดจดดี แต่ที่หนึ่งชอบโฟมตัวนี้คือ เค้าเป็นโฟมที่ล้างเสร็จแล้วผิวไม่เอี๊ยด ไม่ฝืดๆเลย เหมือนยังให้ความชุ่มชื่นอยู่ เพราะจากสภาพผิวตอนนี้หนึ่งใช้โฟมที่ล้างแล้วเอี๊ยดไม่ได้เลย มันจะแดงๆขึ้นมาเลย



พอล้างด้วยออยล์เสร็จก็จะตามด้วยโฟม ติดฟองเบาๆก่อนแล้วก็ล้างปกติ อย่างที่บอกว่า ผิวหน้าจะไม่ตึงเอี๊ยด คือยังนิ่มๆอยู่



สรุปแล้วว่า สองตัวนี้หนึ่งใช้คู่กันมาเดือนนึงแล้ว (ออยล์พร่องไปเยอะเหมือนกัน 555) คือหนึ่งจะเป็นคนที่ไม่ค่อยเปลี่ยนขั้นตอนการล้างหน้า หรือพวก Cleansing เท่าไร แต่ด้วยไฟท์บังคับของสภาพผิวหน้าช่วงนี้ หนึ่งเลยต้องใช้ตัวที่อ่อนโยนมากขึ้นแต่ยังต้องทำความสะอาดเมคอัพหนักๆได้ดีอยู่ ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ ใครที่ผิวหน้าแพ้ง่าย ไปยิงเลเซอร์หรือกดสิวแล้วอยากใช้ตัวที่อ่อนโยนหน่อย Covermark สองตัวนี้น่าสนใจทีเดียวครับ



เป็นไงบ้างครับฮาวทูนี้เปิดเซต the Past Simple Threat คือจัดเต็มมากๆ หนึ่งคิดว่า เวลามีปาร์ตี้ฮาโลวีนหรือเวลาแต่งชุดแฟนซีเนี่ย ชุดเราสามารถเช่าได้ แต่บางคนก็อาจจะไม่อยากแต่งหน้าเต็ม (เพราะเดี๋ยวจะปาร์ตี้ กลัวไหลกลัวเลอะงี้55) ฉะนั้นหนึ่งเลยทำฮาวทูจากเบาไปหาหนักแบบนี้ให้ดู เผื่อเป็นแนวทางในการนำไปประยุกต์ใช้ครับ ขอให้สนุกสนานกับเทศกาลฮาโลวีนนะครับ ^^
.
.
.
ขอบคุณนะครับที่เข้ามารับชม
หวังว่าคงได้ประโยชน์และสนุกสนานไปพร้อมๆกัน คิดเห็นอย่างไรก็โพสคุยกันได้นะครับ หวังว่าฮาโลวีนปีนี้ฮาวทูของหนึ่งจะทำให้เพื่อนๆพี่ๆได้ไอเดียในการแต่งนะครับ ลุคต่อไปจะเป็นอะไร รอติดตามชมกันนะครับ แล้วเจอกัน บ๊ายบายครับ จุ๊บๆ ^^




Create Date : 18 ตุลาคม 2558
Last Update : 18 ตุลาคม 2558 20:11:17 น.
Counter : 5539 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Noyneung
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]