มีนาคม 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เพลง+++This is love ทาคุยะ สุดหล่อ
The killing Filed ล้างชาติ ล้างแผ่นดิน โดย คุณ สมพล สังขะเวส เจ๊ยังระลึก แม้ว่าคุณจะลาลับไปแล้ว

Website counter






หนังสือในดวงใจ





The killing Filed ล้างชาติ ล้างแผ่นดิน โดย คุณ สมพล สังขะเวส เจ๊ยังคิดถึงนะคะ ทุกครั้งที่เห็นหนังสือเล่มนี้ แม้คุณจะจากไปแล้ว..






อืมม ชั่งใจอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องนี้เป็นภาพยนต์ หรือ หนังสือในดวงใจดี เจ๊ชอบทั้งสองเลย แต่พอเอาถ่วงกันจริงๆ เจ๊ชอบที่เป็นหนังสือมากกว่าค่ะ

อย่าคิดว่าอีเจ๊เก่งกล้าถึงขนาดอ่านหนังสือภาษาประกิต โน โน โน โธ่ ขนาดคำแปล ซีรีย์ คู่รักมันหวาน ที่ใช้ภาษาพูดง่ายๆ ยังต้องอาศัยหนูเชอรี่เล้ย อ่านเรื่องแปลค่ะ อิอิอิ




หนังสือเล่มนี้

ล้างชาติล้างแผ่นดิน โดยคุณ สมพล สังขะเวส..




เล่าย้อนสักหน่อยก่อนนะคะว่าทำไม่เจ๊ทะลึ่งมาอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ เรื่องมันมีอยู่ว่าเจ๊นี่ ชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ

เริ่มมาเรื่อยๆ จนอายุสักสิบสอง เจ๊เริ่มรู้รสนิยมตัวเองแล้ว ว่าชอบแนวโรมานซ์ โรแมนติก ประเภทกอดนิด จูบหน่อย(เด็กมันแก่แดอ่ะคะคู๊ณณณณณ5555” ประเภทนิยายประโลมโลกย์ ไม่อายเลยที่จะบอกว่าตอนนี้ยังชอบอยู่ อ่านแล้วมีความสุข

เจ๊อ่านหนังสือในห้องสมุดโรงเรียนทุกวันเลยค่ะ ตอนพักกลางวัน อ่านจนไม่มีจะให้อ่านแล้ว โดยเฉพาะนิยาย หมด..ก็เริ่มไปร้านเช่า

เอาล่ะเว้ย ที่นี่ชักสนุก ร้านเช่าหนังสือในเมืองกาญจน์ใหญ่ที่สุดคือร้าน....ไม่บอก เดี๋ยวเจ้าของอ่านเจอแล้วจะรู้หนูธันย์เป็นใคร55555 ไปทุกวัน ไปจนสนิทกับคนขายหน้าร้าน(หลานเจ้าของ) จนลามเลยไปสนิทกับคุณพี่เจ้าของร้าน เลยได้รับอนุญาตให้ไปนั่งอ่านฟรีในร้านได้ เขาจะให้ยืมเก้าอี้ตัวหนึ่ง ปวดฉี่ขอเข้าห้องน้ำได้(ใช้เวลาหลายปีค่ะ) แต่เจ๊ก็ยืมหนังสือไปอ่านด้วยนะคะ ไม่ได้หน้าด้านไปอ่านฟรีอย่างเดียวสักหน่อย อิอิอิอิอิ


ใช้เวลาหลายปีอย่างว่า หนังสือของคุณป้าศรีเฉลิม สุขประยูร(นามปากกา วลัย นวาระ จามรี พรรณชมพู นลิน บุษกร รอม วิศรุต ฯลฯ) นักเขียนในดวงใจอันดับหนึ่งตลอดกาลของเจ๊..(ไว้จะเรื่องคุณป้าให้ฟังน่ารักมากค่ะ) หมดชั้นอ่ะ555 ขยายไปอ่านของหลายๆคน แต่ไม่ได้ทุกคนนะคะ เจ๊เลือกอ่านเหมือนกัน อ้อ..บอกนักเขียนในดวงใจอันดับหนึ่งไปแล้ว ขอบอกอันดับสองด้วย เผื่อวันดีคืนดีเข้ามาอ่าน จะได้รู้ว่า หนูยังเป็นแฟนพี่อยู่นะ พี่หนูนา(นามปากกา อาริตา ดาริกา สุนันทาฯลฯ)

แต่อย่างที่บอกเจ๊ไปทุกวันเลยค่ะร้านนี้ ไม่มีวันหยุดราชการ ขอให้ไปสักแว่บ สองแว่บก็ยังดี วันหนึ่งเจอหนังสือเล่มนี้

โห หน้าปกสลด มึนทึม เรื่องสงคราม ยี้

แต่ก็เปิดอ่านค่ะ เปิดๆดู คุณสมพล สังขะเวส เขาแปล พร้อมเขียนถึงประสบการณ์ในกองถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วย The Killing Field นี้มาถ่ายทำที่ประเทศไทยค่ะ

วุ้ย สนุกวุ้ย

เจ๊เลยขอเช่าไปอ่านต่อที่บ้าน

เชื่อมั้ยคะ เจ๊โคตรชอบมากกกกกกกก

คุณสมพลแปลหนังสือดีอยู่แล้วล่ะ แต่เจ๊ชอบเรื่องที่แกเขียนตอนแกไปทำงานอยู่กองถ่ายมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างหาก สนุกมาก แล้วสำนวนเป็นแบบที่เจ๊ชอบด้วย(สำนวนแบบนักเลง ตรงๆกวนๆ ภาษาดิบหน่อย เหมือนพวกบอ.บู๋ เงี้ยค่ะ)




แต่เนื้อเรื่องที่อ่าน เจ๊ร้องไห้ค่ะ สงสารเฮง และพวกเขมรที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นชาวบ้านธรรมดาแบบเจ๊แบบพวกเราๆนี่แหล่ะ และวินาทีนั้นของเด็กอายุสิบห้า เจ๊รู้สึกว่าตัวเองโคตรโชคดีเลย ที่เกิดมาเป็นคนไทย อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาท(แม้กระทั่งตอนเขียนนี่ก็ร้องไห้อยู่ค่ะ ตื้นตันทุกครั้งที่นึกถึงพระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)
แล้วรู้อะไรมั้ยคะ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเพิ่มในตอนนั้นคือ เจ๊รักในหลวง รักชาติ นี่ไม่ได้สตอเบอรี่นะคะ เพราะก่อนหน้าโลกในหัวคิดของเด็กแค่นั้นมันจะไปรู้อารัย..แต่พอได้สัมผัส รับรู้เรื่องราว รู้เลยว่า ถ้าไม่มีพระองค์ เราคงไม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย โต๋เต๋นอนกระดิกขาอ่านหนังสือ ฟังเพลงเล่น ดูดเป็ปซี่สบายคอ กษัตริย์ชาติอื่นเสียสละเช่นพ่อหลวงของเราหรือเปล่า? ธ่อ ยิ่งพูดยิ่งดราม่าไม่เอาล่ะค่ะ ร้องไห้อีกแล้ว ขอเวลานอก
คัท คัท และคัท




เจ๊ก็บ้ามากกกกกกกก
ไปอ้อนวอนขอซื้อเขา5555
เขาขายค่ะ แต่เขาขายเต็มราคา โห..หนังสือสภาพ 20% จะกลับบ้านเก่า
ใจร้ายว่ะ5555 แต่หลานเขามากระซิบว่า ให้รอก่อน เอาไว้ปรับปรุงหนังสือทีหนึ่งจะคัดขอให้
เจ๊ก็รอ..ค่ะ ระหว่างรอ วันไหนอยากอ่านก็ไปอ่านฟรีที่ร้านนั้นแหละ55555

แล้วกาลเวลาก็ผ่านไป

ช่วงหนึ่งที่เจ๊ไปงานหนังสือบ่อยมาก ไปแมร่งทุกปี55555 กระแดะค่ะ ไปนัดเจอเพื่อน ไปส่องนักเขียนคนโปรด หนังสือค่อยไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ เว้นปีหนึ่งช๊อบหมดไปห้าพันกว่าบาทหิ้วกลับบ้านหลังแอ่นเลย555 ไว้ค่อยเล่าให้ฟัง

และเจ๊เจอหนังสือเล่มนี้ The Killing Field สิ้นชาติสิ้นแผ่นลดราคา เหลือสี่สิบบาท อีเจ๊กระโดดซื้อเลย ดีใจมาก กลับบ้านเอามานอนลูบคลำด้วยความปลาบปลื้ม ประหนึ่งหาเนื้อคู่กันจนเจอ5555

ถึงตอนนี้จะมีหนังสือหลายเล่มต้องไปอยู่ที่อื่น เพราะเจ๊ขนไปบริจาค แต่หนังสือเล่มนี้ยังอยู่กับเจ๊ค่ะ เวลาอ่านทีหนึ่ง ยิ่งรักชาติทีหนึ่ง5555 ไม่ค่อยอยากจะรักชาติเข้าเลือดเลยค่ะ เพราะยิ่งดราม่ายิ่งอยากจะ....ฮืมม์...คน..

สำหรับคุณสมพล สังขะเวส เจ๊ตามหนังสือเขาอีกสองสามเล่ม แต่..อย่างที่บอกค่ะ มันไม่ใช่แนว ดังนั้นโปรดที่สุดคือเล่มนี้แหละ

และวันหนึ่ง เจ๊ไปแรดร้านหนังสือมือสอง ชอบไปมากค่ะ เจ๊ไปเจอหนังสือ ไว้อาลัยงานศพ คุณพี่สมพล สังขะเวส ตกใจมาก ถึงไม่รู้จักการเป็นการส่วนตัว แต่อ่านจากการเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ของคุณพี่แก ก็ทำให้สนุกตามไปด้วย...แต่..นะคะ คนเรา ที่สุดก็กลับคืนสู่ธรรมชาติ

และ..เจ๊ไปเจอคุณประภัสสร เสวิกุล เขียนถึงคุณสมพล สังขะเวส อ่านแล้วประทับใจมากค่ะ ขอลอกมานะคะ เผื่อว่าวันไหน ไปอ่าน ล้างชาติ ล้างแผ่นดิน รอบที่ห้าร้อย คิดถึงคุณสมพล จะได้มาอ่านนี้ค่ะ

ป.ล. ช่วงเกือบสุดท้ายของชีวิต คุณสมพล สังขะเวสมาทำไร่องุ่น(มั่ง) ที่เมืองกาญจน์ค่ะ อันนี้เป็นเรื่องที่เจ๊ได้ยินมา องุ่นไร้เม็ด(มั่ง)ส่งโลตัส ไม่รู้เคยเจอกันหรือเปล่า? แต่ถึงเคยเจอคงจำไม่ได้หรอกค่ะ เจ๊เคยเห็นแต่ในรูป อิอิอิอิฒฒ





________________________________________
คำทักทายจากประภัสสร เสวิกุล
What A Wonderful World

I see trees of green red roses too
I see them bloom for me and you
And I think to myself what a wonderful world
I see skies of blue and clouds of white
The bright blessed day the dark sacred night
And I think to myself what a wonderful world
ผมเชื่อว่าคุณๆ คงจะเคยได้ยินเพลง What A Wonderful World ของ Nat "King" Cole กันมาบ่อยๆ ใช่ไหมครับ? ผมเองก็ฟังเพลงนี้ มาตั้งแต่สมัย ที่เริ่มฟังเพลงสากลใหม่ๆ ถ้านับย้อนหลังไปก็คงจะเป็นเวลา ๔๐ กว่าปี แต่เชื่อไหมครับว่า ผมไม่เคยฟังเพลง What A Wonderful World ครั้งไหน ที่ทำให้ผมรู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มีค่า และซึมลึกเข้าไปในจิตใจ เหมือนเมื่อเย็น วันอาทิตย์ที่ ๑๗ มิถุนายน ที่เพิ่งผ่านมานี้ ในงานเผาศพคุณสมพล สังขะเวส ที่วัดท่าพระ เลย
คุณสมพล สังขะเวส กับผมรู้จักกันเมื่อ เกือบ ๒๐ ปีก่อน ตอนนั้น คือ พ.ศ.๒๕๒๕ ผมเริ่มทำสำนักพิมพ์นิลุบล ยุคแรก และประเดิมด้วย นวนิยายเรื่องแรกของผมคือ "อำนาจ" โดยพิมพ์ที่โรงพิมพ์ ๖๘ การพิมพ์ ในซอยจรัลสนิทวงศ์ ๖๘ ซึ่งซอยนั้นในเวลานั้น จัดได้ว่าเป็นย่านของสำนักพิมพ์ เริ่มตั้งแต่ ค่าย I.S.Song ของคุณเล็ก วงศ์สว่าง,ปิยะสาส์น ของเสี่ยหงี หรือคุณปิยะวิชญ์ แซ่ตั้ง, วลี ของเต๊กตี่ น้องชายเสี่ยหงี, รวมทั้งสี่เกลอ ของคุณธนิต ธรรมสุคติ คุณถวิล มนัสน้อม และคุณสมพล กับน้องชาย - ๖๘ การพิมพ์ มีคุณเล็ก น้องชายคุณสมพลเป็นเจ้าของในซอยเล็กๆ ที่แยกจากซอยใหญ่ เข้าไปทางขวามือนั้น นอกจากสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ แล้วยังมีร้านไสกาวของคุณธนิตกับคุณสมพล ลงหุ้นร่วมกัน ตอนเย็นๆ หลังเลิกงาน ผมกับภรรยาก็จะขับรถโฟล์กไปดูบรู๊ฟที่ ๖๘ การพิมพ์ แล้วเดินข้ามไปคุยกับเสี่ยหงี ซึ่งส่วนมากก็จะพบคุณธนิต, คุณถวิล และคุณสมพล ด้วยเป็นประจำ
คุณสมพลเป็นคนรูปร่างอ้วนใหญ่ ตัวดำ ไว้หนวดหนา เสียงดัง ถ้าคนที่ไม่สนิท มักจะคิดว่าเป็นคนดุ หรือยียวน แต่ถ้ารู้จักมักคุ้นกันแล้ว จะพบว่าคุณสมพลเป็นคนที่น่ารัก สุภาพ คุยสนุก และมีอารมณ์ขัน - การทำหนังสือในยุค ๒๐ ปีที่แล้ว ไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนปัจจุบัน หนังสือแต่ละเล่ม ใช้เวลาเรียง เวลาบรู๊ฟ เวลาพิมพ์นานเอาการ แต่ผลพลอยได้ ก็คือ ทำให้ผมได้รู้จักคุณสมพลมากขึ้นไปด้วย
๖๘ การพิมพ์ เลิกกิจการในเวลาต่อมา ทำให้ผมต้องย้ายไปพิมพ์ที่อื่น เสี่ยหงีเสียชีวิต สี่เกลอเองก็สลายตัวไป และภาพของซอยเล็กๆ ที่แยกจาก จรัลสนิทวงศ์ ๖๘ ไปทางขวามือ ก็เหลือเพียงความทรงจำ
ผมไม่ได้พบกับคุณสมพลเป็นเวลานานมาก แต่ก็ได้ทราบข่าวคราว จากเพื่อนฝูง และสื่อต่างๆ อยู่เสมอ คุณสมพลทำสำนักพิมพ์เอง และตั้งชื่อกวนๆ ว่า "ชั้นหนึ่ง" ตัวคุณสมพลมีตำแหน่งที่ใส่ไว้นามบัตรว่าภารโรง เป็นสำนักพิมพ์ ที่แปลเอง พิมพ์เอง ขายเอง โดยใช้นามปากกาในการแปลว่า "หนวดไฟฟ้า" ควบคู่ไปกับชื่อจริง หลังจากนั้นคุณสมพลก็วางมือ ไปทำงานกับ กองถ่ายหนังฝรั่ง ที่มาถ่ายทำในเมืองไทย โดยฝากฝีมือทั้งในฐานะผู้จัดหา location นักแสดง ไปจนถึงผู้ช่วยผู้กำกับ ในหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ The Deer Hunter, Good Morning Vietnam, Air America, Heaven and Earth, Cutthroat Island, The Beach แต่ที่ทำให้คุณสมพลมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก คือ The Killing Fields
ผมพบกับคุณสมพลอีกครั้งโดยบังเอิญ ที่หน้าโรงหนัง E.G.V. ปิ่นเกล้า เมื่อปีที่แล้ว โดยต่างคนต่างก็มาดูหนังแต่คนละเรื่องกัน คุณสมพลผอมไป จนผิดรูป แต่ก็ยังคงความเป็นคนอารมณ์ดี และมีอารมณ์ขันไว้อย่างเดิม ผมชวนคุณสมพลไปพูดคุยในรายการ "วงวรรณกรรม" ที่ผมจัดอยู่ทาง สถานีวิทยุสราญรมย์ ซึ่งคุณสมพลก็รับคำด้วยความยินดี แต่วันที่นัดกันครั้งแรก คุณสมพลโทรมาบอกว่าเป็นไข้หนัก ขอเลื่อนไปก่อน พออาทิตย์ถัดมา ก็โทรมาใหม่บอกว่าหายดีแล้ว ก็เลยนัดกันในวันรุ่งขึ้น - คุณสมพลพูดคุยในรายการวันนั้นอย่างสนุกสนาน ตลอดเวลา ๑ ชั่วโมงเต็ม และบอกกับผมว่าสะสม CD เพลงสากลเอาไว้มาก วันหลังจะเอามาให้ ผมเปิดในรายการ หรือถ้ามีเวลาว่าง ก็อาจจะมาช่วยจัดรายการเพลงให้ ซึ่งผมเองก็ยังนึกถึง และรอเวลานั้นของคุณสมพลอยู่ จนได้ข่าวครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ว่าคุณสมพล สังขะเวส เสียชีวิตที่เมืองกาญจน์ฯ
งานเผาศพคุณสมพล สังขะเวส เป็นไปในบรรยากาศที่เรียบง่าย สบายๆ เหมือนกับตัวตนของคุณสมพล และเหมือนกับงานพบปะเพื่อนเก่า หากแต่ว่าเป็นการพบปะที่ไม่มีโอกาสจะได้พบกันใหม่ ผมพบคนเก่าๆ ในซอยจรัลสนิทวงศ์ ๖๘ รุ่นนั้น หลายคน ขณะที่คนสมพล คงได้แต่นอนฟัง เราพูดคุย และเท้าความหลัง โดยไม่ได้ลุกมาร่วมวงด้วย …พร้อมๆ กับที่พระเริ่มสวด ญาติมิตรทยอยขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ

เสียงเพลงโปรด เพลงหนึ่งในหลายเพลงของคุณสมพล What A Wonderful World ก็กังวานขึ้น
The colors of the rainbow so pretty in the sky
Are also on the faces of people going by
I see friends shaking hands saying "how do you do"
They're really saying "I love you"
I hear babies cry I watch them grow
They'll learn much more than I'll ever know
And I think to myself what a wonderful world
Yes I think to myself what a wonderful world

หนังสือเล่มนี้

จาก คุยกับประภัสสร คุยกับผู้อื่น เว็บพันทิปบ้านพี่น้องเรานี่เองค่ะ
สู่สุขคตินะคะคุณสมพล ช้าไปหน่อย แต่จริงใจมาก จากแฟนหนังอ่านค่ะ





Create Date : 24 ตุลาคม 2553
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 14:04:05 น.



Create Date : 04 มีนาคม 2556
Last Update : 4 มีนาคม 2556 11:33:50 น.
Counter : 421 Pageviews.

1 comments
  
If only i can publish as if you accomplish… Excellent write-up article.
โดย: http://thebettershoelifts.tumblr.com/ IP: 119.117.167.53 วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:14:44:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คงยุ่ง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Flag Counter
New Comments