เรื่องลูกที่..เคยทำร้ายความรู้สึกแม่มาก่อน..น้องเบส(รายการวีไอพี11กพ56) อ่านแล้วซึ้งคำนี้มากค่ะ "กลับมาให้แม่กอดได้มั้ย"โอ๊ย..น้ำตาแตก
ก๊อปจาก..แฟนเพจ
"พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง"
เปิดใจเบส อรพิมพ์ นักพูดล่าความกตัญญู กับเรื่องราวสุดซึ้ง
รายการวีไอพี VIP เทปออกอากาศวันที่ 11ก.พ.2556 นำเสนอเรื่องราวของ คุณเบส อรพิมพ์รักษาผล หญิงสาวชาวจ.ชุมพรวัย 26 ปี นักพูดล่าความกตัญญูที่สามารถใช้วิธีพูดในการเปลี่ยนชีวิตคนจนได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เช่นเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ รางวัลนักเรียนพระราชทาน รางวัลลูกกตัญญูดีเด่นแห่งชาติและรางวัลอื่นๆ จนได้รับฉายาว่า นักพูดร้อยศพ ที่พูดในงานศพในเรื่องของพระคุณพ่อแม่ เป็นต้น รวมไปถึงในคุก สถานพินิจซึ่งทุกที่ที่ไปจะพูดถึงเรื่องความกตัญญู พระคุณพ่อแม่ จนได้รับฉายาว่านักพูดล่าความกตัญญู
แต่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้เธอเคยบอกว่า เคยเป็น เยาวชนเลวเด่นแห่งชาติ เอาแต่ใจตัวเองแต่กลับเปลี่ยนแปลงตนเอง และมาเล่าประสบการณ์ตรงจนสามารถเปลี่ยนชีวิตคนอื่นๆได้ แม้ว่าเส้นทางนักพูดจะได้รับคำชื่นชม เริ่มมีชื่อเสียงในเส้นทางนี้แต่สำหรับครอบครัวแล้วกลับแย่ลง เมื่อที่บ้านล้มละลาย พ่อแม่ขายทุกอย่างเพื่อส่งให้ลูกเรียนต้องยืมเงินคนอื่นมาจ่ายค่าเทอม แต่ตนเองไม่รู้
คุณเบสเล่าว่า เห็นแม่ไม่มีทองใส่สักเส้นแม่เริ่มวุ่นวายกับการหาของมาขาย วันนั้นต้องกลับไปเรียน ซึ่งแม่มีเงินเพียง 250บาทจากการขายข้าวขายของ แม่บอกว่า เอาเงินไป 150 ได้ไหมลูก อีก100 แม่ขอเอาไปซื้อข้าวซื้อยาให้พ่อตอนนั้นโกรธมาก ทำไมให้เราแค่นี้ เคยใช้อาทิตย์ละหลายบาท เลยคว้าเงินในมือแม่ขยำแล้วหันหลังให้แม่ แต่ขณะนั้นรู้เลยว่าแม่ทรุดลงไป เหมือนกับว่าแม่ไม่เหลือใครแล้วแม้กระทั่งลูก ที่ไม่เห็นคุณค่าของเงิน
เมื่อกลับไปเรียนที่ต่างจังหวัดไกลบ้าน ตั้งใจว่าปิดเทอมก็จะไม่กลับมาบ้านอีก จนกระทั่งแม่โทรเรียกให้กลับบ้านถามแม่ว่าจะให้กลับทำไม กลับไปก็ไม่มีเงินให้ อายคนอื่น แต่แม่ก็กลับตอบว่า กลับมาให้แม่กอดได้ไหมลูก เราก็เลยกลับ
วันที่เรากลับเป็นจุดเปลี่ยนของเรา ซึ่งวันนั้นแม่รู้สึกมีลางไม่ดีปั่นจักรยานมาหยอดตู้โทรศัพท์ถามคนขับรถอยู่เรื่อยๆว่า จะถึงหรือยังถึงกี่โมง เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อแม่ขับมอเตอร์ไซต์จะมารับลูกในเมืองระหว่างนั้นถูกมอเตอร์ไซต์ชน ขาตั้งรถปักลงไปในน่อง ลากไปตามแรงเหวี่ยงของรถไม่รู้ว่าแม่เจ็บไหม แต่ปากของแม่พยายยามบอกว่า ลูกจะมาแล้ว ลูกจะมาถึงแล้วจนมีคนส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ตนมาถึง เมื่อเห็นว่าคนที่มารับไม่ใช่แม่ จึงโกรธมากจนกระทั่งมารู้ภายหลังที่รพ.ว่าแม่ถูกรถชน แม่พยายามไม่หลับยอมทนเจ็บในพิษบาดแผล เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีก
แม่บอกว่าแม่ขอโทษที่แม่ไม่ได้ไปรับ ขอโทษที่แม่เป็นแบบนี้ขอโทษที่จบป.4 แม่ไม่มีอะไรให้เลย แต่ลูกไม่ต้องขอโทษอะไรเลยของขวัญของแม่ก็คือตัวลูก และชีวิตลูก ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้วนอกจากตัวลูก
จากนั้นคุณเบส จึงได้เห็นสิ่งที่แม่มีและมอบให้กลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ ตั้งใจว่าจะย้ายมาอยู่โรงเรียนวัดข้างบ้านเพื่อจะมาเป็นขาให้แม่ ช่วยเหลือแม่ให้แม่เดินได้ แต่แม่บอกว่าไม่เป็นไรอยากให้ลูกได้เรียนจบ
แม่ถามใบประกาศที่เขารับปริญญามันสวยไหมลูก แม่ไม่เคยเห็นชุดครุยมันสวยไหม แม่ไม่เคยเห็น กลับไปเรียนให้แม่ แม่จะได้ไม่ห่วงอะไรเราก็ก้มลงกราบ ขอขมา พร้อมกับบอกว่า ต่อไปนี้แม่จะไม่ร้องไห้เพราะเราอีกจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เป็นนักพูดที่สร้างกำลังใจให้กับใครหลายคน
เบสไม่รู้ว่าจะแสวงหาเส้นทางอื่นที่มันร่ำรวยไปทำไมในเมื่อเส้นทางนี้มันไม่ได้ร่ำรวย แต่มีข้าวกิน เบสได้ช่วยคนอื่นช่วยให้คนไทยรักกัน เบสจนมองว่า จะทำงานนี้ต่อไปตราบใดที่ยังมีคนอยากฟังตราบใดที่ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคม และจะเป็ฯเศษดินใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์ท่านเป็นเศษดินเล็กๆ ของประเทศไทยที่มีคุณค่าแบบนี้ตลอดไป คุณเบสกล่าว
ที่มา//women.postjung.com/657809.html
+++++++++++
พูดเก่ง พูดดี และซึ้งใจมาก..
พวกเราอ่านแล้วต้องทำดีกับแม่เรามากๆนะคะ..
คำนี้มันจิ้ดดดดดดดด
แม่รู้ว่าเราชอบกินอะไรทุกอย่าง แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าแม่ชอบกินอะไร
จริงด้วย