ชีวิตเด็กมหาลัยในแคมปัส(ขอไม่รวมเด็กที่เดินทางไปกลับและนอนที่บ้าน) ก้ดูไม่มีอะไรมาก เลิกเรียนเสร็จก็ไม่มีอะไรทำ บางคนอาจจะกลับมานอนที่หอ ไปเที่ยวกับเพื่อน หรือหากิจกรรมทำเพื่อฆ่าเวลาหรือรอเรียนวิชาตอนเย็น แต่หลังจาก 6 โมงเย็นไปแล้ว เด็กส่วนใหญ่จะทำกิจกรรม !! ในมหาลัยจะมีคลับ (ตามบ้านเราก้คือ ชมรม นั่นเอง) มากมายหลากหลาย เปิดเพื่อให้เด็กๆ เข้าไปทำกิจกรรมหรือถ้าใครไม่อยากทำกิจกรรม ก็มีคลาสเรียนภาษาเปิดให้ลงเรียนเพื่อการพัฒนาและนำไปสอบหรือถ้าใครไม่อยากเข้าคลับ จะไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเองก็ได้ มีสนามกีฬาไว้รองรับเด็กๆอย่างมากมาย ที่เราเห็นคือ ไม่ว่าจะเป็น ดญ หรือ ดช ทุกคนรักที่จะทำกิจกรรมกลางแจ้ง... เราเคยนั่งคิดกับเพื่อนๆ ว่า ทำไม ดญ ไทย หลังเลิกเรียนไม่ค่อยชอบไปเล่นกีฬาเราก้ค้นพบว่า... ดญ ไทยส่วนใหญ่จะใส่รองเท้ามีส้นมา รร. กัน ในขณะที่ รองเท้าผ้าใบเป้นที่นิยมของเด็กๆ ที่นี่ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายทุกคนใส่ผ้าใบกันหมด รวมถึงอากาศที่ไม่ได้ร้อนอบอ้าวแบบบ้านเราที่แค่ขยับก้ตัวเหนียวแล้ว งี้  เลยทำให้เด็กๆ ที่นี่พร้อมที่จะทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน..เอิ่ม แล้วมันหมายถึงอะไรหรอ การทำกิจกรรมกลางแจ้ง .. ก้เช่น เล่นบาส เตะบอล วิ่งรอบสนามวิ่งไล่จับ ไรแบบนี้แหละนะฮ้า... แต่ ..เค้าจะเริ่มเล่นกันตอนหลับจากที่คลับเลิกแล้ว ก้แถวๆ สองทุ่มเป้นต้นไป งี้...

หากเด็กคนไหนมีใจอยากเรียนต่อโทหรือ อยากทำงานด้านงานวิจัย ทำงานแลป... เด็กๆ ก้จะเริ่มมองหาอาจารย์และแลปที่ตัวเองชื่นชอบและจากนั้นก็ขอสมัครตัวเองเข้ามาทำงานในแลปนั้นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กตั้งแต่ปี 2ขึ้นไป... แต่เรื่องนี้ก้มีทั้งข้อดีและข้อเสียในมุมมองของเรา ข้อดีคือเด็กจะได้เรียนรุ้การทำงานวิจัยและโปรเจคตั้งแต่เนิ่นๆ ได้ใกล้ชิดอาจารย์ ซึ่งมีโอกาศได้มุมมองและข้อคิดดีดีที่ไม่สามารถได้จากในคลาส มีโต๊ะทำงานเป็นของตัวเอง print ชีทเรียนเมื่อไหร่ก้ได้ในขณะที่เพื่อนๆ ต้องวิ่งหา locker และไปเข้าคิว print ชีทเรียนกันยาววววว5555 .... และที่สำคัญ ได้เงินพิเศษด้วยนะเออ แต่ที่เรามองว่า มันมีข้อเสีย ก้คือน้องที่เข้ามาในแลป ก็จะเด็กสุด เพราะที่เหลือก็จะเป้นเด็กโทและเอกซึ่งที่เกาหลีจะให้ความสำคัญกับ seniority มากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ดังนั้น สิ่งที่มีโอกาศจะเกิดก็คือ น้องจะต้องทำงานทุกอย่างที่พี่ๆ สั่งให้ทำและ/หรือ รวมถึว การทำความสะอาดห้องแลป ล้างเครื่องแก้ว ทิ้งขยะ และอีกมากมายยยยแต่เนื่องจากที่บอกว่า มันคือค่านิยมของคนที่นี่ที่มีมาเนิ่นนาน ดังนั้นเค้าจึงไม่คิดว่า มันคือสิ่งไม่ดี เพราะสักวันนึง เค้าก้จะกลายเป็นรุ่นพี่ !!

ซึ่งเราคิดว่าถ้าเป้นที่ไทยคงมีการวางมวยเกิดขึ้นแน่นอน หรือไม่ก็ต้องมีคำพูดจากน้องๆ ว่า ช่วยกันหน่อยซีฮ้า