#เก็บหุ้นสร้างพอร์ตสไตล์VI : จะทำอย่างไรเมื่อหมดยุคทองของ VI

การลงทุนแนววีไอ หรือ Value Investment นั้นเคยใช้ได้ผลมานานหลายปี และหลายคนมักคิดว่ามันจะคงอยู่ไปอีกนานหลายปี ซึ่งก็คิดไม่ผิด ในแง่ของหลักการการลงทุนผมเข้าใจว่ามันจะอยู่ไปคู่กับตลาดหุ้นอีกยาวนาน เป็นเรื่องราวที่ต้องบอกว่า “อมตะ” หรือ Classic ไม่ขึ้นกับกาลเวลา

โดยแก่นแท้ของทฤษฏียังคงยืนหยัด แต่สภาพแวดล้อมทางการลงทุนที่ไม่เหมือนเดิมทำให้แนวคิดการลงทุนแบบวีไอยากยิ่งขึ้น? ทำไม?

สำหรับผมแล้วเข้าใจว่าในอดีตเมื่อสิบปีที่ผ่านมาถือเป็นยุคทองของวีไออย่างแท้จริง เนื่อง “ขุมทรัพย์หุ้น” นั้นมีอยู่อย่างมากมาย หุ้นถูกๆ เต็มไปหมด และนักขุดหุ้นยังมีจำนวนน้อย มีคนที่เข้าใจหลักการการลงทุนแนววีไอไม่มาก ทำให้การขุดหุ้นหาเงินสไตล์วีไอ ทำคนเป็นเศรษฐีมาอย่างมากมาย

แต่ในปัจจุบันนักขุดหุ้นมีจำนวนมากขึ้น และจะมากขึ้นเรื่อยๆ หุ้นดีๆ ถูกขุด ถูกจับจองเป็นเจ้าของ ใครจะมาซื้อต่อก็ต้องซื้อในราคาฟรีเมี่ยมสูงลิบลิ่ว แล้วเราจะทำอย่างไรดีเมื่อยุคนี้การลงทุนแนววีไอมันอาจไม่ work เหมือนยุคที่ผ่านมาแล้ว แล้วเราจะทำยังไงต่อไป ผมมีแนวคิดการลงทุนในยุคนี้มาฝากกันครับ

แนวคิดแรก “ซื้อแบบเก็งกำไร ลงซื้อ ขึ้นขาย”

แนวคิดนี้ผมเห็นวีไอหลายคนเปลี่ยนมาใช้กันพอสมควร เนื่องจากหุ้นที่ซื้อไว้ไม่ไปไหนเสียที จึงคิดหาทางสร้างกระแสเงินสดจากการซื้อๆ ขายๆ หุ้น สำหรับตัวผมแล้วก็เคยทำอยู่บ้าง แต่ไม่คิดจะทำเป็น “แกนหลัก” ของการลงทุน ยกตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้มีหุ้นสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ตกอย่างรุนแรงเรียกว่า floor ไปสามวันติด แบบนี้ถ้าเราเข้าซื้อ แล้วขายในวันต่อไป ก็ทำกำไรได้ไม่ยาก เพียงแต่โอกาสพลาดก็มีเช่นกัน

แนวคิดที่สอง “เก็บหุ้นเข้าพอร์ตยาวๆ (กว่าเดิมมาก)”

แนวคิดนี้เราต้องใช้ความอึดมากกว่าในอดีต เนื่องจากยุคนี้มีนักขุดหุ้น หรือวีไอเก่งๆ เต็มไปหมด หน้าที่ของเราก็คือ มองหาหุ้นดีในราคาเหมาะสม บางครั้งหุ้นแพงอยู่บ้างก็ต้องกลั้นใจเก็บเข้าพอร์ต เพราะหุ้นดีนั้นหายาก จะรอให้ราคาถูกแบบแบกะดินเหมือนในอดีตคงยากยิ่งกว่า

เมื่อเก็บหุ้นเข้าพอร์ตแล้ว เอาแบบฝังตุ่มเลยนะครับ … หน้าที่ต่อไปของเราก็คือ “อดทนรอ” ถ้าเป็นยุคก่อนหน้านี้เวลาเราเจอหุ้นดีๆ แล้วเก็บเข้าพอร์ตไม่นาน หุ้นตัวนั้นก็จะสะท้อนมูลค่าของมันได้ไม่นานนัก รอช้าสุดไม่เกิน 3 ปี เร็วสุดหลักเดือนก็มีครับ

แต่มาในยุคนี้เมื่อมีวีไอเก่งๆ เต็มไปหมด การรอคอยจะยาวนานกว่าเดิมมาก อาศัยว่าใครอึดกว่าคนนั้นชนะ ส่วนตัวผมเองถ้าสนใจหุ้นตัวไหน ซื้อแล้วเก็บเข้าพอร์ตก็จะทิ้งไว้ยาว อย่างน้อย  3-5 ปีขึ้นไป จึงค่อยเก็บเกี่ยว หรือขายหุ้นทำกำไร

คำถามก็คือ… แล้วเวลาที่เราต้องรอหุ้นสะท้อนมูลค่าจะกินจะใช้เอาเงินมาจากไหน?

คำตอบก็คือ… เราต้องรู้จักวางแผนครับ ยกตัวอย่างเช่น เราซื้อหุ้นตัวหนึ่งแล้วคิดว่ารอบการสะท้อนมูลค่าน่าจะอยู่ราว 1-3 ปี แบบนี้เราต้องเตรียมเสบียงไว้สู้ศึกระยะยาว คือ เตรียมเงินไว้สำหรับกินสำหรับใช้เอาไว้ล่วงหน้าเลย เหลือแล้วค่อยนำไปลงทุน

ในกรณีของคนที่ยังทำงานประจำผมคิดว่าควรทำงานประจำไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะงานประจำก็สร้างกระแสเงินสดให้กับเราเช่นกัน ทำจนพอร์ตเราโตเกิน 200 เท่าของเงินแต่ละเดือนที่เราต้องใช้ค่อยออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราคิดว่าเราต้องใช้เงินเดือนละ 2 หมื่นบาท เราควรมีพอร์ตหุ้นราว 4 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับคนที่เป็นนักลงทุนเต็มเวลาอยู่แล้ว ก็ต้องวางแผนให้ดีว่าถ้าเราจะสู้ศึกยาวเราจะมีเงินไว้กินไว้ใช้เท่าไร มีเงินแบ่งมาสร้างกระแสเงินสดด้วยการซื้อๆ ขายๆ ทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นเท่าไร ที่สำคัญเงินก้อนเหล่านี้ไม่ควรปะปนกัน เพราะจะทำให้เรางง และถ้าหากมันยึดเยื้ออาจขาดสภาพคล่องเอาง่ายๆ ที่สำคัญไม่ควรใช้มาร์จิ้นเล่นหุ้นโดยเด็ดขาด ยกเว้นสำหรับคนที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชนเพราะเขารู้ว่าควรทำอย่างไร

สำหรับผมแล้วจะแบ่งพอร์ตการลงทุนอย่างชัดเจน หากเป็นหุ้นลงทุนก็จะซื้อเหมือนซื้อที่ดิน คือ ซื้อทิ้งไว้ ปล่อยให้กิจการเติบโตไปเรื่อยๆ ไว้อีก 10-20 ปีมาดูกันอีกที ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ในพอร์ตของผม

อีกส่วนจะนำมาเก็งกำไร ตามตัวเร่งที่มองเห็น ถ้าตัวเร่งถูกปลดล็อกออกมาก็จะขายทุกราคาไม่ว่าจะได้ราคาแค่ไหน หรือแม้แต่ขาดทุนบางครั้งก็ขาย เพราะตัวเร่งมันหมดแล้วนี่ครับ

สำหรับคนที่คิดจะลงทุนแนววีไอ ต้องยอมรับให้ได้ว่ามันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ควรลงทุนแนวนี้เป็นหลักใหญ่ใจความของพอร์ตการลงทุนอยู่ดี เพียงแต่คาดหวังให้น้อยลง ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ก็จะมีความสุขขึ้นได้ไม่ยากเข้าข่าย ลงทุนระยะยาว ลดความเสี่ยง รวยความสุข

แนะนำหนังสือ

หาหุ้นโตเร็ว สไตล์ VI – โต 10 เท่าในสิบปี

“หาหุ้นโตเร็ว สิบเท่า ในสิบปี” … หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนในยามตลาดหุ้นผันผวน และดูเหมือนว่านักลงทุน “ส่วนใหญ่” มองไม่เห็นว่าการลงทุนหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้อย่างไร … แต่ข้อเท็จจริงก็คือ แม้ในยามตลาดแย่ ก็มีหุ้นโตเร็วเกิดขึ้นมากมาย บางตัวโต 1 เท่าตัว 2 เท่าตัว หรือ 5-10 เท่าตัวก็มี … ทำอย่างไรเราจะ “ค้นหา” หุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock เหล่านี้ได้ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบครับ #NaiwaenInvestment

Create Date : 29 พฤษภาคม 2560
Last Update : 29 พฤษภาคม 2560 12:37:49 น.		0 comments
Counter : 1041 Pageviews.
Share Tweet