เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่เราสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่เรามีเวลา
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
บันทึกที่ไม่ต้องการให้เกิด




ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ก้อยไม่ใช่นักเขียน เพียงแต่ว่าอยากจะเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มาระบายให้ฟัง เรียกว่าระบายนะคะ เพราะอึดอัดมาก ไม่สามารถบอกกับใครๆได้ เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อกลางเดือน ตุลาคม 2006 ก้อยไปตรวจภายใน หลังจากที่ไม่เคยไปตรวจเลยเป็นเวลา 2 ปี ก็พบว่า มีก้อนเนื้อตรงบริเวณเต้านมด้านขวา หลังจากนั้น กลางเดือนพฤศจิกายน หมอนัดให้ไปอีกครั้งนึง หมอบอกเพียงว่า เป็นแค่ฮอร์โมน ไม่อันตรายหรอก แต่ก็ได้ส่งตัวไปตรวจ Mammographie ที่ Karlstahl ซึ่งเป็นสถานที่เอ็กซเรย์โดยเฉพาะ ก้อยไปตรวจวันที่ 22 มกราคม ผลการตรวจไม่พบสิ่งผิดปรกติ แต่ตอนนั้นได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ที่ทำการ Ultrasound ว่าก้อยกลัว เพราะว่าประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง คือพ่อเป็นมะเร็งที่ลำไส้ และปอด ซึ่งตอนนี้หายแล้ว หมอก็เลยส่งตัวไปทำ Gewebetest คือตรวจเนื้อเยื่อ ที่คลินิดของมหาวิทยาลัย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หมอที่นั่นบอกกับก้อยว่า 90 เปอร์เซนต์ ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหา แต่ 10 เปอร์เซนต์ขอดูผลการตรวจเนื้อเยื่อก่อน และแล้ววันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2007 ผลการตรวจเนื้อเยื่อ ออกมาว่า ชั้นเป็นมะเร็ง

ตอนนั้นช็อคทำอะไรไม่ถูก ไม่ร้องไห้ ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ถามหมอไปว่า ไม่ดีใช่มั้ย ชั้นเป็นมะเร็งใช่มั้ย ระดับไหนแล้ว แล้วชั้นจะต้องทำงัยต่อไป หมอให้ก้อยรอใบส่งตัว เพื่อที่จะต้องไป เอ็กซเรย์ อีกครั้งที่ Karlstahl ในวันที่ 5 มีนาคม หลังจากนั้น ก้อยก็กลับไปเอาของที่ฝากไว้กับพี่เค้าที่ร้านค้า พอพี่เค้าถามว่าเป็นงัยบ้าง น้ำตามันก็ไหลออกมาเลย ก้อยโทรไปบอกสามีว่า ก้อยเป็นมะเร็ง เค้าขับรถมาหาก้อยทันที ซึ่งตอนนั้น ก้อยกลับไปที่บ้านแล้ว แต่ก้อยบอกเค้าว่า ไม่เป็นไร ก้อยเข้มแข็งพอ ให้กลับไปทำงานซะ แล้วไม่ต้องคิดมาก ก้อยเป็นลูกพ่อ พ่อเป็นมากกว่าก้อย แต่พ่อยังสามารถอยู่ต่อไปได้ ก้อยต้องเข้มแข็ง หลังจากนั้น ก้อยให้เค้าไปส่งทีทำงาน แล้วให้เค้ากลับไปทำงานต่อ

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม ก้อยไปรับยาที่ Karstahl เพื่อที่จะเอาไว้กินในวันอาทิตย์ ก่อนไปเอ็กซเรย์ ช่วงหน้าท้อง และทำ CT อีกครั้งในวันจันทร์ มันเป็นยาชนิดเคี้ยว ต้องกิน 3 เม็ดเป็นเวลา 3 มื้อ และให้อดอาหารอดน้ำ ในตอนกลางคืน ในวันที่ 5 มีนาคม เวลา 7.45 น. ก้อยต้องเอ็กซเรย์ช่วงหน้าท้อง จากนั้น Ultrasound ช่วงเวลา 9 โมงหมอฉีดยา ซึ่งก้อยเข้าใจว่า เป็นสีเข้าไปที่แขน แล้วให้รอ 3 ชั่วโมง ตอนเที่ยงหมอนัดให้ก้อยมาอีกครั้งนึง เพื่อเอ็กซเรย์กระดูก จากนั้นวันที่ 8 มีนาคม เวลา 9 โมงเช้า ก้อยไปฟังผลการตรวจ และช่วงบ่ายไปหาหมอที่ คลีนิคของมหาวิทยาลัย ซึ่งที่นั่น หมอได้อ่านผลการตรวจ แล้วบอกว่าเชื้อไม่ได้ลามไปที่ส่วนอื่น มันเป็นความโชคดีในความโชคร้ายของชั้น ก้อยไปนั่งรอหมอจนถึง บ่าย 3 โมงเย็น เพื่อรอพบหมอใหญ่ และผลสรุปก็คือ ก้อยอายุยังน้อย หมอไม่แนะนำให้ผ่าตัดออกทันที ซึ่งก้อนเนื้อมีขนาด 2.5 เซน. หมอแนะนำให้ทำคีโมก่อน เพื่อให้ก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลง หลังจากนั้นค่อยผ่าตัด และตบท้ายด้วยการฉายแสง ง่ายๆก็คือว่า เค้าไม่อยากจะตัดเต้านมเราออกไปข้างนึงนั่น แหล่ะ ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นก็คือ เออเมิงจะทำงัยก็ทำเหอะ ตรูอยากมีชีวิตอยู่ต่อเว้ย ตกลงก็คือวันพฤหัสที่ 15 มีนาคม เป็นวันแรกที่ต้องให้คีโม ก้อยโทรไปหาเพือนที่เมืองไทย เต้ยน่ารักมาก ส่งหนังสือเกี่ยวกับโรคและวิธีทำอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ มาให้ ซึ่งตอนนั้นสรรหาวิตามินมากินเสริมสารพัดชนิด เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการจะให้คีโม ก็ไม่รู้นี่ว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนยังงัยบ้าง แต่ก็ทำใจว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ที่เสียใจก็คือว่า ก้อยเพิ่งได้งานและเป็นงานที่ดี แต่ถ้าป่วยแบบนี้ เค้าคงไล่ก้อยออกแน่เลย เพราะว่าก้อยยังไม่ผ่านโปรเลย อีกอย่างก้อยสามารถ บอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆได้ แต่ก้อยไม่สามารถบอกพ่อแม่ พี่น้อง ของก้อยไป ก้อยไม่อยากให้ทุกคนต้องเป็นห่วง แค่มาอยู่เยอรมัน ทุกคนก็เป็นห่วงเราพอแล้ว ถ้าบอกไปก็ยิ่งเครียดกันไปอีก อีกอย่างก้อยไม่อยากให้พ่อคิดมาก กลัวโรคนี้ จะกลับมา แล้วแม่ก็เป็นความดันสูงด้วย สู้ให้ก้อยรักษาตัวอย่างเงียบๆดีกว่า

ค่อยกลับมาต่อตอนต่อไปนะคะ













Create Date : 16 ธันวาคม 2550
Last Update : 11 ตุลาคม 2555 2:03:17 น. 2 comments
Counter : 480 Pageviews.

 
คุณก้อยคะ เราให้กำลังใจคนไม่เป็นนะคะ
แต่พอจะทราบว่ากำลังเราต้องสร้างเองและใช้เอง
ขอให้คุณก้อยคิดแง่บวกไว้ก่อนนะคะ คิดให้ตัวเองมีกำลังใจมากขึ้น และใช้กำลังใจที่มาจากใจเรานั้นแหละค่ะเพื่อตัวเราเอง
คนอื่นให้กำลังใจเราได้แต่เพียงคำพูดแต่เราปรับเปลี่ยนวิธีิคิดเพื่อความสบายใจ ให้เป็นกำลังใจได้ค่ะ

ขอคุณพระคุ้มครองให้เป็นไปในทางที่ดีค่ะ


โดย: Chivalrysilk IP: 125.25.79.113 วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:0:09:51 น.  

 
โฮ พี่ก้อย

อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเลย

ไม่ได้ตอแหลนะคะ แต่คุยกะพี่ก้อยไม่มากก็น้อย เลยทำให้รู้personality ของคนที่เราคุยด้วย เหมือนที่พี่ก็ดำมั่วๆได้ว่าหมี่เป็นไง

ตอนนี้เข้าใจแล้วโรคที่พี่ก้อยพูดถึงคือโรคนี้นี่เอง

ไม่ง่ายเลย แต่ดีใจมากมากค่ะที่ทุกอย่างโอเคแล้ว

แล้วยังต้องคุมอาหารไหมค่ะพี่

Take Good Care of yourself, bitte

น้องหมี่


โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:20:50:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nachtigall
Location :
กรุงเทพฯ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




free counters
Friends' blogs
[Add Nachtigall's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.