Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
29 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
ขั้นตอนต่างๆ(work&study)

หัวข้อนี้เราไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่อะ แหะๆ อาจจะช่วยไรไม่ได้มากแต่จะพยายามนะ ใครมีไรจะช่วยเพิ่มข้อมูล ก็ช่วยๆกันหน่อยนะจ๊ะ

หลังจากเรื่องเอเจนได้แล้วนะคะ ขั้นตอนต่อไปอาจจะแตกต่างกันไป แต่เราจะเล่าของเราให้ฟังละกันนะ พอเราเลือกเอเจนแล้วก็ต้องมีการสอบก่อนค่ะว่าผ่านระดับที่เค้าต้องการมั้ย และอย่างที่บอกเอเจนเราเค้าจะรับแต่คนที่จบโรงแรม หรือพอมีประสบการณ์ทำงานในโรงแรม ร้านอาหาร งานบริการไรงี้ (เราว่าน่าจะเป็นเพราะโก เอเจนที่มากับโกอาจจะเหมือนๆกัน) ข้อสอบเราเป็นข้อสอบของoxfordมั้ง(จำไม่ได้แล้วอะ) แบ่งเป็นแกรมม่า(เราไม่ค่อยได้) กับฟัง(ทำได้ดีกว่า) หลังจากนั้นก็สัมภาษณ์กับอ.คุณหญิงป้า เค้าก็จะถามนิดหน่อยว่าทำไมถึงอยากไป แล้วก็จะถามจากประวัติเรานั่นแหละ ไม่ค่อยมีไร (จริงแล้วเหมือนฟังเค้าพูดมากกว่าอีก)

ต่อจากนั้นเราก็จ่ายมัดจำเค้าไป แล้วเค้าจะไปหักตอนจ่ายค่าโครงการอีกทีน่ะ และก็กรอกใบสมัครของโรงเรียน กับของโกซึ่งก็จะมีให้เราเลือกว่าอยากทำตำแหน่งอะไรด้วย ต่อจากนั้นเค้าก็จะให้เราสัมภาษณ์กับคิทแคทด้วย คือเค้าจะนัดวันเวลาให้เราโทรไปหา ขอเล่าประสบการณ์หน่อยนะ(เม้าอีกและ) แบบว่าวันนั้นเราตื่นเต้นมากๆเลยอะ เพราะพี่โจเพิ่งโทรมาบอกเราวันนั้นว่าสัมภาษณ์เย็นนี้เลย เราก็แบบว่ายิ่งกลัวๆอยู่ชอบมีปัญหาเรื่องสัมภาษณ์ภาษาตปท.อยู่ด้วย ตื่นเต้นมากๆ ไม่เป็นอันทำไรเลย นอนรอเวลาแบบอยากตายเลย นั่งเขียนคำถามคำตอบ แบบว่าเก็งข้อสอบเลยล่ะ 555 แล้วเย็นนั้นเราจะเข้ากรุงเทพพอดีด้วยนัดเพื่อนไว้ แต่แล้วพอถึงเวลาดันโทรไม่ได้ เพราะมือถือเรามันโทรออกไปตปท.ไม่ได้อะ กำ เลยต้องบอกพี่โจให้เลื่อนวันนัดไป ตื่นเต้นเก้อเลย แล้วยังไปหาเพื่อนสายอีก

วันต่อมาก็ยืมโทรศัพท์ลูกตาลโทรไป โทรที่ไหนรู้มั้ยคะ บนมาบุญครองเลยค่า ตรงทางออกไปที่จอดรถอะ หาที่เงียบๆโทร ตื่นเต้นมากๆ เพื่อนก็อยู่อายก็อาย 555 พอโทรไปเราก็ขอสายChirst แต่เค้าไม่อยู่เลยคุยกับKatแทน ตอนแรกคนรับโทรศัพท์พูดไรก็ไม่รู้ล่ะฟังไม่ออกเลย นึกว่าแห้วซะแล้ว แล้วพอได้คุยกับแคทก็บอกชื่อไป เค้าก็จะถามประมาณว่า ทำไมถึงอยากมา เคยมีประสบการณ์ด้านงานบริการร้านอาหารหรือโรงแรมรึเปล่า เราก็ตอบว่าเคยทำแมคกับเป็นเฮ้าที่เมกา เค้าก็ถามว่างั้นอยากมาทำเฮ้ามั้ย เราก็บอกว่าไม่ เพราะกลัวไม่ได้ฝึกภาษา ก็คุยนิดๆหน่อยประมาณนี้อะ ไม่ยากเท่าไหร่ แอบเซ็งว่าอุตส่าห์เก็งข้อสอบไว้ตั้งเยอะไม่ได้ใช้เลย ก่อนหน้านี้พี่โจบอกว่ามีคนไม่ผ่านด้วย แบบว่าตอนสัมภาษณ์อยู่กับเพื่อนหลายคน แล้วก็เขินกันเองพูดไปขำไป คิทแคทเค้าก็คงโกรธ เลยไม่ให้ผ่านเลยค่า

หลังจากนี้ก็รอการตอบรับจากโกว่าผ่านไม่ผ่านเกือบอาทิตย์แน่ะ กลัวจะไม่ผ่านเอาแต่ก็ผ่านมาได้ ตอนนั้นกลัวมากกว่าวีซ่าจะไม่ผ่านอีก 555 หลังจากนี้ก็เตรียมเอกสารขอวีซ่าได้เลย ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันยังเป็นแบบนี้อยู่ป่าวนะ



1. หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือน และหนังสือเดินทางเล่มเก่าทุกเล่มที่มี

2. กรอกแบบฟอร์ม Non-Settlement Form ให้ครบถ้วนเป็นภาษาอังกฤษ และลงลายมือชื่อด้วยตนเอง Application form VAF3(student)

3. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง (อายุไม่เกิน 6 เดือน) ฉากหลังต้องเป็นสีขาว หรือขาวนวลเท่านั้น ขนาด 35 มม. คูณ 45 มม. ( 1 ½ × 2 นิ้ว) หนึ่งรูป

4. สำเนา บัตรประชาชน หรือ บัตรประจำตัวข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ (รับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อ)

5. หลักฐานการเรียนจบการศึกษาครั้งสุดท้าย เช่น ประกาศนียบัตร หรือ ปริญญาบัตร พร้อม transcript หลักฐานที่เคยเรียนเพิ่มเติม หรือ เข้ารับการอบรมในขณะที่กำลังศึกษา หรือ หลังจบการศึกษาแล้ว เช่น สำเนาประกาศนียบัตร พร้อมหลักฐานต่างๆว่า เคยเข้าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ในโรงเรียนสอนภาษา

6. หนังสือตอบรับจากสถานศึกษาในประเทศอังกฤษ ระบุ
ชื่อหลักสูตร/ค่าเล่าเรียน/ระยะเวลาเรียนทั้งหมด/จำนวนชั่วโมงเรียนต่อสัปดาห์/วุฒิทางการศึกษาที่จะได้รับเมื่อเรียนสำเร็จแล้ว

7. หลักฐานการเงินของผู้ที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในระหว่างการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ
1. หนังสือรับรองจากผู้ออกค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้
2. ในกรณีที่ผู้ออกค่าใช้จ่าย มิใช่ บิดา หรือมารดา ต้องมีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์อย่างไรกับผู้ออกค่าใช้จ่าย เช่น สำเนาทะเบียนบ้านของท่าน และของผู้ออกค่าใช้จ่าย จดหมายชี้แจงความสัมพันธ์ในรายละเอียด
3. สมุดบัญชีธนาคารทุกเล่มที่มีของผู้ออกค่าใช้จ่าย (พร้อม สำเนา ย้อนหลัง อย่างน้อย 6 เดือน)
4. หลักฐานการทำงานของผู้ออกค่าใช้จ่าย
- ถ้ามีธุรกิจส่วนตัว ให้นำหลักฐานการประกอบธุรกิจ เช่น หนังสือจดทะเบียนธุรกิจ บัญชีรายการ ทางการเงินของธุรกิจ สมุดบัญชีธนาคารของธุรกิจ
- หนังสือรับรองการทำงาน
- หลักฐานรายได้ เช่น ใบแสดงรายการเงินเดือน (pay slip) หลักฐานการถือครองหุ้น ฯลฯ
- หลักฐานทรัพย์สินที่มี เช่น โฉนดที่ดิน

8. หลักฐานที่พักอาศัยระหว่างศึกษา ระบุชื่อ ที่อยู่ หรือสัญญาเช่า (ถ้ามี)
ในกรณีที่ญาติ เพื่อน หรือ Sponsor เป็นผู้รับรองให้ที่พักอาศัยในประเทศอังกฤษ กรุณานำ
1. หนังสือรับรองยืนยันจะให้ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน
2. สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก และหน้าที่มีตราประทับทุกหน้าของผู้รับรอง
3. หลักฐานการเงินของผู้รับรอง
4. หลักฐานการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยของผู้รับรอง หรือ สัญญาเช่า
5. หลักฐานการติดต่อระหว่างท่านกับผู้รับรอง เช่น จดหมาย ใบเสร็จค่าโทรศัพท์ รูปถ่าย ฯลฯ

9.ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่านักเรียน6,435บาท เริ่ม18 ก.พ.51 ไม่คืนให้หากถูกปฏิเสธ

เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอวีซ่าตามที่ระบุข้างต้น เป็นเอกสารที่กำหนดไว้โดยทั่วๆไป ขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่อาจจะขอเอกสารอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องขอวีซ่าของท่าน



หรือเข้าไปดูได้ที่//www.vfs-uk-th.com/index.aspx

Document Checklist//www.vfs-uk-th.com/pdf/Student.pdf

เว๊บภาษาไทยอันนี้ดีเข้าใจง่ายอิอิ//www.britishembassy.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1070040282456

เว๊บสถานทูต(English)//www.ukvisas.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1018721067373
ส่วนใบสมัครVAF3ก็//www.fco.gov.uk/Files/kfile/VAF3-10Dec07,0.pdf
แล้วก็จะมีส่วนของStudent Questionnaireคำถามใหม่แล้วไม่เหมือนตอนเรามา //www.vfs-uk-th.com/images/Student-questionnaire.pdf

ตอนเตรียมเอกสาร ใบสมัครตอบคำถามไรงี้ ของเอเจนซี่เราเค้าจะมีตัวอย่างการกรอกมาให้ดูด้วย เราก็ได้แต่ลอกๆๆๆ ดัดแปลงนิดๆหน่อยเองอะ 555 เรื่องเอกสารจบไปแล้วนะ

ต่อไปก็เรื่องตรวจวัณโรคที่IOMสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าที่ต้องการอยู่ในอังกฤษนานกว่า 6 เดือน ค่าธรรมเนียม2,600บาท//www.britishembassy.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1131975588537 อันนี้ขอแนะนำหน่อยว่าพอเราไปทำเรื่องแล้ว เค้าก็จะให้เราเลือกว่าจะไปตรวจกับโรงพยาบาลไหน มีพญาไท2 บำรุงราษฏ์ และอะไรอีกไม่รู้อะ เราว่าเลือกพญาไท2สะดวกดีเพราะใกล้รถไฟฟ้าสนามเป้า ติดถนนเลยหาไม่ยาก

เราก็เตรียมเอกสารของเราไป แล้วพอเราจ่ายเงินกับเอเจนแล้ว เค้าก็จะให้เอกสารในส่วนของเค้ามา พวกinvoiceต่างๆ ใบตอบรับที่โรงเรียน ใบจองที่พักไรงี้อะ หลังจากนี้เค้าก็จะตรวจเอกสารจัดลำดับให้ แล้วเราก็เอาไปยื่นที่ศูนย์รับคำร้องได้เลย อาคารรีเจ้นท์เฮ้าส์ ศูนย์ฯอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ราชดำริ ประมาณ 5 นาที
//www.britishembassy.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1089127211388
ขั้นตอนต่างๆก็เข้าไปอ่านกันเองละกันนะ เรามาก่อนที่เค้าจะใช้ระบบไบโอเมตริกซ์น่ะ เลยไม่ได้สแกนนิ้วมือ กับถ่ายรูป รายละเอียดก็เข้าไปดูในเว๊บ

หลังจากนี้ก็รอวีซ่าประมาณ3วันก็รู้ผลแล้วล่ะ ตอนเราเข้าไปเช็คในเว๊บนะมันขึ้นว่าให้ไปรับเล่มได้ เราก็ดีใจนึกว่าวีซ่าผ่านแล้ว แต่พอไปถามที่พันทิปมีคนตอบว่า ได้วีซ่าหรือไม่ยังไม่รู้ต้องไปลุ้นเอาตอนรับเล่มมาแล้ว เราก็กลุ้มเลยกลัววีซ่าจะไม่ผ่าน แต่แล้วก็ได้มาของเราไม่มีปัญหาอะไร แต่ของลูกตาลเค้าโทรมาสัมภาษณ์มันด้วยล่ะ ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่มันเคยมาซัมเมอร์อังกฤษแล้วครั้งนึง เสตทเม้นก็เยอะ

เราว่าเรียนจบอะไรมาก็มีผลเหมือนกันนะ อย่างลูกตาลจบวิดยามา เค้าคงสงสัยว่าอยู่ดีๆจะมาฝึกงานด้านโรงแรมบริการทำไมไรงี้อะ ส่วนเราจบญี่ปุ่น เราตอบคำถามในQuestionaireว่าหลังจากจบคอร์สแล้ว ก็ตั้งใจจะกลับมาทำงานด้านโรงแรมหรือไม่ก็ตั้งใจจะไปเรียนภาษาต่อที่ญี่ปุ่นอีก 555 แถไปได้

ตั้งแต่วันที่เราสัมภาษณ์โกผ่าน เตรียมเอกสาร จ่ายเงิน ยื่นวีซ่า เราใช้เวลาทั้งหมดแค่2อาทิตย์กว่าเองอะ เร็วมั้ย ก่อนหน้านี้เสียเวลาตัดสินใจไปหลายเดือน สรุปว่าถ้าเอาจริงๆละก็แบบเร่งด่วน ไม่ถึงเดือนก็ทำเรื่องเสร็จล่ะ

สุดท้ายแล้วเรื่องตั๋วเครื่องบินเราหาเอง ไม่ได้ให้ทางเอเจนหาให้ เกือบจะซวยเพราะความบื้อของตัวเอง ไม่รู้ว่าจองตั๋วไว้ก่อนได้นึกว่าต้องเสียตังเลย เลยกะว่าให้แน่นอนได้วีซ่าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยซื้อตั๋ว ได้วีซ่าก่อนเดินทางประมาณ3อาทิตย์ เราเริ่มเรียนวันที่16เมษา ก็ต้องไปถึง15เมษาเพราะที่พักจองวันนั้น สงกรานต์พอดีเลยค่า ตั๋วหายากมาก ตระเวณทั่วศรีราชา(บ้านอยู่ศรีราชา)กับลูกตาล หาไม่ได้เลย แล้วตั๋วแพงมากๆ ขนาดการบินไทยเฟิร์สคลาสยังเต็ม นึกว่าต้องยอมไปช้ากว่านั้นแล้วแต่ถึงยังไงก็เลื่อนวันเรียนไม่ได้ เราก็ลองไปถามที่พันทิปอีกเหมือนเดิมเรื่องหาตั๋วเนี่ยแล้วก็ได้เบอร์เอเจนท์นึงมา เค้าบอกว่ามีตั๋วEtihadราคาถูกด้วยล่ะ ก็กะว่าเอาเลย แต่พอเช็คไปเช็คมาไม่มีแล้วค่า เต็มหมดเลย ต้องเป็นwaitinglist ตอนนั้นเครียดมากๆเลยล่ะ แต่ในที่สุดผลสุดท้ายแล้วด้วยผลบุญที่ทำไว้แต่ชาติปางก่อน ดวงมันจะได้ไป พี่ที่เอเจนนี้ก็บอกว่าได้ตั๋วของคูเวตมาถูกด้วยถ้าจะเอาต้องยืนยันเลยนะ เราก็เลยเอาเลย ไม่เกี่ยงแล้วของที่ไหนก็ได้ ก็เลยได้ตั๋วในที่สุดเป็นตั๋วเที่ยวเดียวของคูเวตแอร์ไลน์ เวลาเดินทาง ตี2 (555)เช้าวันที่15ถึงก็วันที่15ประมาณ6โมงเย็น เป็นเวลาที่เหมาะมากๆเลยล่ะ พ่อแม่ไม่ต้องหลับต้องนอนเลย แล้วก็ต้องรอเปลี่ยนเครื่องที่คูเวตอีก 6ช.ม.อีก แต่ได้ตั๋วก็บุญแล้วแถมถูกด้วย สรุปว่าให้หาตั๋วจองไว้แต่เนิ่นๆอย่าเป็นแบบเรานะ เครียดมากๆ

จบสักที ยาวไปหน่อยค่อยๆอ่านละกันนะ อย่าเพิ่งเบื่อ บล๊อกหน้ามาCheck list จัดกระเป๋ากันดีกว่า ใครมีข้อมูลไรก็ช่วยๆกันเสริมได้เลยนะ



Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 2 มีนาคม 2551 9:06:10 น. 5 comments
Counter : 487 Pageviews.

 
หวัดดีจ้า แวะมาทักทายวันอาทิตย์ รายการย้าวยาวเนอะ
check list จะยาวอย่างงี้อะป่าว


โดย: Summer Flower วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:9:58:07 น.  

 
รอดูรายการจัดกระเป๋านะ เราจะได้จัดตาม

แต่เรื่องตั๋วเนี่ยเราก็มีป้ญหาพอกัน...ทั้งที่จองกะเอเย่นแล้วก็ล่วงหน้านานเลย555...พอเรารูว่าเอเย่นไม่ได้ช่วยเรื่องตั๋ว เราก็หาเองเหมือนกัน...หาไปก็คิดไปสารพัดเทียบไปมา
เราว่าถ้าใครจะไปเรียนเนี่ยอย่าเลือกเดือนเมษาเลย ตั๋วแพง ไม่ก็เต็มเร็วมาก สุดท้ายเราก็ได้ตั๋วแพงมาเหมือนกัน รู้สึกเหมือนคำว่าเลือกนักมักได้แร่ มันติดมาในสมองเราแล้วล่ะ





โดย: น้ำ IP: 125.25.148.101 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:21:29:05 น.  

 
ถ้าวาวไปบ้าง คงมึนๆน่าดูเลยนะคะเนี่ย>_<


โดย: * ~ kawwaw ~ * วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:23:02:12 น.  

 
จะไปเมษาพอดี เง้อ....


โดย: พริม IP: 58.8.100.174 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:13:21:58 น.  

 
มาตามอ่านค่ะเปนประโยชมากๆ เหนมีคนถามเรื่องพอคเกตมั่นนี่ไว้


รบกวนช่วยขยายรายละเอียดด้วยน้าค้า


ชอบมากๆเวลาเบียร์เล่าอ่ะรุสึกตื่นเต้นตาม

มีไรก้อแนะนำหน่อยนะ


โดย: เด IP: 203.155.229.4 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:22:22:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BRW
Location :
London United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวังว่าบล๊อคคงจะมีประโยชน์กับหลายๆคนที่คิดจะมาWork&Study in U.K.นะคะ


Hot N Cold - Katy Perry
Friends' blogs
[Add BRW's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.