|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เยอรมันกับแนวคิดตัวตน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บุรุษโลกตะลึง (ตอนจบ)
เขาเริ่มใช้แอมเฟตามีน (ยาบ้า) เป็นครั้งคราวตั้งแต่ ค.ศ. 1937 และเริ่มติดยาใน ค.ศ. 1942 ทำให้มีการตัดสินใจที่ไม่ยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ไม่อนุญาตการร่นถอยทางทหาร เขาได้รับการสั่งจ่ายยาถึง 90 ชนิดที่แตกต่างกันระหว่างสงคราม และกินยาหลายเม็ดต่อวัน เพราะปัญหากระเพาะอาหารเรื้อรังและอาการป่วยอื่น ๆเขาทุกข์ทรมานจากแก้วหูทะลุ อันเป็นผลของแรงระเบิดในแผนลับ 20 กรกฎาคม ใน ค.ศ. 1944 และถูกถอนเสี้ยนไม้สองร้อยชิ้น ออกจากขาของเขา มือฮิตเลอร์สั่นและเดินย่องแย่ง ซึ่งเริ่มขึ้นก่อนสงคราม และเลวร้ายลงเมื่อใกล้บั้นปลายชีวิต เขารักษาโรคพาร์กินสันใน ค.ศ. 1945 ฮิตเลอร์เคยมีแผนการใหญ่ ตั้งแต่ก่อนเขาก้าวขึ้นสู่อำนาจ ในการทำลายอิทธิพลของศาสนจักรคริสต์ภายในจักรวรรดิไรช์โดยการทำลายล้างศาสนจักร เป็นเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้น แต่เป็นการไม่เหมาะสมที่จะแสดงท่าทีสุดโต่งนี้อย่างเปิดเผย เจตนาของเขา คือ รอกระทั่งสงครามยุติแล้วจึงค่อยทำลายอิทธิพลของศาสนาคริสต์
เมื่อฮิตเลอร์พ่ายแพ้ จึงเป็นจุดจบของประวัติศาสตร์ยุโรปที่ถูกเยอรมนีครอบงำและถูกแทนที่ด้วยสงครามเย็น ซึ่งเป็นการเผชิญหน้าระดับโลกระหว่างสหภาพโซเวียต กับ สหรัฐอเมริกา ในเวลาต่อมา นโยบายของฮิตเลอร์ในอดึต ทำให้มนุษย์ได้รับความทุกข์ทรมานในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 40 ล้านคนโดยประมาณ หรือ 27 ล้านคนเฉพาะในสหภาพโซเวียต..!!! สมดุล ตาชั่งอำนาจเชิงสงครามในยุคปัจจุบัน จึงมี 2 ฝ่ายหลัก คือ อเมริกา กับ สหภาพยุโรป และ อีกฝ่าย คือ รัสเซีย กับจีน แต่ประเทศใหญ่ๆ ในยุโรป ปัจจุบันถูกอเมริกา เอาเปรียบต่างๆ นาๆ จนเริ่มจะสุดกลั้น จึงเริ่มหันไปจับมือกับ รัสเซีย และ จีน เพราะขืนอยู่กับอเมริกา ต่อไป แล้วถูกรุมทำสงครามโลกครั้ง 3 ขึ้นมา ยุโรปคงสิ้นเผ่าพันธุ์เป็นแน่แท้
ส่วนอเมริกานั้น ภายในประเทศ รัฐบาลเขาได้ใช้ ความล้ำเลิศอันน่าอ้ศจรรย์ทางด้านข้อมูลครอบงำประชาชนคนอเมริกัน เพราะเขารู้ตัวว่ากำลังจะสูญเสียการควบคุมบงการ และรัฐบาลอเมริกาก็กลัวว่าจะสูญเสียการบงการควบคุมมิตรประเทศของเขาด้วย แต่จริงๆ แล้วรัฐบาลสหรัฐไม่เคยได้มีการควบคุมหรือบงการอย่างแท้จริงเชิงอำนาจเลย รัฐบาลสหรัฐฯ ที่มียิวมีอิทธิพลครอบงำเหนืออีกที เป็นพวกเสพติดอำนาจ และต้องการให้อำนาจนั้นอยู่ในกำมือ ตามนิสัยของยิว ด้งนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ จึงพยายามสั่งให้ประเทศเล็กๆ ซ้ายหันขวาหัน ซึ่งในขณะนี้การไม่ยอม และโต้ตอบกลับเริ่มมีมากขึ้น ๆ ไม่เกิน 5 ปี สมดุลอำนาจโลก จะเอียงมาทาง รัสเซีย กับจีน แน่นอน เมื่อนั้นอเมริกาต้องก่อสงครามในภูมิภาคนี้ ที่มีผลใกล้เคียงกับดินแดนไทย เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ในการเล่นงานจีน สิ่งที่คนไทยต้องเตรียมการรับ คือ ชะลอ ลด ยกเลิก การติดต่อค้าขายทางเศรษฐกิจกับอเมริกา แล้วเปิดตลาดใหม่มุ่งเอเชีย เพื่อดึงเงินทุน และความมั่งคั่งกลับมาอยู่เอเชีย
เมื่อเกิดสงคราม ประเทศทางเอเชีย ก็จะได้เปรียบทางชัยภูมิ เพราะการทำสงครามนั้น ไม่อาจดื้อทำได้นานๆ เพราะความเสียหายทางเศรษฐกิจมันมาก จะเป็นแรงบีบกดดันผู้นำประเทศนั้นๆ ให้เร่งปิดเกมส์ และเมื่อเริ่มเห็นลางพ่ายแพ้ ประเทศพันธมิตรก็จะแปรพักตร์ ไปสวามิภักดิ์อีกฝ่ายหนึ่งเสมอ...สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เป็นบทเรียนพยากรณ์ผลของครั้งที่ 3 บทเรียนฮิตเลอร์ เยอรมัน ที่เล่ามาสอนว่า ประเทศใดแม้จะเก่งกาจสามารถ และมีแสนยานุภาพอาวุธมากเพียงใด..เมื่อถูกรุมกินโต๊ะ..ก็ไม่อาจรอดชะตากรรมไปได้..ธรรมชาติจะปรับสมดุล โดยตัวมันเองเสมอ
Create Date : 10 กรกฎาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2557 9:49:38 น. |
Counter : 797 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|