ไปเที่ยวสิมิลันมาสนุกมากค่ะ ที่บอกว่าสวยใสนี่ไม่ใช่คนนะ แต่เป็นสีน้ำทะเล ฟ้าได้ใจมากๆ เรียกว่าน้ำในสระว่ายน้ำยังสู้ไม่ได้เลย แม้บางวันจะเจอฝนตกบ้าง แต่ความสวยของสิมิลันก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเยอะมากระหว่างทริป เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดีเลย  เราออกเดินทางจากกทม. หลังเลิกงาน ออกจาก กทม. ประมาณทุ่มเศษ แล้วไปโผล่ที่ทับละมุประมาณ 7 โมงเช้า ไปถึงก็มีรถมารับเราไปลงเรือข้ามเกาะ มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า กินอาหารเช้ากันครู่นึง แล้วก็ลงเรือเร็ว หรือที่เรียกว่า Speed boat ไปที่เกาะ ก่อนจะเข้าเกาะ ทางเรือในเราแวะชมความสวยงามของเกาะ 8 กันก่อน จากนั้นก็ตรงไปที่เกาะ 4 ทันทีก็ว่าพายุเข้า ฝนตก สภาพอากาศแบบนี้ทำให้ดำน้ำไม่ได้ แต่เรือก็วิ่งเร็วเสียจนเราคิดว่ากำลังนั่งรถไฟเหาะในดิสนีย์แลนด์เลยล่ะ

บางคนกลัวจนหน้าถอดสี แต่สำหรับเราซึ่งชินกับการลงเรือกลับรู้สึกสนุกมากกว่า อืม...ก็อาจจะมีแอบคิดในใจบ้างว่า ถ้าเรือล่มเราจะเรียกเพื่อนๆ วิ่งไปโดดจากหัว เพราะเวลาเรือจม สิ่งที่อันตรายที่สุดคือใบพัดของเรือ เพราะมันจะดูดเราลงใต้น้ำ ไม่ว่าว่ายน้ำเก่งแค่ไหน ก็ตายค่ะ นึกถึงภาพแจ็คกับโรสในไททานิค นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่เราควรจะทำถ้าเรือล่ม  ทางที่ดีก็เอาชูชีพลงไปด้วย จะได้ไม่เหนื่อยเวลาลอยตัวในน้ำ อืม แต่คนไทยเค้าถือเวลาขึ้นเรือห้ามพูดว่าเรือล่มนะ ตอนที่อยู่ในเรือเราก้ได้แต่คิด คิด แล้วก็คิด ว่าถ้าเจอพายุพัดเรือจะทำยังไง พอขึ้นฝั่งมาคุยกับเพื่อนๆ ทุกคนก็แอบคิดแบบเราเลยว่าถ้าเรือล่มจะทำยังไง ก็คงเอากล้อง ของมีค่าต่างๆ ใส่กระเป๋ากันน้ำ แล้วโดดลงไปด้วยกันนั้นแหละนะ เสื้อผ้าอะไร ช่างมัน แต่ในที่สุดก็รอดจนมาเล่าให้ฟังอยู่นี่ได้นะคะ ฮ่าๆ

พอนั่งเรือ แวะดำน้ำระหว่างทางแล้วก็นั่งตรงไปถึงเกาะก็เช็คอินเข้าบ้านพักกันเลย เราจองห้องพัดลมไว้ 2 ห้องสำหรับ 2 คน ที่ตัดสินใจนอนห้องพัดลม ไม่เอาห้องแอร์เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายเอาเงินส่วนนี้ไปทำอย่างอื่น แต่ก็ได้เดินสำรวจห้องพักอื่นๆ เหมือนกัน และจากที่เห็น เราคิดว่า ห้องแอร์ที่ชื่อว่าสิมิลันคงดีสุด เพราะห้องแอร์ส่วนอื่นๆ จะต้องเดินขึ้นเขาไป ไกลเกินไป เวลาลืมของ หรืออยากจะไปเอาของทีคงต้องคิดแล้วคิดอีก แล้วอย่างพวกเราที่ชอบมานั่งดื่มชิลล์ๆ กันริมหาดช่วงพลบค่ำ 

วันแรกที่ไปถึงเกาะก็ไม่มีอะไรมาก เรากับเพื่อนๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนพักผ่อนกันยามบ่าย เพราะทุกคนกำลังเพลียจากการนอนบนรถเมื่อคืนและดำน้ำในตอนเช้า

ตกค่ำก็ออกหากิน เอ๊ย หาอะไรกินที่อุทยานมีโรงอาหารเราก็ไปสั่งอาหารเป็นชุดๆ มากินกัน อาหารก็คล้ายๆ เดิมทุกวัน มีปลา 1 อย่าง ผัดผัก 1 อย่าง แกง 1 อย่าง ของทอดอีก 1 อย่าง  ส่วนแต่ละวันจะทำเป็นอะไรนั้นก็ต้องไปดูที่กระดานเอาเอง 

วันที่สอง เราก็ไปเล่นน้ำอีกหาดนึง ไปปีนดูจุดชมวิวบนหน้าผา แล้วก็นั่งชิลล์ดื่มเหล้าสาเกและว้อดก้าที่ซื้อมาด้วยหลังมื้อค่ำ แล้ววันที่สามตั้งใจจะไปดำน้ำกับทางอุทยานกันทีแรกนึกว่าจะไม่ได้ไปเพราะฝนตก เจ้าหน้าที่บอกว่างดไปดำน้ำ แต่พอสายๆ 10 โมงเช้า ฟ้าเปิด พวกเราเห็นมีเรืออุทยานมาเทียบก็เดินไปถามเค้าบอกว่าเรือพาดำน้ำใช่มั้ย พอรู้ว่าใช่  เราสี่คนรีบวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเอาสน็อคเกิ้ล กับอุปกรณ์ดำน้ำ แล้วก็กระโดดขึ้นเรือ ปรากฏว่าวันนั้นคลื้นแรงมี มีคนเมาเรืออ้วกกันหลายคน เราเองก็เกือบๆ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเมามาก่อน เลยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะไอ้เสื้อชูชีพแน่เลย พอไปถึงจุดดำน้ำที่ 2 เราเลยเปรี้ยวไม่ใส่ชูชีพ โดดลงทะเลตัวเปล่าพร้อมกับสน็อคเกิ้ลคู่ชีพ ปรากฏว่าดีขึ้นเยอะ ว่ายน้ำคล่องตัว แล้วก็ว่ายได้เร็วกว่าเป็นไหนๆ ทำเอาเข็ดกับการใส่ชูชีพไปเลย อึดอัด

การดำน้ำที่สิมิลันสำหรับการดำน้ำแบบ skin diving (ดำผิวน้ำ) หรือบางคนเรียกว่า snorkeling (ดำโดยใส่แค่หน้ากากดำน้ำ) นั้น สู้ที่หมู่เกาะสุรินทร์ไม่ได้เลย แม้จะปลาเยอะมากๆ ไม่กลัวคนอีกต่างหาก แต่ปะการังไม่งดงามเท่า น้ำใสออกเป็นสีฟ้า แต่ที่สุรินทร์จะออกอมเขียว สวยคนละแบบ มีจุดที่สวยแค่จุดปะการังสวยเพียงเดียวตรงเกาะ4 สิมิลันแถมเราไม่ได้ไป  เพราะสภาพอากาศไม่อำนวย แต่สำหรับการดำน้ำลึกนั้นมีคนบอกว่าสวย อยากดำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็น 2 เท่าจากปกติเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับรวมค่าไปเรียนดำน้ำนะคะพี่น้อง....คนจนอย่างเราหมดสิทธิ์ ฮือๆ

ในส่วนของการดำน้ำอาจจะไม่ค่อยประทับใจ แต่การเล่นน้ำชายหาดนั้นคนละเรื่อง คลื่นแรงแล่นน้ำสนุกมาก ไปเที่ยวคราวนี้เราเริ่มอยากได้ทูพีชไว้ใส่เล่นน้ำแล้ว เพราะอยู่ที่เกาะใส่ชุดว่ายน้ำเกือบทั้งวัน เวลาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจะค่อนข้างลำบากหากใส่ชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัว  เราเลยตั้งใจว่าเดี๋ยวจะไปถอยทูพีชมาสักชุดดีกว่า  พร้อมกับเสื้อใส่ดำน้ำอีกตัวจะได้ไม่ดำ เหอๆ

กล้องฟิชอาย

คืนวันสุดท้าย พวกเราสาวๆ 4 คนมานั่งดื่มกันตรงทางเดินที่เป็นสะพานไม้ มีเจ้าหน้าที่อุทยานกะคนที่เป็นคนคุมงานต่อเติมสถานที่ที่นั่น แล้วก็รองหัวหน้าอุทยาน เข้ามาคุยด้วย ทีแรกเราก็นึกว่ามาตรวจเยี่ยมธรรมดา แต่เปล่าพี่แกมาโม้ยาวเลย นานมากจนพี่แกขอว่า พวกผมขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ แล้วก็มาถามว่ามีแฟนกันรึยัง พวกเราก็เลยโม้ไปบอกว่ามีแล้วทุกึคน แกก็ยังไม่ยอมไป ก็มาชวนคุยนั่นนี่ เราก็คุยด้วยเพราะคิดว่าเค้าอยู่บนเกาะคงจะเหงา หาเพื่อนคุยล่ะมั้ง ก็คุยด้วยจนกระทั่งเกือบเที่ยงคืนฝนลงเม็ดถึงได้แยกย้ายไปนอนกัน

เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ พวกเราไปเล่นน้ำสั่งลากันที่หน้าหาด น้ำทะเลใสกิ๊กเลย มีปลามาว่ายเล่นกับพวกเราด้วย เป็นปลา PR มากๆ ว่ายตามตลอด ไม่กลัวคนรึว่ามันคิดจะชวนเราเข้าฝูง บ้าเรอะ ฝูงของชั้นเป็นแมวน้ำที่เกาะกาลาปากอสต่างหาก ไม่ต้องมาชวน อิอิอิ

นี่ล่ะค้าประสบการณ์เที่ยวครั้งในทริปนี้ มีบ้านเกิดเป็นเมืองท่องเที่ยวแสนงดงามทั้งที ไปเที่ยวกันซะนะคะจะได้รู้ว่าบ้านเราสวยงามขนาดไหน เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้จริงๆ นะคะ

ปล1. การอยู่ในชมรมถ่ายภาพและมีอาวุธครบมือไม่ได้แปลว่าคนคนนั้นจะถ่ายรูปสวยเสมอไป แม้ว่าเค้าจะมีความรู้อยู่เต็มหัว แต่จงขอดูผลงานเค้าด้วย แล้วคุณจะรู้ว่าเค้ามีฝีมือจริงๆ รึเปล่า ก๊ากๆๆๆๆ

ปล2. รูปสวยๆ ที่เห็นอยู่นี้คือฝีมือ Answer in The Sky กับ i-Dle FreeSpaze ค่ะ ขอบคุณเพื่อนมากสำหรับรูปงามๆ ถ้าอยากดูรูปเยอะๆ กว่านี้ก็ตามไปดูได้นะคะ

Create Date : 04 มิถุนายน 2551
Last Update : 2 กันยายน 2552 0:49:49 น.		0 comments
Counter : 726 Pageviews.
Share Tweet