Nick Dhapana's Blog
|
|||
ยาไทย หรือยานอก ขอพักเรื่องการตลาดยาไว้สักหน่อย พอดีมีเรื่องที่คนถามมาเรื่อง ยาไทย หรือยานอก ต่างกันอย่างไร เวลาไปหาหมอ หรือไปซื้อยาที่ร้านขายยา หมอ หรือเภสัชกร ก็มักจะมีการถามว่า จะเอายาไทย หรือจะเอายานอก และเห็นว่ายาเดียวกัน ราคามันต่างกันเยอะมาก เลยไม่แน่ใจว่า ยาไทย กับยานอกจะเหมือนกันหรือเปล่า ตอบได้ว่า ทั้งเหมือน และไม่เหมือน คือ เรื่องนี้มันต้องคุยกันยาวครับ ในการผลิตยาขึ้นมาสักอย่างหนึ่งนั้น มันมีขั้นตอนมากมาย สมัยก่อน อาจจะเริ่มจากการนำสารเคมีหลายๆ อย่างมาทดลอง เพื่อหาประสิทธิภาพในการเป็นยา (เมืองไทยอยู่ในขั้นนี้) แล้วก็เอาสารเคมีที่พอมีหวังมาทดลอง และพัฒนาต่อ พร้อมกับคิดค้นสูตร ว่าจะเอาสารนั้นมาทำให้เป็นยาได้อย่างไรด้วย สมัยนี้อาจจะใช้วิธีดีไซน์ลงบนกระดาษก่อน ว่าอยากให้สารเคมีนั้น มีลักษณะรูปร่างอย่างไร มีคุณสมบัติอย่างไร ถึงจะออกฤทธิ์เป็นยาได้อย่างที่ต้องการ สมัยหน้า ในยุคของ นาโนเทคโนโลยี ผสมกับความรู้ด้านจีโนมมนุษย์ การออกแบบ และการผลิตยาก็จะมีลักษณะที่ต่างออกไปจากนี้อีกเยอะ เทคโนโลยีในการคิดค้นและผลิตยาใหม่ๆ ยังเป็นสิ่งที่เมืองไทยยังทำไม่ได้ ดังนั้นจึงมีเฉพาะบริษัทยาจากต่างประเทศเท่านั้น ที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรในการผลิต บริษัทยาจากต่างประเทศที่เป็นผู้คิดค้น เราเรียกว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตยาต้นตำรับ ยาจากบริษัทผู้คิดค้น เภสัชกร หรือหมอ มักจะเรียกติดปากว่า "ยาออริจินัล" และบอกให้คนไข้เข้าใจง่ายๆ ว่า "ยานอก" เมื่อสิทธิบัตรยาของผู้คิดค้นหมดอายุลง (ประมาณ 20 ปี) ทีนี้ก็เป็นโอกาสดี ที่บริษัทอื่นๆ สามารถผลิตยาเดียวกันนี้ได้ บริษัทยาในเมืองไทย ก็จะซื้อตัวยาสำคัญมาจากบริษัทผู้ผลิตสารเคมี (ซึ่งก็ก็อป เอ้ย.. คิดค้นวิธีการผลิตมาจากไหนไม่รู้) มาผสมกับส่วนผสมในการผลิตอื่นๆ เพื่อทำเป็นยา การคิดค้นสูตร หรือตั้งตำรับยา หรือที่พวกเภสัชฯ เรียกว่าการฟอร์มูเลท (Formulation) เป็นวิชาที่เภสัชกรทุกคนได้เรียนตั้งแต่ปีต้นๆ และมีหลักสูตรในเมืองไทยถึงระดับปริญญาเอก ถ้าตัวยานั้นไม่พิสดารจนเกินไป การคิดค้นสูตรในการผลิตขึ้นมาใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับคนไทยอยู่แล้ว ที่ต้องมาคิดค้นเอง เพราะการตั้งตำรับนั้น มักจะปิดเป็นความลับ ไม่ได้จดสิทธิบัตร หรือจดสิทธิบัตรเอาในปีท้ายๆ ที่สารเคมีที่เป็นตัวยาใกล้จะหมดสิทธิบัตรแล้ว เพื่อเป็นการยืดอายุสิทธิบัตรทางอ้อม (บางทีเทคนิคการสังเคราะห์ตัวยาก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน) แปลง่ายๆ ว่าห้ามก็อบวิธีตั้งตำรับยา หรือวิธีการสังเคราะห์สารเคมีเป็นตัวยา แต่เอาตัวยาไปหาวิธีการสังเคราะห์เอาเอง และตั้งตำรับเอาเองได้ บริษัทผู้ผลิตในเมืองไทยนี้ ในวงการยาเราเรียกกันว่า บริษัทยาโลคัลเมด (Local Made) หรือบริษัทเจเนริค (Generic) ซึ่งหมายถึงบริษัทที่ผลิตยาที่มีชื่อสามัญทางยา (Generic Name) เดียวกันกับบริษัทยาต้นตำรับ ต่างกันแต่ยี่ห้อ (Trade Name) และบางที คำว่าโลคัล หรือเจเนริค ยังครอบคลุมถึงยาเจเนริคที่ผลิตต่างประเทศ แล้วนำเข้ามาขายในเมืองไทยด้วย การผลิตยาของบริษัทในเมืองไทยนั้น ถ้าบริษัทไหนกล้าลงทุนเยอะหน่อย ก็จะซื้อตัวยาสำคัญจากบริษัทที่ทำให้ยาออริจินัลเลย รองลงมาก็เป็นตัวยาจากบริษัทอื่นๆ ในอเมริกา หรือยุโรป บริษัทที่ลดต้นทุนมากๆ ก็จะซื้อจากบริษัทเคมีของอินเดีย หรือจีน ซึ่งความบริสุทธิ์ของสาร ความสามารถในการปลดปล่อยตัวยา ความคงตัวไม่เสื่อมสภาพง่ายๆ หรือคุณสมบัติอื่นๆ ก็ต่างกันไป ว่ากันตรงๆ คุณภาพก็เป็นไปตามราคานั่นแหละ นอกจากตัวยาสำคัญแล้ว ส่วนประกอบอื่นๆ ในการผลิตยา ก็เช่นกัน เกรดของสารเคมีแต่ละอย่าง ก็แตกต่างกันไปตามแต่ผู้ผลิตจะเลือก และการตั้งตำรับในการผลิตยา ก็ทำให้ยาแต่ละยี่ห้อ แต่ละบริษัท แม้จะเป็นตัวยาเดียวกัน มีคุณภาพได้มาตรฐานเหมือนกัน แต่ก็อาจจะให้ผลในการรักษาจริงๆ ไม่เท่ากันก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ในวงการยา และผู้ใช้ยา ทั้งแพทย์ เภสัชกร แม้กระทั่งบริษัทยา ต่างยอมรับกันว่า ยาออริจินัล มีคุณภาพดีที่สุด คำว่า "ดี" ในที่นี้ ไม่ได้หมายว่ากินแล้วหายเร็ว หรือมีตัวยามาก หรือออกฤทธิ์ดี และเร็วกว่า คำว่า "ดี" ในทางยา หมายถึง มีปริมาณยาตรงตามที่ระบุไว้ในฉลาก อาจจะมาก หรือน้อยกว่านั้นนิดหน่อย โดยที่ไม่ทำให้ผลการรักษาเปลี่ยน การปลดปล่อยตัวยาเข้าสู่ร่างกาย เป็นไปตามมาตรฐานที่ออกแบบไว้ การเปลี่ยนแปลง การกำจัด และการออกฤทธิ์ของยาในร่างกาย ก็เช่นกัน คือเป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น และที่ออกแบบไว้ ผลดีคือ ทำให้ทำนายผลการรักษาได้ ว่าคนไข้ควรเป็นอย่างไรเมื่อกินยา และหากไม่ได้ผลตามที่คิด ก็จะได้มั่นใจว่า ไม่ได้เกิดจากยาไม่ได้มาตรฐาน มากไป น้อยไป แต่อาจจะเป็นเพราะเหตุอื่นก็ได้ ***ชักเริ่มยาวเกินไปแล้ว พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาแจกแจง ว่ากรณีไหนควรใช้ยาไทย แบบไหนควรใช้ยานอก*** น่าสนใจ น่าสนใจ
มาลงชื่อทักทายไว้ก่อนนะคะ คืนนี้ดึกแล้วเดี๋ยวนู๋มาอ่านต่อวันหลัง โดย: นอนตัวกลม วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:1:16:37 น.
ตามมาอ่านแล้วค่ะ คุณหมอหมูแนะนำมา สงสัยอยู่นานแล้ว แล้วจะมาอ่านต่อนะคะ
โดย: nuch_tiew IP: 125.24.139.92 วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:6:34:48 น.
|
อะธีลาส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?] Photographer, photo educator, writer and more....... อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution. Website http://mister-gray.bloggang.com https://twitter.com/nickdhapana http://500px.com/NickDhapana https://plus.google.com/+NickDhapana http://nickdhapana.tumblr.com http://instagram.com/nickdhapana https://www.facebook.com/dhapana/about Skype & Email cmosmyp@gmail.com Line nickdhapana My Project's Page Public Telephone https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject They didn't say that. https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600 Exposure to the RIGHT https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951 Thailand Perspective Project https://www.facebook.com/ThailandPerspective Dead on Arrival https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961 Group Blog All Blog
Friends Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5743740/X5743740.html#25
ถ้าว่างก้อเข้าไปตอบด้วยก็จะดีจังค่ะ
ขอบคุณค่ะ