Nick Dhapana's Blog
|
|||
แอ๊บบอท กับการใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตรยา หลังจากมีการใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตรยาสองสามชนิดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา บริษัทยาแต่ละบริษัทก็มีการตอบสนองต่างๆ กันไป แอ๊บบอท ตอบสนองมาตรการนี้โดย ไม่นำยาใหม่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย วงในอุตสาหกรรมยา วิเคราะห์ว่า งวดนี้แอ๊บบอตพลาดครับ บ ริษัทอื่นที่โดนไปแล้ว และกำลังจะโดน เค้าตอบสนองโดยการเจรจาลดราคาบ้าง แถมบ้าง ขายพ่วงบ้าง (ยอมลดราคาตัวนี้ แต่ขอให้ซื้อตัวอื่นเพิ่มด้วย) ห รือให้ซื้อวัตถุดิบจากบริษัทในราคาถูกมาผลิตบ้าง รับจ้างผลิตแปะป้ายองค์การเภสัชฯ บ้าง ต่อรองให้ยืดเวลาการเริ่มบังคับใช้ หรือบังคับใช้ในบางส่วน บางเงื่อนไขบ้าง แต่อันที่จริงกว่าองค์การเภ สัชฯ จะเริ่มผลิตเองได้ ก็ต้องใช้เวลากันอีกสักระยะ อย่างต่ำๆ ก็เกือบปี มีเวลาเจรจาไกล่เกลี่ย ต่อรองราคากันอีกนาน หรือใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตรในบางอย่าง บางเงื่อนไข ไม่ใช่องค์การเภสัชฯ จะผลิตเองทั้งหมด คนในวงการยาเชื่อกันว่า ไม้นี้ของรัฐบาล ไม่ได้ต้องการนำมาใช้จริงๆ หรอก แค่เอามาขู่บริษัทยาเท่านั้น ท้ายสุดบริษัทยาจะลดราคา โดยไม่ต้องบังคับใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตรจริงๆ ด้วยซ้ำ โดยได้ขายยาในวงกว้างกว่าเดิม ---------------------------------------- แอ๊บบอตตอบสนองแบบนี้เป็นการตื่นตูมเกินกว่าเหตุ โดยหวังว่าจะทำให้รัฐบาลไม่ใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตรเลย แต่ยาของแอ๊บบอต แทบทุกตัว มีคู่แข่งที่ใช้ทดแทนกันได้ แม้จะไม่ดีเทียบเท่า แต่ก็ดีพอในการรักษา จึงถือว่าไพ่ตายของแอ๊บบอตไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ ในการต่อรอง (ถ้าไม่มีน้ำหนักจากผู้สนับสนุนอื่น) สิ่งที่จะเสียไปคือ การบอยคอตประเทศไทย เป็นการบอยคอตตัวเองด้วย น่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในตลาดนมผงสำหรับทารก ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำ หรือในตลาดยาดมสลบ ที่ครองตลาดอยู่เกือบ 90% ทิ้งห่างอันดับที่สอง (7%) หลายปีแสง ปัญหาของแอ๊บบอท ในเมืองไทย ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหรอกครับ ถ้าเทียบกับที่แอ๊บบอทจะเจอในประเทศอื่นต่อไป มองในแง่หนึ่ง เหมือนกับว่าแอ๊บบอท จะประกาศตัวเองต่อโลกว่า ต่อต้าน และไม่เห็นด้วยในเรื่องของการใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตร แอ๊บบอทอาจจะมองได้ว่าจะทำให้ประเทศอื่นไม่กล้า "หือ" ใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตร แต่มองในอีกแง่หนึ่ง การกระทำแบบนี้ จะทำให้แอ๊บบอทเป็นบริษัทเดียวที่ถูกไทยใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตร (ส่วนบริษัทอื่นตีกรรเชียงเอาตัวรอดไปเรียบร้อยแล้ว อย่างที่บอก) กลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นเลียนแบบ เพราะรู้ว่าแอ๊บบอท ทำอะไรไม่ได้ นอกจากบอยคอต และไม่มีใครช่วยสนับสนุนแอ๊บบอท (สาเหตุจะอธิบายต่อไป) ซึ่งประเทศอื่นก็เช่นเดียวกันกับไทย คือ สามารถใช้ยาชนิดอื่น หรือยาก็อปปี้จากแหล่งผลิตในจีนหรืออินเดีย ทดแทนยาของแอ๊บบอทได้ ยาอื่น และผลิตภัณฑ์อื่นของแอ๊บบอทยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง เพราะมีคู่แข่งเพียบในตลาดปัจจุบัน ------------------------------------------------------- สาเหตุที่แอ๊บบอท ไม่มีแนวร่วมนั้น ต้องย้อนกลับไปในอดีตกันหน่อย ในสมัยหลายปีก่อน ตอนที่บริษัทยาเอดส์ถูกกดดันให้ลดราคา ทำให้ยาเอดส์เกือบทุกตัวต้องลดราคาลงมา หลังการประชุมองค์กรการค้าโลก รอบโดฮาไม่นาน (เป็นเหตุให้มีการตัดงบวิจัยยาเอดส์ หรือหลายบริษัทยกเลิกการวิจัยยาเอดส์ไปเลย) ยาเอดส์อื่นของแอ๊บบอท ก็ลดราคาลงมา ยกเว้นคาเล็ตตร้ายาเจ้าปัญหาตัวนี้แหละ ที่มีการขึ้นราคาเป็นเท่าตัว เพราะแอ๊บบอทถือว่าในสูตรยาเอดส์ใหม่ๆ จะมีการผสมคาเล็ตตร้าเข้าไปด้วยเสมอ จึงเป็นการขายแบบผูกขาดมัดมือชก ทำให้แอ๊บบอทกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของหลายรัฐบาล และแน่นอน องค์กรเกี่ยวกับเอดส์ทุกองค์กร ไม่แปลกที่งวดนี้ เมื่อแอ๊บบอทมีปัญหากับรัฐบาลไทย จึงหาแนวร่วมได้ยาก แม้แต่รัฐบาลมหาอำนาจยังพูดช่วยได้ไม่เต็มปากเต็มคำ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทอื่นชิ่งหนึไปแล้ว เหลือแต่แอ๊บบอทเจ้าเดียว รัฐบาลมหาอำนาจยิ่งพูดไม่ออกใหญ่ ในอนาคต หลายๆ ประเทศจะยิ่งใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตรยาเอดส์กันมากขึ้น เพราะเห็นว่าไทยใช้กับคาเล็ตตร้าได้ผล หากเอาไปใช้กับยาอื่น ก็ยังอาจจะมีคนคัดค้าน แต่กรณีของยาเอดส์ คงจะหาคนช่วยแอ๊บบอทได้ยากเต็มที ตลาดยาเอดส์ในเมืองไทย เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ฐานลูกค้ากว้าง และรัฐบาลส่งเสริมให้ใช้ยาต้านไวรัส ถ้าเทียบกับประเทศในแถบแอฟริกา ที่แม้จะมีผู้ป่วยมาก แต่กำลังซื้อต่ำ ไม่ค่อยได้ใช้ยาแพงๆ แบบนี้ หรือในประเทศอื่นที่มีกำลังซื้อสูง ก็มีฐานผู้ป่วยน้อย หรือบางประเทศไม่ได้รับการส่งเสริมการใช้ยาต้านไวรัส ส่วนตลาดที่มีกำลังซื้อ ฐานลูกค้ากว้างอย่าง จีน และอินเดีย ไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะเต็มไปด้วยาก็อปปี้ หนทางสำหรับแอ๊บบอท ในอนาคต จะไม่ง่ายดายเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่ประกาศใช้อำนาจเหนือสิทธิบัตร ราคาหุ้นแอ๊บบอทกรุ๊ปที่อยู่ในระดับ 300 กว่าๆ ลงมาแถว 260 เลย และยังมีแนวโน้มลงมาเรื่อยๆ น่าสงสัยว่าผู้ถือหุ้น และคณะกรรมการบริหาร จะปล่อยให้ CEO อยู่ในตำแหน่งนี้ไปได้นานอีกแค่ไหน ถ้าสถานการณ์ และราคาหุ้นยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ |
อะธีลาส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?] Photographer, photo educator, writer and more....... อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution. Website http://mister-gray.bloggang.com https://twitter.com/nickdhapana http://500px.com/NickDhapana https://plus.google.com/+NickDhapana http://nickdhapana.tumblr.com http://instagram.com/nickdhapana https://www.facebook.com/dhapana/about Skype & Email cmosmyp@gmail.com Line nickdhapana My Project's Page Public Telephone https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject They didn't say that. https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600 Exposure to the RIGHT https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951 Thailand Perspective Project https://www.facebook.com/ThailandPerspective Dead on Arrival https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961 Group Blog All Blog
Friends Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |