เจ้าชายน้อยของแม่
เส้นทางชีวิต (ต่อ)


กะว่าจะเขียนเล่าต่อตั้งหลายวันมาแล้ว

มัวแต่จะแต่ง Background ให้บล็อกของลูกมิ่ง

ทำอยู่ตั้งหลายวันมาแล้ว ยังไม่สำเร็จสักที

ขอล้มเลิกความตั้งใจก่อนละกาน

ไม่ง้านคงไม่ไ้ด้เล่าต่อแน่


เริ่มเรื่องต่อกันเลยนะจ๊ะ

พอถึงวันพฤหัสที่ 18 ตุลา พอเที่ยงคืนก็งดอาหาร

และก็ตรวจร่างกายกันทั้งคืน

เหมือนเดิม พอสัก 6 โมงเช้า พยาบาลก็มาทำความสะอาด สวนทวาร

แล้วอาบน้ำ อาบท่า พอเรียบร้อยก็นอนให้เจาะน้ำเกลือ

นั่งคุยกับว่าที่คุณแม่ใน ห้องรอคลอด (ห้อง 8)

พอคลายความตื่นเต้น โดยไม่รู้ว่าจะได้ผ่าเมื่อไร

เพราะคุณหมอไม่ได้กำหนดเวลาแน่นอน

ก็นั่งลุ้นกันอยู่ตั้งนานว่าใครหนอ

จะเป็นรายแรก ตกลงกลายเป็นแม่ที่ถูกเข็นออกจากห้องรอคลอด

รู้สึกตื่นเต้นมากมือเย็นเจี๊ยบเลย เจ้าหน้าที่มาเข็นออกไปไม่รู้ชั้นไหน

เหมือนเป็นส่วนของห้องที่ใช้ผ่าตัด เพราะมีคนหลากหลายนอนรอผ่าตัด

เจ้าหน้าที่ก็สักประวัติ ให้เลือกวิธีการวางยา มีให้เลือก 2 วิธี

วิธีแรกเป็นการดมยาสลบ อีกวิธีเป็นการฉีดบล็อคหลัง

แม่เลือกฉีดบล็อคหลัง เพราะคิดว่าตั้งแต่ท้องมายังไม่รู้สึกถึงการเจ็บท้องคลอด

เลย นี่ถ้าฉีดยาสลบมีหวังเหมือนหลับแล้วฝันไปไม่มีส่วนร่วมเลย เสียโอกาส


พอขั้นตอนเรียบร้อยแล้วก็เข็นไปที่ห้องผ่าตัด (ห้อง 8)

เข้าไปในห้องผ่าตัดก็ย้ายเตียงแม่ไม่ต้องลุกเลยเจ้าหน้าที่จับผ้าปูที่นอน

ยกไปวางบนเตียงผ้าตัด พยาบาลก็นำอุปกรณ์ต่างๆ มาปะ มาแปะ เต็มตัวไปหมด

มีเครื่องวัดหัวใจแปะตรงหน้าอกด้านสาย

เครื่องวัดความดันหนีบอยู่ตรงนิ้วชี้ด้านขวา

แล้วเอาออกซิเจนมาครอบ

ตอนนั้นแม่หัวใจเต้นเร็วมาพยาบาลต้องคอยบอกให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องตื่นเต้น

ไม่งั้นจะผ่าตัดไม่ได้ เพราะความดันจะขึ้น

เวลานั้นหมอยังมาไม่ถึงเลยลูก แล้วแพทย์วิศัญญีที่รอฉีดยาชาให้ก็มารอแล้ว

ตามหมออยู่หลายรอบจนหมอใกล้มาถึง แพทย์วิศัญญีเลยฉีดยาชา

โดยให้แม่นอนตะแคงแล้วงอตัวมากๆ แล้วฉีดให้ระหว่างกระดูกสันหลัง

รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน ได้ยินมาเยอะว่าฉีดแล้วเจ็บมาก

แต่จริงๆ แล้วไม่เจ็บอย่างที่คิดเพราะเข็มเล็กมาก เล็กกว่าเข็มให้น้ำเกลืออีก

พอฉีดเสร็จต้องรีบนอนหงายไม่งั้นจะชาแค่ซีกเดียว

เสร็จแล้วก็รอยาชาออกฤทธิ์ โดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงหน้าอกว่ามีความรู้สึก

เมื่อเทียบกับต้นแขน พอรู้สึกว่าเจ็บน้อยกว่าก็เริ่มทำการสวนปัสสาวะ

หมอก็มาถึงพอดี ในห้องผ่าตัดดูสบายๆ พยาบาลคุยกันเรื่อยๆ ฟังวิทยุไปพลางๆ

รู้สึกไม่นานหมอก็บอกว่ากำลังให้เด็กออกมา ดันตรงท้องช่วงบนดันหนูออกมา

จุกไปเหมือนกัน พยาบาลก็คอยบอกว่าทำอะไรถึงไหนแล้ว

เมื่อหนูออกมาหมอบอกว่าผู้ชาย (รู้อยู่แล้วแหละ) ได้ยินเสียงร้องของหนู

แล้วแม่ตื่นตันใจมากบอกไม่ถูก มันแน่นหน้าอกขึ้นมากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

พอนึกถึงขึ้นมายังรู้สึกถึงอารมณ์นั้นอยู่เลย


พยาบาลเอาหนูไปทำความสะอาดแล้วก็ให้แม่มาหอมหนึ่งฟอด

แล้วก็เอาหนูไปแผนกเด็ก

หมอก็เย็บแผลเสร็จแล้วก็เข็นไปห้องพัก แม่ยังไม่ได้ห้องพิเศษ

ต้องไปนอนรอที่ห้องสามัญก่อน ไม่รู้กี่โมงแล้วพ่อหนูก็ยังไม่มา

เพลียมากแต่ก็นอนไม่หลับ พอเคลิมๆ พ่อหนู่ก็มาบอกหาไม่เจอ

ตั้งแต่เช้าถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้คำตอบบอกว่าอยู่ห้องคลอด

กว่าจะเจอก็ปาเข้าไปบ่ายสองได้

สักบ่าย 4 โมงครึ่งก็ได้ห้องพิเศษ ค่อยยังชั่ว เพื่อนๆของพ่อหนูก็ทยอยกันมาเยี่ยม

แหมไม่น่ารีบมาเลย ตัวเองโทรมมากเลย ยังขยับตัวไม่ได้

รอหนูอยู่นาน เพราะยังไม่ได้เอามาให้แม่

พอสัก 2 ทุ่มครึ่ง พยาบาลก็เอาหนูมาให้แม่ หนูร้องเสียงดังมาก

แล้วคืนนั้นพ่อกับแม่ (มือใหม่) ก็แทบไม่ได้หลับได้นอน

จนช่วงเช้าพยาบาลมาวัดไข้ ปรากฎว่าแม่ไข้ขึ้นเลย


วันรุ่งขึ้นแม่ก็ยังนอนอยู่บนเตียงโดยยังไม่ได้กินอะไรเลย

ไม่รู้กินน้ำเกลือไปกี่ขวด จนถึงเย็นนั้นแหละที่ได้กินน้ำข้าว กับน้ำเก็กฮวย

่ส่วนอาหารอื่นๆ พ่อหนูจัดการซะเรียบ

พอตกเย็นก็ขยับตัวพยายามนั่ง แต่ก็ไม่ไหวเจ็บแผลมาก

ถึงตอนเช้าวันเสาร์ก็พยายามใหม่ อืม ต้องอดทนไม่งั้นแผลจะติดกันเป็นผังผืด

เลยเจ็บน้อยลงวันนั้นก็เดินเกาะแกะไปทั่วห้อง เช้านี้แม่ได้กินข้าวซะที

อาหารที่โรงพยาบาลอร่อยมากเลย แม่กินได้เยอะมาก

วันนี้หนูก็โดนเจาะเลือดไปตรวจเพราะตัวเหลือง ผลออกมาปกติ


เช้าวันอาทิตย์ หมอเด็กมาตรวจหนูอีกรอบ ตัวเหลืองอีกแล้วหรอคุณหมอ

หนูต้องโดนเจาะเลือดอีกแล้ว แม่หละสงสารหนูจริงๆ แต่เพื่อความปลอดภัย

ไม่อย่างนั้นจะมีผลต่อสมองของหนู รายละเอียดจำไม่ได้แล้วจ๊ะ

แต่ผลออกมาก็ปกติหมอเลยบอกให้เด็กออกได้แล้ว

อ้าว แล้วจะทิ้งแม่เลยหรอ พอหมอมาตรวจแม่เลยถาม

หมอก็ไปถามหมอประจำบ้าน และหมอวิบูลย์

ตั้งแต่ 9 โมง เช้ากว่าจะได้คำตอบว่าออกได้ก็ปาเข้าไป เที่ยงครึ่ง

แล้วไปชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วก็ให้ออกจากห้องตอนบ่ายสอง

โหยให้จะไปเก็บของทัน เลยรีบเก็บของกันใหญ่

ของเยอะสุดในตู้เย็น ลูกเอ๋ย เหมือนอยู่บ้านเลยของเต็มไปหมด

ขากลับลำบากสิครับ ไม่มีคนมารับ ต้องกลับแท็กซี่เอง

สงสารย่า กับพ่อของหนู ต้องแบกของเต็มไปหมด

ส่วนตัวแม่ก็แบกหนูคนเดียว สบายไป

และแล้วเราก็พาหนูกลับมาถึงบ้านแล้ว

ถึงเรายังไม่มีบ้านของเราเอง

แต่พ่อกับแม่ก็จะสร้างให้หนูในไม่ช้านี้หละจ๊ะ

รอก่อนนะลูก ยินดีต้อนรับสมาชิกตัวน้อยๆ ของแม่


รักลูกมิ่งมากนะครับ



Create Date : 19 มีนาคม 2551
Last Update : 20 มีนาคม 2551 10:45:44 น. 0 comments
Counter : 475 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ming_kwan_cha
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรื่องราวเล่าขานจากแม่ถึงลูก
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ming_kwan_cha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.