|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 ส่วนที่ 1)
ข่าวลือแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนเที่ยงของวันต่อมา นักเรียนม.ปลายทุกคนก็รู้เรื่องที่ยูมิปฎิเสธซาจิโกะซามะไปแล้ว
"ซึทาโกะซัง เธอเป็นคนบอกเหรอ?"
"ไม่อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้คอยดูอยู่ห่างๆสนุกกว่าเข้าไปร่วมด้วยนะ"
ถ้าเป็นเช่นนั้น บางทีอาจจะเป็นเหล่ากุหลาบที่เผยแพร่ข่าวลือเพื่อเติมเชื้อไฟด้วยอารมณ์ขันข องพวกเธอ แน่นอนว่าคงเป็นเพราะต้นตอคือซาจิโกะซามะเองด้วย
ไม่ใช่ว่าอยากจะตามหาคนปล่อยข่าวลือเพื่อจะต่อว่าหรอกนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราไม่ได้ทำเรื่องนี้ให้เป็นความลับซะหน่อย แต่ในเมื่อมันเป็นอุปสรรคสำหรับความต้องการชีวิตที่สงบสุขคืนมา ดังนั้นแล้วคงต้องขอบ่นหน่อยล่ะ
เริ่มจากการถูกจ้องมองจากเพื่อนร่วมห้อง และเมื่อพวกนั้นสบตากับยูมิ พวกเธอก็จะทำเป็นเมินหนีไป ไม่มีใครเข้ามาพูดกับเธอตรงๆเลยสักคน
"มีข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับตัวเธอล่ะ แต่ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกนะ"
คัตสึระซังสรุประหว่างเรียน
นักเรียนในห้องเดียวกันนั้นรู้จักยูมิอยู่แล้ว แต่เพราะว่าพวกนั้นไม่ทราบถึงความแตกต่างระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องแต่ง พวกเธอจึงยังสับสนอยู่ แล้วก็ยอมรับว่า บางทีมันอาจจะเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลก็ได้
อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนระหว่างนักเรียนที่ไม่รู้จักยูมิ(ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่)นั้นดังก้องไปทั่ว
คนที่เลิศเลอแบบไหนกันนะ ที่ทำให้ซาจิโกะซามะเบนเข็มมาหาหลังจากถูกปฏิเสธจากโทโด ชิมาโกะได้ ข่าวลือเริ่มทำงาน มีคนจำนวนมากมายืนออกันอยู่หน้าห้องนักเรียนปีหนึ่งห้องลูกท้อในตอนพักกลางว ัน
"น่าจะมีใครบอกพวกนั้นนะว่า คนที่เป็นหัวข้อของข่าวลือน่ะ มีทั้งเคราะห์ดีและร้ายในเวลาเดียวกัน"
ซึทาโกะซังพึมพำขณะกำลังเก็บหนังสือเรียนหลังจบคาบสี่
"จริงด้วย ฉันก็รู้สึกขัดแย้งกันแบบนั้นจริงๆนะ"
ยูมิหัวเราะแห้งๆ อย่างที่ซึทาโกะซังพูด ยูมิมีภาพลักษณ์ที่ธรรมดาอย่างที่สุด ดังนั้นแล้ว คนที่มองหาคนที่มีความเด่นเช่นเดียวกับชิมาโกะซังจึงมองข้ามเธอไปหมด
เพื่อนร่วมชั้นก็ช่วยได้มาก พวกเธอคอยปกป้องยูมิด้วยคำพูดที่ว่า "ตอนนี้ยูมิซังไม่อยู่ค่ะ" ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสามารถเดินผ่านทุกคนไปได้สบายหรือแม้แต่จะไปล้างมือก็ทำได้
"เอาล่ะ ฉันขอแนะนำนะว่า เธอไม่ควรจะอยู่ในห้องเรียนช่วงพักกลางวัน"
ซึทาโกะซังพูดเร็วๆและยิ้มให้ ทำท่าเหมือนกับว่าพวกเธอกำลังคุยเรื่องทั่วไปกัน
"ทำไมล่ะ?"
"ฉันได้ยินข่าวว่าชมรมหนังสือพิมพ์ตั้งใจจะสัมภาษณ์ยูมิซังน่ะสิ พวกนั้นน่ะรั้นจะตาย แถมยังมีปาปาราสซี่คอยเจาะข่าวเรื่องรักโดยเฉพาะอีกด้วย"
"หา?"
ยูมิหน้าซีด ปาปาราสซี่คงจะเป็นคนจำพวกที่คอยถามว่า"คุณแต่งงานแล้วจริงไหมคะ?"หรือ "คุณหย่าแล้วจริงหรือคะ?" หรืออะไรทำนองนั้น ซาจิโกะซามะนั้นน่าหวั่นเกรงเกินไป ดังนั้นแล้วชมรมหนังสือพิมพ์จึงพุ่งเป้ามาที่เธอ
"เข้าใจรึยังล่ะจ๊ะ เอ้า เอากล่องข้าวของเธอไปได้แล้ว"
ซึทาโกะซังดึงเอากล่องข้าวของยูมิออกจากกระเป๋าที่แขวนไว้ข้างโต๊ะ ยัดมันใส่มือของยูมิ และผลักเธอออกไป
"อ้าว ยูมิซัง จะไปไหนน่ะ?"
คัตสึระซังถามด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้วเธอจะทานข้าวด้วยกัน
"ขอยืมตัวยูมิซังซักแป๊บนึงนะจ๊ะ"
ซึทาโกะซังตอบแทนยูมิ แล้วเธอก็คว้าเอากล่องข้าวของเธอขึ้นมาพร้อมกับกระซิบเร่ง"เร็วๆเข้า" ราวกับจะบอกว่า"เร็วเข้า ไม่งั้นชมรมหนังสือพิมพ์จะมาก่อนนะ"
"หว๋า"
เมื่อทั้งคู่มาถึงทางเดิน ก็พบกับนักเรียนสามคนที่ท่าทางเห็นได้ชัดๆเลยว่ามาจาก"ชมรมหนังสือพิมพ์"กำลังยืนคอยอยู่แล้ว
"...ไม่ทันแล้วสิ"
เสียงเศร้าๆของซึทาโกะซัง มีเพียงยูมิเท่านั้นที่ได้ยิน
กล้องถ่ายรูป เทปบันทึกเสียง สมุดจด แน่นอนว่า แม้จะเรียกพวกเธอว่าปาปาราสซี่ แต่ก็ไม่มีไมโครโฟน กล้องสะพายบ่า หรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะ
"อ้าว สวัสดีจ้ะ เธออยู่ชั้นนี้ด้วยเหรอ?"
คนที่ดูท่าทางเป็นหัวหน้า สังเกตเห็นซึทาโกะซังจึงพูดคุยด้วย อย่างที่คิดไว้เลย ชมรมหนังสือพิมพ์กับชมรมถ่ายภาพคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว
"สวัสดีจ้ะ แล้วชมรมหนังสือพิมพ์มาทำอะไรที่นี่เหรอจ๊ะ?"
แม้ว่าจะรู้ทุกอย่างดีอยู่แล้ว แต่ซึทาโกะซังก็ยังยิ้มและทำท่าทางเหมือนกับว่าไม่รู้อะไรเลย
"เรามาขอสัมภาษณ์ฟุคุยาม่า ยูมิซังน่ะจ้ะ พอดีเลย รบกวนช่วยไปตามเธอมาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?"
"เอ...ยูมิซัง ยูมิซังตอนนี้...."
ซึทาโกะซังทำท่าคิด หันกลับไปมองในห้องเรียนโดยไม่สบตายูมิเลยสักแว๊บเดียว เธอมองกราดเข้าไปในห้องลูกท้อที่พึ่งจะออกมา
ในห้องนั้นกำลังเตรียมรับประทานอาหารกลางวัน นักเรียนบางคนเอาโต๊ะมาต่อกันแล้วเอาผ้ามาคลุม บางคนก็เตรียมนมและขนมปัง บางคนก็สั่งอาหาร มีนักเรียนต่างห้องมาร่วมรับประทานด้วย...ทั้งห้องนั้นกำลังวุ่นวาย
"อ้อ ยูมิซังน่าจะอยู่นั่นล่ะมั้ง?"
ซึทาโกะซังทำท่าว่าหาเจอแล้ว เธอชี้มือไปยังโต๊ะตัวที่ไกลที่สุดในห้อง
"จะไปตามมาให้นะจ๊ะ รอแป๊บนึง"
ยูมิกำลังสงสัยว่าซึทาโกะซังตั้งใจจะทำอะไร เธอก้าวเข้าไปในห้องแล้วก็หยุด หันกลับมา ทำท่าเหมือนกับว่าลืมอะไรไป
"นัทซึเมะซังกำลังรีบใช่ไหม? ไม่ต้องรอฉันหรอกนะ ไปก่อนก็ได้"
"หา? อ้อ...ได้สิ"
ซึทาโกะซังจ้องตรงมายังยูมิและขยิบตาให้ หมายถึงเธอนั่นไง
"งั้นฉันไปก่อนนะ"
ยูมิโค้งเร็วๆให้ซึทาโกะซังและชมรมหนังสือพิมพ์ แล้วก็รีบเดินจากไป ระหว่างเดินมาตามทาง เธอคิดถึงชื่อนัตซึเมะ โซเซกิ---ฟุคุซาว่า ยูกิชิ----ฟุคุซาว่า ยูมิ แล้วจึงปรบมือด้วยความเข้าใจ นั่นเป็นชื่อของบุคคลที่อยู่บนธนบัตรนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ยูมิยังคงสงสัยอยู่ว่าซึทาโกะซังจะทำยังไงต่อ เพราะถ้าเป็นเธอ คงจะทำท่าทางเป็นว่า "ขอโทษที ฉันจำคนผิดน่ะ" ซึ่งถ้าพูดแบบนั้นมันก็เสี่ยงต่อการถูกจับได้เหมือนกัน เธอต้องระวังตัวให้มากกว่านี้แล้วล่ะ
เมื่อซึทาโกะซังไม่อยู่แล้ว ยูมิก็ไม่รู้จะไปไหน เธอคิดระหว่างเดินลงมาตามขั้นบันได แล้วก็มีเสียงเรียก
"ยูมิซัง ทางนี้"
ยูมิมองลอดราวบันได แล้วก็เห็นมือขาวๆกำลังโบกอยู่ เมื่อเธอชะโงกไปดู ก็เห็นหน้าของชิมาโกะซัง
ยูมิรีบก้าวข้ามลงไป โล่งอกที่เห็นใบหน้าอันงดงามนั้น
ชิมาโกะซังเขยิบที่ให้ยูมินั่ง
"เธอมาทานข้าวที่นี่ทุกวันเลยเหรอ?"
ที่แห่งนี้อยู่หลังหอประชุม มีต้นซากุระต้นหนึ่งยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางต้นแปะก๊วยที่ปกคลุมไปทั่วบริเว ณ ทั้งคู่นั่งลงและเปิดกล่องข้าว
"ก็บางครั้งน่ะจ้ะ อย่างตอนอากาศดีๆในฤดูใบไม้ผลิกับใบไม้ร่วง"
"แล้วฤดูร้อนล่ะจ๊ะ?"
"ต้นซากุระต้นนี้จะมีตัวบุ้งเยอะไปหมดเลย ฉันเลยไม่ชอบเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นลูกแปะก๊วยก็จะเริ่มร่วงลงมา เพราะงั้นฉันก็เลยตั้งใจมารอให้มันหล่นลงมาบ้างนี่แหล่ะจ้ะ"
ชิมาโกะซังมองต้นแปะก๊วยอย่างมีความหวังขณะที่คีบเผือกขึ้นมาจากกล่องข้าวทร งสี่เหลี่ยมที่ขึ้นเงา มันดูตรงข้ามเป็นอย่างมากกับรูปลักษณ์ของเธอที่ดูคล้ายกับตุ๊กตาตะวันตก การพูดถึงต้นแปะก๊วย,กล่องข้าวกลางวันที่ใช้ อ้อ แล้วก็มันฝรั่งต้มในนั้นด้วย
"ชิมาโกะซังนี่แปลกดีนะ"
"งั้นเหรอจ๊ะ? ถ้าเปลือกแปะก๊วยไม่แตก กลิ่นของมันก็ไม่ได้เหม็นหรอกนะ เพราะงั้นแล้วถนนที่มีต้นแปะก๊วยจึงดูลึกลับดีไง"
"ชิมาโกะซัง งั้นก็หมายความว่าเธอกลับบ้านโดยไม่เหยียบลูกแปะก๊วยเลยงั้นสิ"
"ถูกต้องนะคะ"
ชิมาโกะซังหัวเราะอย่างมีความสุข
"ทำไมถึงชอบแปะก๊วยล่ะจ๊ะ?"
"แล้วยูมิซังไม่ชอบงั้นเหรอ?"
เมื่อโดนย้อนถาม ยูมิจึงคิด อืมม ปกติแล้วเขารับประทานมันด้วยเหรอ
แต่ก่อนนั้น เธอคิดว่ามันก็เหมือนกับใบของต้นชิโซะที่มีไว้ใช้ประดับจานซาชิมิหรือไข่หวานเท่านั้นเอง
"ฉันชอบของอย่างแปะก๊วย ต้นลิลลี่ แล้วก็ถั่วเหลือง พ่อบอกเสมอว่าไม่เหมือนกับที่เด็กวัยรุ่นเขาชอบกัน แต่ฉันคิดว่ารสนิยมของคนเรา น่าจะเกิดจากสภาพแวดล้อม จริงไหมจ๊ะ? เพราะว่าฉันเติบโตมากับสิ่งเหล่านี้ ก็เลยชอบอะไรที่มันขมๆมากกว่า"
แล้วยูมิจึงได้รู้ว่าบ้านของชิมาโกะซังนั้นเป็นแบบญี่ปุ่นขนานแท้โดยที่ไม่ม ีห้องแบบตะวันตกเลย ยูมิคิดว่าคฤหาสน์สีขาวที่มีแกรนด์เปียนโนตั้งอยู่กลางห้องโถง อาหารกลางวันก็เป็นพวกแซนด์วิชหรือไก่ทอดน่าจะเข้ากันกับชิมาโกะซังมากกว่า
"เห็นเป็นอย่างนั้นเหรอจ๊ะ?"
ชิมาโกะซังถาม เธอจ้องมองใบหน้าของยูมิ
"อืม...ก็ทำนองนั้น แต่เป็นแบบนี้มันก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะจ๊ะ"
ยูมิตอบตรงๆ ชิมาโกะซังหัวเราะคิ๊กๆแล้วตอบว่า "ยูมิซังก็เหมือนกันนั่นแหล่ะจ้ะ"
"ฉันดีใจจริงๆนะที่เราได้รู้จักกันแบบนี้"
ทั้งคู่มองขึ้นไปบนฟ้า
เมฆล่องลอยบนฟ้าใสอย่างช้าๆ
ฟ้าสีฟ้า เมฆสีขาว ข้างล่างนั้นแสงแดดส่องสะท้อนต้นแปะก๊วยสีเหลือง ส่งประกายสีทองทาบทับลงบนพื้นดิน ถ้าฉันเป็นจิตรกรก็คงวาดภาพนี้ลงบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ และถ้าเป็นนักดนตรีก็จะเขียนมันออกมาเป็นเพลงเพื่อเก็บมันไว้ชั่วนิรันดร์
"ชิมาโกะซัง ทำไมถึงปฏิเสธซาจิโกะซามะล่ะจ๊ะ?"
อยู่ๆยูมิก็ถามขึ้นมา ชิมาโกะซังจึงตอบว่า "แล้วขอถามแบบนั้นกับยูมิซังบ้างได้ไหมล่ะจ๊ะ?"
"ได้สิ ก็เราทำเหมือนกันนี่นา"
แต่กระนั้นแล้ว ยูมิก็ยังคิดว่าประเด็นของเธอกับชิมาโกะซังในเรื่องของซาจิโกะซามะนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
"ในกรณีของฉัน.."
ชิมาโกะซังเหม่อมอง ทบทวนความคิด
"ฉันไม่เหมาะกับซาจิโกะซามะ ในทางกลับกัน ซาจิโกะซามะก็ไม่เหมาะกับฉันเหมือนกัน"
"ยังไงเหรอจ๊ะ?"
"ฉันชอบซาจิโกะซามะนะ แต่เรามีมุมมองด้านการเป็นคู่ที่ต่างกัน พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ สิ่งที่เรามอบให้กันได้นั้น มันไม่เข้ากัน"
"ฟังดูซับซ้อนจังเลยนะ"
"ซาจิโกะซามะก็พูดแบบนั้นเหมือนกัน เธอเข้าใจว่าฉันหมายความว่าอะไร แต่มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ฉันยอมรับว่ามันเป็นความรู้สึกที่บอกได้ยากจริงๆ"
สิ่งที่มอบให้ฝ่ายตรงข้ามและสิ่งที่ต้องการจากคนๆนั้น เนื่องจากมันเป็นความสัมพันธ์แบบสองต่อสอง จึงพอเข้าใจได้ว่า การเข้ากันได้ของทั้งคู่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ว่า...
"ถ้าขนาดชิมาโกะซังยังไม่ดีพอ งั้นก็หมายความว่าไม่มีใครเหมาะกับซาจิโกะซามะเลยสิจ๊ะ?"
"ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ บางทีคนๆนั้นอาจจะหาได้ยากยิ่ง และซาจิโกะซามะเองก็อาจจะไม่มีน้องสาวตลอดไป แต่ว่านะ อย่างโรซา ชินองซีกับซาจิโกะซามะยังเจอกันได้ มันก็น่าจะมีโอกาสที่เป็นไปได้เหมือนกันนะจ๊ะ"
"เข้าใจแล้วล่ะ"
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความ ชิมาโกะซังกับโรซา จิกองเตก็คงเข้ากันได้ดีสินะ ยูมิคิด นอกจากนั้นแล้ว การตัดสินใจในเรื่องนี้ย่อมต้องเกิดจากความต้องการการดูแลซึ่งกันและกันของท ั้งสองฝ่ายอีกด้วย
"จะกลับห้องกันรึยังจ๊ะ?"
ชิมาโกะซังลุกขึ้น คาบที่ห้ากำลังจะเริ่มในอีก 5 นาที
"ชมรมหนังสือพิมพ์ก็มีเรียนเหมือนกัน คงปลอดภัยแล้วล่ะ"
Maria-sama ga Miteru:Volume1 (ตอนที่ 2 จบส่วนที่ 1)
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2551 23:40:37 น. |
Counter : 828 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|