กุ้งยามาโตะ หรือ ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Caridinajaponica มีชื่อสามัญนามอื่นๆในวงการเลี้ยงกุ้งสวยงามว่า กุ้งกินตะไคร่ , กุ้งญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ชื่อ Caridina japonica นี้นั้นเป็น synonym ย่อ ๆ ของ Caridinamultidentata STIMPSON , 1860 ครับ ซึ่งชื่อทางวิทยาศาสตร์ ตัวนี้มีความหมายถึง “ มีฟันจำนวนมาก “ นั้นเอง กุ้งยามาโตะ นั้นเป็นกุ้งแคระ ที่เรียกได้ว่าขนาดใหญ่โต กว่ากุ้งแคระชนิดอื่นๆ มากครับ และนับได้ว่าเป็นกุ้งแคระที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงกับ ตู้ไม้น้ำเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าโดยตัวของมันเองแล้ว ไม่ใช่กุ้งที่มีสีสัน สวยงามอะไรมากมายแม้จะมีลวดลายเป็นแถบสีเล็กๆ ประดับอยู่ตามลำตัวอยู่บ้างก็ตาม เนื่องจากความที่เป็นกุ้งแคระที่กินตะไคร่ได้เก่งมากๆไม่ว่าจะเป็นตะไคร่ แบบสีน้ำตาล หรือ สีดำ รวมทั้งเศษอาหารต่างๆ ภายในตู้ด้วยเป็นกุ้งที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทางเอเซียตะวันออก เช่นประเทศญี่ปุ่น สามารถปรับตัวและอาศัยอยู่ได้ในค่าน้ำที่ค่อนข้างหลากหลาย และอาจจะแตกต่างจากกุ้งแคระชนิดอื่นๆอยู่บ้างที่สามารถอยู่ในน้ำกระด้างระดับหนึ่งได้เป็นอย่างดี ในขณะที่กุ้งแคระส่วนใหญ่จะไม่ชอบน้ำกระด้าง อุณหภูมิที่เหมาะสม ในการเลี้ยงนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 20 – 28 องศา กุ้งยามาโตะเป็นกุ้งที่ค่อนข้างจะมีความ Active สูง ดูเพลิดเพลิน ในยามที่ผู้เลี้ยง ต้องการจะจ้องดูกิจกรรมของพวกมันในยามที่อาศัยอยู่ในตู้ไม้น้ำของท่าน อย่างไรก็ตาม การที่กุ้งยามาโตะจัดเป็นกุ้งแคระที่มีขนาดใหญ่ ทำให้บางครั้ง พบว่าถ้าเลี้ยงรวมกับกุ้งแคระขนาดเล็กชนิดอื่นๆ แล้ว ผู้เลี้ยงอาจจะพบพฤติกรรมก้าวร้าว หรือ การเข้าทำร้ายกุ้งแคระชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าในตู้ เพื่อแย่งอาหารได้บ้างเหมือนกันครับ กุ้งแคระชนิดนี้เพาะพันธุ์ได้ยากต้องทำการจัดตู้เพาะพันธุ์เป็นพิเศษ โดย กุ้งยามาโตะตัวเมียนั้น ในตัวที่โตเต็มวัยสามารถจะผลิตไข่ได้มากถึง 2,000 ฟองต่อตัวเลยทีเดียว โดยไข่จะใช้เวลาในการฟูมฟักที่ท้องของแม่ประมาณ 6 สัปดาห์ ภายใต้อุณหภูมิประมาณ 23 – 27 องศาก่อนที่กุ้งยามาโตะตัวเมียจะเริ่มปล่อยให้ตัวอ่อนออกมาจากท้องแม่ เนื่องจาก ลูกกุ้งในระยะแรกๆ ต้องการน้ำที่มีค่าความเค็มในการพัฒนาตัวเพื่อให้เติบโต จนเป็นลักษณะตัวคว่ำ ก่อนจะมีลักษณะคล้ายกับพ่อแม่ในที่สุดโดยจะต้องมีปริมาณเกลือ และค่าความเค็ม ต่อพื้นที่เลี้ยงประมาณ 1.6 เปอร์เซ็นต์และอาหารของลูกกุ้งวัยอ่อนนั้น จะต้องเป็น อาหารเหลว หรือ อาหารที่มีขนาดเล็กพิเศษสำหรับอนุบาลลูกกุ้ง , อาหารจำพวก Protogen-Granulat ประเภทต่างๆ ดังนั้น การเพาะพันธุ์ถ้าจะให้ประสบผลสำเร็จ อาจจะต้องจัดเตรียมสถานที่ และ ปัจจัยต่างๆ ให้พร้อมก่อนถึงจะสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จครับ โดยถ้ากระบวนการและขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยดีแล้วแพลงค์ตอนที่เป็นลูกกุ้ง หลังผ่านไปประมาณ 1 เดือนก็จะเริ่มลอกคราบจนเข้าสู่ระยะที่เป็นลูกกุ้งวัยอ่อน เตรียมตัวที่จะเจริญเติบโตและ สามารถที่จะปรับตัวอย่างช้าๆ เพื่อมาอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดได้ต่อไปครับ ซึ่งจะว่าไปแล้ว วงจรชีวิตนี่ ก็ใกล้เคียงกับกุ้งก้ามกราม บ้านเราเองเหมือนกันนะครับ.

เรื่อง : กษิดิศ  วรรณุรักษ์

เครดิต : https://m1.i.pbase.com/u39/plantella/upload/25658991.3001410.jpg

**************************************************

สนใจเล่นหวย Online มีให้เล่นได้หลายแบบ หวยหุ้นก็มี จับยี่กี่ เวียตนาม - ลาว มีหมด  เล่นได้เพลินๆ ทั้งวัน สมัครและเล่นง่ายๆ คลิ๊กเลยจ้า 

https://www.huay.com/af/a/5949f4840caf4289a2f0d1d66cdd2b16

***************************************************************

ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ

https://ebooks.in.th/thaiaquaclub

ติดตาม แฟนเพจ Thailand Aquatic Pet เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ

https://www.facebook.com/Thailand-Aquatic-Pets-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-229670613731393/