|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระนามเดิม : พระรายณ์ราชกุมาร พระนามพระบรมราชชนกนาถ : พระเจ้าปราสาททอง พระนามพระบรมราชชนนี : ไม่ปรากฏแน่ชัด วันพระราชสมภพ : พ.ศ. 2175 สถานที่พระราชสมภพ : กรุงศรีอยุธยา บทบาทและพระราชกรณียกิจที่สำคัญ : ทรงเป็นยอดนักปราชญ์-นักปกครอง-นักรบ-เจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติอย่างกว้างขวาง
พระประวัติ
สมเด็จพระทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าปราสาททอง ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2175 ขณะที่ทรงประสูตินั้น พระญาติเห็นเหมือนเป็นพระกร 4 กร แล้วกลับเหลืออยู่ 2 กรตามปรกตินับเป็นที่อัศจรรย์ จึงทรงพระราชทานนามแต่บัดนั้นว่า นารายณ์ราชกุมาร หรือราชกุมาร 4 กรนั่นเอง
สมเด็จพระนารายณ์มีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาเดียวกัน นามว่า พระราชกัลยาณี มีพระราชอนุชานามว่า เจ้าฟ้าอภัยทศ พระอัยกาของสมเด็จพระนารายณ์ก็คือ สามเด็จพระเอกาทศรถ ขณะมีพระชนม์ได้ 5 พรรษา เสด็จออกไปเล่นที่เกย ขณะนั้นฝนกำลังตก พระนมพี่เลี้ยงห้ามไม่ฟัง ให้กรดกางก็ห้ามเสีย ขณะยืนอยู่ที่เสาหลักชัย ฟ้าฝ่าลงมาต้องหลักชัยแตก แต่พระนารายณ์กุมารมิได้เป็นอันตราย
พระขนิษฐาพระราชกัลยาณี ต่อมาภายหลังจึงได้มีการสถาปนาเป็นกรมหลวงโยธาทิพ ส่วนพระราชธิดาเป็นกรมหลวงโยธาเทพ พระเจ้าหลุยซ์ที่ 14 เคยส่งของมีค่ามาถวายกรมหลวงโยธาเทพอีกด้วย
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีบทบาทสำคัญแตกต่างจากวีรกษัตริย์พระองค์อื่น พระองค์ทรงมีความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง เป็นที่ยกย่องสรรเสริญ พระปรีชาสามารถแผ่ไปไกลถึงต่างประเทศ แม้แต่ปืนใหญ่ซึ่งพระองค์ถวายเป็นของขวัญแก่พระเจ้าหลุยซ์ที่ 14 ปืนกระบอกนั้น นักต่อต้านชาวฝรั่งเศสเคยใช้ยิงทำลายคุกบาสติลมาแล้ว
สมเด็จพระนารายณ์ ทรงทำนุบำรุงให้บ้านเมืองรุ่งเรืองยิ่งกว่าสมัยใดในกรุงศรีอยุธยา มีความสามารถพิเศษในการปกครอง มีข้าราชการและเหล่าทหารหาญตามคัมภีร์พิชัยสงครามคือ หัวศึก ได้แก่เจ้าพระยาโกษาเหล็ก มือศึก ได้แก่พระยาเดโชชัย ตีนศึก ได้แก่พลช้างม้าครบถ้วน ตาศึก ได้แก่พระพิมลธรรม หูศึก ได้แก่เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ปากศึก ได้แก่พระวิสุตรสุนทร (โกษาปาน) กำลังศึก ก็คือผู้คนช้างม้า เสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ในรัชสมัยของพระองค์
สำหรับ พระราชกัลยาณี พระขนิษฐาของพระนารายณ์ ทรงเป็นราชธิดาที่มีพระรูปสิริวิลาสเลิศนารีเป็นที่ยิ่ง พระศรีสุธรรมาซึ่งเป็นพระเจ้าอาของพระนารายณ์และพระราชกัลยาณีครองกรุงศรีอยุธยามาได้สองเดือนกับอีก 20 วัน และถูกสำเร็จโทษ ณ วัดโคกพระยา
พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
สมเด็จพระนารายณ์ทรงมีทศพิธราชธรรมอันประเสริฐ แก่อาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง ให้มีการลดส่วยสาอากรแก่ราษฎร 3 ปี ทรงบำเพ็ญกุศลหลายประการ ทั้งยังสั่งให้จัดการถวายพระเพลิงสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง (สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา) ส่วนพระเมรุสูงสองเน้นสิบเอ็ดวา ประดับประดาด้วย ฉัตรทอง ฉัตรนาถ ฉัตรเงิน ฉัตรเบญจรงค์และธงทิวโอ่อ่าโอฬารสมพระเกียรติเสร็จสรรพทุกประการ หลังถวายพระเพลิงแล้ว พระอัฐิธาตุก็ได้อันเชิญไปประจุไว้ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช แม้ว่าจะไม่ต้องทำศึกมากมายอย่างพระนเรศวร แต่น้ำพระทัยของพระองค์มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเช่นเดียวกัน พระองค์ทรงมีความคิดรอบคอบใช้พระสติตริตรองปัญหาที่เผชิญหน้าอย่างดีที่สุด มีเหตุการณ์ในรัชสมัยของพระองค์ที่จะยกมากลาวไว้เรื่องหนึ่ง คือในราวเดือนยี่ ปีเดียวกับการพระราชทานถวายเพลิงศพนั่นเอง มีอำแดงแก่นซึ่งเป็นข้าบาทของพระไตรภูวนาทติยวงศ์ ได้นำเอาความเท็จทูลยุแหย่แก่พระไตรภูวนาทติยวงศ์ ทำนองว่าข้าหลวงของพระนารายณ์กล่าวหาว่า พระไตรภูวนาทติยวงศ์เข้าข้างสมเด็จพระศรีสุธรรมราชามาก่อน ครั้นสิ้นพระชนม์พระศรีสุธรรมราชาแล้วก็หันมาประจบพวกข้าหลวงเหล่านั้น อำแดงแก่นทูลยุยุงพระไตรภูวนาทติยวงศ์หลายครั้ง จนกระทั่งพระไตภูวนาทติยวงศ์คิดซ่องสุมผู้คนไว้นอกพระนคร
เมื่อข้าหลวงเอาเนื้อความมากราบทูลสมเด็จพระนารายณ์ตามความจริงทุกประการ พระองค์ทรงทราบโดยตลอดว่าบัดนี้พระไตรภูวนาทติยวงศ์ทำการซ่องสุมผุ้คนแน่นอนแล้ว จึงสั่งให้มหาดเล็กเอาเงินหลวงร้อยชั่งให้แก่พระไตรภูวนาทติยวงศ์ โดยบอกว่าให้เอาไปแจกราษฎรทั้งปวงทั่วกัน
ต่อมาพระยาพิชัยสงคราม พระมหามนตรี มากราบทูลอีกว่าพระยาพัทลุงและพระศรีภูริปรีชา คิดอ่านกับพระไตรภูวนาทติยวงศ์จะคิดร้ายกับแผ่นดิน สมเด็จพระนารายณ์ก็ทรงตรัสว่าจะฟังเนื้อความนี้ดูจงมั่นแม่นเสียก่อน
สมเด็จพระนารายณ์ทรงเป็นกษัตริย์ที่พระสติรอบคอบคือ ไม่ยอมปักใจชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ครั้นความจริงปรากฏว่าพระไตรภูวนาทติยวงศ์คิดร้ายกับพระองค์จริง ดังคำของเสนาบดีและข้าหลวงผู้จงรักภัคดีและซื่อสัตย์ และทูลขอให้พระนารายณ์สำเร็จโทษตามพระราชประเพณี แต่พระองค์ทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวาง จึงตรัสแก่เสนาบดีและข้าหลวงผู้ซื่อสัตย์ว่า
เราจะสำเร็จโทษที่นี้หาได้ไม่ แต่เราจะไปพระนครหลวงแล้วเราจะทรงม้าต้น ให้องค์ไตรภูวนาทติยวงศ์ขี่ม้าออกไปกลางทุ่งพระนคร ถ้าองค์ไตรภูวนาทติยวงศ์จะคิดทำร้ายแก่เรา ๆ ก็มิเข็ดขาม จะยุทธด้วยองค์ไตรภูวนาทติยวงศ์ที่นั่นและเอาบุญญาธิการแห่งเราเป็นที่พึ่ง
พระนารายณ์ทรงมีน้ำพระทัยล้ำเลิศเช่นี้และพระองค์ก็ทรงปฏิบัติดังที่ตรัสไว้ น้ำพระทัยอันกว้างขวางเช่นนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดหลายครั้งหลายคราว บรรดาข้าราชบริพาร เสนาบดีและมุขมนตรีทั้งหลายต่างก็พากันชื่นชมในบารมีของพระองค์กันทั่วหน้ากัน
สมเด็จพระนารายณ์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบด้วยพระองค์หนึ่ง แม้อาจจะไม่เหมือนอย่างพระมหากษัตริย์นักรบองค์สำคัญอื่น ๆ แต่พระองค์ก็ทรงเป็นผู้จัดการด้านกองทัพและปฏิบัติภารกิจในการสงครามอย่างได้ผลดียิ่ง
เมืองเชียงใหม่ซึ่งเสียไปครั้งพระเจ้าปราสาททอง ได้มีหนังสือแจ้งมายังกรุงศรีอยุธยาว่า พวกฮ่อยกเข้าล้อมจะตีเอาเมืองเชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่หมดที่พึ่ง จึงเสี่ยงทายต่อหน้าพระพุทธรูปที่มีชื่อว่า พระพุทธสิหิงค์ คือเสี่ยงทายว่าถ้าเมืองใดจะเป็นที่พึ่งพิงได้ขอให้สำแดงนิมิตมาให้เห็น และปรากฏว่า พระพุทธสิหิงค์หันพระพักตร์มาทางกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาพระนารายณ์ก็ยกทัพขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่กลับคืนมาได้ เมื่อปี พ.ศ. 2205 ทั้งยังได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับคืนมายังกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย
เมื่อปี พ.ศ. 2206 มีพวกมอญอพยพมาจากพม่า เข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์จำนวนประมาณ 5000 คน ซึ่งเคยยกไปเผ่าเมืองเมาะตะมะ ต่างพากันหนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระนารายณ์ พระองค์ก็ทรงโปรดเกล้ให้ครอบครัวมอญเหล่านั้นตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณ ตำบลสามโคกบ้าง ที่คลองดูจามบัง ที่ใกล้วัดตองปูบัง ทั้งยังได้พระราชทานสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ ด้วย
ต่อมา เจ้าเมืองอังวะ ได้ยกทัพตามพวกมอญที่หนีเข้ามารับราชการและตั้งหลักแหล่งในกรุงศรีอยุธยาคืน กองทัพของพระเจ้าอังวะยกมาทางด่านเจดีย์สามองค์ สมเด็จพระนารายณ์จึงให้พระยาศรีหาราชเดโชกับพระยาโกษาเหล็กยกไปทัพเมืองอังวะแตกพ่ายกลับไป ได้กวาดต้อนเชลยกลับเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก
ในปี พ.ศ. 2207 พระเจ้าแผ่นดินเมืองอังวะถูกลอบปลงพระชนม์ บ้านเมืองระส่ำระสาย สมเด็จพระนารายณ์ทรงเห็นว่า พม่าเคยยกทัพโจมตีไทยและรบกวนพวกมอญที่เข้ามาพึ่งพิงพระบรมโพธิสมภารอยู่บ่อย ๆ พระองค์เห็นเป็นโอกาสดีจึงจัดทัพไทยและทัพมอญยกไปทางเมืองยาปูน ด่านแม่ละเมาะทางด่านเจดีย์สามองค์และทางเมืองทะวาย กองทัพกรุงศรีอยุธยายกไปรวมพลที่เมืองเมาะตะมะ จากนั้นก็บุกโจมตีเมืองหงสาวดีและเมืองแปร ฝ่ายพม่ายกทัพหนีจากเมืองอังวะลงมาตั้งรับที่เมืองพุกาม ทัพไทยได้ล้อมเมืองพุกามไว้จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2208 จึงได้ยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยา
พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าทันสมัย และติดต่อค้าขายกับต่างประเทศอย่างกว้างขวาง
สมเด็จพระนารายณ์ทรงปรับปรุงกิจการบ้านเมืองทั้งด้านการทหาร และการปกครองอย่างดียิ่ง ในรัชสมัยของพระองค์มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ๆ อย่างมากมาย พระองค์ทรงพิจารณาเห็นว่า เมื่อบ้านเมืองสงบราบคาบปราศจากการรุกรานของศัตรูภายนอกแล้ว การจะทำนุบำรุงให้ประชาราษฎร์มีความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข จำเป็นจะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างจริงจังเพื่อความเจริญก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ โดยเฉพาะด้านการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ สมเด็จพระนารายณ์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
ฝรั่งเศสเป็นชาติที่เข้ามาสู่กรุงศรีอยุธยาเป็นชาติแรกครั้ง หลวงวิชเยนทร์ เมื่อครั้งที่มีเจ้าของเรือกำปั้นของฝรั่งเศสได้บรรทุกสินค้าเข้ามาขายในกรุงศรีอยุธยา ขณะนั้นสมเด็จพระนารายณ์จึงให้มีการต่อเรือกำปั้นใหญ่ขึ้นลำหนึ่ง เมื่อเรือลำนั้นต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะนำลงจากอู่ต่อเรือ
สมเด็จพระนารายณ์บอกให้ล่ามถามชาวฝรั่งเศสคนนั้นว่า เมืองฝรั่งเศสเอาเรือกำปั้นลงจากอู่เขาทำอย่างไรจึงเอาลงได้ง่าย ฝรั่งเศสพ่อค้ารายนั้นเป็นคนฉลาด มีสติปัญญามากรู้และชำนาญด้านการรอกกว้าน จึงบอกให้ล่ามกราบทูลสมเด็จพระนารายณ์ว่า เขารับอาสาที่จะนำเรือลำนี้ออกจากอู่ด้วยตัวเอง
พ่อค้าฝรั่งเศสนายนั้นจัดการผูกรอกกว้าน และจักรมัดผันชักกำปั้นลำนั้นออกจากอู่ลงมาสู่ท่าโดยสะดวก จึงให้พระราชทานรางวัลมากมายทั้งยังแต่งตั้งให้เป็น หลวงวิชเยนทร์
หลวงวิชเยนทร์ ได้รับพระราชทานที่บ้านเรือนและเครื่องยศ ให้อยู่ทำราชการในพระนคร และนั่นเป็นการแสดงถึงพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่จากชาวต่างประเทศและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชนชาติอื่น เป็นการเปิดประตูรับความรู้ใหม่จากโลกภายนอก โดยไม่จำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น
หลวงวิชเยนทร์รับราชการสนองพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจงรักภักดี มีวิริยะอุตสาหในราชกิจต่าง ๆ ของบ้านเมือง มีความชอบจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระยาวิชเยนทร์
วันหนึ่งสมเด็จพระนารายณ์มีพระราชโองการตรัสถามพระยาวิชเยนทร์ว่า ในเมืองฝรั่งเศสมีของวิเศษประหลาดประการใดบ้าง พระยาวิชเยนทร์จึงกราบทูลว่า
ในเมืองฝรั่งเศสมีช่างทำนาฬิกายนต์ ปืนลม ปืนไฟ กล้องส่องทางไกลเป็นใกล้ กระทำของวิเศษอื่น ๆ ก็ได้ทุกอย่าง มีทั้งเงินทองภายในวังของพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส ให้มีการหลอมเงินเป็นท่อน 8 เหลี่ยม ใหญ่ประมาณ 3 ลำ ยาว 7 ศอก ถึง 8 ศอก กองอยู่บนริมถนนเป็นอันมาก เหมือนดุจเสาอันกองไว้ กำลังคนแต่ 13 คน หรือ 14 คนจะยกท่อนเงินนั้นขึ้นไม่ไหว
ภายในท้องพระโรงชั้นในนั้นคาดพื้นด้วยแผ่นศิลา มีสีต่าง ๆ จำหลักลายฝังด้วยเงินทองและแก้ต่าง ๆ สีเป็นลดาวัลย์ และต้นไม้ดอกไม้ภูเขาและรูปสัตว์ต่าง ๆ พื้นผนังก็ประดับด้วยกระจกภาพกระจกเงาอันวิจิตร น่าพิศวง เบื้องบนเพดานนั้นใช้แผ่นทองบ้างดุจแผ่นทองอังกฤษ ตัดเป็นเส้นน้อย ๆ แล้วผู้เข้าเป็นพวกพู่ห้อยย้อยและแขวนโคมแก้วมีสันฐานต่าง ๆ มีสีแก้วและสีทองรุ่งเรืองโอภาสงดงามยิ่งนัก
สมเด็จพระนารายณ์ทรงฟังคำสรรค์เสริญยกย่องความวิเศษของเมืองฝรั่งเศสอย่างยืดยาวแล้ว พระองค์ก็หาได้เชื่อทันทีทันใดไม่ พระองค์ทรงดำหริขึ้นว่าใครจะเห็นความจริง จึงดำรัสแกพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) เราจะแต่งกำปั้นไปเมืองฝรั่งเศส จะให้ผู้ใดเป็นนายกำปั้นออกไปสืบดูของวิเศษยังจะมีสมจริงเหมือนคำของพระยาวิชเยนทร์ หรือประการใด
พระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) จึงกราบทูลว่าผู้ที่จะเป็นนายกำปั้นนั้นไม่มีใครนอกจากนายปาน ซึ่งเป็นน้อยชายตนสามารถที่จะไปสืบข้อราชการ ในเมืองฝรั่งเศสตามพระประสงค์ของสมเด็จพระนารายณ์ ดังนั้นพระองค์จึงเรียกนายปานเข้าเฝ้าเพื่อสอบถามความสมัครใจอีกครั้งหนึ่ง
อ้ายปานมึงมีสติปัญญาอยู่ กูจะให้เป็นนายกำปั้นไป ณ เมืองฝรั่งเศส สืบดูสมบัติพระเจ้าฝรั่งเศส ยังจะสมดังคำพระยาวิชเยนทร์กล่าว หรือ จะมิสมประการใด จะใคร่เห็นเท็จและจริงจะได้หรือมิได้
นายปานน้องชายพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) กราบทูลพระกรุณารับอาสาจะไปเมืองฝรั่งเศสตามพระราชดำริของสมเด็จพระนารายณ์ ได้จัดแจงเตรียหาคนดีมีวิชามาคนหนึ่ง ซึ่งเคยเรียนพระกรรมฐานชำนาญในการเพ่งกระสิณมีความรู้วิชามากแต่เป็นนักเลงสุรา พระนารายณ์ก็ยินยอมให้ไปด้วย นายปานก็มีความยินดี จากนั้นก็จัดหาพวกฝรั่งเศสมาเป็นต้นหนถือท้ายและกลาสีเรือ
พระยาโกษาธิบดีนำคณะเดินทางเจริญสัมพันธไมตรีที่จะไปยัง ประเทศฝรั่งเศส เข้าเฝ้าพระนารายณ์ก็ทรงแต่งพระราชสาสน์ให้นายปานเป็นราชฑูตแห่งกรุงศรีอยุธยา และประกอบด้วยข้าหลวงอื่นเป็นอุปฑูต ให้จำทูลพระราชสาสน์นำเครื่องราชบรรณาการออกไปเจริญทางพระราชไมตรีที่เมืองฝรั่งเศส ตามพระราชประเพณี พระราชทานรางวัลและเครื่องยศแก่ทูตานุฑูต โดยควรแก่ฐานุศักดิ์
นับตั้งแต่นั้น นายปานจึงได้รับแต่งตั้งเป็นพระยาโกษาปาน ราชฑูตของกรุงศรีอยุธยาก็กราบบังคมลาสมเด็จพระนารายณ์ พาพรรคพวกลงเรือกำปั่นใหญ่ ใช้เวลา 4 เดือน ก็ถึงบริเวณใกล้ปากน้ำเมืองฝรั่งเศส บังเอิญขณะนั้นเกิดพายุใหญ่เรือถูกซัดเข้าไปในกระแสน้ำวน ต้องแล่นเรือเวียนอยู่ 3 วัน จึงแล่นถึงปากน้ำฝรั่งเศสจากนั้นจึงได้ขึ้นฝั่ง
เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส พระยาโกษาปาน ก็ไปปฏิบัติหน้าที่ฑูตไทยเป็นอย่างดีและได้รับการยกย่องจากฝรั่งเศสรวมทั้งชาวต่างประเทศอื่น ๆ พระยาโกษาปานเปนราชฑูตไทยคนแรก และประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเซียที่ส่งราชฑูตเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2205
สมเด็จพระนารายณ์ทรงสร้างความสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสดำเนินไปดวยดี มีการแลกเปลี่ยนด้านความรู้ต่าง ๆ หลายสาขา โดยเฉพาะด้านศาสนา ฝรั่งเศสได้ส่งบาทหลวงที่มีความรู้ทงวิชาการอย่างสูงมาสอนศาสนาคริสตังในกรุงศรีอยุธยา
ศาสนาคริสตังในยุคนั้นดูเหมือนจะเป็นที่รังเกียจของชนชาติต่าง ๆ ในแถบตะวันออก ตัวอย่างของเรื่องนี้ได้แก่ การที่ทางการญี่ปุ่นทำการขัดขวางการสอนศาสนาคริสตังในประเทศนั้น ซึ่งทำให้ผู้ที่นับถือศาสนาคริสตังต่างพากันเดินทางมายังเมืองไทยเป็นจำนวนมาก
สมเด็จพระนารายณ์ทรงเปิดโอกาสให้ราษฎรเลือกนับถือศาสนา โดยอิสระ คนไทยก็ไม่มีความรังเกียจต่อศาสนาใด ๆ พวกศาสนานั้น ๆ ก็ยึดเอาเมืองไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับกิจการเผยแพร่คริสต์ศาสนา นอกจากนี้แล้วชาวฝรั่งเศสก็พยายมหาทางตอบแทนคุณความดีของคนไทยด้วยเช่นกัน
แต่เดิมคนไทยต้องประสบปัญหายุ่งยากจากชาวต่างชาติเช่นชาวอังกฤษ และฮอลันดาเพราะมีการแก่งแย่งทางด้านการค้าขายถึงขนาดเกิดปัญหาต้องใช้กำลัง และอาวุธเข้าตัดสินกันบ่อย ๆ เมือไทยทำการเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ดีขึ้น ทำให้ฝรั่งชาติอื่น ๆ ต้องระมัดระวังตัวไม่กล้าก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก
สำหรับประโยชน์ที่ได้จากนักสอนศาสนานั้น นับว่ามีอยู่หลายประการ คือทำให้เกิดผลดีในสังคมเช่นการตั้งโรงเรียนให้การศึกษา การตั้งโรงพยาบาล หรือการสงเคราะห์ชุมชนที่ขาดแคลนและเด็กกำพร้าเป็นต้น
ประโยชน์ด้านการค้ากับต่างประเทศ
ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ ได้มีการติดต่อค้าขายกับประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย มลายู ชวา อังกฤษ ฮอลันดา โปรตุเกส และฝรั่งเศส
ประโยชน์ที่ไทยได้จากการค้ากับฝรั่งเศสก็คือทำให้เกิดตลาดการค้า มีตลาดการค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง คนไทยก็พลอยได้รับความรู้ทางด้านการค้ามากกว่าเดิม
นอกจากประโยชน์สำคัญทางด้านการค้าแล้ว การติดต่อกับต่างประเทศโดยเฉพาะฝรั่งเศสนั้น พระเจ้าหลุยซ์ได้ทำการคัดเลือกทหารส่งมาเป็นทหารรักษาพระองค์แก่สมเด็จพระนารายณ์เป็นทหารที่อยู่ในวินัยและกล่าวว่ามีเชื้อสายผู้ดีมีสกุลของฝรั่งเศส เป็นทหารที่นำความดีงามมาสู่กรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังมีทหารช่างฝีมือดีร่วมกับบาทหลวง ให้ความช่วยเหลือ สร้างป้อมปราการ กำแพงเมือง การประปาตลอดจนอาคารต่าง ๆ และประตูเมืองเป็นต้น
สมเด็จพระนารายณ์เป็นผู้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่สอง
สมเด็จพระนารายณ์เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความคิดก้าวหน้า มองการณ์ไกลได้ว่ากรุงศรีอยุธยาอยู่ในชัยภูมิที่ล่อแหลมต่ออันตราย เพราะเมื่อคราวที่เรือรบ ฮอลันดาปิดอ่าวไทย บทเรียนครั้งนั้นทำให้พระองค์คิดย้ายเมืองหลวงของกรุงศรีอยุธยาไปอยู่ที่ลพบุรี ทรงสร้างเมืองลพบุรี สร้างนารายณ์ราชนิเวศน์เป็นพระราชวังประทับของพระองค์ จัดสร้างการประปาและชลประทานที่อำนวยความสะดวกขึ้น นอกจากเมืองลพบุรีแล้วพระองค์ก็ทรงสร้างเมืองนครราชสีมาและป้อมค่ายต่าง ๆ อีกมากมาย
ด้านการบำรุงการศึกษาและศิลปวิทยาสาขาต่าง ๆ สามเด็จพระนารายณ์ทรงสร้างประโยชน์ไว้อย่างมากมาย เช่นตำราภาษาไทยที่ชื่อ จินดามณี ซึ่งใช้กันมาจนถึงต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าวิทยาการสมัยใหม่อยู่ตลอดเวลา ทรงพระนิพนธ์หนังสือด้วยพระองค์เอง เช่นลิลิตพระลอ เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรได้รับการศึกษาโดยทั่วถึง รัชสมัยของพระองค์จึงเป็นสมัยที่อักษรศาสตร์เจริญรุ่งเรือง มีนักปราชญ์ราชบัณฑิตมากมายตัวอย่างเช่น พระมหาราชครู พระโหราธิบดี ศรีปราชญ์ และเจ้าเชียงใหม่เป็นต้น
เจ้าพระยาวิชเยนทร์ ชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้เข้ามารับราชการในกรุงศรีอยุธยา เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ซึ่งนำเอาวิทยาการต่าง ๆ มาใช้ปรับปรุงกับประเทศไทย มีความดีความชอบมาก จึงโปรดให้เป็นเจ้าพระยาวิชเยนทร์
เจ้าพระยาวิชเยนทร์นำวิชาสมัยใหม่ทางการค้าการช่าง วิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการส่งคนไทยไปเรียนในยุโรปเพื่อนำความรู้มาใช้กับประเทศไทย
อย่างไรก็ตามเจ้าพระยาวิชเยนทร์กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพระเพทราชา และขุนหลวงสรศักดิ์และกลายเป็นชนวนสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งทำให้บุคคลทั้งสองคิดการกบฎขึ้น
ในปี พ.ศ. 2231 สมเด็จพระนารายณ์ทรงมีอาการประชวรหนัก พระองค์ไม่มีราชโอรสเป็นรัชทายาท มีแต่พระธิดา ซึ่งแต่งตั้งเป็นกรมหลวงโยธาเทพ มีพระเจ้าน้องยาเธออีก 5 พระองค์ คือกรมหลวงโยธาทิพ กับเจ้าฟ้าอภัยทศ ทั้งสองพระองค์นี้นับถือคริสตังและมีพระปิยะเป็นเชื้อเจ้าราชนิกูลอยู่อีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งพระนารายณ์ทรงชุบเลี้ยงไว้มาแต่เล็ก ทรงมีพระเมตตาเหมือนราชโอรส
เจ้าพระยาวิชเยนทร์รู้ว่าอย่างไรเสียเชื้อพระวงศ์พระองค์นี้ คงจะได้มีโอกาสรับมอบราชสมบัติ จึงเอาไว้เป็นพวกฝ่ายตน แต่ฝ่ายข้าราชคิดว่าเจ้าพระยาวิชเยนทร์อาจจะคิดร้ายต่อไทย จึงมีความคิดเห็นเข้าข้างพระเพทราชาและขุนหลวงสรศักดิ์
ในที่สุดพระเพทราชากับขุนหลวงสรศักดิ์ก็ลงมือกระทำการกบฏ เพราะคิดว่าอย่างไรเสียสมเด็จพระนารายณ์คงสวรรคตอย่างแน่นอน ฝ่ายกบฎจับเอาพระปิยะและเจ้าพระยาวิชเยนทร์ไปประหารที่ทะเลชุบศร
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงทราบข่าวด้วยความสะเทือนพระทัย จะทำอะไรก็ไม่ได้เพราะอยู่ในอาการประชวรอย่างหนัก รู้สึกปริเวทนาว่าอยุธยาถึงคราวจะวิบัติในครั้งนี้
พระเพทราชาและขุนหลวงสรศักดิ์กระทำการทุกอย่างตามอำเภอใจ เชื้อพระวงศ์และข้าราชการที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามถูกกำจัดไปหมดสิ้น จากนั้นก็หันมากำจัดพวกฝรั่ง
สมเด็จพระนารายณ์ได้สวรรคตลงที่เมืองลพบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2231 ครองราชย์อยู่นาน 32 ปีมีพระชันษา 59 ปี
ตลอดระยะเวลา 32 ปีที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้สร้างประโยชน์แก่ชาติไทยไว้หลายด้าน วิทยาการใหม่ ๆ จากต่างประเทศถูกนำมาใช้ปรับปรุงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ซึ่งพระกรณียกิจของพระองค์ไม่เคยมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดเคยทำได้เช่นนี้มาก่อน
พระเกียรติคุณของสมเด็จพระนารายณ์เปนที่ยกย่องสรรเสริญแก่ประชาชาติไย พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือไปไกล พระปรีชาสามารถของพระองค์ แม้แต่จดหมายเหตุของต่างประเทศ ยังได้บันทึกเกียรติประวัติของพระองค์ไว้ด้วยหลายแห่ง
พระราชกรณียกิจอันสำคัญของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นแบบอย่างแห่งการเจริญก้าวหน้าในสมัยต่อ ๆ มา เมืองลพบุรีที่พระองค์สร้างขึ้นเป็นมรดกชิ้นสำคัญ เป็นเสมือนประตูชัยแห่งความก้าวหน้าเปิดกว้างไว้สำหรับอนาคตอันรุ่งโรจน์ของชาติ คุณงามความดีอันใหญ่ของพระองค์ ประชาชาติไทยจึงถวายพระนามเทิดพระเกียรติอันสูงส่งของพระองค์ว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
Create Date : 12 มกราคม 2549 |
|
92 comments |
Last Update : 12 มกราคม 2549 13:56:55 น. |
Counter : 5270 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: mcpan (mcpan ) 12 มกราคม 2549 13:57:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ................... IP: 203.188.45.95 24 กุมภาพันธ์ 2549 7:41:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: Beeer IP: 203.172.207.77 7 มิถุนายน 2549 8:59:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ooo IP: 202.28.50.6 8 มิถุนายน 2549 13:24:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: ----noi---- IP: 203.151.140.117 16 มิถุนายน 2549 18:58:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: angie IP: 203.209.38.154 30 มิถุนายน 2549 17:12:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: แดน IP: 203.150.14.161 1 กรกฎาคม 2549 17:27:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: mini IP: 203.118.112.41 19 กรกฎาคม 2549 17:27:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: .................................... IP: 203.118.112.41 19 กรกฎาคม 2549 17:29:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: พงศกร IP: 203.118.84.174 15 สิงหาคม 2549 18:52:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: นักธุรกิจรุ่นจิ๋ว IP: 203.118.84.174 15 สิงหาคม 2549 18:55:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ... IP: 58.8.76.99 27 สิงหาคม 2549 19:11:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ... IP: 58.8.76.99 27 สิงหาคม 2549 19:15:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟ้าใส IP: 58.147.24.62 29 สิงหาคม 2549 20:54:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: .......... IP: 61.47.70.184 26 ตุลาคม 2549 19:04:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: จีรพร ศิริวัฒน์ IP: 203.113.33.9 1 ธันวาคม 2549 20:19:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: ............. IP: 58.147.115.115 20 ธันวาคม 2549 17:48:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ............. IP: 58.147.115.115 20 ธันวาคม 2549 17:50:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ...................................................................... IP: 125.25.11.206 20 ธันวาคม 2549 20:16:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: คิตตี้ IP: 203.113.32.9 27 ธันวาคม 2549 19:22:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทาม IP: 202.5.83.81 29 ธันวาคม 2549 18:18:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: .......12 IP: 203.113.76.9 30 ธันวาคม 2549 16:22:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: kk IP: 203.113.76.9 30 ธันวาคม 2549 16:23:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนน่ารัก IP: 202.183.229.197 5 มกราคม 2550 9:32:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกเกเเกเ IP: 203.188.18.152 5 มกราคม 2550 20:30:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: 123 IP: 58.9.55.250 5 มกราคม 2550 23:33:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กเรียนสังคม IP: 203.107.214.253 7 มกราคม 2550 12:55:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุกัญญา IP: 203.209.101.149 8 มกราคม 2550 19:56:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: วา IP: 203.209.101.149 8 มกราคม 2550 20:04:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: นักเรียนชั้น ป.6/2549โรงเรียนบ้านจำปาทอง อ.พนม IP: 203.172.199.250 2 กุมภาพันธ์ 2550 9:54:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ด.ญ.จันจิรา หวาวันจารย์ IP: 203.172.199.250 2 กุมภาพันธ์ 2550 10:05:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ด.ญ. วายุรี คงแก้ว โรงเรียนบ้านจำปาทอง IP: 203.172.199.250 2 กุมภาพันธ์ 2550 10:15:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ด.ญ.จันทนา เพชรชู IP: 203.172.199.250 2 กุมภาพันธ์ 2550 10:20:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ด.ญ.ขิราวรรณ ศักดา IP: 203.172.199.250 2 กุมภาพันธ์ 2550 10:23:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: นางสาวหญิง IP: 61.19.95.119 5 กุมภาพันธ์ 2550 9:04:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: หน้าม้อ งิงิ IP: 58.147.119.178 6 กุมภาพันธ์ 2550 19:39:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ...... IP: 58.147.119.178 6 กุมภาพันธ์ 2550 19:41:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนหวังดีกะ IP: 58.147.94.174 7 กุมภาพันธ์ 2550 9:54:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ................................. IP: 203.188.11.186 11 กุมภาพันธ์ 2550 9:59:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ............................ IP: 203.188.11.186 11 กุมภาพันธ์ 2550 10:00:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: เเป้ง IP: 58.9.13.245 11 กุมภาพันธ์ 2550 17:32:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทารกนิรนาม IP: 61.91.168.192 11 กุมภาพันธ์ 2550 18:10:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: 55555+ IP: 61.91.168.192 11 กุมภาพันธ์ 2550 18:11:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: เดหเรไพแดน IP: 203.172.58.145 14 กุมภาพันธ์ 2550 19:57:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: เฟินน่ารัก IP: 125.24.159.130 19 กุมภาพันธ์ 2550 15:32:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปุ้ย IP: 203.188.53.161 21 กุมภาพันธ์ 2550 7:11:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: กอล์ฟ IP: 203.114.109.2 21 กุมภาพันธ์ 2550 12:13:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟิว IP: 124.120.65.82 24 กุมภาพันธ์ 2550 18:22:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟิว IP: 124.120.65.82 24 กุมภาพันธ์ 2550 18:24:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไมค์ IP: 203.209.112.192 26 กุมภาพันธ์ 2550 20:25:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: wat IP: 202.5.87.3 27 กุมภาพันธ์ 2550 17:18:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: naka IP: 210.246.74.191 25 เมษายน 2550 13:12:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชุธิดา IP: 203.113.67.39 28 พฤษภาคม 2550 19:55:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: โต IP: 61.91.162.235 17 มิถุนายน 2550 20:24:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: เหน่ง IP: 203.146.116.101 18 มิถุนายน 2550 16:55:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: รามสร IP: 202.47.247.140 27 มิถุนายน 2550 16:11:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธนกฤต IP: 203.144.226.230 1 กรกฎาคม 2550 17:26:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กเรียนเก่งขึ้นเยอะเพราะได้ความรู้มากๆเลย IP: 61.7.131.58 29 มกราคม 2551 17:18:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: บอล IP: 222.123.167.72 6 กุมภาพันธ์ 2551 10:41:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: คน IP: 203.156.32.160 25 กุมภาพันธ์ 2551 17:54:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;; IP: 117.47.184.196 29 กุมภาพันธ์ 2551 22:18:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: แนน IP: 117.47.170.163 5 มิถุนายน 2551 17:12:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: แนน IP: 117.47.170.163 5 มิถุนายน 2551 17:15:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนสยามประเทศ IP: 125.25.200.22 12 มิถุนายน 2551 20:49:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: โฟม IP: 118.175.176.206 3 กันยายน 2551 12:53:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ท่านเจ้าคุณ IP: 202.149.25.235 15 กันยายน 2551 15:03:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: น่ารัก IP: 118.173.122.253 26 พฤศจิกายน 2551 16:46:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: 005 IP: 203.172.90.45 13 ธันวาคม 2551 19:17:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กบางจาน IP: 125.27.151.185 21 ธันวาคม 2551 13:13:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กตาโหน่ IP: 125.26.224.142 15 กุมภาพันธ์ 2552 14:04:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชนัญญา รื่นพิทักษ์ IP: 124.122.188.8 24 กุมภาพันธ์ 2552 18:13:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: pluam09 IP: 125.24.19.224 1 กรกฎาคม 2552 13:09:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: +555 IP: 203.118.111.207 26 กันยายน 2552 18:31:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: เราเลขที่41ป.5/3ร.ร.ซย.นว. IP: 222.123.168.238 23 มกราคม 2553 13:03:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: เราเลขที่41ป.5/3ร.ร.ซย.นว. IP: 222.123.168.238 23 มกราคม 2553 13:05:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: เริ่ด IP: 172.72.100.161, 119.42.85.243 15 กุมภาพันธ์ 2553 15:07:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: pp IP: 115.87.165.168 5 สิงหาคม 2553 18:48:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผมชื่อ คิมคับบบบบ IP: 58.11.43.95 8 พฤศจิกายน 2553 18:51:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: คิมคับ IP: 58.11.43.95 8 พฤศจิกายน 2553 18:56:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: -....- IP: 182.93.221.54 16 พฤศจิกายน 2553 13:38:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิอิ IP: 182.93.221.54 16 พฤศจิกายน 2553 13:41:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมย์ IP: 222.123.219.34 23 พฤศจิกายน 2553 16:27:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมย์ IP: 222.123.219.34 23 พฤศจิกายน 2553 16:27:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: FeRn^^ IP: 119.31.75.254 23 พฤศจิกายน 2553 17:20:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: บ้าบอ วะกุ IP: 180.180.217.156 27 มกราคม 2554 18:13:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: บ้าบอ วะกุ IP: 180.180.217.156 27 มกราคม 2554 18:14:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: สนุกสนาน IP: 182.232.222.47 14 กุมภาพันธ์ 2554 22:57:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนรู้จักคิด !!!!! IP: 223.206.42.227 12 กรกฎาคม 2554 21:10:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: อืม IP: 110.168.9.214 15 สิงหาคม 2554 21:32:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิตติวรรณ IP: 49.230.146.131 18 กุมภาพันธ์ 2555 12:05:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: คิม IP: 182.53.9.238 13 พฤศจิกายน 2555 17:52:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: คิม IP: 182.53.9.238 13 พฤศจิกายน 2555 17:53:18 น. |
|
|
|
| |
|
|
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นอนุสรณ์ของพระมหากษัตริย์ไทยที่สร้างประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าของชาติบ้านเมือง ตั้งอยู่ที่เมืองลพบุรีเนื่องจากเมืองแห่งนี้ เป็นเมืองที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงสร้างขึ้น เพื่อให้เป็นราชธานีแห่งที่สอง
ในครั้งที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงมีพระชนม์อยู่ พระองค์จะแปรพระราชฐานมาอยู่ที่ราชธานีแห่งนี้ในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนก็จะแปรพระราชฐานไปอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา เมืองลพบุรี จึงเป็นเมืองอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ครั้นทางราชการดำหริจัดสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์ขึ้น จึงตกลงใจเลือกเอาเมืองลพบุรี หรือเมืองละโว้ เป็นสถานที่ตั้งอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตั้งอยู่ที่ตัวจังหวัดลพบุรี หล่อด้วยโลหะ ใจลักษณะยืน ฉลองพระองค์เต็มยศตามรัชสมัยของพระองค์ มงกุฎเป็นยอดแหลมแปลกตากว่าอนุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์พระองค์อื่น ๆ
ชาวเมืองลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งประชาชนชาวไทยต่างยกย่อยเคารพสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นอย่างยิ่ง ทางจังหวัดลพบุรี ร่วมด้วยพ่อค้าประชาชนชาวเมืองลพบุรี ร่วมใจกันจัดงานสมโภชน์เพื่อเทอดพระเกียรติพระองค์ท่านเป็นประจำทุกปี เรียกว่า วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
นอกจากอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแล้ว อนุสรณ์ที่สำคัญของสมเด็จพระนารายณ์ ได้มีผู้แต่งเพลงเทอดพระเกียรติคุณอันสูงส่งของพระองค์ คำร้องเพลงนี้ไม่ทราบนามผู้แต่ง เป็นเพลงทำนองโยสลัม