คนชอบท่องเที่ยวครับ
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
30 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
#10 มาเลเซีย สิงคโปร์ 7 วัน หกพันกว่าบาท >>31 พ.ค.52 จองตั๋วไปสิงคโปร์,ตามหาHostel,ชมเมืองมะละกา

ความเดิมตอนทีแล้ว
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=mangiang&month=30-06-2009&group=2&gblog=9

ขอโทษด้วยครับที่ไม่มาอัพซะนานเลย พอดีคอมผมโดนไวรัสครับ รูปที่ถ่ายเก็บไว้หายหมดเลย แผ่นที่ไรท์ไว้ก็เพิ่งจะหาเจอครับ เลยเพิ่งได้มีโอกาสมาอัพต่อครับ ขอโทษจริงๆ ว่ากันต่อเลยนะครับ



"มะละกา (Malacca หรือ Melaka ) เป็นเมืองที่มีประวัติมายาวนาน เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญ เพราะเป็นจุดนัดพบของเรือพาณิชย์ในอดีตซี่งผ่านทางช่องแคบมะละกา ชื่อเมืองถูกตั้งตามชื่อของต้นมะขามป้อมที่มีอยู่มากในป่าบริเวณนี้ การค้าในเมืองมะละกาเริ่มคึกคักขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาติมหาอำนาจอยากครอบครองพื้นที่แถบนี้ โดยจีนเป็นชาติแรกที่เข้ามายึดครองมะละกา การค้าก็รุดหน้าต่อเนื่องจนกลายเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการขนส่งทางทะเล โดยศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแรกที่เข้ามาเผยแพร่ที่มะละกาจากพ่อค้าชาวอินเดีย ต่อมาโปรตุเกสก็เริ่มเข้ามารุกราน ในช่วงยุคล่าอาณานิคม เป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่มาเหยียบแผ่นดินมะละกา ซึ่งชาวพื้นเมืองได้เรียกคนผิวขาวพวกนี้ว่า “ฝรั่ง” จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “ฝรั่ง” ที่เรียกกันอยู่ทุกวันนี้ รวมถึงในประเทศไทย หลังจากโปรตุเกสยึดครองมะละกาด้วยกำลังได้ หลังจากนั้น ฮอลันดา ก็เข้ามายึดมะละกาจากโปรตุเกส จากความแค้นระหว่างประเทศที่สั่งสมมานาน เป็นที่มาของจตุรัสดัชต์สแควร์และกังหันลมสไตล์ฮอลันดาที่โด่งดังของมะละกา ต่อมาอังกฤษก็เข้าครอบครองมะละกาต่อจากฮอลันดา ขณะที่การค้าในประเทศสิงคโปร์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จนมะละกาถูกลดความสำคัญลงไปมาก จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษได้คืนพื้นที่ต่างๆ ที่เข้ายึดครองให้กับมาเลเซีย ที่ได้เลือกมะละกาเป็นสถานที่ประกาศเอกราช หลังจากนั้นมา ชาวมาเลเซียร่วมมือกันพัฒนามะละกามาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมาเลเซียในปัจจุบัน*****" หมายเหตุ : ข้อมูลจากหนังสือ ใครๆก็ไปเที่ยวมาเลเซีย โดย อดิศักดิ์ จันทร์ดวง

หลังจากที่เรามาถึงท่ารถมะละกาหรือ Melaka Sentral เรียบร้อยแล้ว อันดับแรกที่ต้องทำคือ จองตั๋วไปสิงคโปร์ในวันพรุ่งนี้ ที่ขายตั๋วไปสิงคโปร์จะอยู่อีกโซนนึงเลย เหมือนเ้ค้าแบ่งโซนขายอ่ะ รถระยะใกล้กับไกล ถ้าหาไม่เจอลองถามเจ้าหน้าที่ดูก็ได้ครับ จะนั่งอยู่ตรงกลางเลยให้สอบถามใจดีมาก ก็เดินหาอยู่หลายบริษัทเหมือนกัน ตามลายแทงแล้วบอกว่าราคาจะอยู่ประมาณ 14-17 RM แต่เท่าที่ถามดูนี่ 20 กว่าทั้งนั้นเลย คิดว่าคงเงินเฟ้ออีกแล้วล่ะมั้ง แถมไม่มีของบริษัท KKKL ด้วย แล้วทีนี้เลยต้องมาหาเพื่อนซี้กันใหม่แล้ว เสี่ยงๆดู แต่ที่ตัดไปหนึ่งคือของ 707 express เพราะจากลายแทงเห็นเค้าขึ้นรถของบริษัทนี้ บ่นอุบเลย เลยขอบายดีกว่า เสี่ยงดูของ Delima ราคา 22.2 RM ถือว่ายอมรับได้ก็ตกลงจองรอบ 9 โมงพรุ่งนี้ ทีแรกถามราคาไปกลับ เผื่อจะยอ้นกลับทางเดิม เค้าบอกต้องจ่ายขากลับเป็นเงินสิงคโปร์ คือ 22.2 SGD เออเอาเข้าไป นี่จะไม่คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนกันเลยใช่มั้ยเนี่ย?? เลยขอบายดีกว่า เพราะเรายังไม่รู้ด้วยว่าจะกลับตอนไหนกี่โมง เลยไว้ไปคิดที่สิงคโปร์แล้วกัน

ซื้อตั๋วเสร็จก็เตรียมร่อนมะละกา ตามลายแทงเลย มองหารถ panarama bus จะเป็นรถวนรอบเมือง เดินถามคนแถวๆนั้นเค้าก็ชี้ๆบอกทางมา ขอบคุณครับบบ รอรถพักนึงก็มา ค่ารถ เที่ยวเดียว 1 RM ถ้าซื้อแบบตั๋ววันกี่เที่ยวก็ได้ 2 RM แนะนำว่าให้ซื้อแบบเที่ยวเดียวดีกว่า ไม่ได้งกนะ แต่ว่ามะละกาเมืองเล็กนิดเดียวเอง เดินได้ แถมเมืองสวยมาก เหมาะกับการเดินเท้าเก็บบรรยากาศ ถ่ายรูปมากกว่า แต่ตอนนั้นก็ซื้อแบบวันมาล่ะ ขึ้นไปซื้อบนรถได้เลย สังเกตไม่ยากรถจะเป็นสีแดงทั้งคัน รถแอร์ ใหม่ด้วย ข้างๆเขียนชัดเจนว่า panarama bus

ก็พอขึ้นรถมาก็บอกคนขับว่าจะลงที่ ป้าย 4 kg Hulu Msque เพราะโฮสเทลที่เค้าจองไว้ให้้อยู่ที่นั่น ก็นั่งมาเืรื่อยๆก็เจอกับป้ายที่ 4 จนได้ แต่เอ๊ะ!!! ทำไมมันไม่จอดให้กูหว่า หรือมันยังไม่ถึง??ก็ยังใจเย็นอยู่ สักพักก็จอดให้ลง เลยจากจุดนั้นไปไกลอยู่ ลงมาก็งงสิ???ที่ไหนวะ? เดินถามคนแถวๆนั้นไปเรื่อยๆ เค้าก็ใจดีกันมากๆเลย ก็เดินตามที่เค้าบอกมาเรื่อยๆปรากฏว่า อืม สุดท้ายกูเดินย้อนกลับมาจากจุดที่เห็นนันแหละ(แล้วทำไมไม่จอดให้กูลงหว่า??)

<<<ท่ารถที่มะละกา หรือ Meleka Sentral หรูหราใช้ได้เลย อย่างกับสนามบินแน่ะ

<<<ซื้อตั๋วไปสิงคโปร์กับรถบริษัทนี้

<<<บนรถ Panarama bus คันข้างๆขอดเทียบอยู่ รถหรูใช้ได้เลย

<<<ในรถ panorama bus อีกรอบ

<<<โบสถ์ St.Paul ถ่ายจากบนรถอ่ะ ไม่รู้ความเป็นมาง่ะ ลองหาข้อมูลกันเอาแล้วกันนะครับ อิอิ

<<<รถมาจอกส่งเราที่นี่ล่ะ เดินกลับกันไกลเลย แต่ก็คุ้มดี ได้เดินดูไรเรื่อยๆ ชอบๆๆ

<<<เดินข้ามสะพานกลับมาอีกฝั่งเพื่อตามหา Hostel

<<<เมืองเค้าคลาสสิคมากมาย ช้อบบบบชอบ

<<<ถึงแล้ว Ringo Foyers Hostel เดินหากันนานเลย ข้างในดูดีชะมัด ชอบๆๆ นี่กำลังสุมหัวดู Hi5 กัน

หลังจากที่เดินกันมั่วๆ ถามทางเค้าไปเรื่อยๆ ก็เดินมาถึง Ringo Foyers Hostel กันตอนประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง ไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้าให้ดูอ่ะ ลืม โทษทีครับ ก็กดกริ่งอยู่สองสามที เจ้าของก็ลงมารับเรา ยังดูอายุไม่เยอะเลย อ้วนๆใจดีๆ เราก็บอกเลยว่ามาจาก Hostel Cosmopolitan(โฮสเทลที่เราไปพัก KL เจ้าของโฮสเทลเค้จองที่นี่ให้เรา) เค้าก็โอเคๆๆ ที่เค้าลงมารับเราช้าเพราะว่าตอนนี้แขกเค้าเยอะมาก ตอนพวกเราขึ้นไปเค้าก็มีแขกเป็นฝรั่งอยู่ แล้วก็มีคนสองสาวชาวจีน(สวยด้วยล่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเค้ามา เพราะอะไร รอก่อนๆ)อีก แล้วพอเราขึ้นมาเค้าก็ปล่อยให้เรานั่งพักกันก่อน เค้าต้องดูแลลูกค้าคนอื่นก่อน ดูวุ่นวายชะมัด แต่เค้าก็พยายามดูแลพวกเราดีเลยล่ะ ก็เข้าใจน่ะ ไม่ว่ากัน แล้วระหว่างที่เรารออยู่ก็มีอีกกรุ๊ปนึงมาสมทบ ยังดูเด็กกันอยู๋เลยมีกันห้าหกคนนี่แหละ ทีนี้ก็วุ่นใหญ่ดิ เค้าก็เลยจับกลุ่มนี้เข้าห้องไปก่อน คือเค้าบอกเด็กพวกนั้นให้เข้าไปในห้องก่อน เปิดประตูให้แล้วก็จับเด็กพวกนั้นยัดไในห้อง แล้วก็ปิดประตูเลย ตัดภาระ ดูแล้วก็ฮาๆดี แล้วก็มาถึงตาเราบ้างเค้าถามว่ามาสี่คนใช่มั้ย? เหอๆๆ มาห้าครับเฮีย พี่แกก็งงเลย บอกว่าห้องพักไม่พอ คิดว่ามากันสี่คน เอาแล้วงัย แล้วทีนี้จะเอาไงล่ะ ก็บอกเค้าว่าไม่เป็นไรนอนเบียดกันได้ ไม่มีปัญหา เค้าบอกไม่ได้ๆ เดี๋ยวหาที่พักให้ใหม่ โหๆๆๆ ประทับใจจัง แล้วก็ไปคุยโทรศัพท์ หันมาบอกเราให้รอก่อน ก็โอเค ระหว่างรอเห็นอาหมวยหน้าจีนเลยคุยสักหน่อย น่ารักซะขนาดนั้น ได้ความว่ามาจากจีนกันสองคนเลย แบ็กแพ็กมา โหหๆๆๆ ไม่กลัวกันเลยหรอน้อง??อายุยังน้อย เป็นสาวสวยด้วย น่ากลัวจัง ก็คุยๆคิดว่าเดี๋ยวคงได้เจอกันอีกแหละคืนนี้ อาจจะได้มานั่งคุยกัน อิอิ(แต่สุดท้าย..อด เฮ้อ!)

สักพักเจ้าของก็บอกเราว่าเดี๋ยวเค้าจะพาไปพักอีกที่นึง อยู่ใกล้ๆกัน ให้รอก่อน เดี๋ยวจะมีคนมารับไป สุดยอดเลย ระหว่างนั้นเค้าก็เปิด Hi5 ให้ดู ชวนเราคุยอ่ะ ว่างั้น เค้่าก็มาอวดว่าเค้ามีเฟรนด์ใน Hi5 เป็นดาราไทยด้วย แถมหลายคนด้วย เค้าถามผมว่ารู้จักมั้ยดาราคนนั้นคนนี้ เหอะๆ ไม่รู้จักสักคน แต่พวกพี่ๆเค้ารู้จักกันหมดเลย เลยนั่งได้นั่งคุยแลกเปลี่ยนกันพักใหญ่ คร่าเวลาไปได้ แล้วครู่ใหญ่ๆ ก็มีคนมารับเรา เป็นเจ้าของ Jalun Jalun Hostel จะพาเราไปพักที่นั่น อายุยังดูไม่เยอะเลย เป็นเจ้าของโฮสเทลแล้ว ชื่นชมๆๆ เค้าก็เอารถมารับเรา ทีแรกจะพาไปขึ้นเบนซ์ที่จอดอยู่ด้านหน้า คุยกันกะเพื่อน โหหหห มีคนเอาเบนซ์มารับกูที่มะละกาด้วยเว้ยยย ไฮโซๆๆ ที่ไหนได้ สุดท้ายไปอีกคัน ห้าๆๆๆ ขี้เล่นใช้ได้ ก็แบ่งกันไปสองคัน Jalun Jalan อยู่ไม่ไกลจาก Ringo Foyers เท่าไร แปบเดียวถึง เดินเอาได้ แต่เรามัน VIP นิ อิอิ ที่ Jalan Jalan จะคนละบรรยากาศกะที่แรกเลยที่แรกดูใหม่ๆหน่อย แต่ที่นี่ดูคลาสสิคๆดี ชอบมากมายยยย ก็จัดการจ่ายค่าห้องไป 1 คืน คนละ 12 RM เท่านั้นเอง ถู้้กกกกถูก แล้วก็มีจักรยานโบราณให้เช้าด้วย ก็เช่ามาคนละคัน 6 RM ขี่ได้หนึ่งวัน เยี่ยมไปเลย ถูกจายยย ก็เก็บข้าวเก็บของ ถามเรื่องเที่ยวจากแซมเจ้าของโฮสเทลเรียบร้อย ก็ปั่นจักรยานออกไปหาไรกินกันดีกว่า

<<<ราชรถมาเกย

<<<หน้าJalan Jalan Hostel คลาสสิคมากมาย ช้อบชอบ


<<<ภายในโฮสเทล

<<<ปั่นไปถ่ายไปเรื่อย

<<<จักรยานเช่ามาจากโฮสเทล 6 RM ขี่ทั้งวัน

<<<ย่านเมืองเก่า สวยงามมากมาย ช้อบชอบ

<<<พิพิธภัณฑ์เรือ ไม่ได้เข้าอ่ะ

<<<หอคอย ขึ้นไปชมวิว จำราคาค่าขึ้นไม่ได้อ่ะ รู้สึกจะ 20 RM มั้ง

<<<อีกสักรูป

ก็ขี่จักรยานวนรอบเมืองเรื่อยๆ จะบอกว่าขี่ง่ายมาก ถนนวันเวย์ครับ ไม่ต้องกลัวหลง ขี่ไปเดี๋ยวก็วนกลับมาที่เดิมเอง พยายามมองหาไอ้กังหันลมอ่ะนะ แต่ไม่เห็นเลย เพราะรถเยอะมากมาย ไอ้เราก็ปั่นจักรยานต้องคอยหลบรถอีก แดดก็เปรี้ยงมากมาย ไม่รู้ว่าบ้านนี้เมืองนี้เค้ารู้จักเมฆกันมั่งรึป่าว?? แต่ก็ดีนะ แดดจัดดี ทำให้มองอะไรก็สวยก็งามไปหมด

ปั่นไปสักพักก็หลงกับกลุ่มเรา(ไหนว่าไม่หลงงัยหว่า??) คือคลาดกันครับ เพราะรถเยอะ จะโทรศัพท์ก็ไม่ได้ เพราะจะโทรไปหายังไงล่ะ ไม่มีเบอร์มาเลย์นิ เลยเลยตามเลยแล้วกัน เหลือกันอยู่สองคนกะเพื่อน ปั่นไปเจอศูนย์อาหาร Newton พอดี อยู่ตรงข้ามกะ Megamall เลยไม่รอช้า เข้าไปดูของกินก่อน ดูจากภายนอกแล้วท่าทางจะหรูแฮะ แต่พอเข้าไป โอ้ววว!!ไม่แพงอย่างที่คิด ราคาพอๆบ้านเราล่ะ เผลอๆถูกกว่าตามฟู้ดคอร์ทบ้านเราด้วยซ้ำ เท่าที่ดูจะขายแตอาหารจีนนะ มีแต่มาเยเชื้อจีน ก็เดินวนๆหาไรกิน ที่นี่ไม่มีข้าวราดแกงให้จิ้มแล้วสิ มีแต่อาหารตามสั่ง ไอ้จะไปสั่งกระเพราหมูก็ใช่เรื่อง คิดไม่ออกบอกไม่ถูก เดินผ่านร้านนึงเห็นเค้าผัดข้าวเสร็จกำลังจะเอาไปเสิร์ฟพอดี เลยถามเค้าดูว่ามันคืออะไร เค้าก็บอกมาเลยว่า !@@###MM!! อืมเอาเหอะอะไรก็ช่าง เอาอย่างนี้ที่นึง ไอนั่งอยู่โต๊ะนู้นนะ เดี๋ยวยูเอาไปเสิร์ฟด้วย จ่ายเงินก่อนราคา 4.5 RM แล้วก็เดินไปซื้อน้ำอีกร้าน เอาน้ำเปล่าแล้วกัน กระหายมา แดดแรงเกิน 1RM รวมมื้อนี้ 5.5. RM

<<<ศูนย์อาหารนิวตัน อยู่ตรงข้าม Megamall ขายอาหารจีน

<<<ภายในศูนย์อาหาร ของจริงดูดีกว่าในรูปเยอะเลย

มื้อนี้ของเรา 5.5RM ข้าวผัดไรไม่รู้ สั่งตามเค้ามา รสชาดโอเคประมาณนึง

กินเสร็จก็ออกมาร่อนกันต่อ เดินข้ามฝั่งมาเข้าห้องน้ำที่ห้าง megamall หรูใช้ได้เลย มีแต่ของแบรนด์เนม ไม่รู้จะดูอะไร มันไม่ช่ายยยอ่ะ แต่ห้างนี่ใหญ่ใช้ได้เลยอ่ะ ยาวมาก ขนาดที่ว่ามีสนามฟุตบอลอยู่บนดาดฟ้าเลยอ่ะ ฟุตบอลนะไม่ใช่ฟุตซอล ขนาดมีสนามบอลแล้วยังไม่เต็มพื้รที่ดาดฟ้าเลย เชื่อเค้าเลยอ่ะ ว่าเมืองเล็กๆแค่นี้จะสามารถมีศูนย์การค้าใหญ่โตขนาดนี้ได้ โดยไม่กลัวเจ๊ง ชื่นชมครับ

เข้าห้องน้ำเสร็จเพื่อนผมทำกุญแจล็อกจักรยานหล่นไปในส้วม แต่ก็ทำไรไม่ได้เดี๋ยวค่อยว่ากัน ก็ปั่นซ้อนคันเดียวไปก่อนละกัน ก็ออกมาจากห้าง อยากใช้ตั๋ว Panorama Bus ให้คุ้ม เดินไปรอรถที่หน้าห้างอีกด้านนึง เดินไกลอยู่ คือมันมีป้ายตลอดนะ แต่ป้ายมันจะบอกว่าจุดรอรถน่ะตรงไปอีกกี่เมตรๆอย่างนี้ เลยเดินกันมันส์เลย ก็ขึ้นรถไปผมเอาตั๋ววันที่ซื้อไว้มา เลยขึ้นได้ไม่มีปัญหา แต่เพื่อนผมลืมไว้ที่โฮสเทล ทำท่าจะจ่ายใหม่แต่คนขับบอกไม่มีปัญหา ไม่ต้องจ่าย นั่งได้เลย ใจดีจัง

<<<ห้าง megamall ใหญ่มากมาย

<<<อีกสักรูป หรูปะล่ะ? มีแต่แบรนด์เนม แล้วห้างนี่ยาวไปโน่นเลยนะนั่น

<<<บนดาดฟ้าเป็นสนามฟุตบอลอย่างนี้ ไม่รู้จะอธิบายความใหญ่ยังไงดี

<<<นี่ล่ะ ป้ายรถเมล์ตรงไปอีกสามร้อยเมตร

เดินเลาะหน้าห้างตามทางเดินมาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายก็จะเจอป้ายหยุดรถ panarama ที่ 8 อย่างนี้

<<<ถ่ายจากที่รอรถเมล์ ดูขัดๆกันดี รถใหม่ๆจอดหน้าตึกเก่าๆ

<<<มีรถ town bus ผ่านมา ไป melaka sentral เหมือนกัน แต่ไม่ขึ้น เพราะซื้อตั๋วพาโนรามามาแล้ว แถมนี่รถร้อนอีก ขอผ่านๆ

<<<รถสามล้อจ้าง ปั่นชมเมือง ตกแต่งซะ สวยเลยยยย(เห็นมีแต่แขกปั่นนะ ไม่เหนมีเชื้อจีนปั่นเลย)

<<<ร้านขายของชำ เหมือนๆบ้านเรา แต่มาสีสวยเลย ถ่ายจากบนรถ

<<<ขึ้นรถได้แปบเดียวก็หลับ โผล่มาอีกทีก็นี่เลย กลับมากลางเมืองแล้ว หุหุ

หลังจากขึ้นพาโนราม่าไปวนที่สถานีขนส่ง melaka sentral แล้ว ก็วนกลับมาลงที่หน้าห้าง megamall เพื่อมาเอาจักรยาน ประมาณชั่วโมงนิดๆได้ที่นั่งบนรถ แล้วก็เดินขึ้นเดินลงดูพิพิธภัณฑ์แถวนั้นต่ออีกหน่อย ตอนนี้ก็เวลาประมาณหกโมงเย็นแล้ว แต่ยังมีแดดรำไรอยู่เลย เพราะมันเพิ่งห้าโมงเมืองไทยเอง

ก็เดินๆดูพิพิธภัณฑ์แถวๆนั้นอ่ะ มีพิพิธภัณฑ์เยอะดี ชอบๆ แต่ไม่ได้เข้าไปดูด้านในหรอกนะ เอาแค่ดูรอบๆก็พอแล้ว เริ่มต้นที่ด้านหน้าเลยเห็นมีพวกรถไฟ เครื่องบินเก่าๆมาตั้งไว้ ก็ถ่ายรูปสักหน่อย เหมือนมางานวันเด็กเลยอ่ะ ห้าๆๆๆ แล้วก็เดินขึ้นไปบนโบสถ์ St.Peter ขึ้นไปด้านบนมองลงมาเห็นวิวเมืองมะละกาทั้งเมืองเลย เจ๋งดีทก็ถ่ายรูปอยู่ด้านบนสักพันึงก็กลับลงมา กะว่าจะปั่นจักรยานไปแถวๆริมทะเลดู กางแผนที่ออกมาดูแล้วก็ปั่นไปตามแผนที่เลย เลียบถนนหน้า Megamall ไปเรื่อยๆ แล้วก็เลี้ยวขวาออกถนนใหญ่ก็ปั่นไปเรื่อยๆอีก สักพักก็ออกทะเลแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ยที่ได้เห็นทะเลฝั่งอันดามัน!!!!!!
มีคนมานั่งตกปลาอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ที่แปลกใจมากเลย คือป่าชายเลนที่นี่สมบูรณ์มากกกกก แล้วที่นี่เค้าก็ไม่เอาทะเลเป็นจุดขาย ทั้งที่ทะเลอยู่ใกล้นิดเดียว เมืองทั้งเมืองหันหลังให้ทะเลหมดเลย เจ๋งมากกกกก ถ้าเป็นเมืองไทยนะป่านนี้ไม่เหลือแล้วป่าชายเลนน่ะ

ก็ถ่ายรูปเล่นได้สักพักนึงก็เริ่มมืดแล้วก็เลยปั่นจักรยานกลับเข้าในเมือง กะว่าจะไปเดิน Jonker walking street

<<<จัตุรัสกลางเมือง ไม่รู้ว่ามีอะไรเหมือนกัน เห็นคนรุมกันเต็มเลย

<<<เครื่องบิน!!!

<<<รถไฟโบราณ ไม่ได้วิ่งแล้ว เอามาตั้งให้ดูเฉยๆ

<<<หน้าพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่าง

<<<ทางขึ้นโบสถ์ St.Peter



<<<ฮึบๆๆๆ จะถึงแล้ว อีกนิดเดียว

<<<ถึงแล้วโบสถ์ St.Peter สร้างตั้งแต่ปี1710 เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกและตะวันออก แต่ตอนนี้ดูไม่ออกแล้ว ว่าผสาผสานกันยังไง เพราะทรุดโทรมมากทีเดียว

"ตามประวัติ นักบุญฟรานซิส ซาเวียร์ เข้ามาเผยแพร่คริสตศาสนาในดินแดนเอเชีย
ทำให้ศาสนาคริสต์เป็นที่แพร่หลายอย่างกว้างขวาง

จวบจนท่านไปเสียชีวิตที่จีน
บรรดาศานุศิษย์ได้ส่งศพลงเรือเพื่อกลับไปฝังยังเกาะในประเทศอินเดียตามความประสงค์ของท่าน
แต่เรือดันมาอับปางลงบริเวณชายฝั่งเมืองมะละกา
ชาวเมืองจึงนำศพของท่านมาฝังที่นี่ และสร้างรูปปั้นของท่านไว้หน้าโบสถ์เซนต์ ปอล

ความอัศจรรย์ของเรื่องนี้คือ
เมื่อแรกสร้าง รูปปั้นมีความสมบูรณ์แบบทุกส่วนสัด
แต่ในเวลาต่อมาได้มีฟ้าผ่าลงมาตัดมือขวาของรูปปั้น

ซึ่งตัวจริงของท่านก็มือขวาขาดเช่นกัน!!! "
<<<ข้อมูลดีดีจาก//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3426352/E3426352.html#26

<<<ชัดๆอีกที

<<<เมือง Melaka ถ่ายจากด้านบนโบสถ์ เห็นทะเลอยู่ลิบๆ

<<<ด้านในโบสถ์ เก่ามากทีเดียว มีคนมาเปิดหมวกด้วยล่ะ

<<<มองไปด้านล่าง นั่นล่ะ ห้าง Megamall ใหญ่ป่ะล่ะ มีสนามบอลอยู่ดานบนด้วย เมืองเล็กนิดเดียวเอง แต่สามารถมีศูนย์การค้าขนาดนี้ได้

<<<เด็กน้อยมาทัศนศึกษา

<<<ปั่นจักรยานมาตามถนนใหญ่จนเจอตึกนี้แล้วเลี้ยวขวา ก็เจอทะเลแล้ว แต่ปั่นจักยานออกมาบนถนนใหญ่แบบนี้อันตายหน่อย เพราะรถวิ่งกันเร็ว แล้ไม่รู้ว่าผิดกฎหมายบ้านเค้าอ่ะป่าวที่ปั่นจักรยานออกมาถนนใหญ่แบบนี้ แต่ก็รอดมาแล้วล่ะ อิอิ

<<<ทะเลมะละกา มีคนมานั่งตกปลาด้วยล่ะ

<<<อีกสักรูป ที่เห็นเขียวๆครึ้มๆน่ะ ป่าชายเลนเค้าล่ะ อยู่หลังตึกสูงๆเลย

<<<ถ่ายรูปกันสักพัก รู้สึกดี ก็ปันจักรยานกลับ กลับมาอีกทีตึกนี้ก็เปิดไฟแล้ว

<<<จักรยานติดไฟแดงก่อนเข้าเขตตัวเมือง

ตอนนี้ก็เวลาทุ่มครึ่งได้แล้ว จะกลับเข้าเมืองไปหาไรกินแล้วก็ไปเดิน Jonker walking street เจอกันตอนหน้าครับ มะละกายามค่ำคืน

ตอนที่ 11 มาเลเซีย สิงคโปร์ 7 วันหกพันกว่าบาท>>31 พ.ค.52 มะละกายามค่ำคืน ถนนคนเดิน
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mangiang&month=08-2009&date=10&group=2&gblog=11


Create Date : 30 มิถุนายน 2552
Last Update : 15 กันยายน 2552 2:02:56 น. 3 comments
Counter : 1792 Pageviews.

 
ออกทริป ที่11 ได้แล้วคะ

รออ่านอยู่

กะว่าจะไปคนเดียวบ้าง น่าหนุกดี


โดย: EmzIzoLp IP: 58.11.85.62 วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:18:11:33 น.  

 
น่าสนุกดีค่ะ อยากไปดูบ้างแต่
ภาษาอังกฤษไม่ค่อยจาได้เรื่องเท่าไร อิอิ


โดย: pooh IP: 61.90.87.68 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:20:31:08 น.  

 
ครั้งล่าสุด ที่ผมไปมา ควันป่่าจาก สุมาตรา มา เต็มเมืองเลย ครับ

กะ จะหาเวลา เก็บเงิน ซักหน่อย เอาไป แก้ มือ


โดย: Navi Pro IP: 202.12.73.7 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:23:40:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i will ok
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
Friends' blogs
[Add i will ok's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.