Bloggang.com : BabyBravo : การเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังจากคลอดลูกน้อย

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังจากคลอดลูกน้อย

นานแค่ไหนกว่ามดลูกจะกลับมาเป็นปกติ(มดลูกเข้าอู่)?หลังคลอดใหม่ๆ มดลูกจะบีบตัวแข็งเกร็งเป็นก้อนแข็งๆ ตอนนี้ยิ่งแข็งก็ยิ่งดี เพราะถ้ามดลูกบีบตัวดี ก็จะทำให้ไม่เสียเลือดมากในระยะหลังคลอด คุณแม่จะมีอาการปวดท้องน้อยคล้ายๆ กับอาการปวดประจำเดือน แต่ก็จะปวดมากกว่า จะปวดเป็นพักๆ ใน 2-3 วันแรกหลังคลอด โดยเฉพาะเมื่อคุณแม่กำลังให้นมแก่ลูกน้อย เนื่องจากการที่ลูกดูดนมแม่จะกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนออกมา ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวมากขึ้น ดังนั้นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มดลูกก็จะเข้าอู่เร็วกว่าคุณแม่ที่มิได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เวลาปวดก็ทนเอาหน่อยก็แล้วกันนะเพราะมดลูกจะหดรัดตัวจนมีขนาดเล็กลงเป็นปกติ มีการสร้างเยื่อบุมาคลุมผิวโพรงมดลูกครบหมดภายใน4-6 สัปดาห์

น้ำหนักของคุณแม่จะลดลงเท่าไหร่ ทันทีหลังจากคลอด?
น้ำหนักลูกน้อย3-3.5kg
น้ำหนักจากเลือดและน้ำคร่ำ0.5-1kg
น้ำหนักจากถุงน้ำคล่ำ1kg
โดยรวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 4.5-5.5Kg

คุณแม่อาจจะฉี่กระปริดกระปรอยโดยที่คุณไม่รู้ตัว?
ในวันแรกๆหลังคลอด คุณแม่อาจฉี่กระปริดกระปรอย โดยที่ตัวคุณแม่เองไม่รู้สึกปวดฉี่เลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บท้องคลอดเป็นเวลานาน,ผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยในการนำตัวเด็กออกมาจากช่องคลอด( forceps or vacuum-assisted vaginal delivery),การบล็อคยาชาที่หลัง (epidural )เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้กระเพาะปัสสาวะ มีความรู้สึกลดลง แต่กระเพาะปัสสาวะมีฉี่มากขึ้นเนื่องจากร่างกายต้องการขับถ่ายของเสีย

ช่องคลอดจะกลับมาเป็นเหมือนปกติม๊ย?
ถ้าคุณแม่คลอดทางช่องคลอด ช่องคลอดก็จะกว้างขึ้นกว่าตอนที่ยังไม่มีเจ้าตัวน้อย หลังคลอดจะมีอาการบวมและช้ำ บริเวณนั้น แต่ว่าหลังจากนั้น2-3วัน อาการก็จะทุเลาลง และช่องคลอดก็จะค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติ ภายใน2-3สัปดาห์ ช่องคลอดก็จะเล็กลงเรื่อยๆ การออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน Kegel exercises จะช่วยให้ช่องคลอดฟิตขึ้น
สำหรับในรายที่คุณหมอช่วยตัดฝีเย็บ เพื่อขยายปากช่องคลอดให้กว้างขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดการฉีกขาดรุ่งริ่ง หลังจากคลอดเสร็จแล้ว คุณหมอก็จะเย็บแผลฝีเย็บกลับเข้าที่เหมือนเดิม โดยมากแล้วก็มักจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย หลังคลอดวันแรกถ้าแผลฝีเย็บมีอาการบวมและเจ็บมาก การใช้น้ำแข็งประคบจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลและยังช่วยลดบวมได้ แต่ถ้าเลยวันแรกไปแล้วก็จะอบแผลด้วยความร้อนเพื่อช่วยลดอาการบวม ถ้าคุณแม่มีอาการเจ็บแผล ก็ให้รับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล 2 เม็ด ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ โดยยานี้จะไม่มีผลต่อลูกน้อยเมื่อให้นมแม่แต่อย่างใด แผลมักจะหายเร็วด้วย โดยมาก 7 วันก็หายเจ็บแล้ว และมักจะหายสนิทภายในเวลา 3 สัปดาห์หลังคลอด
การดูแลแผลฝีเย็บอย่างถูกต้องก็จะช่วยป้องกันปัญหาการอักเสบติดเชื้อได้ หลังคลอดควรเช็ดทำความสะอาดแผลฝีเย็บอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่นๆ เช็ดทำความสะอาด โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ หลังจากนั้นก็ควรซับให้แห้งทุกครั้ง ถ้ามีน้ำคาวปลาออกมาก ก็ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ อย่าปล่อยให้เฉอะแฉะชื้นเพราะจะทำให้มีเชื้อโรคสะสมเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นหลังจากถ่ายอุจจาระ ก็ควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคซึ่งมีอยู่มากมายในอุจจาระมาปนเปื้อนเข้าไปโดน แผล ทำให้แผลเกิดการอักเสบได้
การมีเพศสัมพันธ์ ควรรอให้แผลและอาการข้างต้นหายดี เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อที่แผลและเจ็บ หลังคลอด ช่องคลอดอาจจะแห้งกว่าตอนช่วงที่ท้อง เพราะฮอร์โมนestrogen ลดลง และการให้นมลูกจะยิ่งทำให้ฮอร์โมนestrogen ลดลงไปอีก เพราะฉะนั้นอาจมีเพศสัมพันธ์ควบคู่ไปกับการใช้ครีมหล่อลื่น

น้ำคาวปลา...เมื่อไหร่มันจะหมดไปนะ?
น้ำคาวปลา ซึ่งแท้จริงแล้วคือเศษของชิ้นเยื่อบุโพรงมดลูก ที่ยังเหลืออยู่ภายหลังการคลอดรกจะถูกขับออกมา โดยใน 3 วันแรกหลังคลอดจะมีสีแดงเนื่องจากมีเลือดปนมาก หลังจากนั้น 3-4 วันสีจะจางลง หลังวันที่ 10 ไปแล้ว จะมีปริมาณน้อยลง มีสีเหลืองขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น และจะจางลงจนหมดไปภายใน 3-6 สัปดาห์ อาจหยุดไปแล้วออกมากระปริดกระปรอยได้อีกบ้างในช่วง 4-5 สัปดาห์
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง น้ำคาวปลาอาจจะหมดเร็วกว่าคุณแม่ที่คลอดปกติก็เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากตอนผ่าคุณหมอก็จะช่วยเช็ดถูทำความสะอาดภายในโพรงมดลูกจนเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือแล้ว เดี๋ยวเห็นน้ำคาวปลาออกน้อยแล้วจะไม่สบายใจ เพราะบางคนอาจจะกลัวว่าน้ำคาวปลาไม่ไหลเดี๋ยวมันจะตกค้าง เป็นอันตรายหรือเปล่า ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ

ช้านจะเป็นอย่างไรถ้าช้านให้นมลูกเอง?
ถ้าการให้นมลูกทำให้เกิดอาการตะคริวที่ท้อง ก็เพราะเจ้าฮอร์โมนoxytocin สั่งการให้มดลูกหดตัว(ดีนะ เพราะมดลูกจะเข้าอู่เร็วขึ้น)
หลังคลอดลูก คุณแม่บางคนอาจจะยังไม่มีนมให้เจ้าตัวเล็กในทันทีทันใด(ไม่ต้องห่วงน้าเจ้าตัวเล็กเค้ารอได้ค่ะ) บางคนกว่าน้ำนมจะมาก็อาจใช้เวลาวันหรือ2 วันเชียว หน้าอกจะมีอาการตึงและเจ็บ หรือที่เรียกว่าคัดเต้านมอ่ะค่ะ

จะเป็นอย่างไรถ้าไม่ได้ให้นมลูกด้วยตัวเอง?
ถึงแม้จะไม่ได้ให้นมลูกด้วยตัวเราเอง ร่างกายก็ยังผลิตน้ำนม เพราะฉะนั้นจมีอาการคัดเต้า อาจทำให้เจ็บอยู่หลายวัน ในช่วงนี้ เสื้อชั้นในกับการประคบเย็นจะช่วยทุเลาอาการลงได้บ้าง และอาจจะใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าน้ำนมจะแห้งไปในที่สุด

ทำไมมันช่างหงุดหงิดจังเล้ย(Baby blue)
มาจากหลายสาเหตุค่ะ แต่ที่แน่ๆเลยก็เจ้าฮอร์โมนตัวดีที่ลดลงอย่างรวดเร็วหลังคลอดนั่นแหละค่ะ ร่างกายที่เปลี่ยนไป ความเจ็บปวด ความเหนื่อยและกังวล ปกติมักเกิดขึ้น2-3วันหลังคลอด และมักจะหายไปเองภายใน2-3วันเช่นกัน

ทำไมช้านผมร่วง?
ถ้าผมคุณแม่หนาขึ้นในช่วงท้อง หลังคลอดคุณแม่อาจมีอาการผมร่วงในช่วง2-3เดือนหลังคลอดบุตร แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ มันจะไม่ร่วงจนเราหัวล้านหรอก และคุณแม่บางคนทีมีขนขึ้นตามตัวและที่หน้าเพิ่มขึ้นในช่วงท้อง หลังท้อง3-6เดือนขนพวกนี้ก็จะลดลงเช่นกันค่ะ

ผิวช้านเปลี่ยนไป
คุณแม่บางคนที่มีผิวผ่องใสในช่วงตั้งท้อง หลังคลอดอาจมีปัญหาในเรื่องของสิว และคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องสิวในช่วงท้อง หลังคลอดแล้วอาการอาจกลับมาดีขึ้น
ส่วนฝ้าที่เกิดช่วงท้องก็จะค่อยๆจางลงจนหายไป แต่ที่สำคัญคุณแม่ต้องระวังในเรื่องของแสงแดดด้วย สุดท้ายท้องลาย แม้มันจะไม่สามารถหาย แต่มันจะค่อยๆจางลงเรื่อยๆ(ต้องใช้เวลานิดส์นึงนะ)

หน้าท้องปุ้มปุ้ยของช้าน
ระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ หน้าท้องสวยๆ ของว่าที่คุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไปจนน่าตกใจ ทั้งหนา ทั้งดำ ทั้งลาย เห็นสภาพหน้าท้องของตัวเองแล้วก็กลุ้มใจ การดูแลตัวเองในระยะหลังคลอด ก็จะช่วยให้หน้าท้องกลับมาดูดีขึ้น แม้ว่าจะไม่สวยเท่าแต่ก่อน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะ หน้าท้อง ของคุณแม่บางคนจะมีสีคล้ำดำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันเป็นผลจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ในระยะหลังคลอดผิวหนังชุดเดิมซึ่งมีสีคล้ำจะค่อยๆ ลอกหลุดออกไปเป็นขี้ไคลภายใน 3-4 เดือน ผิวหนังชุดใหม่ที่สร้างขึ้นมาทดแทนเรื่อยๆ ตามธรรมชาติก็จะมีสีเหมือนปกติ ดังนั้นคุณแม่ไม่ควรกังวลหรือร้อนรนจนเกินไป บางคนถึงกับอบตัวขัดผิว เสียเงินเสียทองไปเยอะแยะ ถ้าให้เวลาแก่ร่างกายสักหน่อย ผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างกันเลย

ท้องผูกจ้า
หลังคลอดใหม่ๆ ลำไส้มักไม่ค่อยทำงาน ประกอบกับการปวดแผลทำให้เคลื่อนไหวได้น้อย บางรายอาจมีริดสีดวงทวารร่วมด้วย เพราะฉะนั้นควรทานอาหารที่มีกากใยเช่นผัก ผลไม้ และดื่มน้ำมากๆ

นิตยสารดวงใจพ่อแม่
//www.babycenter.com/0_body-changes-after-childbirth_1456740.bc?page=1

Create Date : 11 มีนาคม 2552

Last Update : 11 มีนาคม 2552 14:18:03 น.

14 comments

Counter : 16754 Pageviews.

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคร๊าบบบ

โดย: designbox108

วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:6:33:48 น.

อ่านแล้วไม่อยากจะคลอดเลยอ่ะ

กลัวจะเกิดอาการ Baby Blue จริงๆ

ขอให้ลูกออกมาน่ารักชดเชยล่ะกันเนอะ

โดย: misspommy

วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:8:24:25 น.

หัวใจยังแข็งแรงดีอยู่ อะป่าว

บำรุงหัวใจด้วยเสียงหัวเราะอะยาง

โดย: พลังชีวิต

วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:8:47:00 น.

ขอบคุณสำหรับ คำอวยพรล่งหน้าน่ะครับ จริงๆผมเกิด 1 สิงหาคับ..

( อาจผิดพลาด จาก blog master )

โดย: To-ne-T

วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:9:15:48 น.

โอ้โห .. ข้อมูลแน่นปึ๊กจริงๆ ค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย

โดย: Bear Family

วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:9:39:14 น.

โอย.. อ่านแล้วเครียด..
ที่เครียดเนี่ย.. เพราะกะลังทำใจกะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกะตัวเองนะนั่น..

เอาหน่ะ.. สู้เพื่อลูก.. สู้โว้ย..

..

ปล. กำหนดคลอดอาเล้ง 7เมษาค่ะ.. ไล่กันเลยเน๊อะ.. หุๆๆ

โดย: อาเล้ง (King of Alan

) วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:11:24:06 น.

ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากเลย
อ่านแล้วมีความรู้จะนำไปเป็นข้อมูลคุณแม่น่ะค่ะ

โดย: bee (beejunk_ka

) วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:11:39:54 น.

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พรย้อนกลับไปยังคุณเก่งนะคะ แล้วก็ยินดีกับว่าที่คุณแม่ด้วยค่ะ

โดย: aomA

วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:14:18:25 น.

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

เจ็บมากไหมจ๊ะลุงเคิลสงสารลุงจังเลย

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

ไม่ต้องกลัวนะคะ หนูรักลุงเคิลเสมอ

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

และจะมาเยี่ยมลุงทุกวัน หายไวๆน๊า

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

อินชอนรักลุงเคิลมากนะคะ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกันค่ะ

สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

ขอบคุณมากนะคะสำหรับความห่วงใยที่มีให้กับครอบครัวของน้องอินชอนค่ะ วันนี้อินชอนพาลุงเคิลมาเที่ยวหาด้วยค่ะ ลุงเคิลอายุสิบปีแล้วค่ะตอนนี้ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ที่ม.เกษตรและอยู่ในความดูแลของคุณหมอทศพล ลุงเคิลเป็นโรคของคนแก่มีโรคเบาหวานเป็นหลักและโรคโฮโมนบกพร่องทำให้หม่ำเก่งจนอ้วนทำให้หลายๆโรคตามมาทั้งค่าตับสูง ปอดอักเสบ และเนื้องอกซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นที่จุดใดสมองหรืออันทระ เพราะต้องรักษาโรคเบาหวานให้ดีขึ้นก่อนถึงจะหาสาเหตุของโรคอื่นอีกค่ะ อินชอนกับแม่ต้องเดินทางไปเยี่ยมลุงเคิลเพราะความห่วงใยและความคิดถึงทุกวันโดยใช้เวลาเดินทางไปกลับร่วมสามชั่วโมงทุกวัน แต่ครอบครัวเราก็ไม่เคยท้อเพราะลุงเคิลเป็นที่รักของครอบครัวเรา คุณหมอบอกว่าโรคเบาหวานต้องใช้ยาราคาสูงมากกับการใช้จ่ายในแต่ละวันเพราะยาต้องสั่งจากนอก ถึงแม้ราคาจะแพงแสนแพงหรือต้องกัดฟันซื้อพวกเราก็ไม่มีวันทิ้งลุงเคิลเป็นอันขาด คุณหมอบอกว่าลุงเคิลไม่ยอมหม่ำข้าว เศร้า แต่พอเราไปหาและป้อนลุงเคิลลุงเคิลจะมีกำลังใจและหม่ำได้หมด โถ!พวกเราไม่เคยจากกันเลยถึงแม้นว่าจะรู้ว่าใกล้ถึงช่วงวัยของลุงเคิลก็ตาม เวลาเราไปไหนเราจะไปด้วยกันเสมอแม้นแต่เวลาไปเที่ยวเราก็ไม่เคยทิ้งกันรวมถึงพี่หัวเทียนบอดและพี่กังฟูลูกของลุงเคิลด้วยค่ะ คุณหมอบอกว่าอีกสามวันจะให้ลุงเคิลกับมาเยี่ยมบ้านและให้แม่ฉีดยาโรคเบาหวานและให้ซื้อเครื่องวัดค่าน้ำตาลมาตรวจลุงเคิลที่บ้านของเรา เพราะลุงเคิลจะมีกำลังใจที่ดี และค่อยไปนอนโรงพยาบาลเจาะเลือดดูอาการอีกที แม่ปูและลูกอินชอนขอภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดช่วยคุ้มครองให้ลุงเคิลอยู่กับครอบครัวเราไปนานๆด้วยเถ่อะค่ะ นี่คือภาพที่อินชอนไปหาลุงเคิลสองวันที่ผ่านมาค่ะหลังจากขออนุญาติคุณหมอถอดท่ออ็อกซิเจนและน้ำเกลือพาลุงเคิลเดินเล่นออกกำลังกายรับลมเย็นๆ พิมพิ์มาเสียยาวนี่ก็คืออีกสาเหตุนึงที่ทำให้แม่ของอินชอนไม่ค่อยว่างค่ะ แต่เพราะคิดถึงเพื่อนและแคร์มากๆเลยค่ะถึงส่งภาพอินชอนกับลุงเคิลมาให้ดูค่ะ รักมากมาย ขอให้นอนหลับฝันดี คิดถึงอินชอนบ้างนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ

โดย: แม่ปูและน้องอินชอน (Incheon

) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:1:03:37 น.