พระเยซูตรัสว่า "จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน"

<<
มกราคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
21 มกราคม 2551
 

How Can Man be Born Again?

มนุษย์จะบังเกิดใหม่ได้อย่างไร

How Can Man be Born Again?
....สำหรับผู้สนใจในพระเจ้าครับ.....

มนุษย์จะบังเกิดใหม่ได้อย่างไร
โดย ชักค์ สมิธ


ซ่อนอยู่ในเสื้อคุมในความมืด

ชายคนหนึ่งเดินอย่างระมัดระวังไปหาพระเยซูชาวนาซาเร็ทชายคนนี้เป็นขุนนางคนหนึ่งของชาวยิว เขาได้รอจนถึงเวลากลางคืนเพราะเขามีคำถามที่จำเป็นจะต้องถาม คำถามที่ไม่ต้องการให้คนอื่นได้ยินเขายืนรอยู่ห่างๆ นิโคเดมัสเฝ้าดูพระเยซูกระทำการมหัสจรรย์หลายอย่างเขารู้ว่าไม่มีใครสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ นอกจากพระเจ้าทรงอยู่กับผู้นั้นในที่สุดเขาเห็นพระเยซูอยู่ตามลำพัง จึงเป็นโอกาสที่จะถามคำถามนั้น

“อาจารย์” นิโคเดมัสเริ่ม “พวกเรารู้ว่าท่านเป็นครูมาจากพระเจ้าเพราะไม่มีใครสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ นอกจากพระเจ้าสถิตย์อยู่กับท่าน”

พระเยซู, ตอบตรงเป้าหมายตามแบบของพระองค์,
พระองค์รู้ว่านิโคเดมัสต้องการอะไร?

“ถ้าผู้ใดไม่บังเกิดใหม่” พระองค์ตอบ “ผู้นั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้าได้”
พอถึงตรงจุดนี้, นิโคเดมัสถามอย่างถูกต้อง “ท่านหมายความว่าอย่างไร?

“บังเกิดใหม่”

คำถามนี้ มนุษย์ได้ถามกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี เมื่อเขา ศึกษาข้อความใน

ยอห์น ๓: ๓ บังเกิดใหม่ หมายความว่าอย่างไร?
คุณเข้าใจไหมว่า พระเจ้าเริ่มสร้างมนุษย์เริ่มแรกนั้นเป็นสามมิติ คือ จิตวิญญาณ,จิตใจ และ ร่างกาย จิตใจของเราถูกควบคุมโดยจิตวิญญาณ ดังนั้น เมื่อจิตวิญญาณเป็นผู้ควบคุม มนุษย์สามารถติดต่อและมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้าได้


ในอีกทางหนึ่ง, พวกต้นพืชมีชีวิตเพียงมิติเดียว คือสิ่งที่เรามองเห็นด้วยตา คือเป็นรูปร่าง (ตัวตน) ต้นไม้ได้รับอาหารจากดินและในอากาศมีพืชจำนวนน้อยมากที่กินแมลงเป็นอาหารรากของต้นไม้ยึดแน่นอยู่กับที่ในขณะที่มีการแพร่พันธุ์ โดยเมล็ดตามหลักของการขยายพันธุ์

ส่วนสัตว์นั้น มีสองมิติ คือ เป็นรูปร่างและมีจิตสำนึก สัตว์ใช้พืชและสัตว์อื่นเป็นอาหารและสามารถเคลื่อนที่ได้ไกล
การสืบพันธุ์ของสัตว์เป็นเหมือนพืช คือเป็นไปตามหลักของการผสมพันธุ์แต่อาณาจักรสัตว์สูงกว่าอาณาจักรของพืชมาก เพราะสัตว์มีจิตใจและเคลื่อนที่ได้


เมื่อพระเจ้าสร้างมนุษย์นั้น พระองค์สร้างมนุษย์เป็นสามมิติคือจิตวิญญาณ,จิตใจ และ ร่างกายส่วนที่เพิ่มมาคือจิตวิญญาณซึ่งทำให้มนุษย์อยู่เหนือกว่าสัตว์และพืช มากเพราะมนุษย์สามารถติดต่อกับพระเจ้าได้


พระเยซูตรัสว่า พระเจ้าเป็นจิตวิญญาณ
และผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและ
ด้วยความจริง (ยอห์น ๔:๒๔)เมื่อเริ่มแรกที่พระองค์สร้างมนุษย์นั้น (โดยมีจิตวิญญาณ, จิตใจ และร่างกาย)


พระองค์สร้างมนุษย์เพื่อจะได้มีสามัคคีธรรม (ความสัมพันธ์) กับพระองค์เรามีข้อพระคัมภีร์ที่ดีมากข้อหนึ่งใน
ปฐมกาล ๓: ๘ “เวลาเย็นวันนั้นเขา(อาดัมและเอวา)ทั้งสองได้ยินเสียงของพระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน”มนุษย์พบกับพระเจ้าและอยู่ร่วมกับพระเจ้าเพราะมนุษย์มีมิติที่เป็นจิตวิญญาณแต่เมื่อจิตวิญญาณของมนุษย์ตาย เขาลดลงมาเป็นสองมิติเหมือนสัตว์ในความคิดของมนุษย์นั้น เขาจะเป็นห่วงเกี่ยวกับความต้องการของร่างกาย และความอยากของร่างกายเป็นอันดับแรกจิตวิญญาณของมนุษย์ตาย เพราะการกระทำบาป และความบาปในตัวของมนุษย์


เมื่อเริ่มแรกที่พระเจ้าสร้างมนุษย์, มนุษย์อาศัยอยู่ใสภาพ ที่บริสุทธื์สมบูรณ์มีร่างกายแข็งแรง ไม่มีเชื้อพันธุ์ที่บก พร่อง เพราะว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ยังไม่ตายเขาจึงมีสามัคคี ธรรมอยู่ร่วมกับพระเจ้า แต่พระเจ้าให้มนุษย์มีการตัดสินใจเลือกว่ามนุษย์จะอยู่กับพระเจ้าและมีความสามัคคีธรรมกับพระองค์เพราะเขารักพระองค์? หรือเพราะว่าเขไม่มีทางเลือก?

เพื่อจะรู้ใจจริงของมนุษย์,

พระเจ้าจึงให้มีต้นไม้ที่ดึงดูดใจ ไว้ท่ามกลางสวนเอเดน
เป็นต้นไม้ที่ห้ามไม่ให้กินผลของมัน ผลของต้นไม้นี้จะทำให้จิตวิญญาณตายดังนั้นมนุษย์จึงต้องตัดสินใจเลือก ว่าเขา จะอยู่และมีความสามัคคีธรรมกับพระเจ้าต่อไป หรือ เขาต้องการจะสนองความต้องการฝ่ายเนื้อหนังซึ่งจะทำให้เขาแตกแยกจากพระเจ้า?

น่าเสียใจจริงๆ, อาดัมเลือกที่จะสนองความต้องการฝ่ายเนื้อหนัง และเขาได้กินผลไม้ต้องห้ามนั้น จิตวิญญาณของเขาจึงตาย ในขณะเดียวกันมนุษย์จึงมีเหลืออยู่เพียงสองมิติ คือ ร่างกาย และจิตใจ


พระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสว่า เขาจะต้องบังเกิดใหม่(ยอห์น ๓:๗) เราต้องมีการบังเกิดใหม่ทางด้านฝ่ายจิตวิญญาณ
เราเกิดมาครั้งหนึ่งด้านเนื้อหนังและแยกออกจากพระเจ้า
แต่ เราต้องมีการเกิดใหม่ด้านฝ่ายจิตวิญญาณถ้าเราต้องการรู้จักพระพรและสันติสุขที่มาจากการดำเนินชีวิตที่
มีความสามัคคีธรรมกับพระเจ้า


อาดัมได้ฆ่าจิตวิญญาณ และพบว่าไม่มีทางที่จะทำให้
จิตวิญญาณนี้ฟื้นคืนได้โดยการทำความดี, โดยเป็นคนเคร่งศาสนา หรือทำตามกฏและระเบียบเราอาจพยายามทำความดี แต่เราไม่สามารถทำความดีได้เพียงพอพระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสต่อไปว่า, “ถ้าท่านไม่บังเกิดใหม่,ท่านจะไม่เห็นแผ่นดินของพระเจ้า” (ยอห์น๓:๓)

มนุษย์ฝ่ายเนื้อหนัง(ธรรมดา)ไม่สามารถเข้าใจมิตินี้ได้
เขาหยั่งรู้ไม่ถึง เปาโลเขียนถึง คริสต์จักร์โครินธ์ว่า

“อันความคิดของมนุษย์นั้น ไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ได้เว้นแต่จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้นั้นเองฉันใดพระดำริของพระเจ้าก็ไม่มีใครหยั่งรู้ได้เว้นแต่พระวิญญาณของพระเจ้าฉันนั้นเราทั้งหลายไม่ได้รับวิญญาณของโลกแต่ได้รับพระวิญญาณซึ่งมาจากพระเจ้า

เพื่อเราทั้งหลายจะได้รู้ถึงสิ่งต่างๆที่พระเจ้าได้ทรงโปรดประทานให้แก่เราเรากล่าวถึงเรื่องเหล่านี้ ด้วยถ้อยคำซึ่งมิใช่ปัญญาของมนุษย์สอนไว้แต่..ด้วยถ้อยคำซึ่งพระวิญญาณ ได้ทรงสอน คือ เราได้อธิบายความหมายของเรื่องฝ่ายวิญญาณให้คนที่มีวิญญาณฟัง

แต่มนุษย์ธรรมดาจะรับสิ่งเหล่านั้นซึ่งเป็นของพระวิญญาณแห่งพระเจ้าไม่ได้เพราะเขาเห็นว่าเป็นสิ่งโง่เขลา และเขาไม่สามารถเข้าใจได้เพราะว่าจะเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ก็ต้องสังเกตุด้วยวิญญาณ"(๑โครินธ์ ๒:๑๒-๑๔)


ดังที่เปาโลบอกว่ามนุษย์ธรรมดาไม่สามารถรู้และเข้าใจสิ่งเกี่ยวกับพระวิญญาณเพราะเขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่โง่เขลา
จึงเป็นการยากในการติดต่อพูดจาระหว่างมนุษย์ที่มี
พระวิญญาณกับมนุษย์ธรรมดาเพราะเหมือนกับมีอ่าวมหาสมุทรขั้นกลางไว้ คุณเคยสังเกตุไหมว่า เป็นการยากที่จะอธิบายสิ่งต่างๆให้เด็กฟังซึ่งอาจทำให้คุณผิดหวังได้ คุณคิดว่า “ทำไมเด็กไม่ เข้าใจ?

ฉันอธิบายอย่างชัดเจน ง่ายๆ มีเหตุผลเห็นได้ชัดทำไมเขาจึงมองไม่เห็น?”

ในด้านฝ่ายจิตวิญญาณ, มนุษย์ธรรมดาเป็นเหมือนเด็ก
พระคัมภีร์บอกเราว่า มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถรู้และเข้าใจ สิ่งเกี่ยวกับจิตวิญญาณเพราะเขาจะต้องสังเกตุด้วยจิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นพระเยซูจึงบอกว่า

“คุณต้องบังเกิดใหม่ ถ้าคุณต้องการเห็นแผ่นดินของพระเจ้า”
ถ้าคุณจะเห็นมิติของแผ่นดินของพระเจ้าคุณจำเป็นต้องมีการเกิดด้านฝ่ายจิตวิญญาณ ดังนั้นคุณต้อง บังเกิดใหม่
ดังนั้น, นิโคเดมัส จึงถามว่า

“ข้าพเจ้าจะบังเกิดใหม่ได้อย่างไร?
มีวิธีใดที่มนุษย์ จะบังเกิดใหม่ได้?

สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร?”

พระเยซูจึงอธิบายโดยยกตัวอย่าง เพื่อนิโคเดมัสจะเข้าใจได้พระองค์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์เดิมว่า เมื่อลูกหลานชาวอิสราเอลอยู่ในป่ากันดารเขาเริ่มบ่นต่อว่าพระเจ้าและโมเสส เขาบ่นว่า,“เขา (พระเจ้าและโมเสส)ได้นำเราออกมาจากอียิปต์เพื่อจะฆ่าเราเสียในถิ่นทุรกันดารเราไม่มีอาหารกิน และเราเบื่อมานา (อาหารที่พระเจ้าประทานให้)"
(กันดารวิถี ๒๑: ๕)


เพราะเขาพร่ำบ่นและร้องต่อว่าพระเจ้า, พระองค์จึงอนุญาติให้งูเข้ามาในค่ายในไม่ช้าคนเป็นจำนวนร้อย ตายเพราะถูกงูพิษกัดชาวอิสราเอลจึงวิ่งมาหาโมเสสและขอโทษ,ขอร้องให้โมเสสทูลขอต่อพระเจ้าให้กับพวกเขา
โมเสสจึงทูลขอต่อพระเจ้าให้รักษาคนเหล่านั้นให้หาย
แต่อย่างไรก็ตาม, พระเจ้ารักษาเขาให้หายโดยมีเงื่อน
ไขซึ่งขึ้นอยู่กับตัวของเขาชาวอิสราเอล เอง


ในกันดารวิถี ๒๑: ๘ เราอ่านพบว่า

“และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่าจงทำงูแมวเซาขึ้นตัวหนึ่ง ผูกติดไว้กับที่เสา ทุกคนที่ ถูกงูกัด จงมองดู(งูที่ผูกไว้กับเสา) แล้วเขาจะมีชีวิตอยู่”

ดังนั้นโมเสสจึงทำงูทองเหลืองขึ้นตัวหนึ่ง และผูกไว้กับเสาท่ามกลางค่าย ถ้าใครที่ถูกงูพิษนั้นกัด จะถูกสั่งให้มองดูงูทองเหลืองที่ผูกไว้บนเสานั้นและในทันใดเขาจะถูกรักษาให้หาย


ข้าพเจ้าขออธิบายเบื้องหลังสิ่งที่กล่าวมานี้ คือ
ในพระคัมภีร์ทองเหลืองเป็นสัญญาลักษณ์ของการพิพากษา ของพระเจ้า
ชาวอิสราเอลมีแท่นบูชาเป็นทองเหลืองเป็นที่ถวายเครื่องสักการะบูชา(๒ พงศ์กษัตริย์ ๑๖: ๑๕)และ ในพระคัมภีร์ งูเป็นสัญญาลัษณ์ของความบาป(งูในสวนเอเดน—ปฐมกาล ๓:๑๓)แต่อย่างไรก็ตามในที่นี้,

การยกงูขึ้นบนเสาอ้างถึงไม้กางเขนที่พระเยซูต้องถูกตรึง
พระเยซูตรัสว่า “พระบุตรจะต้องถูกยกขึ้น” (ยอห์น ๓:๑๔)

และ ในยอห์น ๑๒: ๓๒พระองค์ตรัสว่า“เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้วเราจะชักนำคนทั้งหมดมาหาเรา”

พระเยซูได้พยากรณ์ว่า พระองค์จะต้องตายบนไม้กางเขน
ดังนั้น,งูทองเหลืองบนเสา เป็นสัญญาลักษณ์ของความบาปของเราถูกพระเจ้าตัดสิน บนไม้กางเขนเหมือนดังที่โมเสสยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร บุตรมนุษย์ (พระเยซู)
ก็จะถูกยกขึ้นเหมือนกัน


มนุษย์จะบังเกิดใหม่ได้อย่างไร?

เขาจะบังเกิดใหม่ได้โดยวิธีการที่พระเจ้าให้พระบุตรของพระองค์ตายแทนเราพระเยซูรับโทษแทนความบาปของเรา โดยตายแทนที่เราเมื่อเราเข้าใจในสิ่งนี้ และมองที่พระเยซูโดยความเชื่อบนไม้กางเขน,เรารับรู้ว่าพระองค์ตายแทนความบาปของเรารับการตัดสินจากพระเจ้าเพราะเรา

ให้คุณนึกภาพว่าคุณเป็นเด็กชาวอิสราเอลเมื่อ ๓,๘๐๐ปีก่อนและเมื่องูเข้ามาในค่าย ในวันหนึ่งคุณกำลังสนทนากับเพื่อนอยู่ในค่าย

งูเลื้อยเข้ามาและกัดที่เท้าของเพื่อน
คุณมองด้วยความผิดหวังเมื่อเห็นเท้าของเพื่อนบวมขึ้น
และในไม่ช้าเพื่อนก็ดิ้นชักดังนั้นคุณจึงลากเพื่อนของคุณออกมาจากค่ายและร้องบอกว่า

“มองดูงูที่ผูกไว้บนเสา ตัวที่โมเสสผูกติดไว้กลางค่าย”
“ข้าไม่เข้าใจ ทำไมการมองที่งูนั้นจะช่วยข้าได้อย่างไร?”
เพื่อนตอบ "ไม่ต้องเถียง”
คุณตะโกน “แค่มองเท่านั้น”
“แต่ข้าไม่เข้าใจ ทำไมการมองงูที่บนเสาจะช่วยข้าได้?
ข้ากำลังจะตายอยู่แล้ว”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” คุณตอบอย่างอ่อนใจ

พยายามอธิบาย
“ฉันรู้เพียงแต่ว่าคนหลายร้อยคนรอบๆตัวเรานี่ กำลังจะตายเหมือนเธอนี่แหละ เขามองดูงูที่บนเสา
และเดี๋ยวนี้เขายังมีชีวิตอยู่. มอง!”

“นั่นเป็นเรื่องที่โง่เขลา” เพื่อนปฏิเสธ “ข้าจะไม่มอง”
แล้วเพื่อนของคุณก็สิ้นชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ

คุณไม่ได้ขอให้เพื่อนทำสิ่งที่น่ากลัวอย่างไรเลย เพียงแต่ขอให้เขามองเท่านั้นเขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจถึงวิธีการเพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์จากการมองนั้น

ในทำนองเดียวกัน, พระเยซูคริสต์ตายเพื่อความบาปของเราเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจถึงวิธีการ ว่าจิตวิญญาณบังเกิดใหม่ได้อย่างไรเราไม่จำเป็นต้องรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เราเพียงแต่รู้ว่ามันเป็นไปได้เหมือนชาวอิสราเอลในทะเลทราย...เราไม่จำเป็นต้องรู้ถึงวิธีการเพื่อจะชื่นชมยินดีในผลลัพท์ เราสามารถมีชีวิตอยู่ร่วมสามัคคีธรรมอย่างมีสติกับพระเจ้าได้ เราสามารถรู้ถึงการอัศจรรย์เพื่อจะมีชีวิตนิรันดร์ และเป็นอิสระจากบาปได้ พระเยซู อธิบายถึงวิธีของการบังเกิดใหม่ เมื่อพระองค์ตรัสว่า“เหมือนโมเสส ยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นและใครก็ตามที่เชื่อในพระองค์ จะไม่ตายแต่มีชีวิตนิรันดร์”(ยอห์น ๓: ๑๔-๑๕)

ถ้าคุณไม่บังเกิดใหม่ คุณมีชีวิตได้อย่างดีที่สุดแค่สองใน
สามส่วนเท่านั้นมนุษย์ธรรมดามีจิตสำนึกถึงความจริงว่า
บางสิ่งบางอย่างขาด (ไม่เต็ม)ในชีวิตของเขา และแสวงหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดนั้นมาเพิ่มเติมอยู่ตลอดไป


ปัญหาคือ มนุษย์แสวงหาสิ่งที่ขาดนั้น ในทางร่างกายหรือทางอารมณ์ความรู้สึก แต่ในที่สุด,ถึงแม้ว่า มนุษย์จะบำเรอให้ความสนุกสนานต่อตนเองทางด้านร่างกายและความรู้สึกมากเท่าไร เขาก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอยังมีบางสิ่งบางอย่างขาดอยู่ทั้งนี้เพราะไม่มีสิ่งใดจะแทนที่การขาดของพระวิญญาณได้ นอกจากการบังเกิดใหม่


มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อสรรเสริญพระเจ้า
ถ้าคุณไม่สรรเสริญพระเจ้าที่แท้จริงและพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว คุณจึงหาสิ่งอื่นแทน อาจจะเป็นรถ หรือ บ้าน หรือ เรือ ไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุด

การสรรเสริญเป็นส่วนหนึ่งที่มีอยู่ภายในของมนุษย์ คุณอาจจะคิดว่าสิ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ง่ายเกินไป คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไม


คุณสามารถมีการเกิดทางด้านฝ่ายจิตวิญญาณได้โดยการเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้นง่ายดังที่กล่าวมาแล้ว, พระเจ้าให้เป็นแบบนั้นเองเพราะถึงแม้เด็กๆก็สามารถบังเกิดใหม่ได้


พระเยซูอธิบายต่อไปให้นิโคเดมัสฟังว่า

พระเจ้าทรงรักโลกมาก,โลกที่กำลังถูกทำลายด้วยความบาป และกำลังจะพินาศเพราะผลแห่งความบาปนั้น แต่ใครก็ตามที่ เชื่อในพระองค์ จะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น ๓: ๑๖)

ข้าพเจ้านึกถึงชาวอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในขณะที่เขากำลังร่อนเร่อยู่ในทะเลทราย,ต่อว่าพระเจ้าในปัญหาทั้งหมดที่เกิด ขึ้นกับเขาพร่ำบ่นและร้องต่อว่าพระเจ้าในความทุกข์ยากลำบาก แต่ความจริงแล้วเขาควรโทษตัวของเขาเอง นี่เป็นสิ่งปกติของมนุษย์ เราหันหลังให้กับพระเจ้า
เราสนองความต้องการของตัวเองแล้วเราเริ่มประสบต่อความทุกข์ในชีวิตแห่งเนื้อหนังนั้นคือ ความว่างเปล่า ความกระวนกระวายเป็นผลที่ได้รับ ผลของชีวิตฝ่ายเนื้อหนัง คือ ความตาย


เหมือนถูกงูพิษกัด มันจะทำลายคุณและคุณจะพินาศ
แต่ประสบการณ์อันทุกข์ยากและยาวนานนี้ไม่ใช่เป็นแผน
เริ่มแรกของพระเจ้าพระองค์ต้องการนำเขา(ชาวอิสราเอล)มาสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา ซึ่งเขาจะมีสันติสุข, เกิดผล และได้รับพระพรจากดินแดนนั้นเป็นพระพรซึ่งพระเจ้าได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเขา คือ อับราฮัม

แต่ชาวอิสราเอลไม่ยอมรับคำพยานของ คาเล็บและโยเชวาให้เข้ายึดดินแดน(คนาอัน) แต่เขา(ชาวอิสราเอล)กลับพูดว่า“เราไม่สามารถเข้ายึดดินแดนนั้นได้ เพราะศัตรูมีกำลังมากเกินไป”แทนที่จะเข้ายึดดินแดน เขาหันกลับไปในถิ่นทุรกันดาร และต่อมาเขาพยายามกล่าวโทษพระเจ้าเมื่อเขามีความทุกข์ยากในถิ่นทุรกันดารนั้น


ถ้าคุณตกอยู่ในถิ่นทุรกันดารในเวลานี้, ไม่ใช่เพราะพระเจ้าต้องการให้คุณอยู่ ณ ที่นั่นพระเจ้าไม่ต้องการให้คุณใช้ชีวิตแบบเนื้อหนังพระองค์ต้องการให้คุณมีชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณและมีสันติสุขในพระพรและผลประโยชน์ที่มาจากการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า


ชาวอิสราเอล เข้าใจจุดมุ่งหมายของพระเจ้าผิดทำไมพระเจ้าส่งงู่พิษเข้ามาพระองค์ต้องการนำเขากลับมาหาพระองค์คุณเข้าใจไหมว่า พระเจ้าจะอนุญาติให้เราได้รับความทุกข์ในขณะที่เรากำลังเดินอยู่ในถิ่นที่มีอันตราย
เพราะพระองค์รู้ว่าประสบการณ์ที่เจ็บปวดสามารถทำให้เราตื่นขึ้นเพื่อเราจะกลับไปหาพระองค์

ไม่ใช่เป็นการลงโทษที่แท้จริงของพระเจ้าแต่เป็นการตรัสกับเราว่า

“จงกลับมาหาเรา(พระเจ้า)เจ้าอยู่แยกจากเรา(พระเจ้า)ไม่ได้ เจ้าจะถูกทำลายและนี่คือตัวอย่างของการทำลายที่มาถึงเมื่อเจ้าพยายามใช้ชีวิตที่ปราศจากเรา(พระเจ้า)”

นี่เป็นแผนงานของพระเจ้าที่จะนำคุณกลับมาหาพระองค์
เพื่อคุณจะได้บังเกิดใหม่ในด้านจิตวิญญาณและมีชีวิตอยู่อย่างมหัสจรรย์ร่วมสามัคคีธรรมกับพระองค์

ถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากพระเจ้า, ชาวอิสราเอลจะต้องตายอยู่ในถิ่นกันดารนั้นเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสองอาทิตย์ ไม่ต้องพูดถึงสี่สิบปีเลยในทำนองเดียวกันพระเจ้าค้ำจุนเราเมื่อเราเดินอยู่ในถิ่นทุรกันดารในขณะนี้ถ้าไม่มีมือของพระองค์มาค้ำจุนเราเราจะไม่สามารถอยู่ได้ถึงห้าวินาที

คุณเป็นหนี้พระเจ้าในการเป็นอยู่ของคุณทุกอย่าง พระองค์ค้ำจุนคุณแม้คุณจะเป็นคนบาปสักเพียงไร

>>เพื่อคุณจะได้รู้จักความรักอันยิ่งใหญ่,ความห่วงใย,ความเอาใจใส่ดูแลของพระองค์ที่มีต่อคุณ
>>เพื่อคุณจะได้บังเกิดใหม่ฝ่ายจิตวิญญาณและเข้ามาอยู่เต็มสามมิติดังที่พระเจ้าตั้งใจไว้ให้กับเราทุกคน

ในขณะนี้มีหลายคนที่กำลังเดินอยู่ในทางอันตรายซึ่งนำไปสู่ความหายนะทางจิตวิญญาณ ซึ่งอาจเป็นได้ คุณต้องกลับมาหาพระเจ้าก่อนที่คุณจะถูกทำลายด้วยความบาป


พระสัญญาอันมหัสจรรย์ของพระเจ้าคือ ถ้าคุณเชื่อในพระบุตรของพระองค์คุณจะไม่หายนะ แต่มีชีวิตนิรันดร์

การมีชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่แต่แค่จำนวนปีเท่านั้น แต่เป็นชีวิตที่มีคุณภาพด้วยคุณรู้ไหมว่าจำนวนปีที่ไม่มีคุณภาพนั้น คือ ที่คุมขังในบึงไฟ


แต่ชีวิตในฝ่ายจิตวิญญาณจะให้คุณภาพของชีวิตซึ่งเหนือ
กว่าชีวิตสัตว์(หรือร่างกาย) ที่มีตัวตนอยู่,เหนือกว่าความรู้สึกนึกคิดที่เรามีอยู่มาก


และนั่นคือชีวิตที่พระเจ้าทรงเรียกให้คุณมี คือ ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณเป็นชีวิตที่มีความสามัคคีธรรมกับพระองค์พระคัมภีร์กล่าวว่า จิตใจของฝ่ายเนื้อหนังคือความตาย,แต่จิตใจของฝ่ายจิตวิญญาณคือ ชีวิต, มีความสงบสุข และมีความปิติชื่นชมยินดี

นั่นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้กับคุณ, ชีวิตนิรันดร์, สันติสุข, และปิติชื่นชมยินดีเป็นความปิติชื่นชมยินดีที่มาจากความสามัคคืธรรมกับพระเจ้าการรู้ว่าพระองค์สถิตอยู่กับคุณคือพระองค์อยู่ที่นี่กับคุณ,ทรงนำคุณ,คุณรู้ว่าทุกอย่าง อยู่ ในการควบคุมของพระเจ้า


มนุษย์บังเกิดใหม่ได้โดยเชื่อในความรักที่พระเจ้าให้พระ องค์ ให้โดยการให้อภัยต่อความบาปของคุณ, ความบาปที่พระเยซูทรงรับแทน


ดังนั้น, เมื่อคุณรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยและเชื่อว่าพระ องค์ตายแทนความบาปของคุณจึงมีการเกิดของจิตวิญ ญาณจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกลับมหัสจรรย์เกิดขึ้นภายในตัวคุณและทันใดนั้นคุณจะมีชีวิตเต็มขึ้นด้วยมิติอันใหม่คือจิตวิญญาณ


ซึ่งคุณไม่เคยฝันถึงและไม่เคยรู้จักว่ามีตัวตนมาก่อนเป็นความรุ่งโรจน์และน่าพิศวง และเกินกว่าทุกสิ่งที่คุณเคยประสบมาซึ่งเป็นการยากที่จะหยั่งรู้ได้

เปาโลกล่าวถึงประสบการณ์ฝ่ายจิตวิญญาณที่ท่านประสบว่า มหัสจรรย์มากและจะผิดอย่างมากถ้าพยายามใช้คำพูดมาอธิบาย(๒ โครินธ์ ๑๒ : ๔)ไม่มีภาษา ใดที่จะอธิบายสบประการณ์นี้ได้....พระเยซูตรัสว่า
“ถ้าคุณต้องการเห็นแผ่นดินสวรรค์ และคุณต้องการเข้าใจสิ่งเหล่านั้น, คุณต้องบังเกิดใหม่”จะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าได้นั้น, คุณต้องบังเกิดใหม่

เพียงแค่มองที่พระเยซูคริสต์ พระองค์ตายแทนความบาปของคุณบนไม้กางเขนเชื่อในพระองค์ และเชื่อในความรักที่พระองค์มีต่อคุณการเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้น

ดังนั้น คำถามคือ
“คุณบังเกิดใหม่โดยพระวิญญาณของพระเจ้าแล้วหรือยัง?”
ถัายังวิธีที่จะบังเกิดใหม่นั้นง่ายมากวันนี้คุณอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งของคนสองกลุ่มซึ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับพระเยซูคริสต์เจ้า คือคุณเชื่อและมองด้วยความเชื่อที่พระเยซูผู้ตายแทนคุณบนไ ม้กางเขน หรือ คุณจะใช้ชีวิตแบบเดิม

แต่ถ้าคุณมองที่ไม้กางเขนและเชื่อในผู้ซึ่งตายแทนความ บาปของคุณเมื่อนั้นแหละ คุณได้รับของขวัญจากพระเจ้าโดย คุณไม่ต้องเสียอะไรเลย (ฟรี)ของขวัญนั้น คือ
ชีวิตนิรันดร์


ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่านครับ



Create Date : 21 มกราคม 2551
Last Update : 21 มกราคม 2551 14:57:31 น. 0 comments
Counter : 550 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ศรัทธาพลัง
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ท่านทั้งหลายเคยได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า `ตาแทนตา และฟันแทนฟัน'
ฝ่ายเราบอกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย
ถ้าผู้ใดอยากจะฟ้องศาลเพื่อจะริบเอาเสื้อของท่าน ก็จงให้เสื้อคลุมแก่เขาด้วย
ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร
ถ้าเขาจะขอสิ่งใดจากท่านก็จงให้ อย่าเมินหน้าจากผู้ที่อยากขอยืมจากท่าน
ท่านทั้งหลายเคยได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า `จงรักเพื่อนบ้าน และเกลียดชังศัตรู'
ฝ่ายเราบอกท่านว่า จงรักศัตรูของท่าน จงอวยพรแก่ผู้ที่สาปแช่งท่าน จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน และจงอธิษฐานเพื่อผู้ที่ปฏิบัติต่อท่านอย่างเหยียดหยามและข่มเหงท่าน
จงทำดังนี้เพื่อท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์
[Add ศรัทธาพลัง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com