|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บอดี้ ศพ#19 - - - ชั้นว่า เค้าพยายามจะเซอเรียลแหละ
บอดี้ ศพ#19 (มีการสปอยอย่างแรงงงงงงงงงงงงงง)
แอบอยากดูมานาน เนื่องจาก โปสเตอร์เหมือน SAW เลย 55555
ตอนแรก ก่อนดู เราก็นึกว่า มันก็หนังผีอ่ะมั้ง (เนื่องจาก ไม่ได้อ่านเรื่องย่อ ไม่เคยดูตัวอย่างหนังมาก่อนเลย) ก็คิดว่า มันเป็นหนังผี
พอไปดู อืมมมมม มันไม่ใช่เว้ย หนังไทยมันมาอารมณ์ใหม่แล้วเว้ย มาแนวไซโค ที่ไม่ใช่หนังเรื่องไซโค แต่ดูแล้วชวนให้นึกถึงหนังหลายเรื่องอย่างไม่ตั้งใจ
เริ่มแรก เปิดตัวหนังด้วยภาพเมืองกรุงเทพอย่างอลังการงานสร้าง CGI มีรถไฟฟ้าวิ่งชิ้วววววว มีเครดิตผู้สร้าง นักแสดงขึ้นเป็นหมอกควัน ฟุ้วๆ ไฮโซมากกกก ประกอบกับดนตรี ชวนให้นึกถึง Spiderman ขึ้นมาทันที แทบแยกไม่ออกอ่ะ
เริ่มเรื่องมา ก้เริ่มขมวดปม พระเอกมานั่งดูคอนเสิร์ท คนเดียว พระเอกเดินออกมา แล้วหยิบเสื้อนอกใครก้ไม่รู้ไปซะงั้น เพราะว่าอยากดูดบุหรี่... พระเอกนั่งแท๊กซี่กลับมาบ้าน โดนผีหลอก
??? เต็มไปด้วยความสงสัย อะไรวะ ทำไมวะ เหตุการณ์มันไม่มีเหตุผล พอดูจนจบก็เข้าใจในคำถามทั้งหลายที่เคยสงสัย ว่าทำไมมันเป็นเช่นนั้น แต่ว่ามันไม่เนียนเว้ยยย ก็เข้าใจนะ ต้องการให้ตอบคำถามทุกอยากให้ ไม่ให้บทมีจุดพลาด แต่ มันไม่เนียนอ่ะ มันดูแล้วเต็มไปด้วยความสงสัย หรือ ผกก. ตั้งใจ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เราเดาตอนจบได้ เพราะนั่งสงสัยตลอดทั้งเรื่อง ใครทำอะไรแปลกๆ เฮ้ย สงสัยไว้ก่อน แล้วมันก็เป็นจริง หนังไม่สามารถทำให้เราเพลิดเพลินไปกับหนังได้ ซึ่งเราว่านะ หนังหักมุมที่ดีเนี่ย มันควรจะสามารถทำให้เราไม่สงสัยอะไรเลย ทำให้เราตกหลุมของบทได้ อย่างเรื่อง The Other และเรื่อง Identity ซึ่งเรื่องหลังนี่รู้สึกจะเป็นที่เปรียบเทียบมากหน่อย เนื่องจากใช้จุดหักมุมเดียวกัน คือการนำเอาโรค multiple personality disorder มาเล่น แต่ว่า Identity นี่เค้าเนียนกว่าเยอะอ่ะ นอกจากนี้ตอนจบยังมีการเอาซีนขึ้นศาลมาเป็นตัวอธิบายอาการคนไข้เหมือนกันได้อีก เอา เอากะเค้าดิ จะว่าไป ที่เราเดาตอนจบได้ ก็เพราะว่าเราเคยดู Identity มาก่อนด้วยแหละ เริ่มสงสัยตั้งแต่หมออุสา เอาเทปที่ถ่ายคนไข้เด็กมาให้แม่เด็กดูแล้ว เรื่องเพื่อนในจินตนาการ และสองบุคลิก แต่ยังไม่แน่ใจ กับท่าที แต่รู้ว่ามีความหมาย และมันก็มีความหมายจริงๆ เริ่มมามั่นใจตอนกลางๆเรื่องละ ว่าแม่งงง เป็นงี้แน่ๆ แล้วก็จริงด้วย ก็เจ๋งดีนะ ดีใจที่มีหนังไทยแนวนี้ ไม่ใช่มีแต่หนังผี หนังตลก(ตลกเล่น)
เรารู้สึกว่า หนังมันดูลังเลใจยังไงก้ไม่รู้ เอ๊ะ กุจะเซอเรียลดีมั๊ยวะ เอี หรือไม่เซอเรียลดี เดี๋ยวคนดูแม่ง เข้าไม่ถึง ไม่ได้ตังค์อีก เอ๊ะ แต่กุอยากจะเวอ เซอนิดๆ พอเป็นพิธีแล้วกัน เออ มันก็เลยออกมาอยากที่เห็น เซอเรียลนิดๆ ให้ดูเก๋ๆ มุมกล้องแปลกๆ แบบเบิร์ดอาย ซีนที่พระเอกนั่งแท๊กซี่กลับมาบ้านตอนต้นเรื่อง และอีกหลายๆตอน หรือตอนที่พระเอก ไปเปิดลิ้นชักหมายเลข 19 ตอนท้ายเรื่องที่ตั้งกล้องไว้ในลลิ้นชัก แทนที่จะให้มุมแทนสายตา ซีนที่พระเอกวิ่งเปิดประตูห้อง 3 ห้อง แล้วภาพออกมาเห็นเป็น ซิลูเอท ห้อง 3 ห้องอ่ะ อืมมม จำไม่ได้แล้ว...แต่ให้ตายเหอะ มันยังไงก็ไม่รู้อ่ะ จะเซอก็เซอไปเลยเหอะ แบบ Shining ไปเลย มากั๊กๆแบบนี้ มันทำให้เราไม่รู้สึกอินไปกับหนังอ่ะ เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าน่ากลัวไม่หลอน เพราะว่ามันกั๊กๆเนี่ยแหละ คือ ถ้าจะเซอ ก็เลยเลย มันจะได้อารมณ์หลอน หรือถ้าไม่เวอ มันก็จะออกมาในอารมณืที่เหมือนเราเผชิญอยู่จริง อีมุมกล้องหวือหวานั่นอ่ะ มันทำให้เรารู้สึกตลอดเวลาว่า นี่กูดูหนังอยู่นะ นี่ไม่ใช่เรื่องจริงนะ เพราะมุมมันไช่มุมแบบที่สายตาเราเห็นในความจริง มันเป็นมุมเก๋ ที่มันไม่เข้ากับหนังอ่ะ ตัดภาพแบบฉับๆ ไปมา เนี่ยแหละที่ทำให้ไม่น่ากลัว
ส่วนผี CGI ดาราราย นี่หลายซีนมากที่ทำให้ไม่น่ากลัว บางซีนรู้ซึกได้ถึงภาพไม่ละเอียดอ่ะ ดูเกรนแตกๆยังกะดูหนังเกรดบีฉายกลางแปลง
ชอบอย่างเดียวคือ จบสะใจ ตายซะ ผู้ชายเฮี้ยๆอย่างงี้ นอกใจเมีย ถ้าเราเป็นดารารายเราจะคลายสะกดจิตตอนที่ถูกแทงกลางถนนมันเลย สะใจกว่า
Create Date : 14 ตุลาคม 2550 |
|
6 comments |
Last Update : 14 ตุลาคม 2550 13:20:35 น. |
Counter : 1409 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หมาคิส IP: 58.8.195.93 14 ตุลาคม 2550 14:03:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) 14 ตุลาคม 2550 17:44:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: bestcat 14 ตุลาคม 2550 23:34:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: zhaoma IP: 202.183.217.56 17 ตุลาคม 2550 16:41:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|