Home is behind The world ahead
 
กุมภาพันธ์ 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
16 กุมภาพันธ์ 2555

การขอวีซ่านักเรียนที่ญี่ปุ่น (留学ビザ、college student visa)

        การขอวีซ่านักเรียนที่ญี่ปุ่น  ต้องให้มหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือ สถาบันภาษาที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ยื่นเรื่องขอใบสถานภาพพำนัก (在留資格認定証明書:certificate of eligibility) ที่กรมตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่น (นิวกัง) เอกสารที่ทางสถาบันการศึกษาใช้ในการยื่นขอวีซ่านักเรียน มักได้รับผ่านเอเย่นต์ เช่น J-education หรือ Mainichi หรือรับจากผู้สมัครโดยตรง



        รายการเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นมีรายละเอียดดังนี้



1) ใบสมัคร และเอกสารกรอกอื่น ๆ (แบบฟอร์มแตกต่างกันตามแต่สถาบันการศึกษา)



2) วัตถุประสงค์การมาเรียนที่ญี่ปุ่น (1 หน้ากระดาษ A4)



3) ใบรับรองการจบการศึกษา พร้อมใบทรานสริปต์ หรือใบเกรด (ผู้สมัครต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำคือ จบม.ปลาย)



4) สำเนาพาสปอร์ต



5) รูปถ่าย ขนาด 4x3 ซ.ม.



6) Bank account certificate ของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของผู้สมัคร (ผู้สมัครสามารถเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตนเองได้) 



7) ในกรณีที่ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเป็นข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท ต้องยื่นเอกสารรับรองการทำงานและเงินเดือน 



ในกรณีที่ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดำเนินธุรกิจ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ



8) แบบฟอร์ม ภงด 91 ของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ย้อนหลัง 3 ปี



9) เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและผู้สมัคร เช่น กรณีเป็นบิดาและบุตร ให้ยื่นสำเนาใบสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น



วีซ่านักเรียนสำหรับคนไทยออกค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกับประเทศที่มีอัตราการเข้าไป overstay ที่ญี่ปุ่นสูง เช่น ประเทศจีน มองโกเลีย พม่า เวียดนาม เนปาล บังคลาเทศ และศรีลังกา ที่ต้องยื่นเอกสารทั้ง 9 อย่าง ประกอบกับใบประการการสอบผ่านการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น N5 หรือเทียบเท่า



สำหรับคนไทย ถึงเอกสารทั้ง 9 มีไม่ครบก็อาจจะยื่นเรื่องได้ แต่ต้องปรึกษาสถาบันการศึกษาเป็นราย ๆ ไป









Free TextEditor


Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 13:59:59 น. 5 comments
Counter : 3693 Pageviews.  

 
รบกวนสอบถามนะคะ
พอจะทราบราคาเปรียบเทียบ ระหว่างสถาบันที่เราติดต่อเองที่ญี่ปุ่น กับผ่านสถาบันในประเทศไทย ที่ไหนราคาแพงกว่ากันคะ พอจะทราบไหมเอ่ย


โดย: orn IP: 118.175.64.120 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:24:43 น.  

 
ราคาเท่ากันค่ะ ไม่งั้น เอเย่นต์ที่ไทยโวยค่ะ
พูดง่าย ๆ ติดต่อโรงเรียนโดยตรง โรงเรียนไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น
ติดต่อผ่านเอเย่นต์โรงเรียนจ่ายค่าคอมให้เอเย่นต์ค่ะ

ประเด็นคือ เอเย่นต์ส่วนใหญ่จะแนะนำสถาบันการศึกษาที่ให้ค่าคอมเยอะที่สุดกับนักเรียน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ที่ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนก็ได้

ดังนั้นดูทั้งสองอย่างประกอบกันก็ดีค่ะ ถ้าที่ที่เราอยากไปเรียน ไม่มีอยู่ในลิสของเอเย่นต์ ติดต่อที่ญี่ปุ่นโดยตรงก็ได้ค่ะ


โดย: ปลาทองในกองหนังสือ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:02:36 น.  

 



เอาดอกไม้ฝาก ดูเหมือนช้าไปหน่อย....แต่มาด้วยใจนะ

*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*




เดือนแห่งความรัก คนโสดก็ยังโสดต่อไป เพราะครูภาษาไทย สอนแต่

สระอิ,สระอา, สระอุ, สระอู แต่ไม่ยอมสอนให้เรา .. "สละโสด"


..HappY BrightDaY..




โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:06:54 น.  

 
หากต้องการมาเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ผมทำงานอยู่ฝ่ายประสานงาน ของ JTIS ครับ เวปไซต์ดูได้ที่ //www.nihongo-ac.jp/en/ หากสนใจ สอบถามได้จาก Contact Us ของเวปโรงเรียนหรือเมล์ถึงผมโดยตรงได้ที่ louis@manglobelink.com ครับ โรงเรียนอยู่ชินจูกุครับ คุณครูของเราสามารถให้คำแนะนำรวมถึงช่วยกรอกเอกสารและแนะนำเรื่องการเขียนจดหมายแนะนำตัวในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย (สำคัญมาก)ได้ครับ


โดย: louis IP: 218.216.177.162 วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:10:19:57 น.  

 
แล้วรู้จักโรงเรียนสอนภาษาแถวชิบะ หรือฟุนาบาชิมั้ยค่ะ ไปเรียนภาษาเค้าจำกัดอายุมั้ยค่ะตอนนี้ 37 แล้วค่ะ


โดย: khem IP: 119.207.124.243 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:24:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลาทองในกองหนังสือ
Location :
Kawasaki Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นคนทำงานด้านเอกสารวีซ่านักเรียนของชาติต่าง ๆ ที่จะมาเรียนที่ญี่ปุ่น ในนั้นมีนักเรียนไทยประมาณ 10%

นอกจากนี้ยังเป็นล่ามจำเป็นให้นักเรียนเวลามีเรื่องกับตำรวจ หรือกรมตรวจคนเข้าเมือง

ดังนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนที่เขียนในบล็อคจึงมักจะเป็นเรื่องของนักเรียนที่มีปัญหาเสียส่วนมาก ซึ่งเป็นนักเรียนส่วนน้อย ประมาณ 0.5% ของนักเรียนทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าที่ที่เราทำงานอยู่มีแต่เด็กมีปัญหาแต่อย่างใด
[Add ปลาทองในกองหนังสือ's blog to your web]