2018-04-21 Pahalgam หลังม่านหมอก และแสงสีใน Delhi *** กระทู้รีวิวหลักพันทิปตามลิงค์นี้https://pantip.com/topic/37616855 รีวิวแคชเมียร์ คู่มือวางแผน ฉบับพร้อมเดินทาง *** แสงตะวันสาดส่องเสียที... . . . ชุนแอมนัดหมายกันตื่นแต่เช้าเพื่อไปเดินเล่นสวนสาธารณะถ่ายรูปกัน และพยากรณ์อากาศไม่ผิดพลาด อากาศเช้านี้แจ่มใส มีเมฆบ้าง แต่เผยให้เห็นภูเขาเบื้องหลังชัดเจน แค่วิวจากห้องก็อยากหยุดเวลาไว้แล้ว ใช่แล้ว ถ้าจะออกตอนเช้าก็ต้องรอแอมสักยี่สิบสามสิบนาที ว่างๆก็ลงมาเดินเล่นในลานหญ้าของโรงแรม เจอเพื่อนบ้าน... Pahalgam มีวิวสวยๆที่สามารถชมได้จากสวนสาธารณะใกล้ๆ ป้ายเขียนไว้ว่าเป็นสวนดอกไม้ที่จะเก็บค่าเข้าชม แต่คงจะเป็นช่วงหน้าร้อน ตอนนี้เป็นแค่ทุ่งหญ้าให้พวกเราเดินเข้าไปได้เลย หยุดกันนานหน่อยบนสะพาน . . . ต้นไม้ที่น่าหลงไหลของเด็กน้อย เห็นโรงแรมของพวกเราไหม? หลังคาเขียวๆด้านหลังบ้านสีแดงๆ กลับมาโรงแรมราวๆแปดโมงเช้า แต่ดูเหมือนเมืองนี้จะตื่นกันสายกว่านั้น โรงแรมของเราก็อยู่ซอยด้านหลังนี่เอง ...แอบเห็นร้าน Food Point ที่มาฝากท้องไว้เมื่อวานซะด้วย เมื่อแอมอยากกระโดด... . . . ระหว่างนี้ป๊าม๊าก็ออกมาถ่ายรูปในโรงแรมเหมือนกัน ว่าแต่ สมกับเป็นอินเดียนะ... เข้ามาขายของในโรงแรมไม่ได้แต่ก็ขอขายตามขอบรั้วก็ยังดี คนซื้อก็สบายไปด้วย วันนี้มีเวลาเที่ยวไม่เกินเที่ยงเพื่อกลับไปขึ้นเครื่องตอนบ่ายสาม ตัดสินใจกลับไปเก็บจุด Betaab Wadi โดยให้ Gulzar มาขับให้เหมือนเดิม... ค่ารถถูกมาก 600 รูปี สำหรับจุดเดียว ระหว่างทางก็ได้เห็นบรรยากาศชีวิตยามเช้าเล็กน้อย เช่น เด็กประถมที่ต้องเรียนจนถึงวันเสาร์, คนม้าที่เริ่มนำม้ามาให้บริการนักท่องเที่ยว
สวน Betaab Wadi มีค่าเข้าคนละ 100 รูปี และแน่นอนว่ามีคนมาอยากเป็นไกด์ให้พวกเรา แต่ใสเจียนะ สวนแค่นี้เดินเองได้อยู่แล้ว จากทางเข้า ผ่านสะพานขาว เดินตามทางเดินเข้าไปก็จะพบกับ... คนขายผ้าพันคอและบริการถ่ายรูป ซึ่งเราไม่สน Betaab Wadi คือพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่อยู่กลางหุบเขาอันประกอบไปด้วยธารน้ำแข็งเล็กๆหลายธาร เจอรูปนี้ถึงกับตกใจ :) พวกเราไม่ได้เดินต่อเข้าไปลึกกว่านี้แล้ว แต่เร่งฝีเท้ากลับไปที่รถเพื่อขึ้น Chandanwari อีกครั้ง ป๊าม๊าถ่ายรูปเสร็จก็ไปเข้าห้องน้ำก่อน ตอนนี้เองที่เรานึกว่าป๊าม๊าจะกลับมาเจอที่สะพานขาวแต่จริงๆแล้วไปรออยู่ที่ทางออก เกือบหลงกัน จะดูสดชื่นไปไหมเทอ??? ขับรถขึ้น Chandanwari วันนี้บรรยากาศข้างทางวันฟ้าเปิดช่างแตกต่างจากเมื่อวานที่ดูหนาวเหน็บ ระหว่างทางนอกจากจะแวะทักทายเพื่อนมาตลอดทางแล้ว Gulzar ยังรับคนให้ติดรถขึ้นมาด้วย... แต่แม้เราจะเชิญให้เข้ามานั่งข้างในแล้วก็ตาม เขาก็ยังยินดีจะเกาะแบบนี้ แม้จะเป็นจุดเดียวกับเมื่อวาน แต่บรรยากาศก็ต่างกันเหลือเกิน วันนี้หวังใจจะเข้าให้ถึงแต่ก็แห้ว เพราะทางเดินเข้าไปยังเละเป็นโคลน มันก็เดินได้นะแต่ไม่อยากเลอะวันสุดท้ายและมีเวลาไม่มาก เราเลยให้ตีรถออกแล้วไปถ่ายรูปตามทางขาขึ้นซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่าสวยหลายจุดเลยและไม่ต้องเดินมากดีกว่า ลงรถปุ๊ป ป๊าไม่รอช้า เข้ากล้องทันที...
ถ่ายรวมกับ "มายเฟรนด์" ซะหน่อย ขาลงเขาก็แวะตามจุดต่างๆได้อีกเล็กน้อย . . . และอีกหนึ่งธารน้ำแข็ง And she said "YES"! . . . . . . Yes, I'm hungry :( . . . . . ฝากภาพขาลงไว้อีกซักหน่อย Betaab Valley จากจุดเดียวกับเมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่ามองภูเขาลูกนี้จากในสวนจะต่างจากบนนี้นะ บ๊ายบายกันจริงๆล่ะ Pahalgam... ทำเวลาได้ดีจนกลับมาถึงรร.เกือบเที่ยงพอดี ตามแผนที่ต้องไปให้ถึงสนามบินสามโมงก็ยังสบายๆ และพนักงานฟร๊อนท์ที่ใจดีของเรา
และถึงการตรวจกระเป๋าจะเป็นส่วนที่เข้มงวด สิ่งที่ยังแสดงความเป็นแคชเมียร์อย่างชัดเจนคือชายหนุ่มหลายคนที่มาช่วยขนกระเป๋าขาออกจากเครื่องสแกน ถ้าเดินไปไม่ทันกระเป๋าตัวเองรับรองว่าถูกบังคับบริการหิ้วขึ้นรถแน่ๆ แต่รอบนี้เราไม่จ่ายจ๊ะ มันจะแลดูขูดรีดกันเกินไป ร่ำลาหนุ่มใหญ่ผู้ขับรถให้กับเรามาหลายวันโดยไม่รู้จักชื่อ แต่ตอนนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เห็นแกยิ้ม :) สิ่งที่เราได้เรียนรู้อีกอย่างจากสนามบิน Srinagar คือ การตรวจสอบถี่มาก ตั้งแต่ทางเข้า ติดแท๊กกระเป๋าแล้วก็ตรวจอีก ตรวจร่างกายเสร็จได้สแตมป์ Boarding Pass ปุ๊ปอีกสี่ห้าก้าวแค่พ้นประตูก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจ Boarding Pass อีก เยอะมาก... และอีกเรื่องหนึ่งที่ดีคือ ผู้โดยสารหลักจะถูกเรียกให้ไปตรวจสอบกระเป๋าของตัวเองที่กำลังจะถูกโหลดขึ้นเครื่องเพื่อยืนยันความถูกต้องอีกด้วย ส่วนกล้องนั้น นอกจากจะแยกเข้าเครื่องสแกนตามขั้นตอนปกติของสนามบินทั่วไป ยังต้องเปิดเครื่องออกมาโชว์รูปด้วยนะ
เที่ยวบิน SXR-DEL (Indigo) 17:05-18:50 อีกแค่ไม่กี่อึดใจ ก็พบว่าเรากลับมาถึงกรุงเดลีและไฟลท์ต่อไปคืออีก 8 ชั่วโมง!!! TG322DEL-BKK 3:20-9:15(+1) ไม่ได้มีอะไรเกินคาด พวกเราตรงดิ่งจาก Terminal 2 ผ่านทางเชื่อมสั้นๆแค่ 5-10 นาทีไปยัง Terminal 3 ตามป้ายรับฝากกระเป๋าไปเรื่อย เรื่อยๆ และเรื่อยๆ มันซับซ้อนเหมือนกันกว่าจะเจอจุดฝากกระเป๋าที่หลบอยู่ส่วนไหนก็ไม่รู้ แต่โชคดีที่ไม่ได้ไกลจากรถเมโทรนัก คำนวณแล้วถ้าเข้าเมืองไปเที่ยว กลับมาอีก 4-5 ชั่วโมง ค่าฝากรวมแล้วไม่ถึง 500 บาท สบายล่ะ... กระเป๋า 4 ใบใหญ่ และเป้ใบเล็กของป๊าจึงถูกนำไปฝากรวมกัน กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็เกือบสองทุ่ม พวกเรานั่ง Airport Link เข้าเมืองประมาณ 20 นาที รถเมโทรสะอาด หน้าตาเหมือน Airport Link ของไทยนี่เอง ลงที่ New Delhi Station แล้วก็เรียกสามล้อด้วยความคล่องแคล่วจากประสบการณ์ 1 ครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน ไปลง Connaught Palace เพื่อไปกินไก่ย่าง Nando ...มันฟินจริงๆ กินเสร็จเกือบสี่ทุ่ม จากที่คาดว่าจะมีร้านแบรนด์เนมเปิดเยอะๆให้ป๊าได้ส่อง Ray Band แต่ร้านต่างๆกลับปิดหมด สิ่งที่เปิดคือร้านอาหาร และผับ แผนจึงเปลี่ยนเป็นเดินหาไอติม Natural กัน แต่เนื่องจากไม่รู้พิกัด เดินไปถามทางไป จำได้บ้าง จำผิดบ้าง ทางเดินมันกลมๆและตึกหน้าตาเหมือนกันไปหมด หลังจากเดินไปครึ่งรอบวงเวียนรอบใหญ่ ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ ไอติมที่ว่ากันว่าอร่อยและดังที่สุด (ก็คิดดูว่าห้าทุ่มแล้วคนยังเยอะขนาดนี้) รสชาดคล้ายๆสเวนเซ่นส์แต่ว่าเครื่องพวกถั่วจะแน่นกว่า อร่อยจนหมะม๊าต้องเซลฟี่กับหน้าร้านเชียวล่ะ :) แน่นอนว่าเราต้องรีบกลับไปก่อน 23:30 นั่นคือเวลาของรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับสนามบิน แต่ทักษะในเดลีของพวกเราไม่มากพอที่จะเรียกสามล้อบนวงเวียน Connaught Palace ที่วุ่นวายได้ เราใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเจอสามล้อ ยังไม่รวมที่บอกปลายทางผิดเลยได้ไป New Delhi Station ฝั่งรถไฟเก่า แทนที่จะเป็นฝั่ง Metro (คือสถานีนี้มันใหญ่มาก คร่อมสองถนน) โชคดีสามล้อยังวิ่งต่อไปให้ทันเวลา TG ที่ Delhi ทำ online check in มาจะดีกว่าเพราะคิวยาวต่างกันมาก และไม่ต้องปริ๊นท์ก็ได้ แต่พวกเราไม่ได้ทำมาก่อน จึงใช้เน็ตสนามบินเช็คอินทันที ตะกุกตะกักๆ คือโชว์ผลออนไลน์เช็คอินให้เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าแถวได้แล้วแต่ยังดาวน์โหลดฟอร์มของทุกคนไม่ได้ แบตชุนและแอมที่มือถือต่อเน็ตได้ก็ใกล้หมด ส่วนของม๊าที่มีแบตมากก็ต่อเนตยังไม่ได้ สุดท้ายค้นพบว่าไม่ต้องโชว์แบบฟอร์มที่ counter ก็ได้... แล้วเราจะงุ่มง่ามกันมาหลายสิบนาทีเพื่ออะไร แต่สุดท้ายแล้วเทียบกับต่อคิวเช็คอินปกติก็ถือว่าประหยัดเวลาไปได้โข ขึ้นเครื่องแล้วชุนก็ไม่รู้อีกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น วาร์ปมาถึงกรุงเทพฯในตอนเช้า . . . และสุดท้าย ก็ได้จบทริปที่น่าหลงใหลที่สุดทริปหนึ่งในชีวิต ทิ้งท้ายแคชเมียร์ให้เป็นเหมือนสวรรค์ในความทรงจำ จนกว่าจะถึงทริปถัดไป รักษาสุขภาพกายใจ สวัสดี . . .
ขอบคุณ Supermop ด้วยครับที่ติดตาม :) หวังว่าคงชอบนะครับ
โดย: littleitim (Littleitim ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2561 เวลา:22:17:48 น.
|
Littleitim
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ รีวิวดี ๆ ครับ