วันนี้พาคุณลูกชายไปฉีดวัคซีนมา หลังจากที่ผ่านพ้นวัน 2 เดือนมาได้ 18 วัน นึก ๆ ไปแล้วกว่าจะฝ่าฟันวิกฤตต่าง ๆ มาได้จนทำให้แม่คนนี้เป็นแม่คนมาได้อายุเท่าคุณลูกเนี่ย ก็ต้องขอขอบคุณคุณลูกที่ทำให้เข้าใจความหมายหลาย ๆ อย่างของชีวิต นึกย้อนไปถึงวันแรกที่รู้ตัวว่าท้อง บอกตามตรงว่าตกใจมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถเล่นบทแม่ได้ดี ความจริง แต่งงานมาก็ได้เกือบสามปีแล้ว แต่ว่ายังมีความฝันหลาย ๆ อย่างที่รู้สึกว่า ชีวิตนี้ต้องทำมันให้ได้ เมื่อรู้ว่าตั้งท้อง คิดอยู่อย่างเดียวว่า ทุกอย่างจบลงแล้ว ไม่กล้าบอกพ่อแม่พี่น้อง ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็เฝ้าถามว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ทุกคนเสียที สามีแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า (ก็คนมันดีใจ) แล้วทำไมเราไม่ดีใจฟ่ะ แต่พอได้ใช้เวลานั่งทบทวนทุกอย่างพร้อมกับบอกตัวเองว่า ลูกอาจจะมาเพื่อบอกความหมายอะไรกับเราก็ได้ ความจริง ลูกก็เป็นหนึ่งในความฝันของเราเพียงแต่เราคิดว่า เราอยากให้เค้ามาเมื่อเราพร้อมมากกว่านี้ เอาหล่ะ จากนี้ไป เราจะทำทุกอย่างเพื่อเค้า แต่แค่เจออาการแพ้ท้องเข้าไป ทุกอย่างจบค่ะ นอนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร สามีก็กร่นปลอบอยู่อย่างนั้น หลังจากนั้นก็เฝ้าหาข้อมูลการเลี้ยงลูก แต่ยอมรับ ว่าไม่ได้ดูแลเค้าอย่างถนุทนอม เหมือนที่ใคร ๆ เค้าทำกัน ก็เพราะว่าปรกติเป็นคนที่ลุย ๆ อยู่แล้วไม่ชอบอะไรที่ต้องละเอียดมาก เหมือนว่าจะต้องเสียเวลามาก ไม่ชอบ เวลาไม่ชอบก็ไม่ทำ ใครบอกว่าทำอย่างนั้นดี อย่างนี้ดี บวกกับข้อมูลที่หามามันหลายด้านเสียเหลือเกิน ก็เลยไม่รู้จะปฏิบัติตัวอย่างไหนถูก เช่นมีคนบอกว่า กินน้ำมะพร้าวจะดี แต่บางคนก็บอกต้องมะพร้าวสดนะ เพราะมะพร้าวที่ขายตามตลาดที่ปลอกเปลือกแล้วมันผ่านการฟอกสีมา แล้วอย่างนี้จะไปหาไอ้ที่ปลอดภัยกินที่ไหนฟ่ะ ดีว่าที่บ้านมีมะพร้าวอยู่ต้น ก็กินมันเท่าที่มันให้ลูกมาหล่ะ บางทีสามีรีบเก็บมาให้กินทั้งที่มันยังไม่มีเนื้อให้กินเลย ก็เป็นอันว่าฟาวล์ไปก็โออ่ะ ได้เท่าไหนก็เท่านั้น ก็ดีที่สุดที่แม่คนนี้ทำให้ได้แล้วกันน่า ขอบคุณคุณลูก เหลือเกิน เพราะตั้งแต่ป่าวประกาศบอกชาวบ้านชาวเมืองว่าท้อง ยายก็บอกว่าควรที่จะพูดกับลูกทุกวัน โอ๊ยให้พูดคนเดียวเนี่ยนะ ทำไม่ได้หรอกมันเขินนนน แต่ว่าเวลาอยากได้อะไรก็บอกลูกประจำ ลูกก็เป็นเหมือนเครื่องราง บอกแล้วจะว่าเวอร์ แต่เวลาที่ขออะไรกับเค้า จะได้ทุกอย่าง เรื่องเลวร้าย เรื่องแย่ ๆ ก็เบาลง กระทั่งถึงวันคลอด ลูกทำให้เจ็บท้องน้อยมาก แต่แม่มันก็ยังครวญครางราวกับว่าเจ็บมาแรมเดือน เวลา 00:30 ของวันที่ 27 เมษายน 51 กะลังจะอาบน้ำนอน หลังจากที่ดู เดอะสตาร์จบ อาการก็ร่ำ ๆ มาเหมือนจะปวดท้องเมนส์ แต่เป็นแล้วหาย เป็นแล้วหาย อยู่ราวสองชั่วโมง จนตีสองกว่า ก็ขึ้นไปถามยายว่า ไอ้ที่เจ็บแบบนี้เนี่ย มันใช่จะคลอดหรือเปล่า ยายบอกว่าสงสัยจะใช่ ไป ไปโรงบาลกัน (อะไรฟ่ะ ยังไม่ได้เก็บกระเป๋าเลย เหลืออีกตั้งสามอาทิตย์กว่าจะถึงกำหนดคลอด) คุณลูกถามว่า แม่จะบ่นไปเพื่อไร ก็แม่เล่นบอกลูกตลอดว่า เจอกันเร็ว ๆ นะ แม่ไม่อยากลางานแล้วไปอยู่บ้านฟรี ๆ หลายอาทิตย์ กลัวจะได้อยู่กับลูกน้อย แล้วนี่จัดให้แล้ว ทำไมไม่เตรียมตัวหล่ะคับ จนเมื่อไปถึงโรงบาล พยาบาลวัดปากมดลูกเปิดได้ 3 เซ็นต์ พร้อมจัดการโกน และสวน เสร็จเรียบร้อย พยาบาลก็เข็นไปรอที่ห้องรอคลอด มีคุณหมอ มาเช็คการเต้นของลูก หมายถึงหัวใจนะ ไม่ใช่จะแด๊นซ์ แอบชวนคุณหมอคุย จะหลอกถามว่าเมื่อไหร่จะได้คลอด คุณหมอก็ว่า ลูกคนแรก คนอีกนานอ่ะค่ะ อาจจะพ้นเช้านี้ (ไม่นะ นี่มันก็เริ่มจะเจ็บมากแล้วนะเนี่ย) หมอบอกว่า ต้องรอให้ถุงน้ำคร่ำแตกก่อน ถึงจะหมายความว่าต้องคลอดได้แล้ว เจ็บนานหน่อยก็ประมาณ 24 ชั่วโมง (โห ไรจะขไหนหนาด) คุณหมอว่าจะแวะมาเยี่ยมทุกชั่วโมงนะคะ ตอนนั้นก็ประมาณตีสี่ บอกลูกว่า ขอเถอะนะคับ อย่าทำให้แม่เจ็บท้องนานเลยนะ อย่าให้แม่ได้ทรมานเลย เพียงเท่านี้ ช่วงเวลาตีสี่ครึ่งก็เจ็บจนทนไม่ไหวก็กดกริ่งเรียกพยาบาล กดแบบทีสองที เหมือนว่าจะไม่เป็นผล ก็เลยกดสโตร๊คยาวเลย ทีนี้วิ่งมากันใหญ่ พร้อมกับดุว่ากดแบบนี้ไม่ได้ จะรบกวนคนไข้คนอื่น ก็แหม กดเรียกพี่ตั้งสองสามทีไม่เห็นหน้าใครเลยนี่นา พยาบาลก็ถามว่า เจ็บมากเลยเหรอคะ - เออสิวะคะ ไม่งั้นจะกดกริ่งทำไม พอคุณหมอมาตรวจ เป็นหมอเวร ไม่ใช่หมอที่เราฝากครรภ์ไว้ แต่วินาทีนั้นอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว แล้วก็ไม่ใช่หมอคนสวยก็เคยแอบคุยไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วด้วย คุณหมอหน้าโหดมาก มาวัดปากมดลูกได้ 8 เซ็นต์เป็นอันคอนเฟิร์มเข็นเข้าห้องคลอด ระหว่างนี้ขอบอกเลย แรงลมเบ่งนี่ตลอดเวลา พยาบาล ห้ามร้องโอดโอย ห้ามเบ่ง อะไรจะห้ามกันนักหนา แบบนี้แหละ ตัดสินใจเลือกรพ. รัฐ จนทำให้นึกซึ้ง รพ.เอกชนที่ไปฝากท้องไว้เลย ทำอะไรก็ยังไม่ได้ เพราะคุณหมอยังไม่พร้อม ยังไม่ได้ใส่เครื่องมือ เครื่องไม้อะไรเลย แต่อิฉันจะไม่ไหวแล้วนะคะหมอ คุณลูกบอกว่า แม่บอกให้ออกมาเร็ว ๆ สรุปว่า พอหมอให้เบ่ง สองปื้ดเท่านั้นหล่ะค่ะ ได้เห็นหน้าคุณลูกเลย สรุป กลายเป็นเล่าเรื่องคลอดไป งั้นไว้มาเล่าเรื่องอื่นไหมแล้วกันคุณลูก |