Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
โรคผิวหนัง...ไม่ได้มีแค่ขี้เรื้อน




โรคผิวหนัง...ไม่ได้มีแค่ขี้เรื้อน



                                 วันนี้ได้หยิบเอาหนังสือชื่อ “โรคผิวหนัง ไม่ได้มีแค่ขี้เรื้อน” ของ สพ.ญ.วิภาวดี ปฐมรพีพงศ์ มาอ่าน แค่ชื่อเรื่องก็โดนแล้ว เพราะรู้สึกว่าเจ้าของเคสส่วนมากเวลาเห็นสัตว์เลี้ยงของตัวเองคัน เกา และขนร่วง ก็มักจะสรุปว่าเป็นขี้เรื้อนและมาขอซื้อยาขี้เรื้อนกันประจำ  ต้องซักประวัติ และอาการ ตลอดจนอธิบายว่าอาจเป็นโรคผิวหนังอย่างอื่นก็ได้ให้พามาตรววจดีกว่า บางคนก็เชื่อ บางคนก็อาจไม่มีเวลา บางคนก็อาจรำคาญหมอเลยไปซื้อยาตามร้านขายยาเองบ้าง ตามร้านเพ็ทช็อปเองบ้าง (ซื้อง่ายกว่า ไม่ซักอะไรมากเหมือนหมอ) เลยขอหยิบยกเรื่องนี้มาบอกเล่ากันซะหน่อย

 


                  ในความหมายของสัตวแพทย์นั้น ขี้เรื้อน  หมายถึง โรคผิวหนังที่เกิดมาจากไร มีผลทำให้สัตว์เกิดอาการคัน ขนร่วง ผิวหนังอักเสบเป็นแผลได้  แต่ในความหมายของเจ้าของนั้นหากสัตว์เลี้ยงมีอาการคัน ขนร่วง ก็มักจะคิดว่าสัตว์เลี้ยงของตนเป็นขี้เรื้อนแทบทั้งนั้น และมักจะไปหาซื้อยารักษาขี้เรื้อน ไม่ว่าจะเป็นแบบฉีด กิน หรือทา มาใช้กับสัตว์เลี้ยงของตน  โดยอาจลืมนึกไปว่าโรคผิวหนังที่เกิดในสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีแค่ขี้เรื้อนเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากสัตว์เลี้ยงเป็นขี้เรื้อนจริงก็ดีไป แต่หากไม่ใช่หล่ะ!! เค้าก็จะได้รับการรักษาที่ไม่ถูกกับโรค ได้รับยาโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ แทนที่เค้าจะหายอาจกลายเป็นส่งผลร้ายให้กับตัวเค้าก็ได้ กลายเป็นหวังดีแต่ให้ผลร้าย ดังนั้นหากไม่แน่ใจควรนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจยืนยันผลว่าสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นขี้เรื้อนจริงๆหรือไม่ จะได้วางแนวทางในการรักษาต่อไปได้ถูกทาง

 


โรคผิวหนังที่เกิดกับสัตว์เลี้ยงมีมากมายหลายโรคด้วยกัน  อาการที่แสดงออกมาก็หลากหลาย  เหมือนกันบ้างต่างกันบ้าง  แต่ที่เจ้าของมักกังวลคืออาการขนร่วง คัน และทำให้เกิดแผลขึ้น  ทีนี้เรามาดูกันว่าโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงมีอะไรกันบ้าง

 


 




1.แพ้เนื่องจากเห็บ-หมัด-เหา 

 


โดยเฉพาะน้ำลายหมัด ซึ่งจะมีโปรตีนบางชนิดที่ทำให้ผิวหนังสัตว์เลี้ยงแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ ทำให้เกิดอาการคัน เป็นผื่นแดง  และอาจพบอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ขนร่วง ผิวถลอกเป็นแผล โดยเฉพาะบริเวณด้านหลัง ส่วนท้าย หัว ต้นขา ช่วงอกด้านข้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่สัตว์เลี้ยงสามารถเอี้ยวตัวไปกัดแทะ เลียได้

 




2.โรคขี้เรื้อน

 


          เป็นโรคที่มีสาเหตุเกิดมาจากไร  ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต้องทำการขูดผิวหนังมาตรวจส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์  แบ่งออกเป็น ขี้เรื้อนแห้ง และ ขี้เรื้อนเปียก

 


          ขี้เรื้อนแห้ง (ตัวหิดติดคน)

 




          ติดต่อกันโดยการสัมผัส ทำให้เกิดอาการคันมาก ขนร่วง เป็นสะเก็ดรังแคหรือผื่นแดง มักพบบริเวณขอบใบหู ศอก เข่า ใต้ท้องและหน้าอก ซึ่งคนที่สัมผัสจะเกิดอาการคันร่วมกับมีตุ่มแดงขึ้น

 




ขี้เรื้อนเปียก

 





          โดยปกติแล้วตัวไรจะอาศัยอยู่ตามรูขุมขนของผิวหนังสุนัข ซึ่งจะแสดงอาการก็ต่อเมื่อมีการเพิ่มจำนวนของตัวไรมากพอจนถึงระดับหนึ่ง ตัวไรจะกินเศษเซลล์ในรูขุมขนทำให้เกิดอาการอักเสบ ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียซึ่งอยู่บนผิวหนังก็จะเพิ่มจำนวนตามมา เกิดอาการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน  ทำให้ขนร่วง โดยเฉพาะบริเวณลำตัว  ใบหน้า  ขาหน้า บางตัวอาจลุกลามไปทั่วตัว ผิวหนังเป็นสะเก็ดและอาจเป็นผื่นแดง บางครั้งพบตุ่มหนองคราบเกรอะกรัง และมีแผลหลุมตามมา

 



3.ผิวหนังอักเสบ

 


          มีอาการผิวหนังถลอก แดง เยิ้มแฉะคล้ายน้ำร้อนลวก ขนร่วงร่วมด้วย เชื้อแบคทีเรียจึงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว  ซึ่งเมื่อเกิดอาการสัตว์เลี้ยงจะเลียหรือเกาบริเวณนั้นตลอด ผิวหนังอักเสบเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ ได้แก่

 


                   - การเลีย การเกา การเสียดสี โดยตอนแรกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย  แต่ถ้าปล่อยไว้อาจลุกลามได้อย่างรวดเร็ว

 


                   - เกิดจากภูมิแพ้ทางกรรมพันธุ์

 


                   - แพ้น้ำลายหมัด

 


                   - มีเห็บ-เหา

 


                   - ผิวหนังอับชื้น (เช่นสุนัขที่มีขนหนามาก

 


                   - เกิดการระคายเคืองเนื่องจากปัตตาเลี่ยน  แชมพู

 


4.อาการแพ้เนื่องจากอาหาร

 


          สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจมีอาการแพ้อาหารหรือสารปรุงแต่งในอาหาร จะมีอาการคันโดยไม่เกี่ยวกับหมัด ไม่เกี่ยวกับฤดูกาล  และคันทั้งตัว อาจเกิดแผลถลอกเนื่องจากการเกาทำให้ผิวหนังติดเชื้อเนื่องจากแบคทีเรียแทรกซ้อนได้

 


5.อาการแพ้เนื่องจากกรรมพันธุ์

 


          เกิดขึ้นเนื่องจากความโน้มเอียงทางกรรมพันธุ์ที่ทำให้สุนัขมีความไวต่อตัวกระตุ้นในสิ่งแวดล้อม  ตัวกระตุ้นในสิ่งแวดล้อมซึ่งมีตั้งแต่น้ำลายหมัด เกสรดอกไม้ ต้นหญ้า เชื้อรา ฝุ่นละออง ตัวไร ฯลฯ จะไปกระตุ้นให้สุนัขเกิดอาการคันอย่างรุ่นแรงที่ผิวหนัง ตามตัว ใบหน้าและเท้า นอกจากนั้นอาจทำให้เกิดอาการช่องจมูกอักเสบและหอบหืดด้วย

 


6.อาการแพ้เนื่องจากการสัมผัส

 


          เกิดจากตัวกระตุ้น อย่างเช่น ฝุ่นละออง เกาะที่ผิวหนังแล้วกระตุ้นให้สัตว์แสดงอาการแพ้ออกมา ทำให้คัน เป็นตุ่ม หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจกลายเป็นแผลถลอกหรือแผลหลุมได้

 


7.ติดเชื้อยีสต์

 


          เชื้อยีสต์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเชื้อฉวยโอกาส เนื่องจากปกติมันจะอาศัยอยู่บนผิวหนังอยู่แล้วโดยไม่แสดงอาการใดๆออกมา แต่หากร่างกายอ่อนแอหรือผิวหนังมีลักษณะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อยีสต์ เช่น ความอับชื้น เป็นภูมิแพ้ ผิวหนังขาดสมดุล ปัจจัยทางฮอร์โมน เป็นต้น มันก็จะแสดงอาการออกมา โดยจะทำให้สุนัขคันมาก ผิวเป็นผื่นแดง ขนร่วง เป็นสะเก็ด ลักษณะเฉพาะของโรคผิวหหนังที่เกิดจากเชื้อยีสต์ คือ ผิวหนังจะมีกลิ่นหืนและเป็นคราบเยิ้มๆ  พบได้บ่อยบริเวณริมฝีปาก หู เท้า รักแร้ ขาหนีบและใต้คอ ซึ่งถ้าเป็นนานสีผิวจะคล้ำหรือดำ

 


8.โรคผิวหนังจากเชื้อรา

 


          พบได้ในสุนัขที่ภูมิคุ้มกันต่ำ มีความเครียดสูง  ทำให้ผิวหนังเกิดเป็นคราบหรือสะเก็ดมีลักษณะเป็นวงหรือเป็นรอยด่าง ขนจะเริ่มร่วงขยายขนาดไปเรื่อยๆ ส่วนมากพบบิเวณใบหน้า หัว และเท้า

 


9.ติดเชื้อแบคทีเรีย

 


          โดยปกติแล้วเชื้อแบคทีเรียมีจำนวนน้อและไม่ทำให้ผิวหนังเกิดโรคได้ แต่หากผิวหนังผิดปกติเพราะมีความอับชื้น มีรอยถลอก ถูกเห็บ หมัด ไร เหากัด เป็นภูมิแพ้ ฮอร์โมนผิดปปกติ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันของผิวหนังลดลง  เอแบคทีเรียจึงเพิ่มจำนววนขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ คัน มีผื่น ตุ่มแดง หรือตุ่มหนอง

 


10. โรคผิวหนังที่เกิดจากการขาดสารอาหาร

 


11.โรคผิวหนังที่เกิดจากความบกพร่องทางฮอร์โมน  

 


12.เนื้องอกและมะเร็งผิวหนัง

 


        เห็นไหมคะว่าโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยงมีหลายโรคหลายสาเหตุด้วยกัน บางโรคกว่าจะหายขาดได้ต้องใช้ยาเป็นระยะ ร่วมกับการให้อาหารเสริมบำรุงผิวหนัง บางโรคใช้เวลารักษาไม่นาน บางโรคก็ต้องใช้เวลารักษานานมากหรือบางตัวอาจต้องรักษาตลอดชีวิตเลยก็มี ดังนั้นการรักษาก็ย่อมที่จะแตกต่างกันไป หากคุณสรุปว่าเค้าเป็นขี้เรื้อนโดยที่ความเป็นจริงแล้วอาจเป็นโรคอื่น ซื้อยาไปฉีดให้เองบ้าง ยาให้กินเองบ้าง  บางคนใช้กำมะถันเอย  น้ำมันเครื่องเอย น้ำหน่อไม้ดองเอย (ตามแต่ความเชื่อของแต่ละคน) ทาตัวให้สัตว์เลี้ยง  ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่ายาหรือสารเคมีแล้ว มีสรรพคุณให้ปรสิตภายนอกหรือเชื้อโรคตายได้ ก็สามารถทำให้คนและสัตว์เลี้ยงตายได้เช่นกัน ถ้าหากใช้ผิดโรค ผิดขนาด  ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เถอะค่ะ  หรือหากไม่สะดวกด้วยเรื่องการเดินทางหรือเวลาก็โทรศัพท์ไปเล่าอาการและขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ก่อนก็ได้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อบรรเทาอาการไปก่อนหรือจำเป็นต้องพาไปหาสัตวแพทย์เลยหรือไม่ ยอมเสียเวลาสักนิด เพื่อชีวิตที่ดีของเพื่อนสี่ขานะคะ

 








Free TextEditor


Create Date : 09 กรกฎาคม 2554
Last Update : 11 กรกฎาคม 2554 22:43:27 น. 1 comments
Counter : 28359 Pageviews.

 
ได้ความรู้แยะเลย ขอบคุณนะคะ
น้องหมาที่บ้านก็เป็นโรคผิวหนัง เนื่องจากภูมิแพ้ค่ะ พออากาศชื้นๆ หน้าฝนที่ไหร่ จะคันเกาจนผิวแดงไปหมดเลย


โดย: ป้าป้อม วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:03:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lauraburin
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add lauraburin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.