กระแสคึกคัก เดลินิวส์แฟลช แห่โหลด“เวฟอาย”ขาโจ๋ชอบทันสมัย

ภูมิภาคทั่วไทยฮือฮา “เดลินิวส์แฟลช” นวัตกรรมล้ำสมัยเติมเต็มหนังสือพิมพ์มีชีวิต แห่โหลดแอพ “เวฟอาย” ทดลองส่องกล้องถ่ายภาพคึกคัก เหนือ-ใต้-ออก-ตก ตอบรับปรากฏการณ์สุดอินเทรนด์ดีเกินคาด ชี้ทำให้เสพข่าวอย่างมีอรรถรส สะดวกถ้าไม่มีเวลาเข้าดูข่าวในเว็บไซต์ แถมไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกต่างหาก เชื่อวัยรุ่นคุ้มค่าหันมาดูข่าวสารบ้านเมืองมากขึ้น แต่ยังติงความเร็วระบบสัญญาณ แนะประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง

จากกรณี “เดลินิวส์” เปิดตัว “เดลินิวส์แฟลช” (Daily News Flash) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นล้ำสมัยมิติใหม่หนังสือพิมพ์มีชีวิต หลอมรวมสื่อสิ่งพิมพ์กับมัลติมีเดียเข้าด้วยกันแบบครบวงจร 360 องศา เพิ่มอรรถรสในการอ่านหนังสือพิมพ์ให้กับผู้อ่าน เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเวฟอาย (Waveye) ลงใน “สมาร์ทโฟน” ก่อนแตะไอคอนรูปกล้องเปิดการทำงาน จากนั้นนำไปส่องภาพข่าวที่มีสัญลักษณ์ “เดลินิวส์แฟลช” กดถ่ายภาพ แล้วผู้อ่านจะได้ภาพวิดีโอ หรือภาพนิ่งที่นำมาร้อยเรียงเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะไม่ได้เห็นในหนังสือพิมพ์ทั่วไป สร้างปรากฏการณ์ทางเทคโนโลยีสุดอินเทรนด์ควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวันในโลกยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนผู้ชมและสัญญาณอินเทอร์เน็ตทำให้มีผลต่อการใช้แอพพลิเคชั่น อยู่บ้าง โดย ดร. ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด บรรณาธิการบริหาร นสพ.เดลินิวส์ ได้ให้สโลแกนไว้ว่าเป็น การต่อยอดจาก “อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์” เป็น “ชมความจริง ชมเดลินิวส์แฟลช” จนเป็นที่ฮือฮาและมีเสียงตอบรับกลับมาอย่างมากมาย ตามที่ได้เปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

ที่ศูนย์เชียงใหม่ วันที่  29 พ.ค. ผศ. อาคม ตันตระกูล ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของ ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และคณะแพทย ศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปกติรับ นสพ.เดลินิวส์ เป็นประจำนานหลายสิบปีทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เพิ่งทราบเรื่องเดลินิวส์แฟลช แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร กระทั่งได้ค้นหาดูในเว็บไซต์ถึงรู้ว่ามันคือภาพเคลื่อนไหวได้ เป็นการนำเทคโน โลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีมาก เชื่อว่าส่วนใหญ่มีโทรศัพท์กันทุกคนอยู่แล้วทำให้สามารถดูเหตุการณ์ของข่าวได้ทันที โดยไม่ต้องไปค้นหาจากเว็บไซต์ ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยเพราะยังไม่เคยเห็นที่ไหนทำมาก่อน ส่วนตัวชอบมากเพราะมีประโยชน์ อยากจะดูคลิปวิดีโอของข่าวไหนก็ดูได้เลย แถมไม่ยุ่งยากด้วย ส่วนในอนาคตอยากให้เชื่อมต่อเดลินิวส์แฟลชกับงานวิชาการ ข้อมูลวิชาการ งานวิจัย และการศึกษาให้ครอบคลุม จะได้นำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้ ส่วนปัญหาที่พบอยู่คือระบบอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยยังไม่เร็วพอ ทำให้ดูคลิปไม่ไหลลื่น

ด้าน นายวิษุวัต ทนันชัย อายุ 60 ปี เจ้า ของร้านขายของชำใน ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียง ใหม่ ให้ความเห็นว่า ตนรับนสพ.เดลินิวส์เป็นประจำ การทำภาพนิ่งให้เป็นภาพเคลื่อนไหวเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด ส่วนตัวรู้สึกชอบ เพราะเมื่อก่อนหากอ่านข่าวไหนแล้ว ต้องมาค้นหาวิดีโอจากในเว็บไซต์หรือยูทูบ ทำให้ต้องเสียเวลา แต่นี่แค่ถ่ายรูปจากข่าวหน้าหนึ่งคลิปก็ปรากฏขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องการปรับปรุงนั้น ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องมากนัก แค่เห็นว่าโลโก้ติดเอาไว้แต่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร จึงอยากให้ประชาสัมพันธ์มากกว่านี้ รวมทั้งต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่ง

ขณะที่ศูนย์ขอนแก่น น.ส.จุฑามาศ พิลาไชย อายุ 26 ปี นักประชาสัมพันธ์ ม.ขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดตัวของ “เดลินิวส์แฟลช” เป็นอีกหนึ่งของเทคโนโลยีที่แฟนเดลินิวส์จะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ได้ประโยชน์ สาระ โดยไม่ต้องเสียเงิน ถ้าไม่มีเวลาเปิดเว็บไซต์ก็แค่ใช้เดลินิวส์แฟลชเท่านั้น ทำให้ได้รับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึกของข่าวนั้น ๆ ล่าสุดได้ทดลองดูคลิปม็อบกดดันรัฐบาลให้จัดสรรรายได้เพิ่มขึ้น ปรากฏว่ารู้สึกเสมือนเสพข่าวจากหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์พร้อมกัน ถือว่าเป็นการคืนกำไรให้กับผู้อ่านและเอาใจคนรุ่นใหม่ด้วย เช่นเดียวกับ นายธัญญา ภักดี ผอ.กองสวัสดิการ ม.ขอนแก่น ที่กล่าวคล้ายกันว่า ทำงานด้านการข่าวของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เมื่อพบ “เดลินิวส์แฟลช” ในหน้าหนังสือพิมพ์ก็ตื่นเต้นมาก ถือว่าเป็นการขยายมิติของงานข่าวที่มาจากหนังสือพิมพ์ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของภาพเคลื่อนไหวและเสียง แต่เดลินิวส์มีคลิปวิดีโอในเนื้อข่าวจากหนังสือ พิมพ์ ทำให้มิติชัดเจนขึ้นเป็นหลักฐานยืนยันที่ไปที่มาของข่าว

ที่ศูนย์สุราษฎร์ธานี นายเนาวรัตน์ ศิลปเจริญ อายุ 48 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว จ.สุราษฎร์ ธานี ให้ข้อมูลว่า เป็นแฟนประจำข่าวกีฬาเดลินิวส์  พอได้ทดลองใช้เดลินิวส์แฟลช ทำให้การอ่านข่าวกีฬามีรสชาติมากขึ้น เพราะบางตัวหนังสือยังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ ซึ่งอนาคตอยากฝากให้เสนอข่าวกีฬาให้ครอบ คลุม ด้าน น.ส.อภิญญา เพชรรัตน์ อายุ 27 ปี พนักงานบริษัท กล่าวว่า ตื่นเต้นมากกับการอ่านข่าวประกอบภาพเคลื่อนไหวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ก่อนหน้านี้ติดตามความเคลื่อน ไหวเรื่องนี้บนเว็บไซต์เดลินิวส์มาโดยตลอด กระทั่งพอทำจริงก็ไม่ผิดหวัง อยากให้พัฒนาไปถึงขั้นของการใช้เสียงประกอบรายละเอียดข่าวในคลิปด้วย จะเพิ่มความสะดวกให้กับคนที่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือพิมพ์

ที่ศูนย์หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในพื้นที่ต่างให้ความสนใจกับนวัตกรรมใหม่บนหน้าหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ภายใต้ชื่อเดลินิวส์แฟลชจำนวนมาก โดยนายณัฐวัฒน์ เนกขพัฒน์ อายุ 38 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า เป็นเทคโนโลยีสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีความโดดเด่นเข้ากับยุคสมัย จากการทดลองพบว่ามีความสะดวกและใช้งานได้ง่ายมาก ส่วนตัวตื่นเต้นเพราะไม่เคยใช้แอพพลิเคชั่นแนวนี้มาก่อน แต่ปัญหาที่เป็นกังวลคืออาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับผู้สูงอายุที่ตามเทคโนโลยีไม่ทัน หรือกลุ่มผู้อ่านที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้เสียโอกาสตรงจุดนี้ ด้าน น.ส.สุธิดา พฤกษ์อุดม อายุ 35 ปี ชาว อ.เมือง ให้ข้อมูลตรงกันว่า เดลินิวส์แฟลช คือความก้าวหน้าและการปรับตัวของหนังสือพิมพ์ที่มีความแปลกใหม่ เพิ่มความน่าสนใจ ไม่คาดคิดว่าหนังสือพิมพ์จะมีพัฒนาการมาถึงจุดนี้ ที่สำคัญดึงดูดให้กลุ่มคนหรือวัยรุ่นที่ไม่ชอบอ่านหนังสือพิมพ์หันมาให้ความสนใจมาก จากนี้หวังให้เพิ่มผู้บรรยายอ่านข่าวให้ฟังเพื่อเพิ่มความเข้าใจในเนื้อหาข่าว

ที่ศูนย์พิษณุโลก น.ส.กาญจนา นุชพ่วง อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ภาควิชานิเทศศาสตร์ ม.นเรศวร แสดงความคิดเห็นว่า เป็นโปรแกรมที่มีความสะดวกรวดเร็วมาก ทำ ให้เห็นภาพนิ่งกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว แสดงความรู้สึกได้ดีกว่า สามารถเอาไปใช้ในการศึกษาหาความรู้ได้ อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งเหมาะสมกับนักเรียนนักศึกษาทุกคน ขณะที่ นายยอดเพชร ไพเรืองกิจ อายุ 36 ปี อาชีพช่างภาพอิสระ ให้ความเห็นว่า เป็นการขยายความจากภาพนิ่งบนหนังสือพิมพ์มาถ่ายทอดเป็นวิดีโอ คล้ายกับดูข่าวทางโทรทัศน์ แต่ที่สะดวกกว่าคือไม่ต้องรอให้ถึงช่วงรายงานข่าวแต่ละวัน เพราะอยากเห็นคลิปไหนก็เปิดดูได้ทันที ทำให้ไม่พลาดสถานการณ์ปัจจุบัน แต่อาจติดในเรื่องความเร็วระบบสัญญาณ

ที่ศูนย์นครราชสีมา นายรณภพ สิงหเริงฤทธิ์ อายุ 50 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นใน จ.นครราช สีมา เปิดเผยว่า เดลินิวส์แฟลชเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการสื่อมวลชนเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้อ่านได้ดี เพราะเวลาอ่านหนังสือพิมพ์จะมีความรู้สึกว่า อยากดูภาพเคลื่อนไหวด้วย ถือว่าเป็นนวัตกรรมชิ้นโบแดงในการสร้างสรรค์ของสื่อไทยทีเดียว ด้าน น.ส.แก้วตา ว่องเชาว์ปรีชา อายุ 35 ปี เจ้า ของธุรกิจส่วนตัว กล่าวคล้ายกันว่า ยุคปัจจุบันนี้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว โดยเฉพาะมือถือสมาร์ทโฟนที่เห็นผู้คนพกพาติดตัวอยู่ทั่วหัวระแหง ส่วนตัวเชื่อว่า ข่าวมีชีวิตชีวาขึ้น อีกทั้งสื่อไทยก็ทันสมัยไม่แพ้สื่อต่างชาติ

ที่ศูนย์พระนครศรีอยุธยา นางนิตยา หิรัญประดิษฐ์ ประชาสัมพันธ์ จ.พระนครศรี อยุธยา เปิดเผยความรู้สึกว่า การที่เดลินิวส์เปิดตัว “เดลินิวส์แฟลช” ในครั้งนี้นั้น นับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ของหนังสือพิมพ์ที่ได้เห็นทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีิโอในเวลาเดียวกัน จนเห็นรายละเอียดของเนื้อข่าวที่ชัดเจนขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีคนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ไปทดลองใช้อย่างมากมาย เพราะถือเป็นการตามเทรนด์ล้ำสมัยและน่าสนใจมากกว่าภาพหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ไว้เพียงแค่ภาพเดียว เช่นเดียวกับ นายไพศาล วิสุทธิศาลวงศ์ เจ้า ของร้านกิฟต์ช็อปในตลาดเจ้าพรหม อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ที่มองว่า คุ้มค่ากับผู้เสพข่าวอย่างมาก เนื่องจากปกติเสียเงิน 10 บาท ซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่าน แต่ตอนนี้เสียเงินเท่าเดิม กลับได้ภาพวิดีโอมาดูด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกับลูกค้าที่มาใช้บริการพบว่าได้โหลดแอพนี้มาใช้แล้ว ไม่งั้นจะถูกแซวว่าตกเทรนด์ ส่วนที่อยากแนะคือ ต้องการให้ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น บอกกล่าวด้วยว่าผู้ที่สนใจจะได้สาระสำคัญในเรื่องใดบ้าง

ที่ศูนย์ระยอง น.ส.อาจารีย์ อินนา เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.ระยอง ให้ข้อมูลว่า ถือว่าเป็นเทคโนโลยีแบบสมัยใหม่ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ แม้กระทั่งคนรุ่นเก่าที่ยังใช้ชีวิตอยู่ยุคปัจจุบันก็ตาม ทำให้การอ่านหนังสือพิมพ์สนุกขึ้น ที่สำคัญได้อารมณ์ด้วย เพราะเนื้อข่าวอาจมีรายละเอียดครบถ้วนก็จริง แต่คงบอกความรู้สึกได้ไม่ดีเท่าเห็นภาพเคลื่อน ไหวเอง ส่วนตัวนั้นชอบไอเดียนี้มาก ด้าน นายธนกร ธนวชิระสิน นักจัดรายการวิทยุในพื้นที่ ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้มือถือแบบสมาร์ทโฟนกันแทบจะหมดแล้ว เนื่องจากปรับเปลี่ยนมาร่วมในการทำงานในแต่ละวันได้ จึงเชื่อว่าแอพตัวนี้จะมีผู้ดาวน์โหลดมากมาย ถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการสื่อไทย แถมยังไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากด้วย

ที่ศูนย์สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า เป็นความแปลกใหม่ที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ถือว่าเดลินิวส์กล้ามาก คือกล้าที่จะปรับเปลี่ยนปรับปรุงพัฒนาการนำเสนอข่าวให้เหมาะสมกับสังคมยุคนี้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดูแลปกป้องประชาชน จำเป็นมากที่จะต้องเสพข่าวในแต่ละวันให้ทัน ครั้นจะไปรอดูทางเว็บไซต์หรือโทรทัศน์คงไม่ทันการ เพราะมีเวลาน้อย ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คนหนึ่งเชื่อว่า อย่างน้อยข้าราชการตำรวจทุกที่ต้องโหลดแอพนี้มาใช้ร่วมกับการทำงานแน่นอน ขณะที่ นายวิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้ประสานงาน อบจ.สุพรรณบุรี เห็นใกล้เคียงกันว่า นวัตกรรมนี้จะทำให้ผู้เสพข่าวคึกคักมากขึ้น อีกทั้งวงการข่าวไทยคงจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ออกมาแข่งขันมากกว่านี้อีก ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็หนีไม่พ้นประชาชน

ขณะเดียวกัน นายอรรถยา สุนทราย รองหัวหน้าแผนกฝ่ายประชาสัมพันธ์ ม.รังสิต เปิดเผยว่า เดลินิวส์แฟลชเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการรับรู้ข่าวสาร ทำให้ทุกคนเข้าถึงข่าวสารแบบเต็มอรรถรส ทั้งภาพ ทั้งเนื้อหาและเสียง สอดคล้องกันแถมช่วยจำกัดเวลาในการอ่านข่าวเหมาะกับคนทำงาน อีกทั้งรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ ด้าน นายมานพ สังขลาบริบูรณ์ นักศึกษาปีที่ 4 คณะศิลปศาสตร์ ม.รังสิต ให้ความเห็นว่า เป็นผลประโยชน์ที่ได้กับนักศึกษาโดยตรง เพราะไม่ใช่การรับรู้ข่าว สารเพียงตัวหนังสือ แต่กลับเห็นภาพเคลื่อน ไหวด้วย ปัจจุบันกลุ่มนักศึกษาจะอ่านข่าวทางอินเทอร์เน็ตซึ่งต้องเสียเวลาพอสมควร แต่คราวนี้ถ้าอยากเห็นคลิปข่าวไหนก็แค่กดถ่ายรูปที่ภาพข่าวเท่านั้น วิดีโอก็ปรากฏแล้ว เรียกว่าเป็นความอินเทรนด์ที่เท่มาก.

Create Date : 30 พฤษภาคม 2556		0 comments
Last Update : 30 พฤษภาคม 2556 15:53:35 น.
Counter : 22642 Pageviews.
Share Tweet