แพลนไปฮังการี่แต่ทำไมมาโบรโน ที่เชคได้ล่ะเนี่ย งั้นมาดูเทศกาลอาหารนานาชาติเลยล่ะกัน
สวัสดีค่ะ เหตุเกิดเมื่อวันเสาที่แล้วค่ะ คือจริงๆ แพลนไว้ว่าจะไปฮังการี่กัน (จะว่าแพลนรึเปล่าไม่ทราบเพราะคิดวันพฤหัส) สามคนอีกเหมือนเคย เลดี้นูล่าจะมีหน้าที่ทำทริปเที่ยวแล้วไปเสนอหนุ่มๆ ตอนกลางวันวันศุกร์ยัง เออออตกลงว่าจะไปเลยค่ะ แต่พอตกเย็นลูกสาวเพื่อนชาวมาเลป่วยค่ะ เข้าโรงพยาบาลอยู่ที่เมืองไทย เค้าเลยตัดสินใจไม่ไป (คือเมียบอกว่าถ้าไปแล้วไม่ต้องกลับมาค่ะ อิอิ) เราเป็นเพื่อนก็เลยต้องอยู่เพื่อน (เป็นเพื่อนที่ดีใช่ไม๊ค่ะ)แต่เราก็ยังมิวายหาเรื่องไป Brno ล่ะกันใกล้ดีไปเช้าเย็นกลับค่ะ (แต่ไปกันสองคนค่ะเพราะเพื่อนยืนยันว่าจะเข้าออฟฟิสไปเคลียงาน)บางคนอาจจะไม่รู้จักโบรโน่ บางคนอาจเคยได้ยินมาบ้าง ถ้าย้อนไปในตอนที่สโลวาเกียยังไม่แยกตัวออกมา เราจะได้ยินว่าเป็นประเทศเชกโกสโลวาเกีย ใช่ไม๊ค่ะ ซึ่งจะมีเมืองใหญ่ๆ สามเมืองด้วยกันตามลำดับเลยนะค่ะ คือ Praha หรือที่รู้จักกันว่าPrague ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเชกในปัจจุบัน และBrno ก็เป็นเมืองใหญ่อันดับสอง สุดท้าย Bratislava เป็นเมืองใหญ่อันดับสาม และเป็นเมืองหลวงของสโลวาเกียในปัจจุบันค่ะใช้เวลาเดินทางจากเทรนชินถึงโบรโน่ประมาณ สองชั่วโมงค่ะ อันนี้ไม่ได้ขึ้นโฮเวนะค่ะ ขับแบบไปเรื่อยๆ พอเข้าเขตเชคเราก็เติมน้ำมันก่อนค่ะ น้ำมันที่นี่ถูกกว่าที่เทรนชินค่ะ แต่ที่ไปสะดุดเข้าคือ เลดี้นูล่าอยากเข้าห้องน้ำค่ะ ก็เดินไปเข้าปกติแต่เปิดประตูไม่ออกค่ะ แล้วเห็นว่ามีปุ่มติดอยู่กับกำแพงหน้าห้องน้ำ ด้วยความฉลาดก็คิดว่าคงต้องกดเรียกใครให้มาเปิดค่ะ พอกดไปก็มีเสียงเหมือนไฟชอตค่ะ เลดี้นูล่าเลยไม่กล้าจับแต่ตรงบริเวรนั้น ยืนอยู่หน้าห้องน้ำก็ได้ยินอีก สื่อๆๆๆๆๆ ทีนี้เลดี้นูล่าเลยลองใช้นิ้วแตะๆ แล้วค่อยๆ เปิด ค่ะ ที่แท้มันก็เป็นอัโนมัตินี่เองค่ะจริงๆ ระหว่างทางก็อยากลงไปซื้อโน่นนั่นนี่ แต่ไม่ได้แลกตังมาค่ะ เลยอดจนกว่าจะมาถึงเชก ที่นียังใช้เงินโคลนอยู่ค่ะ ไม่ใช้ยูโรนะค่ะพอหาที่แลกเงินได้เราก็จัดการกับ เจลาโต้ก่อนเลยค่ะ ของเลดี้นูล่าเป็นคาราเมลกับแอปเปิ้ลค่ะ ของคุณซามี่เป็น มะนาว กับอะไรไม่รู้จำไม่ได้ง่ะ เปรี้ยวทั้งสองอย่างค่ะ คือซามี่เป็นคนเปรี้ยวๆ อยู่แล้วนี่ค่ะ เป้าหมายของเราคือ Cathedral of St. Peter and Paulนี่ค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ไม่ไกลมากก็ถึงแล้วค่ะ ภายในค่ะ เท่าที่ทราบคือสมบัติที่อยู่ในนี้ทั้งหมดถูกย้ายไปฝากที่เวียนนาในช่วงที่มีสงครามและหลังจากนั้นก็ไม่ได้เอากลับมาเลยค่ะนี่เป็นชุดบาทหลางสมัยก่อนค่ะ ต่อไปเป็น ST. Jame's ChurchRed Church ค่ะ โบสถ์นี้เป็นโบสถ์แห่งแรกในยุโรปของชาว noncatholic ค่ะ เดินเมื่อยกันแล้วมาดูของกินกันบ้างนะค่ะ ตอนที่ไปมีเทศกาลอาหารมาออกบูทมากมายเลยค่ะแล้วก็มีการสาธิตทำอาหารด้วยค่ะอันนี้เป็นเหมือนพวกบาโรน่ารึเปล่าไม่แน่ใจค่ะ แต่ก็ไม่ได้ลอง เห็นสัญชาติมาจากฝรั่งเศษด้วย แต่ที่แปลกใจคือมีหลายรสชาดมาก เช่น ม้า ชีส หนู อันนี้เป็นชีสย่างค่ะ สอยมาหนึ่งอันค่ะ ราคาค่อนข้างแพงค่ะ ประมาณสองยูโร รสชาดก็เค็มค่ะเพราะคนที่นี่ทานเค็มมาก แต่ก็อร่อยดีค่ะ ทานได้ต่อไปเป็นอาหารพื้นเมืองค่ะ เป็นเนื้อปั้นราดซอสมะเขือเทศค่ะ สอยมาอีกค่ะ แล้วก็ได้มาแค่นี้แลกกับสองยูโรชีสอีกค่ะขนมหน่อยมั้ยค่ะไวน์ก็มีค่ะ ไวน์ยี่ห้อนี้เป็นไวน์ของเชคค่ะ รสชาดใช้ได้เลยทีเดียวเพราะที่บ้านเลดี้นูล่าก็ดื่มไวน์ยี่ห้อนี้ค่ะหลังจากทานเสร็จแล้วคุณซามี่บ่นค่ะว่าอยากทานข้าวหน้าเป็ด เลดี้นูล่าเลยต้องไปตามหาข้าวหน้าเป็ดให้ค่ะเป็นร้านอาหารจีนค่ะ จริงๆ มีภาพเยอะมากค่ะ แต่ตอนนี้ตาลายมากจ้องคอมที่ทำงานทั้งวันกลับมาจ้องที่บ้านอีก ปวดตามากแล้วค่ะตอนนี้ ลาไปเลยนะค่ะ ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะค่ะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [