ชุมชนร่างกฎหมายและให้ความเห็นทางกฎหมาย

 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 กรกฏาคม 2553
 

ฟังหลักธรรมผ่านบทกวี โดย ชายหยก


ด้วยความเศร้าส่วนตัว..จากการพลัดพรากในสิ่งที่เรารัก ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่ามีบทกวีบทหนึ่งที่เราจดจำได้ขึ้นใจ และใช้เป็นสิ่งเตือนใจเราตลอดเวลา ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นบทกวีที่สะท้อนความรู้สึกได้อย่างดี (ถ้าคนอ่านคิดตามนะ)

ก็เลยคิดว่าบทกวีบทนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับใครหลายๆ คน ที่พ่อ-แม่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกเสียใจในภายหลังว่ายังไม่ได้ทำอะไรให้ท่าน

...อย่าละเลยท่านนะ...

พ่อแก่แม่เฒ่า
พ่อแม่ ก็แก่เฒ่า จําจากเจ้า ไม่อยู่นาน
จะพบ จะพ้องพาน เพียงเสี้ยววาร ของคืนวัน
ใจจริง ไม่อยากจาก เพราะยังอยาก เห็นลูกหลาน
แต่ชีพ มิทนทาน ย่อมร้าวราน สลายไป

ขอเถิด ถ้าสงสาร อย่ากล่าวขาน ให้ช้ำใจ
คนแก่ ชะแรวัย คิดเผลอไผล เป็นแน่นอน
ไม่รัก ก็ไม่ว่า เพียงเมตตา ช่วยอาทร
ให้กิน และให้นอน คลายทุกข์ผ่อน พอสุขใจ

เมื่อยาม เจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึง เมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่า เฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยง จนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกาย ก็ยอมทน
หวังเพียง จะได้ยล เติบโตจน สง่างาม

ขอโทษ ถ้าทําผิด ขอให้คิด ทุกทุกยาม
ใจแท้ มีแต่ความ หวังติดตาม ช่วยอวยชัย
ต้นไม้ ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวัง อยู่นานได้
วันหนึ่ง คงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ ให้วังเวง

อ.สุนทรเกตุ






มีบทกวีอีกบทเกี่ยวกับแม่ที่น่าสนใจ

งานวันเกิด ที่ยิ่งใหญ่ ใครคนนั้น ฉลองกัน ในกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศ สรรเสริญ เพลินกมล วันเกิดตน ชีพสั้น เร่งวันตาย
ณ มุมหนึ่ง ซึ่งเหงา น่าเศร้าแท้ หญิงแก่แก่ ซึ่งหงอย และคอยหาย
โอ้วันนี้ ในวันนั้น อันตราย แม่คลอดสาย..โลหิต แทบปลิดชนม์

วันเกิดลูกนั้น คล้ายวัน..ตายแม่ เจ็บท้องแท้ สักเท่าไร ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มครรภ์ จะคลอด รอดเป็นคน เติบโตจน มาบัดนี้ นี่เพราะใคร
แม่เจ็บเจียร ขาดใจ ในวันนั้น กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีพแล้ว ก็หลง ระเริงใจ ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา

ไฉนหนอ เขาเรียกกัน ว่าวันเกิด วันผู้ให้ กำเนิด จะถูกกว่า
คำอวยพร ที่เขียน ควรเปลี่ยนมา ให้มารดา เป็นสุข จึงถูกแท้
เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดหนา แล้วหันมา คุกเข่า กราบเท้าแม่
ควรคิดถึง พระคุณ อบอุ่นแท้ อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตัว






สำหรับบทนี้ เราก็ชอบมาก เป็นบทปลงสังขาร เคยฟังสวดแล้วเพราะดี ฟังแล้วปลงได้แยะ

บทปลงสังขาร
มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม
นิพานมีสุข อยู่ไยมิไป
ตัณหาหน่วงหนัก หน่วงชักหน่วงไว้
ฉันไปมิได้ ตัณหาผูกพัน
ห่วงนั้นพันผูก ห่วงลูกห่วงหลาน
ห่วงทรัพย์สิน ศฤงคาร

จงสละเสียเถิด จะได้ไปนิพพาน ข้ามพ้นภพสาม
ยามหนุ่มสาวน้อย หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ
แก่เฒ่าหนังยาน แต่ล้วนเครื่องเหม็น
เอ็นใหญ่เข้าร้อย เอ็นน้อยเข้าพัน มันมาทำเข็ญใจ
ให้ร้อน ให้เย็น เมื่อยขบทั้งตัว ขนคิ้วก็ขาว นัยน์ตาก็มัว
เส้นผมบนหัว ดำแล้วกลับหงอก หน้าตาเว้าวอก ดูหน้าบัดสี

จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรย ไม่มีเกสร
จะเข้าที่นอน พึงสอนภาวนา พระอนิจจัง พระอนัตตา
เราท่านเกิดมา รังแต่จะตาย ผู้ดี..เข็ญใจ
ก็ตายเหมือนกัน เงินทองทั้งนั้น มิติดตัวเรา

ตายไปเป็นผี ลูกเมียผัวรัก เขาชักหน้าหนี
เขาเหม็นซากผี เปื่อยเน่าพุพอง
หมู่ญาติพี่น้อง เขาหามเอาไป เขาวางลงไว้
เขานั่งร้องไห้ แล้วกลับคืนมา

อยู่แต่ผู้เดียว ป่าไม้ชายเขียว เหลียวไม่เห็นใคร
เห็นแต่ฝูงแร้ง เห็นแต่ฝูงกา เห็นแต่ฝูงหมา ยื้อแย่งกันกิน
ดูน่าสมเพช กระดูกกูเอ๋ย เรี่ยรายแผ่นดิน
แร้งกาหมากิน เอาเป็นอาหาร

เที่ยงคืนสงัด ตื่นขึ้นมินาน
ไม่เห็นลูกหลาน พี่น้องเผ่าพันธุ์
เห็นแต่นกเค้า จับเจ่าเรียงกัน
เห็นแต่นกแสก ร้องแรกแหกขวัญ
เห็นแต่ฝูงผี ร้องไห้หากัน

มนุษย์เราเอ๋ย อย่าหลงกันเลย ไม่มีแก่นสาร
อุตส่าห์ทำบุญ ค้ำจุนเอาไว้ จะได้ไปสวรรค์
จะได้ทันพระเจ้า จะได้เข้าพระนิพพาน

อะหัง วันทามิ
สัพพะโส อะหัง วันทามิ
นิพพานะปัจจะโย โหตุฯ







Create Date : 21 กรกฎาคม 2553
Last Update : 21 กรกฎาคม 2553 13:17:15 น. 0 comments
Counter : 455 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

KMyoungelite
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]








[Add KMyoungelite's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com