พวกเราชาวเรือคุยกัน-ภาค2
BALTIC DRY INDEX DAILY
BALTIC CAPESIZE INDEX DAILY
BALTIC PANAMAX INDEX DAILY
BALTIC HANDYMAX/SUPRAMAX INDEX DAILY
BALTIC HANDY SIZE INDEX DAILY
> COMPARISON BETWEEN INDICES
BDI T/C Avg & BSI T/C Avg
BDI WITH TECHNICAL ANALYZE
DOW JONES INDUSTRIAL AVERAGE COMPARE WITH SHIPPING DAILY
DOW JONES INDUSTRIAL AVERAGE IN 5 DAYS
SHIPPING OF NASDAQ IN 5 DAYS
SHIPPING STOCKS OF NASDAQ IN 1 YEARS
CRUDE OIL FUTURE
U.S. Dollar to Thai Baht Exchange Rate
TTA TECHNICAL ANALYSIS 150 DAYS
Monitor Update 14/8/51
ในที่สุดก็ถึงวันที่รอคอย ผมพยายามสงบปากสงบคำ เลิกเชียร์ไปพักหนึ่งเพราะสภาพการณ์ของหุ้นตัวนี้ที่ผ่านมาแสดงอาการของการสะสมตัวของหุ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโวลุ่มที่เบาบาง ราคาที่นิ่งๆอยู่แถว 36-38 มาร่วมเดือน โดย SET ลงก็ไม่ลง SETขึ้นก็ไม่ขึ้น ทำให้คนที่ถือหุ้นตัวนี้อยู่อึดอัดและอยากเทขายออกมาในช่วงท้ายๆของการสะสม จะเล่นรอบก็เล่นไม่ได้ผิดฟอร์มของ TTA ไปมาก หลังจากที่ซื้อกลับที่ขายไปคราวก่อนได้ราคาดีพอควรคือ 36.75 วันที่Break out ระยะสั้นทางเทคนิคผมเข้าไปซื้อที่ราคาปิด และราคาเปิด ที่ 38.5 ด้วย เมื่อวันที่ 30/7/51 รวมทั้งวันที่ 31/7/51 อีกLot ที่ราคา 37.75 จนเต็มปอด โดยเดือนสิงหาทั้งเดือนผมไม่ได้ Trade อีกเลย โดยเอาเวลาไปทำงานประจำตามปรกติ เมื่อวานเป็นวันแรกที่ BDI ขึ้นมาเป็นบวก คือ+105 จุด วันนี้เป็นวันที่งบออกมากำไรต่อหุ้น 3.16 บาท รวม 4 ไตรมาสหลังประมาณ 12.6 หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ราคาปิดวันนี้คือ 3.25 เท่า BVเท่ากับ 35.63 แถม BDI วันนี้บวกแรงอีกวันที่ 323จุด หรือคิดเป็น 4.55% แสดงถึงการเปลี่ยนแนวโน้มอย่างชัดเจน
เหตุผลที่ผมกล้าที่จะถือไว้ตามข้างต้น ก็คือตามที่เคยบอกไว้ว่า ราคาตรงนี้มันถูกเกินไปแล้ว การที่จะลงไปอีกค่อนข้างยาก BDI ที่ลงก็เป็นเรื่องแค่ชั่วคราว ช่วงจัดโอลิมปิค และ BDI ไม่จำเป็นต้องฟื้นหลังจบโอลิมปิคเพราะธุรกิจต่างๆจำเป็นต้องรีบสั่งวัตถุดิบก่อนเมื่อหลังโอลิมปิคแล้วจะดำเนินการต่อได้ทันทีเพราะส่วนใหญ่โรงงานในจีน ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ถ่านหิน สินค้าเกษตร ใกล้หมดสต๊อกกันพอสมควร การรีบาวด์ของ BDI พร้อมกับการประกาศงบที่สวยงามตามคาดจะเป็นการผลักดันราคาหุ้น TTA ให้ทะยานเป็นขาขึ้นได้ต่อเนื่อง TTA ในปอดผมร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้ถูกขายออกไป 40% วันนี้ที่ราคา 41 บาท ถามว่าเสียดายไหม ก็ยอมรับว่าเสียดาย เพราะไม่คิดว่า BDI วันนี้จะกลับมาบวกแบบรุนแรงเช่นนี้ แต่ก็โอเคเพราะยังมีหุ้นเหลือให้ขายอีก 60 % ของปอด ซึ่งผมมองว่ารอบสั้นๆ แนวต้านจะอยู่ที่ 42 และ 45 บาท
โดยรวมในปอดผมเองตอนนี้ชนะตลาดไปแล้ว 30.28% เทียบจากวันฐาน 31/3/51 ซึ่งวันเปิดบล็อก(SET=825จุด) โดยมูลค่าปอดโตขึ้น 15.3% และมั่นใจว่าวันพรุ่งนี้คงจะดีกว่าวันนี้ได้อีก
Monitor Update 24/7/51 ไม่ได้มาคุยกันซะหลายวันเลยนะครับ ผมเองยุ่งเรื่องงานมาทั้งอาทิตย์ ช่วงนี้แทบไม่มีวันไหนที่ได้ดูหุ้นแบบเต็มเหนี่ยวได้เลย แม้กระทั่งวันนี้กว่าจะมาได้ดูก็ช่วงบ่ายแล้ว และวันนี้เองเป็นวันที่ผมตัดสินใจสิ่งที่ตั้งใจจะทำหลังจากพยายามไม่สนใจในช่วงที่ลงไปโลว์ประมาณ 660 จุด เพราะตรงนั้นตามที่บอกไว้ว่ามันไม่ใช่จุดขายและผมได้บอกแนวต้านไว้ตามลำดับตั้งแต่ 698 เป็นต้นไปจึงจะเป็นจุดทยอยขาย ซึ่งมันเต็มที่ได้แค่ 696.77 เมื่อวานซึ่งดูแล้วพอใกล้ๆก็มีแรงขายรุนแรงออกมา และจากการที่จับตาดูสัญญาณต่างๆทั้งของSET รวมทั้งบลูชิพทั้งหลายหรือแม้กระทั่ง TTA มันบ่งบอกและเตือนให้ผมรู้ว่าเวลาแห่งการ Short Against Port มันประจวบเหมาะเอาพร้อมๆกันในหุ้นหลายๆตัว จากหุ้นที่ผมถือไว้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงแปรเปลี่ยนเป็นเงินสด 65 % ในวันนี้ โดย TTA ผมขายไปที่ราคา 39 และ 38.5 จากที่ไปรับมาต่ำสุดที่ 36.5 เมื่อวันพุธที่แล้วและหากมีแนวโน้มในการขึ้นต่อผมคงเลือกในทางขายเป็นหลัก ในช่วงนี้เนื่องจากมันคือคลื่น X ไม่ใช่คลื่น 3 การจะถือไปยาวๆยังไม่ควร ขณะที่หากจะรอเล่นงบ TTA มันยังไม่ใช่เวลานี้เพราะกว่าจะประกาศก็ปาเข้าไป 20 สิงหาโน่น อีกเกือบเดือน เลยขอเล่นตามสไตล์ที่ถนัดของผมคือชิงจังหวะ แม้ว่าช่วงนี้จะยุ่งๆ ก็คงต้องทำเพราะสนิมจะได้ไม่เกาะครับ ส่วน TTA วันนี้ BDI ก็ยังคงค่อยๆอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่องหลังจากหลุด 9000จุดมาตอนนี้ เหลือแค่ 8771 และแนวโน้มน่าจะยังอ่อนตัวอีกซักพัก จนกว่าใกล้จะหมดโอลิมปิค ผมว่าตอนนั้น BDI น่าจะกลับมา rally อีกครั้งแบบแรงๆนะครับ สำหรับสัญญาณ 60 นาที เกิดสัญญาณขายไปแล้วในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้ง Slosto และ MACD ผมเลยต้องตามน้ำไปก่อน และบทสรุปสำหรับวันนี้ ถ้านับจากเปิดบล็อกนี้ เมื่อ 31 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งดัชนี้ตอนนั้นอยู่ที่ 825จุด ถ้านับเป็นจุดอ้างอิงพอร์ตผมวันนี้ก็ยังบวกอยู่ประมาณ 7-8 % และหากเทียบกับ SET ก็ถือได้ว่าชนะ SET อยู่ที่ 24% เนื่องจาก SETลงมาจาก 825 เหลือเพียง 691.48 ในวันนี้ซึ่งถือว่าลงมาถึง 16 % แล้วนั่นเอง และต่อจากนี้หากได้จบการรีบาวด์จริงในคลื่น X มันก็จะต้องลงไปบริเวณโลว์เดิมเป็นอย่างน้อยได้อีกครั้งครับ
เมื่อกี้เหลือบไปดูดาวเห็นลงแรง เลยไปพบข่าวซึ่งส่งผลต่อ Sentiment นั่นคือรายงานยอดขายบ้านในเดือนมิย.ของเมกาเองลดลงมากกว่าคาดไปมากทำให้เกิดความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมต่ออีกครั้งหนึ่งครับ Monitor Update 17/7/51 เมื่อวาน SET ได้ลงมาอีก 23 จุดมาปิดที่ 669.97 จุด พร้อมๆกับมาตรการรัฐที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือคนจนเป็นหลัก โดยรายละเอียดผมจะไม่กล่าวถึงตรงนี้แต่ผลที่จะส่งผลต่อประเทศชาติในระยะสั้นและระยะยาวคงต้องดูกันต่อไป ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยของแบงค์ชาตินั้นหลายฝ่ายยังมีความเห็นต่างออกไปแต่ส่วนที่เห็นว่าควรขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาเรื่องเงินเฟ้อนั้นควรส่งผลในเชิงบวกบ้างไม่มากก็น้อย และน่าจะส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้อีกครั้งหรือไม่ต้องตามดูกันครับ
ทีนี้มาดูทางเทคนิค SET กันครับ ผมขอนำกราฟจากอีไฟมาเพื่อตรวจตราสัญญาณต่างๆว่าเป็นอย่างไรกันบ้างซึ่งในเทคนิคเชิงสถิติแล้วผมว่าน่าสนใจมากครับ ราคาปิดเมื่อวานลงมาแรงต่อเนื่องที่ 669.97 จุด โดยต่ำกว่าLower BB ที่ 685 ไปเรียบร้อย ตรงนี้ผมถือว่าน่าสนใจครับ เพราะหากวันศุกร์สามารถปิดได้เหนือ 680 จะมีแนวโน้มเป็นสัญญาณ Reversal ในรูปแบบ Bolinger ได้ครับ โดยหาก Rebound เป้าแรกเลยคือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถว 695-700 หรือเป้าหมายทางฟีโบจะอยู่ที่ 698 715 730 ตามลำดับ ลองมองมาดูที่ RSI ได้ลงมาต่ำกว่า 20 เรียบร้อยแล้วโดยปิดที่ 19.18 ตรงนี้แหละครับที่ผมมองว่าในเชิงสถิติย้อนหลังไป 10 ปีถือว่าต่ำมากและมีโอกาสรีบาวด์แรงๆได้ทุกเมื่อ ซึ่งแถวนี้ผมได้ย้ำมาหลายครั้งแล้วว่าหมดเวลาขายแล้วนะครับ เมื่อวานต้องซื้อไม่ใช่ขาย หรือหาก Short against port ก็ต้องรับกลับ อย่าวางใจ เพราะการ Short ออกมาเกือบทุกคนขาดทุนมากันอย่างละมากน้อยแล้วทั้งนั้น ผมอยากจะบอกว่าในสถานการณ์อย่างนี้การติดหุ้นแม้ว่าขาดทุนแต่ทนถือซึ่งดูแย่แต่ยังไม่แย่เท่ากับการขายขาดทุนในวันสุดท้ายก่อนรีบาวด์อย่างแน่นอนครับ ซึ่งมันคือความผิดพลาดครั้งใหญ่หากขายแล้วมันดีดตัวอย่างรุนแรงท่านจะไม่มีโอกาสซื้อกลับและทางmental แล้วถือว่าเสียศูนย์อย่างแรงครับ
ด้าน TTA นั้น เมื่อวานถือได้ว่าทำจุดต่ำใหม่ที่ 36 บาท แม้ว่าจะปิดได้ที่ 36.5 ส่วนสัญญาณระยะสั้นราย 60 นาที ถือว่าดูดีขึ้นและมีแนวโน้มกลับตัวได้โดยแสดงสัญญาณซื้อทาง Slosto ส่วน MACD DEMA แม้ว่ายังไม่เกิดสัญญาณซื้อแต่หากวันศุกร์เปิดบวกได้อย่างน้อย 2 สเตป ก็จะส่งสัญญาณซื้อได้ทันที ขณะที่ RSI (65) ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำพอที่จะเริ่มเข้าซื้อได้ และหากมีจุดกลับตัวในวันศุกร์มันเป็นการตอกย้ำถึง Divergence ได้จากสัญญาณทุกตัวเลยทีเดียว
ทีนี้มาดูข่าวดีเมื่อคืนที่ทำให้ดาวโจนส์กระโจนกลับขึ้นมาได้ถึง 276 จุด หรือคิดเป็นการดีดถึง 2.52% นั่นคือราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรงถึง 4 เหรียญมาอยู่แถว 135 เหรียญ และข่าวผลประกอบการของ Well Fargo สถาบันการเงินอันดับ 5 ของ สหรัฐ ที่มีผลกำไรดีขึ้นสูงมากในรอบ 16 ปี ซึ่งนับว่าเกินคาดมากทำให้ผ่อนคลายความวิตกทางด้านปัญหาสินเชื่อลงได้มากทีเดียว วันนี้ SET บ้านเราปิดแต่ไม่ใช่ปัญหาอะไรเพราะหากแนวโน้มหลายๆอย่างเริ่มดีขึ้นหุ้นมันก็ต้อง Retrace อยู่ดีครับ สุดท้ายยินดีกับคนที่เข้าซื้อเมื่อวาน(หรือว่าเร็วเกินไป???) ส่วนตัวผมเข้าซื้อกลับไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานตามสัญญาที่ผมบอกไว้ว่าจะซื้อกลับหาก TTA และ SET ลงมาแรงอีกวัน โดยเข้าซื้อที่ 36.50 หลังจากที่ขายออกไป เมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมาครับ ทำให้ตอนนี้เต็มปอดอีกครั้ง ซึ่งกลยุทธของผมที่ใช้ตอนนี้คือการผสมผสานระหว่างทยอยรับ กับการเล่นรอบเพื่อลดต้นทุนไปเรื่อยๆโดยต้นทุนเฉลี่ย TTA ของผมตอนนี้อยู่ที่ 38.XX บาทครับ
Monitor Update 16/7/51 วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมจำเป็นต้องมาบอกกล่าวกันอีกครั้งหลังจากการลงจนหลุด 700 จุดเมื่อวานโดยปิดที่ 693 จุด ซึ่งนับเป็นการหลุด 700 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน โดยต่างชาติยังขายหนักมือต่อเนื่องอีก 2,400 ล้าน และนับตั้งแต่ 26 พค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่ฝรั่งขายจริงๆจังๆมาถึงเมื่อวานขายรวมกันแล้ว 74,000 ล้าน โดยฝ่ายกองทุนเองชลอการซื้อลงทำให้รายย่อยรับไปเต็มๆ แต่การลงไป 23 จุดเมื่อวานโดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าดีครับ เนื่องจากสัญญาณต่างๆได้ไถลลงไปอย่างเร็วไม่ใช่ซึมๆลงวันละนิดวันละหน่อย ซึ่งองศาการลงจะไม่ชันแต่จะลงอย่างยาวนานกว่า เมื่อวานราคาปิดของ SET หลุดแบนล่าง BB อีกครั้งแถว 698 สัญญาณ RSI ลงมาแตะ 22-23 ซึ่งหากวันนี้SETยังเน้นในทางลงอีกมันจะเป็นการลงเพื่อสิ้นสุดคลื่น 5 ย่อยในขา C แล้วนะครับ!!!!!! อย่างที่เขียนไว้เมื่อคราวก่อนว่าการ Short สำหรับท่านที่กล้าทำในวันที่ 11 ที่ผ่านมามันเป็นวันสุดท้ายที่ท่านทำได้ หลังจากนี้หมดเวลาครับ ต้องรออย่างเดียว จากวันนั้นมาวันนี้ลงมาแล้วเป็นระยะทางถึง 40 จุด ซึ่งผมเองได้Short TTA ไปส่วนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เงินสดที่กำไว้เตรียมไว้สำหรับการซื้อเมื่อสุดรอบขาลงครั้งนี้ โดยหากวันนี้ลงแรงอีกครั้งผมจะซื้อกลับครับ.... เมื่อวานจากการลงแรงๆและหลุด 700 จุด มันแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่จะกลัวไม่กล้าซื้อ คนมีหุ้นก็กลัวและอยากขาย แต่ผมอยากจะบอกว่ามันเป็นโอกาสซื้อที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งที่ท่านอาจจะเสียดายหากไม่ได้ซื้อในวันนี้เมื่อมองย้อนกลับมาดูอีกครั้งในเดือนหน้าพร้อมกับบอกกับตัวเองว่า อีกแล้ววว ทำไมตรูต้องมากล้าซื้อหุ้นแถวดอยทุกที แต่ตอนลงไปตีนดอยกลับนั่งมองด้วยความกลัวและไม่มีหุ้นติดพอร์ตซักนิด
Monitor Update 10/7/51 วันนี้ตั้งใจจะพิมพ์อัพเดทตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแต่พอดีเมื่อเย็นเจอ accident ตอนล้างรถเจ้าวอลโว่รุ่นเดอะของผมเอง ขอบทะเบียนรถมันบาดนิ้วเสียเลือดไปหลาย พิมพ์แล้วมันเสียวแปร้ป เลยเข้ามาคุยดึกหน่อยนะครับ ส่วนตัวแล้วมองว่าช่วงบ่ายเป็นโอกาส Short รอบสุดท้าย(หากใจถึง)ในคลื่น2ย่อยของขา C ซึ่งคาดว่าน่าจะลงต่อไปสุดคลื่น 5 ย่อยของขา C แถว 698-700 ซึ่งหากตรงนั้นฝรั่งขายน้อยลงแล้วจะดีดขึ้นไปได้ดีๆเลยครับ อาจวิ่งไปได้ถึง 760-765 ซึ่งอาจเป็นคลื่น X ในขาลงหรือคลื่น1 ในขาขึ้นรอบใหม่ก็ได้ ซึ่งต้องคอยดูกันอีกที แต่หากแถว 700 แล้วฝรั่งยังขายหนักอยู่และหลุด โน่นเลยครับ 666 แต่ผมหวังว่ามันจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นนะครับ
TTA เองวันนี้มีการดีดตัวแรงพอสมควรถ้านับจาก 36.5 มาที่ 39 ก็รีบาวด์มา 7% พรุ่งนี้หากวิ่งต่อหรือเปิดมาบวกผมอาจเลือก Short บางส่วนที่รับมาแถว 37 บาทออกไป ซึ่งขึ้นกับสถานการณ์นะครับ โดยเป้าหมายในขาลงคงอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 20 วันแถว 40.25-40.75 ซึ่งความจริงโอกาสวิ่งไปแตะในวันพรุ่งนี้คงมีไม่มากเท่าไหร่โดยมีเงื่อนไขที่ดาวโจนส์คืนนี้ต้องบวกแรงเท่านั้นครับ
โดยพอร์ตส่วนตัวผมช่วง 2 วันมานี้ตีตื้นมาได้ 5 % ขณะที่ SET ไม่ขยับไปไหน ทำให้ SET ที่ลงมาจาก 884 จุดลงแล้ว 18% ส่วน พอร์ตผมลบจากจุดอ้างอิงเมื่อวันที่ 21 พค. ลงมา 7 % เท่ากับชนะ SET อยู่ 11 % ซึ่งถ้าผมไม่ได้ซื้อกลับเลยนับแต่ขายออกไปแถวดัชนี 884 จุด ก็คงชนะตลาดไป 18% แต่ก็ไม่เป็นไร และสมมุตินะครับ(ย้ำว่านี่คือเรื่องสมมุติ)ว่า SET กลับไปอยู่ 884 ใหม่โดยที่หุ้นที่ผมถืออยู่กลับไปที่ราคาเมื่อ 21 พค.ใหม่ พอร์ตผมจะโตขึ้นเทียบกับวันนี้ 33%(รวมปันผล) เหตุผลนี้ทำให้ผมเชื่อว่าแถวนี้มันมี Downside risk ค่อนข้างต่ำแล้ว การที่หุ้นจะลงไปต่อนั้นมันค่อนข้างขืนพอสมควร แม้ฝรั่งยังขายอยู่ แต่ตอนนี้กองทุนเริ่มเข้ามารับหุ้นนอกเหนือจากรายย่อย ซึ่งก็ถูกและเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว ผมเองหลังๆเชื่อในเครดิตการเล่นของกองทุน ผมคิดว่าหลังๆมานี้กองทุนเล่นได้ฉลาดกว่าฝรั่งในภาพรวมและจังหวะการลงทุน (อดีตอีกเรื่องนะครับเพราะยังไงต้นทุนรวมของฝรั่งก็ยังคงต่ำอยู่ดี) ฝรั่งมักมาขายหนักช่วงดัชนีต่ำๆหลายครั้งแล้วไม่ว่าจะเป็นช่วงหม่อมอุ๋ย Subprime 2 รอบ และช่วงนี้ฝรั่งไปไล่ซื้อแถว 820-880 ซะเยอะ แม้ว่าจะไหวตัวก่อนรายย่อยขายลงมารายทาง แต่กองทุนกลับเล่นได้ดีกว่าเพื่อนเพราะขายไปหนักแถว 880 และมารับโดยดูจังหวะที่เหมาะสมกว่ารายย่อยครับ
ปิดท้ายด้วยpollsของเวบเรือต่างชาติแห่งหนึ่งซึ่งเข้าใจว่าคนที่มาตอบน่าจะเป็นกลุ่มคนในวงการนะครับคือเป็นมุมมองของพวกเขา ผมว่าน่าสนใจนะครับจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ BDI ลงทีเดียว 963 จุด แต่ส่วนใหญ่ยังคงมองในแง่ดี หรือมีความกังวลกันน้อยครับ ส่วนใหญ่น่าจะเชื่อว่ามันเป็นการลงแบบชั่วคราวมากกว่าครับดังนั้นผมว่าควรนำไปประกอบการพิจารณาดูนะครับสำหรับแนวโน้มการเทรดช่วงต่อไป และหากท่านลองสังเกตดีๆนะครับ BHSI วันนี้บวกเป็นวันแรกนับตั้งแต่ 22 พค. ซึ่งลบมาทุกวันต่อเนื่องวันนี้พึ่งจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก และตัวนี้ที่ส่งผลต่อ TTA มากกว่า BDI นะครับ
Monitor Update 9/7/51 ช่วงนี้ต้องเน้นที่จะกล่าวถึงSET หน่อยนะครับ เมื่อวาน ลงมาปิดที่ 722.5 ลงมาประมาณ 8 จุด ทำให้ค่า RSI ลงมาแตะที่ 25.9 นับว่าเป็นจุดต่ำมากในเชิงสถิติ และทางเทคนิคคัล แถมราคาปิดยังหลุดแบนล่าง BB ลงมาแล้ว โดยมีโอกาสพลิกกลับได้ทุกเมื่อหากมีเหตุมากระทบเพียงเล็กน้อย การที่เมื่อวานศาลได้ตัดสินคดีใบแดง ซึ่งส่วนใหญ่ก็คงคาดกันอยู่แล้วและมีการตอบรับอยู่ในราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาได้ส่วนหนึ่ง เมื่อวานฝรั่งขายหนักมืออีกครั้งสามพันกว่าล้าน โดยรายย่อยและกองทุนเป็นส่วนที่เข้าไปรับซื้อเนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้นส่วนใหญ่ถูกมาก หลายตัว PE ต่ำกว่า 5 เท่าและต่ำกว่า BV แม้ว่า sentiment ทางการเมืองดูไม่ดีแต่หลังจากนี้มันก็คงชัดเจนลงไปว่าอนาคตและความมั่นคงของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นโดยปรกติไม่ชอบอะไรที่คลุมเครือ ฝุ่นตลบ หรือไม่ชัดเจน แต่หากมันชัดลงไปว่าจะไปทิศทางไหน อย่างนี้จะดีต่อตลาดหุ้นมากกว่า ส่วนหากวันนี้ตลาดเลือกที่จะลงนับจากนี้เป็นช่วงราคาที่น่าสนใจมากครับ เพราะผมเชื่อว่ารอบนี้มันใกล้สุดทางเต็มที เผลอๆวันนี้อาจมีการรีบาวด์ย่อยๆได้ครั้งหนึ่งโดยมีเป้าที่ 740-750 ซึ่งหากเล่นรอบให้รอขายตรงนั้นได้ ท่านใดที่ยังไม่มีหุ้นผมคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้ารับหุ้นในวันนี้นะครับเพื่อไปขายเมื่อมีการรีบาวด์ ส่วนคนที่ติดหุ้นอยู่ขอเตือนอีกครั้งนะครับว่ามันหมดเวลามาคัทลอสกันแล้ววันนี้ เพราะขายแล้วอาจพบว่าตัวเองนั่งเฉยๆแล้วเหงื่อออกในห้องแอร์เย็นเฉียบเอาได้ครับ ขอให้อดทนเอาไว้เพื่อรอขายในกรอบการรีบาวด์ดีกว่า
ส่วน TTA ผมอยากจะบอกว่าคนคิดขายตรงนี้อย่าทำนะครับ เพราะมันถูกมาก และการรีบาวด์อาจเกิดขึ้นได้แรง 5-8% ภายในวันเดียวโดยท่านได้แต่นั่งมองปริบๆ เนื่องจากSentiment ทางพื้นฐานไม่มีอะไรเสียหาย แถมดูดีขึ้นเมื่อ BDI บวก 183 เมื่อคืน และดาวโจนส์มีการรีบาวด์เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรง ทำให้ผ่อนคลายปัญหาเงินเฟ้อลงไปได้บ้าง วันนี้ผมขอทายว่าหากรีบาวด์กลุ่มแบงค์จะเป็นพระเอกเพราะลงมามากครับ ขอให้โชคดีทุกท่านครับ วันนี้ผมไม่ได้ดูตลาดอีกเช่นเคยเพราะต้องไปต่างจังหวัดแต่เช้า
Monitor Update 7/7/51 SET วันนี้ลงมาแรงอีกครั้งแบบไม่มีโวลุ่มถึง 12 จุด แต่ซื้อขายกันไม่เกินหลักหมื่นล้าน โดยฝรั่งยังคงขายอยู่อีกพันกว่าล้าน รวมการขายนับแต่ดัชนีลงมาจาก 880 จุด จนบัดนี้ 730 ฝรั่งขายมาแล้ว 58,000 ล้าน ซึ่งใกล้เคียงกับยอดขายรวมตั้งแต่ต้นปีประมาณ 59,000 ล้านบาท แต่หากดูจากสถิติย้อนหลังไป 13-14 ปี จะพบว่าฝรั่งซื้อหุ้นสะสมไว้เป็นจำนวนถึง 3 แสนล้านบาท ดังนั้นหากมองตรงนี้แล้วยังถือว่าที่ขายออกไปในปีนี้เพียง 16 % ของส่วนที่ซื้อไว้ ขณะที่ทั้งปียังไม่รู้ซึ่งอาจขายหนักขึ้นหรือสุทธิแล้วอาจกลับมาเป็นซื้อก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งจากสถิติย้อนหลังที่บอกเราได้ก็คือ แนวโน้มของต่างชาติซื้อมากกว่าขายในตลาดหุ้นไทยและผมเชื่อมั่นว่าในอนาคตมันก็ยังคงมีเทรนที่จะยังเป็นอย่างนั้นได้อยู่ ทำไมเหรอครับ หากสังเกตุกันดูว่าปี 1995-1998 ซึ่งเป็นเป็นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจและดัชนีหุ้นไทยได้ดิ่งลงจาก 1400 จุดมาสู่ 200 จุด น่าแปลกคือยอดสุทธิของฝรั่งกลับเป็นฝ่ายซื้อมาตลอดยอดรวมถึง 140,000 ล้านบาท แล้วก่อนหน้านั้นที่ดัชนีโตขึ้นจาก 200 จุดมาทำไฮที่ 1789.14 นั้นถ้าไม่ใช่ฝีมือฝรั่งแล้วจะเป็นใครล่ะครับ แม้ว่าสถิติจะย้อนกลับไปไม่ถึงแต่ผมก็เชื่อว่ายอดสุทธิในช่วงก่อนวิกฤติต่างชาติก็ยังเป็นฝ่ายซื้อสะสมอยู่ดี ดังนั้นสิ่งนี้ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าฝรั่งไม่ได้หนีหายไปไหน บางคนบอกฝรั่งขายทิ้งหุ้นไทยไปแล้ว แต่หากท่านเห็นยอดสะสมย้อนหลังนี้คงต้องกลับไปคิดดูใหม่นะครับ
ด้านเทคนิคของ SET ระดับ day เริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากค่า RSI ได้เข้าเขตขายมากเกิน จึงมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ การที่ SET ลงมาแตะแบนล่าง BB ได้อีกครั้งที่ RSI ประมาณนี้ จะเป็นโอกาสซื้อของผู้เล่นรอบและนักลงทุนระยะกลางอีกครั้ง ผมคิดว่าหากพรุ่งนี้หุ้นดีดลงมันจะเป็นระลอกท้ายๆแล้วของระลอกคลื่น 5 แบบซิกแซกและได้ทำนิวโลว์ หรืออาจจะจบระลอกท้ายๆของคลื่น 5 ไปตั้งแต่เย็นวันนี้เลยก็ได้ซึ่งหลังจากนี้จะมีการรีบาวด์เป็นขา B ได้ดีๆอีก 1 ครั้งไปสู่แนว 755-760 ซึ่งหากถึงเป้าก็ควรผ่องถ่ายและเป็นจุดขายดีๆอีกครั้งจากนั้นก็ลงลงตามคลื่น C ใหญ่ซึ่งคาดว่าอาจลงไปได้ถึง 700 เพื่อจบขาลงตามรูปแบบทฤษฎีคลื่น ผมเองเห็นบางท่านมาขาดใจยอมแพ้เอาตอนนี้ก็นับว่าน่าเสียดายแทนนะครับ แต่ด้านหนึ่งก็เข้าใจและเห็นใจเพราะผมก็เคยผ่านอารมณ์ตรงนั้นมาและรู้ว่าความรู้สึกตรงนั้นมันสุดที่จะทานทนทำให้ต้องขายออกไปที่ Lowหรือเกือบ Low ของรอบ การไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ผิดแล้วต้องเรียนรู้และเพียรที่จะเข้าใจธรรมชาติของตลาดหุ้นให้ได้ หากต้องการที่จะคงอยู่กับตลาดไปได้ยาวนานนะครับ
มาดูตัว TTA กันบ้าง ผมยอมรับว่าได้เก็บชุดสุดท้ายของ ปอด ได้ที่ 37.XX ไปแล้ว ทำให้ถัวเฉลี่ยลดลงมาได้อีกใกล้กับ 40.00 พอดี และก็รู้สึกพอใจแล้วกับต้นทุนตรงนี้เพราะเริ่มเข้าซื้อกลับแถว 40 ปลายๆ จากที่ขายไป 54 แถวเกือบไฮของรอบที่แล้ว โดยใช้กลยุทธเล่นรอบสั้นจากสัญญาณ 60 นาที ได้รอบใหญ่ 3 รอบ จาก 40 ไปขายที่ 55 จนบัดนี้ถัวแล้วมาได้หุ้นกลับที่ 40 บาทอีกครั้ง โดยยังมีการเก็งผลประกอบการ ปันผล ซึ่งคาดว่าจะน่าจะออกมาประทับใจอีกครั้งในกลางเดือนหน้า ซึ่งผมจะพยายามขายให้ได้ในกรอบเวลาตรงนั้น และหากมีเวลาดูตลาดอีกครั้งเหมือนช่วงเมษา-พฤษภา ก็คงกลับไปเล่นในกรอบ 60 นาทีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้ไม่สามารถทำได้เลยต้องยอมติดหุ้น(ชั่วคราว) เพื่อถือตามกรอบระยะกลางไปก่อนครับ โดยจากสถานการณ์วันนี้ทั้งค่า BDI ทางเทคนิค 60 นาที จากที่ดูพรุ่งนี้มีโอกาสทรงตัวได้หรือดีดได้แรงก็เป็นได้ซึ่งมีโอกาสที่วันนี้จะเป็นราคาต่ำสุดของรอบสั้นๆนี้ก็เป็นได้ครับ
Monitor Update 4/7/51 ช่วงนี้ SET เราโดนสถานการณ์ทางลบหลายอย่างกดดันให้อ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง ปัญหาราคาน้ำมันซึ่งส่งผลกระทบถึงเงินเฟ้อทำให้ตลาดหุ้นทรงตัวอยู่ไม่ได้ลงมาใกล้ Low เดิมอีกครั้ง สำหรับ SET ที่ลงมาปิดเมื่อวาน 742.15 ทำให้ RSI ลงมาแตะที่ 30.44 และหากวันนี้ลงต่อ(แต่ก็มีโอกาสรีบาวด์สั้นๆในคลื่น4ย่อยก่อนซัก 10-15 จุด) ก็อาจลงไปได้แถวๆ 730-735 (ทำDouble Bottom) เพื่อจบคลื่น 5 ย่อยและรีบาวด์ดีๆเป็นขา B อีกครั้งประมาณ 20-25 จุด ไปสู่แนว 755-760 ซึ่งเป็นแนวที่ค่าเฉลี่ยหลายเส้นออกันอยู่ตรงนั้น จากนั้นมีโอกาสลงต่อและอาจทำนิวโลว์อีกครั้ง(ตรงนี้อาจลงไปได้ถึง 700-720) เป็นอันจบขาลงที่ครบคลื่นและสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงทฤษฎี ส่วนทางปฏิบัติคงต้องมอนิเตอร์กันต่อไปครับ สิ่งที่ผมอยากสื่อก็คือ ตรงนี้มันหมดเวลาที่จะกลัวและคิดล้างพอร์ตกันไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่มักจะมองว่าน่ากลัว เพราะบทวิเคราะห์ก็ดี โบรกเกอร์ต่างๆรวมถึงมาเก็ตติ้งมักจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกอารมณ์ในแง่ลบครอบงำ กดดันและจะแนะนำให้ลูกค้าลดพอร์ต ถือเงินสดและขายหุ้นออก มันเป็นอย่างนี้มาทุกรอบ สุดท้ายเป็นไงครับ มันก็ดีดตัวกลับขึ้นมาโดยเราได้แต่มองกันตาปริบๆ กว่าจะรู้สึกตัวว่า แถว 7ต้นๆ มันเป็นจุดซื้อที่ดี เราก็มักมองกราฟย้อนกลับหลายๆวันแล้ว อีกเพียง 20-30 แท่งเทียนระดับวันมันก็จะดีดเพื่อเล่นผลประกอบการ เล่นปันผล หากมองในแง่ลงทุนจะรอกันได้หรือไม่ ผมเองไม่ฟันธง ไม่การันตี เนื่องจากปัจจัยโดยรอบมันมีมากมายหลายประการซึ่งไม่มีใครรู้ได้ทั้งหมด แต่ทางตรรกะแล้วมันเป็นไปได้อย่างนั้น
ส่วน TTA ตามกราฟที่เอามาให้ดูได้ทำนิวโลว์ที่ 37.75 เป็นราคาที่ต่ำกว่าบุค ค่าPE ปีนี้ที่ต่ำกว่า 3 มีเงินสดเหลือเยอะ การขยายการลงทุนต่อเนื่อง สรุปคือเป็นราคาที่ต่ำกว่าพื้นฐาน ทั้งซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนเล่นหุ้นตัวนี้ล้วนตกภายใต้อารมณ์ไม่ต่างกันซึ่งสะท้อนออกมาในราคาหุ้นคือเทรดกันด้วยความกลัว ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะอดีตของหุ้นตัวนี้มันเป็นอย่างนั้น คือเป็นหุ้นเล่นรอบที่ดี ในการมองสั้นๆหน่อย แต่หากมองภาพกลางๆมันยังไม่ได้เลวร้ายเหมือน PTTAR กล่าวคือกำไรต่อหุ้นยังมีแนวโน้มเติบโตได้ ยังไม่ได้มีปัจจัยระยะสั้นๆที่บ่งบอกว่า TTA มีกำไรหดตัวลง ขณะที่ BDI เองที่ลงมาก็เป็นเพียงระยะสั้นๆก่อนที่มีโอกาสวิ่งทำนิวไฮได้อีกเพื่อปิดคลื่น 5 ย่อยและคลื่น 5 ใหญ่ ในปลายปีนี้หลังสิงหาคม อย่างแน่นอน ซึ่งผมอยากจะบอกว่าการลงมาของ TTA นับจากนี้ตรงไหนก็ตามจัดเป็นนาทีทองทั้งสิ้นครับ สำหรับคนเล่นระยะกลางให้เก็บสะสมไว้และรอขายปลายปีช่วงปันผลประมาณ ตุลา-พย.ครับ ส่วนผมเองยังรอซื้อเข้าพอร์ตอยู่เหมือนกันแม้ว่าจะShort ออกไปบางส่วนแถว 41 บาท ก็ยังถือหุ้นอยู่ที่ทุนแถว 40 บาท รวมทั้งเงินสดที่ยังมีอยู่อีกพอประมาณครับ ด้านกราฟที่เอามาให้ดู หากไม่ลงต่ำกว่า 36 ผมมองว่าโอกาสเกิดไดเวอร์เจนและทำจุดต่ำสุดแถวนี้ก่อนทะยานขึ้นก็มีสูงเช่นกัน ติดตามกันดูครับ ผมจะรอซื้อตรงนั้นครับ
Monitor Update 25/6/51 วันนี้เข้ามาประจำการตามเดิมนะครับหลังจากห่างหายไปหลายวัน จริงๆก็ไม่ได้ไปไหนแต่พักนี้งานยุ่งๆหน่อยค่ำมาก็เหนื่อยทำให้ไม่ได้มามอนิเตอร์ และพักหลังๆก็ไม่ได้สังเกตหุ้นใกล้ชิดเท่าไหร่การคอมเม้นท์ทุกๆวันก็อาจทำให้เฟ้อได้ ช่วงหลังผมเลยปรับกลยุทธเป็นการถือนานขึ้นจากกรอบเทรด 4-5 ครั้งต่อเดือนเป็นซัก 2-3 ครั้งต่อเดือนเพื่อให้เหมาะกับTiming ที่หายไปกับการงาน อย่างที่เคยเน้นไว้เมื่อคืนวันพฤหัสที่เป็นจุดที่ OverSold มากทำให้มีโอกาสดีดได้เร็วและแรงๆ และก็เป็นดังคาดคือวันศุกร์วิ่งซะฝุ่นตลบ และแม้ว่าวันจันทร์จะมีแรง Profit taking ออกมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้แนวโน้มการกลับตัวเสียไป ซึ่งวันนี้ยังขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 14 จุดยิ่งแสดงภาพชัดเจนว่า ได้Bottom out ไปเรียบร้อยแล้วในรอบนี้ ที่ 738 จุด ซึ่งหวังว่าคงมีเพื่อนนักลงทุนที่เข้ามาอ่านแล้วซื้อตามที่ผมบอกคงกำไรกันตามสมควรนะครับ ส่วนผมนับจากจุดต่ำสุดมาจนป่านนี้ยังคงเกือบเต็มปอดเหมือนเดิม มีปรับบ้างนิดหน่อย และยังคงมีเหลือเงินสดอยู่ 18 % โดยSET ขึ้นจากจุดต่ำสุดประมาณ 5 % ขณะที่ปอดผมโดขึ้น เกือบ 7 % แต่ยังคงต่ำกว่าตอน SET ที่ 880 จุด อยู่ 1.4% และผมคิดว่าหลังจากปรับกลยุทธแล้ว ที่มีอยู่คงสามารถถือได้ตลอดสัปดาห์นี้เพื่อ Let Profit Run ต่อไป
ในด้านของ TTA หลังจากที่ BDI ส่งสัญญาณกลับตัวมาตั้งแต่เมื่อวานโดยลบลดลงและวันนี้ก็กลับมาบวก 105 จุด ทำให้เรือTTA วันนี้เลยวิ่งเหมือนเป็นม้าเร็วมาทำสัญญาณซื้อระยะสั้น-กลางเมื่อราคามาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน แถว 42 บาท และกำลังไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันที่ 43.5 และทำสัญญาณขาขึ้นเต็มรูปแบบต่อไปหากผ่านไปได้ ทางเทคนิคแล้วหากใครเล่นรอบในกราฟ Day จะไม่ลังเลที่จะซื้อตามน้ำไปในวันนี้ที่วิ่งตั้งแต่ 40 มาตลอดทาง เนื่องจากการไปทดสอบที่ 39-40 แล้วเด้งกลับมาได้ถึง 4 รอบย่อมแสดงให้เห็นว่า เป็นพื้นฐานประมาณว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น แล้ว คนขายที่ขาดความเข้าใจด้านพื้นฐาน หรือเข้าใจแต่จำเป็นต้องขายก็ตาม ย่อมอ่อนใจและยอมแพ้สิโรราบต่อแรงซื้อที่มีอย่างหนาแน่นบริเวณนี้ ซึ่งสอดคล้องกับพื้นฐานที่ผมเคยวิเคราะห์ไว้ว่าควรจะเอาอยู่ เนื่องจากกำไรโตต่อเนื่องส่งผลให้ BV โตขึ้นมาถึง 39 บาท ซึ่งมันจะถูกเกินกว่าคนรอซื้อจะอดใจไหว และหากรอบนี้จบขาลงจริง หรือไม่จบก็ตามมันควรวิ่งไปทดสอบแนวต้านที่สำคัญซึ่งเป็นด่านสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง-ยาวได้คือเส้นค่าเฉลี่ยโบลินเจอร์ แถว 44.5 ซึ่งหากผ่านไปได้แรงๆ ก็ถือต่อเพื่อเล่นในกรอบขาขึ้นต่อไปครับ
Monitor Update 19/6/51 วันนี้ขอเน้นที่ SET มากหน่อยนะครับ อย่างที่บอกไปเมื่อวานว่าค่า RSI ระดับ day เข้าเขต OverSold ที่ 24.9 แล้ววันนี้ดันลงต่อและแถมลงแรงด้วยทำให้ค่า RSI ลงมาปิดตลาดที่ 20.02 ในทางสถิติของค่าอินดี้ตัวนี้มันบอกอะไรบางอย่างและมีนัยกว่าอินดี้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น MACD หรือ Slosto โดยหากย้อนกลับไปดูในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2541 ไม่นับกรณีหม่อมอุ๋ย การที่ค่า RSI ลงมาต่ำระดับนี้มักเป็นจุดที่บอกได้ว่าใกล้จบระลอกขาลงสำหรับขานั้นๆ และในเวลาอันใกล้(ไม่เกิน 1-3 วันทำการ) จะมีการดีดตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะหากการลงในระลอกท้ายๆที่มีการลงด้วยอัตราเร่งและองศาที่ชันมากขึ้น โอกาสในการกลับตัวแรงๆยิ่งมีมากขึ้นตาม สังเกตุจาก Scenario ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นกรณีหม่อมอุ๋ยเท่านั้นที่ RSI ลงไปที่ระดับ 14 จุด ส่วนกรณีวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ช่วงนั้นบางช่วงไปถึงเลขตัวเดียว ซึ่งการซื้อขายต่อวันแค่ 1-3 พันล้านและปัจจัยช่วงนั้นเลวร้ายสุดๆสำหรับประเทศไทย อาจจะยังไม่นับรวมเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะบอกกล่าวก็คือหากใครคิดขายในช่วงเวลานี้ อย่าทำครับ เพราะการรีบาวร์จะแรงและเร็วมาก ยิ่งวันนี้ลงทีเดียว 23 จุด ผมถือว่าดี และจะให้ดีกว่านั้นคืนนี้ให้ดาวโจนส์ลงเยอะๆ ยิ่งดีครับ เพราะพรุ่งนี้หากลงต่อ 20 จุดอัพ ผมถือว่าดีมาก และให้ซื้อได้ อัดให้เต็มปอดครับ ไม่มีอะไรน่ากลัว และไม่ควรจะกลัวแล้ว โน่นแถว 880 จุดอันนั้นสิต้องกลัวมากกว่า คนติดหุ้นทำใจให้สบาย ไม่ต้องไปกังวลกับการที่เงินในปอดลดลงไปเท่านั้นเท่านี้ เพราะเงินมันหายกันไปทุกคนแหละครับ ไม่แตกต่างกันเพราะหุ้นมันลงมาทั้งกระดาน ใครมีหุ้นโดนถ้วนหน้า ใครมีเงินสดเยอะ ถ้าพึ่งคัทมาก็เจ็บพอกัน ดังนั้นสูดหายใจลึกๆ ทำใจให้สบายครับ
จริงๆที่ร่ายยาวมานี่เพราะส่วนใหญ่เวลานี้จะกลัวกันมาก ยิ่งกลัวยิ่งอยากขาย พอขายแล้วมักมารู้ตัวว่าขายที่โลว์ทุกที ทุกรอบ เพราะไม่จำ เจ็บแล้วจำนะครับ ส่วน TTA วันนี้ลงมาทดสอบ Low เดิม แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ เพราะตลาดรวมมันก็ลงมามากด้วย หากมีอะไรมาสะกิดนิดเดียวมันก็พร้อมจะวิ่งกลับได้แรงๆอีกครั้ง ถึงพรุ่งนี้หลุด 39 ลงมา ก็หลับหูหลับตาซื้อไปเถอะครับ แล้วอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์มาดูกันว่ามันจะไปที่ตรงไหน สมมุติว่าพรุ่งนี้หลุดลงมาแถว 37-38 แล้วดีดกลับสัญญาณไดเวอร์เจนจะเกิดทันที เพราะอินดี้มันไม่ลงตามแล้ว ขอให้โชคดีทุกคนครับ
Monitor Update 18/6/51 แม้ว่าตลาดหุ้นโดยรวมจะลงไปอย่างต่อเนื่องแต่คนที่เข้า TTA ตั้งแต่วันจันทร์ยังคงมีกำไรเกิน 5 % ช่วงนี้หากดูการตกลงของราคาและสัดส่วนการซื้อขายภาพรวมดูเหมือนรายย่อยจะเริ่มถอดใจกันหลังจากหลุด 785 ลงมา ระดับday หากดูจาก RSI ที่ลงมาเหลือเพียง 24.9 นับเป็นค่าที่บอกเราว่ามันไม่ใช่เวลามาคิดคัทลอสกันแล้วนะครับ แต่แถวนี้มันคือเวลาของผู้มองเห็นโอกาสและของนักลงทุนที่ชาญฉลาดจะเข้ามาเก็บสะสมหุ้นดีๆที่ลงมามากเพื่อรอฤดูการหากินของรอบใหม่
ส่วน TTA หลังจากการรีบาวร์กลับขึ้นไปได้ดี หากท่านที่ถือไว้ตั้งแต่ 39-40 จะเริ่มทยอยล็อคกำไร ด้วยการปล่อยออกไปเป็นบางส่วนก็ไม่ว่ากันและสามารถทำได้ ค่า BDI ที่กลับมาเป็นบวกแบบจุ๋มจิ๋ม อาจไม่ได้ส่งสัญญาณกลับตัวแรงๆแต่ก็เพียงพอให้หุ้น เดินหน้าต่อได้ อย่างน้อยอีกซักวัน การที่หุ้นลงกว่า 10 จุดติดต่อกัน 2 วัน แต่ TTA บวกสวนได้ทั้ง 2 วันเช่นกันแสดงถึงความเข้มแข็งทางพื้นฐานที่ยังคงเอาอยู่ ผมเองยังคงถืออยู่และอาจคิดขายไปบ้างในวันถัดไปหากได้ตามเป้าที่บอกไว้วันก่อนหน้า และวันนี้มาสำรวจปอดตัวเองดู จากที่ SET ลงมาจาก 874 มาจนปัจจุบันที่ 765 เท่ากับลงมาแล้ว -12.44% ขณะที่ปอดตัวเองหดตัวลงมา -2.16% นับจากที่ขายทำกำไรไปที่ 54 บาทตั้งแต่รอบก่อนนู้น เท่ากับว่ายังชนะ SET ประมาณ 10 % ก็ควรจะพอใจในระดับหนึ่ง แม้ยังรู้สึกว่ายังมีจุดบกพร่องอีกหลายอย่างที่ต้องแก้ไข เช่นการรับกลับเร็วเกินไป การรีรอเกินไปไม่เด็ดขาดในการเข้าซื้อในจังหวะที่วิเคราะห์ไว้ว่าน่าสนใจที่สุด ทำให้ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสที่ดีที่สุดได้ ก็คงต้องแก้ไขกันต่อไป
การที่ SET ลงแรงมากแล้วแต่ด้วยแรงกดดันทางการเมืองซึ่งเป็นจุดอ่อนของตลาดทุนบ้านเราที่ทำให้ต่างชาติขายอย่างหนัก ในรอบนี้กว่า 3 หมื่นล้านแล้ว ซึ่งก็ยังน้อยกว่า Supprime รอบแรกเมื่อ สิงหาปีที่แล้วที่ขายสุทธิกว่า 4 หมื่นล้าน น่าจะยังคงทำให้แรงกดดันน่าจะยังคงมีอยู่อีกระยะหนึ่ง แต่ก็น่าจะเป็นจุดสะสมมากกว่าจุดขายครับ
Monitor Update 17/6/51 เป็นไปตามคาดหลังจากที่ลงไป Low ที่ต่ำกว่า 40 บาทได้วันเดียว ก็กลับมายืนได้เหนือ 40 บาทอีกครั้งโดยวันนี้บวกสวน SET ได้ 2.47% มาปิดที่ 41.50 ตอบรับกับค่า BDI วันนี้ที่บวกได้อีกครั้ง 6 จุด กระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ผลทาง sentiment นั้นดีขึ้นมาก เมื่อวานผมรับไปแถว 40 บาท เกือบเต็มปอด 82% วันนี้ก็ไม่ได้ขายออกไป พรุ่งนี้ราคาน่าจะไปแตะที่ 42 บาทได้ซึ่งเป็นเป้าแรกที่ระดับ 23.6% ถ้าโชคดีอาจไปแตะถึง 43.5 และ 45 ที่ระดับ 38.6% และ 50% ตามลำดับ ซึ่งก็สอดคล้องกับค่าเฉลี่ย 5 วัน 10 วัน และ 20 วัน เช่นกัน ในกรอบขาลงนี้ผมคงมองเป้าการขายไว้สูงสุดไม่เกิน 45 บาทซึ่งเพียงพอจะทำกำไรในขาลงได้อย่างน้อย 5-7% ถ้าตลาดอำนวยจะไปไกลกว่านั้นก็ไม่ว่ากัน
เมื่อวานมีข่าวเกี่ยวกับมุมมองของต่างประเทศซึ่งมองว่าการที่หุ้นเรือขนาดใหญ่ร่วงลงมารุนแรงนั้นเพราะอิงกับ BDI มากเกินเหตุ โดยที่ BDI ได้ลงมาหาค่าที่เหมาะสมแต่หุ้นเรือใหญ่หลายตัวกลับลงมาแรงในระดับOversold ทั้งที่ส่วนใหญ่ได้มี contract ระยะยาว โดยนักวิเคราะห์ชื่อนาย Dur แห่ง Lazard กลับมองว่าการที่นักลงทุนตอบรับในเชิงลบต่อราคาน้ำมัน เงินเฟ้อและค่าเงินดอลล่าอ่อนตัว นั้นทำให้พันธบัตรมีราคาสูงขึ้นมากและพากันเทขายหุ้นเรือที่มีสัญญาระยะยาวนั้นไม่สมเหตุผลเท่าใดนัก
สรุปว่าแนวโน้มขาลงของตลาดหุ้นไทยดูไม่ดี แต่ TTA กลับมี sentiment ที่ดีขึ้นหลังจากลงมาจาก 44-45 บาท เพราะเหตุผลที่ BDI ลงแรง ซึ่งหาก BDI เริ่มกลับตัวขึ้นใหม่ด้วยเหตุผลการรีบาวร์หรืออะไรก็แล้วแต่ TTA ก็น่าจะมีสิทธิ์กลับไปแตะ ราคานั้นใหม่ได้เช่นกัน และแม้ว่ามันจะไม่ขึ้นไปตรงนั้น มันก็ไร้เหตุผลเกินไปในการที่ราคาจะลงไปต่ำกว่า 39 บาท ที่ PE จะอยู่ที่ 2.XX เท่า และ P/BV จะไปต่ำกว่า 1 เท่า ขณะที่ บริษัทยังคงมีการเติบโตของผลประกอบการอยู่และมีการลงทุนที่ฉลาดของผู้บริหารชุดนี้อย่างต่อเนื่องครับ
Monitor Update 15/6/51
BookValue & Price
ว่าจะมาเขียนตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ก็ยังไม่ได้ทำ พอดียังหาจังหวะเหมาะไม่ได้ และยังเตรียมข้อมูลไม่เรียบร้อยด้วย ตอนนี้คิดว่าโอเคสำหรับข้อมูลเพราะได้ทั้งตารางและกราฟออกมาเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ขอมุมมองทางพื้นฐานก่อนนะครับ อย่างที่ผมเคยมองไว้ที่ 41-42 บาท ในแง่เทคนิคเคยได้อธิบายไว้แล้ว ส่วนในแง่พื้นฐานนั้นมันค่อนข้างสอดคล้องกันเนื่องจากหากนำ Book Value มาเป็นเกณฑ์ในการมองความถูกแพงของหุ้น จะพบว่าการที่เมื่อต้นปีราคามันลงไป Low ที่ 32-33 นั้นสมเหตุสมผลเนื่องจากไตรมาส4/2550 นั้น BV ยังรับรู้เพียง 25 บาท อันนั้นมันบอกให้เรารู้ว่าการที่มันลงไปหาราคาที่ 1.2-1.3 เท่าของ BV ไม่ใช่เรื่องแปลก สังเกตุจากตารางดีๆนะครับ ตอนที่มันเคยลงไป 18.2 บาท Q2/2006 นั้น BV ก็แค่ 17.14 บาท ซึ่งการลงไปที่ BV ผมถือเป็นแนวรับที่แข็งที่สุดซึ่งหากหลุดตรงนี้นั่นหมายความว่าบริษัทนั้นคงกำลังล้มละลายหรือหนี้สินล้นพ้น ที่นี้เรามาดูกันว่าการที่เมื่อวันศุกร์มันปิดลงไป 39.25 ผมอยากจะบอกว่า ต้องเตรียมทิชชู่ไว้คอยเช็ดน้ำลายไปหลายแผ่น เพราะการที่ไตรมาส1 และไตรมาส2 รับรู้กำไรรวมกันถึง 7 บาทกว่า บวกกับการได้เงินจากการเพิ่มทุนโดยไม่Dilute จากการออกหุ้นกู้ แถมยังได้อานิสงค์ของ เมอเมดมาริไทม์ ทำให้ BV กระโดดพรวดจาก 25 บาทมาที่ 37 บาท และไตรมาส2กำไรดีต่อเนื่องทำให้ BV มาแตะที่ 39 บาทแล้ว ดังนั้นอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าการลงมาคราวนี้มันตอบรับการร่วงลงของ BDI แรงมากเกินไป ทั้งที่พื้นฐานตัวมันเองยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากมายเลย แถมไตรมาส3ที่ใกล้สิ้นสุดลงยังน่าจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการซึ่งผมคาดว่ากำไรต่อหุ้นน่าจะใกล้เคียงไตรมาส 1 คือประมาณ 4 บาทบวกลบ ดังนั้นหากมองที่สิ้นไตรมาส4(สิ้นเดือนกันยายน) เผลอๆ BV จะถึง 44-45 บาทด้วยซ้ำไปซึ่งการที่ราคามันลงมาตรงนี้มันต่ำเกินไปครับ และกำไรต่อหุ้นปีนี้จะอยู่ที่ 13 บาทบวกลบอย่างแน่นอนครับ ผมขอพูดตรงๆนะครับ หากราคาไปที่ 25 บาทจริง มูลค่า PE จะเหลือเพียง 1.92 เท่า!!!!!!!!!!!!!! มันไม่มีทางลงไปตรงนั้นได้เลยครับใน 3 เดือนข้างหน้า ฟันธง!!!!!!!!!!!!!!
BookValue & Price
หากบางท่านบอกว่าที PTTAR ยังลงไปได้เลย ผมก็ขอบอกว่าไปดู BV ของ PTTAR ดิครับ มันอยู่แถว 22-23 บาท และกำไรลดลง ปันผลมาก ถึง 2.50 บาท ผมถามว่าวิสัยทัศน์ผู้บริหารคิดอะไรอยู่ครับถึงปันผลมากมายขนาดนั้นเพราะ BV มันไม่โตครับแทนที่จะเอาเงินไปลงทุนให้มากขึ้น อีกประการหนึ่ง PTTAR มีกำไรลดลงเรื่อยๆ ดีไม่ดีไตรมาสหน้าอาจกำไรลดลงอีก พื้นฐานมันแย่ลงครับ ผิดกับ TTA ที่พื้นฐานแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ กำไรโตเท่าตัว มีเงินสดเหลือเกือบ 2หมื่นล้านให้คิดอ่านไปขัยขยายลงทุนให้กำไรงอกเงยได้อีกมากดังนั้นการที่มีผู้ขายออกมาที่ราคานี้มาก ผมถือว่าเป็นโอกาสทองของผู้รอซื้อนะครับ แม้แต่คุณพงศ์พันธ์ของกิมเองซึ่งเป็นนักพื้นฐานที่เก่งยังมองว่า TTA 45 บาทนี่น่ารับแล้ว แล้วนี่ลงมา 39 บาท... นี่ทางพื้นฐานนะครับ
ทีนี้มามองมุมของเทคนิคในกราฟวันที่ท่านเห็นข้างบนมันบอกอะไรครับ หลุดโบลินเจอร์แบนลงมาถึง 5 % มันเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งหรอกครับ แม้แต่รอบที่แล้วลงมาจาก 70 ลงมา 32 ก็ยังไม่เคยหลุดรุนแรงอย่างนี้ RSI ระดับ day อยู่ที่ 30 ซึ่งหากลงต่ออย่างเลวร้ายไม่ควรต่ำกว่า 38 แล้วล่ะครับสำหรับรอบนี้ต้องเด้งขึ้นไปก่อน พอมาดูระดับ 60 นาที ยิ่งเห็นความเป็นOversold ค่อนข้างมาก คือ RSI(65) เหลือแค่ 35 ซึ่งต่ำมากสำหรับ TTA MACD ก็อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก -1.68 ถ้าลงมาอีกบาทเดียวจะถือว่าสุดๆครับ
โดยสรุปครับ ถ้าวันจันทร์อยู่แถว นี้หรือต่ำกว่าซื้อเถอะครับ เพราะมันจะยืนตรงนี้ไม่นานก็จะต้องดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 40 บาทอีกครั้งอย่างแน่นอน เดี๋ยวหาว่าหล่อไม่เตือน 555 ความจริงผมเองเมื่อวันศุกร์ก็รับกลับมาน้อยไปหน่อยพอดีช่วงบ่ายไม่อยู่เลยเสียโอกาสเจอราคา 3X ตอนนี้ชักคันมือแล้วซิครับ เพราะปอดยังมีเงินสดเหลือตั้ง 60% วันจันทร์ถ้าลงมาอีกล่ะก็ช๊อปกระจายครับ 555
Monitor Update 12/6/51 วันนี้มาเขียนดึกหน่อยเพราะรู้สึกแปลกใจกับการตกลงของ BDI ซึ่งสาเหตุก็มาจากการร่วงลงของ ดัชนี BCI ในวันเดียวถึง 2855 จุด ผมเลยพยายามเข้าไปหาข่าวซึ่งคิดว่าน่าจะมีเพราะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการตกลงใน 1 วันที่รุนแรงมาก เลยไปค้นเจอข่าวในเวบเรือแห่งหนึ่ง จึงนำมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันดู ในข่าวกล่าวดังนี้ครับ
BDI ลบถึง 963 ภายในวันเดียวนับเป็นสถิติมากสุดในประวัติศาสตร์ของ Capesize ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งตกลงในวันเดียวถึง 2855 จุด โดยสรุปสาเหตุเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของเรือขนาดใหญ่จำนวนมากเกินกว่าความต้องการใช้ โดยเส้นทางการเดินเรือจากออสเตรเลียตะวันตกมาจีนที่เคยอยู่ในอัตรา 45 เหรียญ/ตัน เมื่อไม่นานมานี้ตกลงมาเหลือไม่ถึง 35 เหรียญ/ตันอย่างรวดเร้วภายในวันนี้เอง ทำให้ความสดใสเมื่อต้นสัปดาห์เปลี่ยนกลับมาเป็นความเซื่องซึมโดยทันที
จากข่าวชิ้นนี้ทำให้อาจเป็นสัญญาณหวูดเตือนดังลั่นที่บอกเราว่าเวลาของการเล่นหุ้นเรือในขาขึ้นอาจจบลงแล้วล่ะครับ และสิ่งที่ผมวางเป้าหมายในการรับที่ 41.25-42 อาจมองดีเกินไปสำหรับเวลานี้ซะแล้ว ดังนั้นผมคงต้องเปลี่ยนแผนการรับมือตรงนั้นมาเป็นการรับเมื่อมีสัญญาณซื้อเกิดขึ้นใน Script ของผมซึ่งเขียนไว้อย่าง Conservative มากๆ และคงบอกไม่ได้ว่าจุดไหนที่สมควรรับ ส่วนที่มีอยู่บ้างอาจต้องหาทาง Short ออกไป แล้วก็คงต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งครับ
อันนี้แถมให้อีกข่าวโดยสรุปคือโอกาสที่ BDI จะลงต่อเนื่องในไตรมาส 3 เนื่องจากความกังวลในการงดการนำเข้าวัตถุดิบต่างๆ ในช่วงการจัดโอลิมปิคของจีน และการชลอทางเศรษฐกิจของจีนด้วย ซึ่งอาจกลับมาดีอีกครั้งช่วงไตรมาสที่ 4ครับ
พอดีเช้านี้มาเจออีกข่าวในYahoo ซึ่งโดยสรุปบอกว่าเกิดจากการสต๊อกและจัดหาภายในประเทศของจีน โดยนักวิเคราะห์บอกว่าเป็นความเจ็บปวดชั่วคราวซึ่งคิดว่าคงไม่ลงไปลึกแบบกรณีปัญหาของบราซิลกับจีนเมื่อต้นปีและในที่สุดจีนยังคงต้องนำเข้าอยู่ดีเมื่อสต๊อกภายในประเทศเริ่มหมดใน 3-4สัปดาห์
//biz.yahoo.com/ap/080612/drybulk_baltic_drop.html?.v=2
Monitor Update 10/6/51 วันนี้คงต้องขอเม้ายาวๆหน่อยนะครับ ต้อนรับการเปลี่ยนหน้าใหม่ และเพราะวันนี้ TTA กำลังจะเป็น Titanic อย่างที่หลายๆคนคิด เนื่องจาก 2 วันมานี้เรือเริ่มจะจมลงแบบดำดิ่งหัวทิ่มเพราะ 2 วันลงมาร่วม 10 % หลายคนมองว่าหากหลุด 40 ก็คงจะไปเล่นกันที่ 3X อีก บางคนตั้งตารอคอยแถว 2X กันเลย สนุกครับ อย่างนี้ผมเลยขอเม้าบ้างอย่างที่บอกว่ามันจะลงไปอย่างนั้นไหม ขอร่วมแจมด้วยคนครับ ความจริงการเล่นขาลงของ TTA หากจับจังหวะดีๆผมว่ามันกว่าและเหนื่อยน้อยกว่า PSL เพราะ รายนั้นพ่อลงแบบตาปริบๆ เพราะสภาพคล่องต่ำ ม้วนเดียวเผลอๆไม่ได้ทำไรเป็นชิ้นเป็นอัน ชมดอยแบบไม่ให้มีทางลง อยากลงก็ต้องกระโดดลงห้วยลงเหวแข้งขาหักกันเลย แต่TTA ไม่ใช่อย่างนั้นครับ รายนี้เขาจะลงอย่างมีศิลเปรอะ เอ๊ย ศิลปะหน่อย ก็คือค่อยๆเลื้อยลงเหมือนตอนจะขึ้นนั่นแหละครับ ผมไม่ได้บอกว่าให้คุณทำเงินในขาลงนะครับอ่านดีๆ แต่เพียงอยากให้ทราบว่าการลงแบบมีชั้นเชิงนี้มันไม่ต้องรีบกระโดดแข้งขาหักกันหรอกครับ เพราะ TTA เขาจะส่งบันไดสวรรค์(หรือบันไดนรกก็ไม่ทราบได้) คอยรับเป็นทอดๆไปครับ ความหมายของผมก็คือถึงแม้ท่านที่ติดหุ้นตัวนี้อยู่แล้วยังมีเงินเหลือหรือพึ่งขายขาดทุนมาก็คงต้องหาจังหวะรับในขาลงให้เป็นก็จะผ่อนหนักเป็นเบาไปได้ครับ
สำหรับทางเทคนิคถึงแม้ตอนนี้เข้าสู่ขาลงเต็มรูปแบบ แต่สำหรับกราฟ 60 นาทีจากสัญญาณต่างๆตอนนี้ผมว่าน่าสนใจครับ เรามาดูกันในส่วน RSI ตอนนี้อยู่ 41 กว่า ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มทยอยรับได้ หรือหากหวาดเสียว เป้าราคาที่ผมมองคือ 41.25 จะทำให้ RSI ลงไปที่ 35 ถามว่า แล้วยังไง ก็ขอตอบว่าจากสถิติที่ผ่านมา ตรงนั้นมันเข้าเขตSuper Over Sold เปรียบเหมือนคันธนูที่ออกแรงง้างเต็มที่แล้วพยายามที่จะง้างต่ออีกซึ่งต้องใช้แรงมากขึ้น ก็นึกดูแล้วกันครับว่า ถ้าทนง้างไม่ไหวจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเป้านี้ในระยะสั้นถ้าถึง ผมจะส่งทัพใหญ่ผมเข้าตะลุมบอนครับ และไม่ได้นึกกลัวเลยอย่างที่บอก เพราะข้าศึกทั้งอ่อนแรงทั้งหวาดกลัวสุดขีด อีกด้านหนึ่งมองไปที่ CMO มีค่า -64.29 จากราคาปิดวันนี้มันก็บอกในตัวเองว่าตรงนี้ไม่มีความน่ากลัวถ้าเทียบกับตอน ราคาวิ่งแถว 55-56 ตอนนั้นน่ากลัวกว่าเยอะครับ ผมถึงได้วางเป้าการขายไว้ตรงนั้นถ้าย้อนกลับไปอ่านหน้าที่แล้วจะเข้าใจ เพราะค่า CMO ปาเข้าไป +60 ซึ่งสูงมาก ซึ่งจากการวัดคร่าวๆ จุดที่น่ารับก็ใกล้เคียงกับ RSI คือประมาณ 41-42 ซึ่งถ้าลงไปถึง -75 ถึง -80 ต้องตะลุมบอนและรบขั้นแตกหักครับ พอหันไปดู MACD ก็ดันสอดคล้องกันอีกคือจุดที่ลงไปที่ -2 หน่วย TTA จะต้องลงอีกซัก 2.50 บาท ซึ่งจะได้ราคาที่ ประมาณ 41-42 บาทเช่นกัน
โดยสรุปนะครับ 41-42 คือเป้าหมายที่ผมจะตั้งมั่นรอคอยและถือว่าเป็น Goal รอบการซื้อนี้ของผมหรืออาจเรียกว่าเป็นจุด Start รอบใหม่ของผมก็ได้ โดยการซื้อคงใช้วิธีตั้งรับโดยดูกราฟวันควบคู่กับ Bolinger Band ในการหาวันซื้อที่เหมาะสมที่ราคาดังกล่าวครับ ส่วน 3X ล่ะ ไม่กลัวมันลงไปต่ำกว่านี้แล้วหรือ ก็ต้องตอบว่ากลัวเหมือนกันครับ แต่ขอให้ผมขายก่อนแล้วจะลงไปก็ตามใจครับ 555 วันนี้เม้ายาวจริงๆ ขอตัวก่อนครับ
เวบคุณDeedy ครับ เธอวิเคราะห์กราฟ TTA แบบนับคลื่น และฟิโบ //indeedy.exteen.com/
คุณ LATTE แจ้งยอดซื้อขายครึ่งเช้าครับ //www.templeboxing.com/index.php?topic=106.725
น้องแอมวิเคราะห์เทคนิคSET รายวันครับ //speculator.exteen.com/
Money Channel //truemusic2.truelife.com/home/player/player_livetv.php?guid=12/
Create Date : 10 มิถุนายน 2551 |
|
72 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2551 12:50:28 น. |
Counter : 3674 Pageviews. |
|
|
|
ขึ้นใหม่ดีแล้วครับ อันเก่าผมโหลดไม่ขึ้นเลย